War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2072
ตอนที่ 2,072 : ระวังปาก!

คนของลัทธิบูชาไฟที่เขาไปมีเรื่องด้วยนั้น แม้จะไม่ใช่ตัวตนที่แข็งแกร่งหรือมีอำนาจสูงสุด ทว่าหากคิดจะกวาดล้างขุมพลังชั้น 3 อย่างตระกูลชิวให้ราบด้วยตัวคนเดียวย่อมไม่ใช่ปัญหาแต่น้อย!

เช่นนั้นหลังเขาบอกชื่อให้ชิวมู่ชิงรู้แล้ว เขาก็เสียใจขึ้นมาที่ลืมกล่าวเตือนนางว่าไม่ให้บอกชื่อเขากับใคร…

รวมถึงบิดาของนางผู้นำตระกูลชิวด้วย!

“ไม่”

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมต้วนหลิงเทียนถึงกล่าวถามเรื่องนี้ออกมา แต่ชิวมู่งชิงก็ส่ายหัวตอบกลับทันที ค่อยกล่าวสืบต่อว่า “เมื่อครู่ข้าไปหาท่านพ่อเพื่อรายงานว่าวันนี้เกิดเรื่องใดขึ้นบ้าง…ตอนนี้ท่านพ่อสมควรหารือกับเหล่าอาวุโสสูงว่าจะรับมือตระกูลตงฟางอย่างไร”

“ทว่าท่านพ่อได้รับปากข้าแล้วว่าจะปกป้องท่านแน่…เช่นนั้นท่านสามารถพักที่ตระกูลชิวของข้าได้หายห่วง ไม่ต้องกังวลว่าตระกูลตงฟางจะทำอะไรท่านได้!”

ครู่ต่อมาชิวมู่ชิงก็กล่าวปลอบต้วนหลิงเทียน

“แม่นางชิวท่านไม่ต้องห่วงเรื่องตระกูลตงฟางหรอก…แค่ตระกูลตงฟาง ข้าต้วนหลิงเทียนไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

หลังกล่าวจบแล้ว สีหน้าเขาก็เปลี่ยนจริงจัง กล่าวออกเสียงขรึมออกมาต่อว่า “แต่เรื่องชื่อของข้า ขอแม่นางชิวอย่าได้บอกใครเด็ดขาด รวมถึงบิดาของท่านด้วย”

ประโยคแรกแม้ต้วนหลิงเทียนจะกล่าวตอบออกมาอย่างไม่ยี่หระ ทว่าชิวมู่ชิงไม่ได้มองแบบนั้น

ถึงแม้นางจะเห็นการลงมือก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียน และคิดว่าพลังฝีมือเขาไม่ต่ำทราม

ทว่านางยังไม่คิดว่าอาศัยต้วนหลิงเทียนคนเดียวจะสามารถต่อกรกับตระกูลตงฟางได้!

อย่างน้อยๆนางก็ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนคนเดียวจะรับมือตระกูลตงฟางทั้งตระกูลได้!

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนกำชับภายหลังยังอดทำให้นางแปลกใจไปเสียไม่ได้ ว่าไฉนต้วนหลิงเทียนต้องห่วงเรื่องชื่อนัก กระทั่งห้ามนางบอกใครด้วยท่าทีจริงจังแบบนี้?

แต่สุดท้ายแล้วแม้ใจชิวมู่ชิงจะเต็มไปด้วยความสงสัย นางกลับไม่ได้ถามออกมา

เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็มีความลับส่วนตัว

นางเชื่อว่าในเมื่อต้วนหลิงเทียนกำชับนางถึงขนาดนี้ อีกฝ่ายย่อมมีเหตุผลส่วนตัวแน่นอน ไม่พ้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์บางอย่าง และไม่สะดวกจะเปิดเผยนามออกไป

“ได้”

ชิวมู่ชิงพยักหน้ารับคำ “ไม่ต้องกังวล…หลังจากนี้ข้าจะไม่บอกชื่อท่านกับใคร จนกว่าจะได้รับคำอนุญาตจากท่าน”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำด้วยรอยยิ้ม ได้ยินคำรับประกันจากชิวมู่ชิงแบบนี้เขาก็มั่นใจ

คราวนี้จะก่อการใหญ่โตอะไรในเมืองคงหมิง เขาก็ไม่กริ่งเกรงอะไรอีก

เขาไม่คิดเผยชื่อตัวเองออกมาในเมืองคงหมิง

นั่นเพราะเขากลัวว่าหากเปิดเผยชื่อออกไป ไม่นานอริเขาที่ลัทธิบูชาไฟต้องได้ยินข่าวนี้ และรู้ว่าเขาเคยมาที่เมืองคงหมิง กระทั่งข้องแวะกับตระกูลชิว

กับจ้าวแท่นบูชามังกรครามเขาไม่มั่นใจ รองจ้าวหอคุมกฏต่งหยวนจิ้นนั่นเขาก็ไม่แน่ใจ

ทว่าสำหรับอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ…เขามั่นใจเต็มร้อยส่วน!

ทันทีที่หลี่อันรู้ว่าเขาเคยติดต่อข้องแวะกับตระกูลชิวในเมืองคงหมิงล่ะก็ อีกฝ่ายไม่ละเว้นตระกูลชิวแน่ ถึงตอนนั้นชิวมู่ชิงย่อมพลอยโดนหางเลขไปด้วย

ด้วยเหตุนี้เขาจึงกำชับไม่ให้ชิวมู่ชิงบอกชื่อเขากับใคร

ด้วยวิธีนี้ย่อมสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะตามมาในภายหลังได้

และคราวนี้ไม่ว่าเขาจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตอะไรในเมืองคงหมิง ก็ไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงเขากับต้วนหลิงเทียน ศิษย์ที่แท้จริงผู้เป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ลำดับที่ 2 ของลัทธิบูชาไฟแน่นอน!

“ท่าน…”

“ท่าน…”

หลังเงียบไปครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนกับชิวมู่ชิงก็กล่าวคำออกมาอย่างพร้อมกัน ด้วยคิดทำลายความเงียบ

ทว่าเมื่อทั้งครู่กลับพูดออกมาพร้อมกันแบบนี้ ทำให้ต่างหันมามองหน้ากันทันที

แน่นอนว่าหลังพูดออกมาพร้อมกัน ย่อมบังเกิดจุดเกรงใจ จึงไม่มีใครพูดอะไรออกมาต่อ

“ท่านพูดก่อน”

“ท่านพูดก่อน”

แต่หลังนิ่งไปพักหนึ่งทั้งคู่ก็กล่าวออกมาอีกครั้ง และยังเป็นการกล่าวออกมาพร้อมกันอีกรอบ หากคนไม่รู้จักมาเห็นคงคิดว่าใช่เตี๊ยมกันมาหรือไม่? หาไม่แล้วในเวลาสั้นๆ ไฉนจะกล่าวออกพร้อมกันติดๆแบบนี้ 2 ครั้ง 2 ครา?

“อุฟ”

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนชักสีหน้ากระอักกระอ่วน ชิวมู่ชิงอดไม่ได้ที่จะขำออกมา หน้างามขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความขวยเขินอีกครั้ง

และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนจะกล่าวอะไรออกมาต่อนั้นเอง

เสียงตะโกนด้วยน้ำเสียงอึมครึมพลันดังขึ้นมาจากด้านนอกอย่างกะทันหัน! ปัดเป่าความคิดกล่าวคำต้วนหลิงเทียนไปหมดสิ้น!!

“ชิวมู่ชิง!”

ในน้ำเสียงอึมครึมดังกล่าว แม้จะดังมาแต่ไกลแต่ยังสัมผัสได้ถึงโทสะชัดเจน

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สีหน้าอันแต้มไปด้วยรอยยิ้มของชิวมู่ชิงพลันชะงักลงทันใด เผยสีหน้าไม่พอใจออกมาทันที

ตึก! ตึก! ตึก!

ทันใดนั้น ต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆดังขึ้น

เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่พร้อมกลุ่มคนมากมาย ไม่เพียงบุกรุกเข้ามาในเขตเรือนส่วนตัวของชิวมู่ชิง กระทั่งบุกมาถึงนี่ด้วยท่าทางดุร้ายเอาเรื่อง เผยให้รู้ว่าไม่ได้มาดีแน่นอน

กลุ่มคนด้านหลังชายวัยกลางคนก็มีทั้งชราและชายวัยกลางคน

สีหน้าของแต่ละคนบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก

ทั้งหลายยังมองจ้องมาที่ชิวมู่ชิงสายตาตำหนิ ทำราวกับชิวมู่ชิงไปก่อเรื่องงามหน้ามา!

“ท่านลุงรอง ผู้อาวุโส…พวกท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ไฉนบุกเข้าเรือนข้าอย่างมิได้รับเชิญ?”

ชิวมู่ชิงตอนนี้ลุกขึ้นมาและเดินออกจากศาลาไปรับหน้าผู้คน หน้างามยังเปลี่ยนเป็นถมึงทึง

ที่นี่คือเรือนส่วนตัวของนาง และนางเป็นเจ้าของ!

ทว่ากลุ่มคนเหล่านี้กลับบุกรุกเข้ามาโดยไม่ถามนางสักคำด้วยท่าทีดุร้าย กระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะหยาบคาย ยังเหมือนไม่เห็นนางอยู่ในสายตาอีกด้วย!

และผู้ที่บุกรุกเข้ามาเขตเรือนส่วนตัวของนาง ยังเป็นนายท่านรองของตระกูลชิว “ชิวกังยี่”

สำหรับผู้ที่ติดตามชิวกังยี่มา ล้วนเป็นอาวุโสของตระกูลชิวทั้งสิ้น เป็นกลุ่มคนที่ชิวกังยี่เรียกประชุมด่วนหลังมันกลับมาถึงตระกูลชิว

พวกมันยังเป็นฝ่ายที่สนับสนุนชิวกังยี่เรื่องให้ชิวมู่ชิงแต่งกับคุณชายรองตระกูลตงฟาง

พอรู้ว่าวันนี้ชิวมู่ชิงทำอะไรลงไป และตระหนักได้ว่าการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชิวและตระกูลตงฟางได้พงพินาศไปแล้ว พวกมันมย่อมมีโมโหไม่น้อย จึงติดตามชิวกังยี่มาหาคำอธายจากชิวมู่ชิงทันที

“ทำเช่นนี้หมายความว่าอะไร? เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกหรือชิวมู่ชิง เจ้ากำลังจะทำให้ตระกูลชิวทั้งตระกูลล่มจมอยู่รอมร่อ! แต่เจ้ายังมีหน้ามาโมโหเรื่องที่พวกเราบุกรุกที่เจ้าหรือ?”

นายท่านรองตระกูลชิว ชิวกังยี่กล่าวออกเสียงเข้มขณะมองชิวมู่ชิงตาขวาง “หากไม่มีตระกูลชิวแล้ว เจ้ายังคิดว่าเจ้าจะมีเขตที่พักใหญ่โตให้เจ้าวางอำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้ได้อีกหรือ!?”

นอกจากนั้นในน้ำเสียงของมันยังเต็มไปด้วยความประชดประชัน

ชิวกังยี่แม้จะเป็นนายท่านรองของตระกูลชิว แต่ชิวมู่ชิงก็จำต้องเรียกมันท่านลุงรอง เพราะมีความเกี่ยวดองทางสายเลือด

ถึงแม้ความเกี่ยวดองทางสายเลือดจะห่างมากก็ตาม

ปู่ของอีกฝ่ายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับปู่ของผู้นำตระกูลชิวคนปัจจุบัน ชิวอ้านผิง กล่าวได้ว่ามันกับบิดานางก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่บ้าง แม้จะค่อนข้างห่างไปแล้วก็ตาม

เช่นนั้นกล่าวได้ว่าลูกสาวของชิวอ้านผิงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมันอย่างชิวมู่ชิง ก็ถือเป็นหลานของมันเช่นกัน

แต่ทว่าในใจของชิวกังยี่นั้น มันเห็นแก่ตระกูลชิวเหนือสิ่งอื่นใด…

ชิวมู่ชิงจะเป็นจะตาย มันไม่แยแสกระทั่งไม่เคยคิดจะสนใจ

ด้วยเหตุนี้แม้ชิวมู่ชิงจะประกาศเจตนาชัดเจน และยืนกรานว่าไม่ยอมแต่งกับตงฟางฉู่ ทว่าชิวกังยี่ก็ไม่สนใจ ชักชวนเหล่าอาวุโสให้มากดดันชิวอ้านผิงไม่เว้นวัน!

ใช้ชิวอ้านผิงบีบคั้นให้ชิวมู่ชิงยอมแต่งเข้าตระกูลตงฟาง!

“ทำให้ตระกูลชิวล่มจม?”

ชิวมู่ชิงถึงกับผงะเมื่อได้ยินคำกล่าวหาของชิวกังยี่ อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกไปเสียงเย็น “ท่านลุงรองอยู่ดีๆไฉนมากล่าวหาข้าเช่นนี้?”

“กล่าวหาเจ้า?”

ชิวกังยี่ระเบิดเสียงหัวเราะร่าหลังได้ยินคำของชิวมู่ชิง ก่อนที่จะหันไปมองชายหนุ่มชุดม่วงที่พึ่งเดินออกจากศาลามาหยุดข้างชิวมู่ชิง ด้วยสายตาเอาเรื่องกล่าวคำถากถางออกมาทันทีว่า

“เจ้าหนุ่มนี่เป็นชู้รักที่เจ้าซุกซ่อนไว้ด้านนอกใช่หรือไม่? หน้าตามันนับว่าหล่อเหลาไม่เบา แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันไม่ต่างอันใดกับคนตายเพราะดันไปทำให้ตระกุลตงฟางขุ่นเคืองใจ!”

กล่าวแดกดันจบ หน้าของชิวกังยี่ก็เผยความดุร้ายออกมา

ชู้รัก?

ได้ยินคำของชิวกังยี่ คิ้วต้วนหลิงเทียนขมวดย่นเป็นปม คำกล่าวหานี้ทำให้เขาไม่พอใจไม่น้อย

แต่จะอย่างไรคนตรงหน้าก็เป็นคนของตระกูลชิว หากเขาลงมือส่งเดชไม่พ้นต้องทำให้ชิวมู่ชิงตกที่นั่งลำบากแน่นอน เช่นนั้นเขาจึงอดทนเอาไว้ก่อน

แน่นอนว่าการอดทนเอาไว้ก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทนไปได้ตลอด!

หากทนไม่ไหวเมื่อไหร่ เขาก็ไม่คิดจะทน!

วูบ!

และวาจาดังกล่าวของชิวกังยี่ ยังทำให้หน้าชิวมู่ชิงเปลี่ยนสีไปทันที

ชิวกังยี่กล่าวหานาง ตัวนางยังพอทนได้

แต่มากล่าวหาต้วนหลิงเทียน สหายใหม่ของนางแบบนี้นางทนไม่ได้!

“ชิวกังยี่ เจ้าระวังปากของเจ้าไว้ให้ดีเถอะ! ชู้รักอันใดของเจ้า…เขาเป็นสหายของข้า!!”

ชิวมู่ชิงมองชิวกังยี่ด้วยสายตาเย็นชา ยังกล่าวเรียกหามันออกมาด้วยชื่อห้วนๆ เสียงยังเยียบเย็นปานจะผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง

และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตนางก็ว่าได้ที่เรียกชิวกังยี่ออกมาด้วยชื่อห้วนๆแบบนี้

พอได้ยินชิวมู่ชิงเรียกชื่อตัวเองห้วนๆ ชิวกังยี่อดไม่ได้ที่จะตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อยฉีกยิ้มออกมาด้วยโทสะ “ดี ดี ดีมาก…ดูเหมือนยามนี้เจ้าชิวมู่ชิงจักปีกกล้าขาแข็งแล้ว! เพื่อชู้รักคนหนึ่งถึงกับกล้าเรียกหาลุงรองอย่างข้าด้วยชื่อห้วนๆ!”

“ข้าจักกล่าวซ้ำอีกครั้ง เขาเป็นสหายของข้า มิใช่ชู้รัก!”

หน้างามของชิวมู่ชิงตอนนี้คล้ายฉาบเคลือบไว้ด้วยม่านน้ำแข็ง วาจากล่าวย้ำคำรอบนี้ยิ่งมายิ่งเยียบเย็นพาลให้ผู้ที่ได้ฟังเสมือนติดอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

และจากน้ำเสียงเยียบเย็นดังกล่าว ทำให้ทราบได้ทันที

ว่าตอนนี้นางโมโหจริงๆ!

“เจ้าเรียกว่าชิวกังยี่?”

เมื่อเห็นว่าชิวมู่ชิงโกรธเป็นฟืนไฟ ต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ต้องทนอะไรแล้ว

เขาก้าวออกมาพร้อมมองหน้าชิวกังยี่ กล่าวออกเสียงทุ้ม “เจ้าเชื่อฟังวาจาของแม่นางชิวเสียจะประเสริฐกว่า…ระวังปากของเจ้าไว้ให้ดี!”

เมื่อต้วนหลิงเทียนออกตัวแทนชิวมู่ชิงเช่นนี้ย่อมดึงดูดความสนใจผู้คนไม่น้อย

และพอได้ยินวาจาที่เขากล่าว ชิวกังยี่ถึงกับผงะไปวูบหนึ่ง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ ฮ่าๆ ออกมาอย่างไม่อาจห้าม

หลังหัวร่อไปได้สักพักมันค่อยหยุดลง มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็นกล่าวคำด้วยน้ำเสียงดูแคลนหยันหยาม

“ไอ้หนู! เจ้าอย่าได้สำคัญตัวเองผิดไป หรือคิดว่าชิวมู่ชิงถูกใจเข้าหน่อยเจ้าก็นึกว่าตัวเองวิเศษวิโสเหนือใครแล้วจักทำอะไรก็ได้ในตระกูลชิว? เฮอะ! ต่อหน้าข้า เจ้ายังไม่นับเป็นตัวอะไร!!”