ตอนที่ 1447 บิดเบือนข้อเท็จจริง (3) / ตอนที่ 1448 บิดเบือนข้อเท็จจริง (4)
ตอนที่ 1447 บิดเบือนข้อเท็จจริง (3)
การปรากฏตัวอย่างกระทันหันของเยี่ยซาทำให้ใบหน้าของเจ้าเมืองแข็งทื่อไปเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่ของเยี่ยซาบวกกับใบหน้าเย็นชาเคร่งขรึม ทำให้ผู้คนรู้สึกกดดัน
“ใครเป็นเจ้าของที่นี่ เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้แล้ว” จวินอู๋เสียพูดด้วยสายตาเย็นชา
เจ้าเมืองเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นทันที
เยี่ยซาหยิบกระดาษปึกหนาๆ ปึกหนึ่งออกมา เมื่อกระดาษพวกนั้นถูกนำออกมา ใบหน้าของเจ้าเมืองก็เปลี่ยนสีทันที!
“นี่คือโฉนดบ้านเดิม และนี่ก็โฉนดที่ดินที่สร้างหอพักพวกนี้ นี่คือบัญชีสำหรับการก่อสร้างหอพักทั้งหมด เอกสารทุกฉบับมีการประทับลายนิ้วมือของผู้ขาย” จวินอู๋เสียมองหน้าเจ้าเมืองอย่างเย็นชา ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เยี่ยซา และเยี่ยซาก็แสดงเอกสารสัญญาทีละฉบับต่อหน้าทุกคนที่นั่น
ตัวอักษรในหมึกสีดำเห็นได้อย่างชัดเจนบนกระดาษสีขาว เจ้าของที่ดินทุกๆ ตารางนิ้วที่นี่ก็คือ “จวินอู๋” ซึ่งเป็นชื่อปลอมของจวินอู๋เสีย!
ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนและหักล้างไม่ได้เช่นนี้ มันจึงกลายเป็นการตบหน้าเจ้าเมืองอย่างแรงทันที พวกผู้ลี้ภัยที่สงสัยในตัวจวินอู๋เสีย พอเห็นสัญญาพวกนั้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ สายตาสงสัยของพวกเขาหันไปทางเจ้าเมืองแทน
“ถ้าไม่เชื่อ ท่านเจ้าเมืองก็ไปพาตัวเจ้าของร้านที่อยู่ข้างศาลาว่าการมา ให้เขาเปรียบเทียบว่าลายนิ้วมือพวกนี้ใช่ของเขาหรือเปล่า” จวินอู๋เสียเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ตอนที่นางซื้อที่ดินพวกนี้ นางได้เตรียมหลักฐานเอาไว้อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันตัวเองจากเหตุการณ์เช่นนี้!
เจ้าเมืองเงียบกริบทันที สายตาของผู้ลี้ภัยที่อยู่รอบๆ ต่างจ้องมองเขาด้วยความสงสัย ตอนแรกเขาอยากใช้เหตุผลว่าบ้านถูกรื้อ บังคับยึดที่ดินพวกนี้ แต่เขาลืมไปว่าจวินอู๋เสียได้ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลไม่ใช่แค่ซื้อโฉนดบ้านเพียงอย่างเดียว!
นางยังถือสิทธิ์ในโฉนดที่ดินไปอีกห้าสิบปีด้วย!
การตอบโต้ของจวินอู๋เสียนั้นรวดเร็วหมดจด มีประสิทธิภาพสูง ปิดข้อแก้ตัวทั้งหมดของเจ้าเมืองในทันที
ใบหน้าของเจ้าเมืองซีดขาวจนกลายเป็นเขียว ความสุขจากการได้รับทองคำแท่งในตอนนั้นหายวับไปจนหมด เหลือแต่ความอยากจะลากตัวเจ้าของร้านมาทุบให้ตาย!
“ถ้าเจ้าเมืองไม่มีอะไรแล้ว เชิญกลับไปเถอะ” จวินอู๋เสียกวาดสายตามองเจ้าเมืองที่หน้าซีดขาวจากการอดกลั้น ดวงตาของนางทอประกายเย็นชา
ใช้ลูกไม้กระจอกๆ ใส่ร้ายคนอื่น เจ้าหมูอ้วนนั่นยังอ่อนหัดนัก
เมื่อเห็นจวินอู๋เสียหันหลังจะเดินจากไป ในใจของเจ้าเมืองก็ลุกโชนด้วยไฟโทสะ ในฐานะเจ้าเมืองชิงเฟิง ไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือปัจจุบัน มีเพียงท่านผู้นั้นกับลั่วซีเท่านั้นที่เขาต้องก้มหัวให้! เขาไม่เคยต้องเจอกับความอัปยศเช่นนี้!
เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ บังอาจมาตบหน้าเขา! เขาจะทนได้อย่างไร!
“เดี๋ยวก่อน!” เจ้าเมืองหรี่ตาลงมองจวินอู๋เสีย สายตามุ่งร้ายน่ากลัว
“คุณชายจวิน ที่ข้าพูดไปเมื่อสักครู่เป็นเพียงวิธีหาทางออกจากสถานการณ์ที่น่าอับอายให้เจ้าเท่านั้น มันไม่ใช่เหตุผลที่ข้ามาหาเจ้า! เมื่อครู่คนที่นี่ได้บอกข้าว่าเจ้าได้โจมตีและฆ่าพลเมืองของเมืองชิงเฟิงไปสิบกว่าคน! สำหรับเรื่องนี้! เจ้าจะว่าอย่างไร!” เจ้าเมืองโกรธมาก เขาไม่สนใจอะไรแล้ว และกระชากหน้ากากคนใจดีมีคุณธรรมของเขาออกทันที!
ดวงตาของผู้ลี้ภัยที่ยืนอยู่รอบๆ เบิกกว้าง เมื่อสักครู่…เจ้าเมืองไม่ได้พูดอย่างนี้นี่!!!
ด้วยความเชื่อว่าเจ้าเมืองผู้ ‘ใจดี’ มาที่นี่เพื่อยกย่องการกระทำที่กล้าหาญของคุณชายจวินที่กำจัดพวกอันธพาล พวกผู้ลี้ภัยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาซื่อมากขนาดที่ผลักผู้มีพระคุณของพวกเขาเข้าสู่ปากพยัคฆ์!
ตอนที่ 1448 บิดเบือนข้อเท็จจริง (4)
พวกผู้ลี้ภัยที่เมื่อครู่บอกเจ้าเมืองว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น ใบหน้าของพวกเขาซีดขาว แววตาตกตะลึงทันที
“โอ้” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อย นางมองเจ้าเมืองที่ไม่เก็บอาการแล้ว และพูดหน้าตาเฉยว่า “ไม่มีเรื่องแบบนั้นสักหน่อย ถ้าเจ้าเมืองไม่เชื่อก็ค้นที่นี่ได้ทุกตารางนิ้ว ถ้าเจอศพที่นี่ ก็จับข้าข้อหาฆ่าคนตายได้เลย”
“ทหาร! ค้นให้ทั่ว! เอาให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม! ห้ามพลาดแม้แต่จุดเดียว!” เจ้าเมืองกัดฟันกรอดพลางจ้องมองไปที่จวินอู๋เสีย ด้วยคำสั่งนั้น พวกทหารที่เจ้าเมืองนำมาก็พุ่งออกไป
พวกผู้ลี้ภัยยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ต่างปิดปากเงียบด้วยความกลัว พวกที่พูดมากอยู่เมื่อครู่ก็พากันหน้าซีด พวกเขากัดฟันแน่น ขาสั่น ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่คิดเลยว่าความซื่อของพวกเขาจะทำความเดือดร้อนให้กับผู้มีพระคุณได้มากขนาดนี้ สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ เจ้าเมืองที่ “ใจดี” คนนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างกระทันหันแบบนี้ กลับคำพูดของตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉย!
ภาพลักษณ์ที่ใจดีมีคุณธรรมของเจ้าเมืองแตกเป็นเสี่ยงๆ ในชั่วพริบตา ข้อกล่าวหาที่โยนใส่จวินอู๋เสียถูกคุณชายจวินโต้กลับอย่างรวดเร็วและไม่สามารถหักล้างได้ แล้วเจ้าเมืองยังยัดข้อหาฆาตกรรมใส่จวินอู๋เสียอีก
คงมีเพียงคนงี่เง่าปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่จะมองไม่ออกว่าเจ้าเมืองกำลังพยายามจับผิดจวินอู๋เสียอยู่
สายตาของผู้ลี้ภัยที่มองไปยังเจ้าเมืองบ่งบอกความรู้สึกของพวกเขาในตอนนั้นอย่างเต็มที่ ดวงตาทุกคู่ที่มองดูเจ้าเมืองไม่ได้เต็มไปด้วยความเคารพและสำนึกบุญคุณอีกต่อไป
แต่เจ้าเมืองไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอีกแล้ว ในสายตาของเขา ผู้ลี้ภัยพวกนี้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วัน พวกเขาต้องตายไม่ช้าก็เร็ว พอคนกลุ่มนี้ตายหมด ในสายตาของผู้ลี้ภัยที่เข้าเมืองมาหลังจากกลุ่มนี้ เขาก็ยังเป็นเจ้าเมืองที่ “ใจดี” เหมือนเดิม
เจ้าเมืองตั้งใจจะจับจวินอู๋เสียเข้าคุกให้ได้ และเมื่อเขายัดข้อหาฆาตกรรมให้เด็กหนุ่มได้ เขาก็จะมีข้ออ้างที่ดีมากในการยึดหอพักที่สวยงามทั้งหมดนี้
แต่หลังจากทหารทำการค้นหาอยู่สองชั่วยามเต็ม ได้ตรวจสอบทุกซอกทุกมุมทั่วทั้งหอพักจากบนลงล่างอย่างละเอียด พวกเขาก็ไม่สามารถหาร่องรอยของศพได้แม้แต่น้อย พวกเขาไม่พบกระทั่งรอยโลหิตแม้แต่หยดเดียว
ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เจ้าเมืองถึงกับมึนงงในทันที
พวกของหลิวเอ้อร์เพิ่งจะถูกจวินอู๋เสียฆ่าตายวันนี้ จากที่พวกผู้ลี้ภัยบอกเขา พวกหลิวเอ้อร์ตายอย่างน่าอนาถ โลหิตสาดกระจายเต็มพื้น ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วยาม ต่อให้จวินอู๋เสียเตรียมพร้อมไว้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะลบร่องรอยการตายทั้งหมดออกไปได้อย่างสมบูรณ์
“พวกเจ้าไปหาอีกครั้ง! ครั้งนี้ขุดดินที่นี่ให้หมดทุกตารางนิ้ว!” เจ้าเมืองกัดฟันและจ้องมองไปที่จวินอู๋เสียอย่างมุ่งร้าย ใบหน้าของจวินอู๋เสียยังคงเย็นชาไม่ยินดียินร้ายเหมือนเดิม ความนิ่งสงบแบบนั้นทำให้เจ้าเมืองยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
แต่ถึงแม้ทหารจะขุดดินลงไปถึงสามฟุต มันก็ยังไม่เกิดผลใดๆ เจ้าเมืองบังคับให้ตัวเองอยู่ที่ทางเหนือของเมืองจนกระทั่งดวงจันทร์เริ่มทอแสง แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานที่ต้องการได้
เจ้าเมืองที่ไม่ได้อะไรก็แทบจะกระชากคอเสื้อจวินอู๋เสียเข้ามาถามว่าศพพวกนั้นซ่อนอยู่ที่ไหน!
“พอใจหรือยัง” จวินอู๋เสียกอดอก มองอย่างสงบนิ่งไม่สะทกสะท้านไปที่เจ้าเมืองที่ปากเริ่มกระตุก ดวงตาใสกระจ่างของนางทอประกายเยียบเย็น
เจ้าเมืองแอบกัดฟันแน่น แต่ก็ไม่มีโอกาสให้เขาโวยวายอาละวาด ได้แต่จ้องมองจวินอู๋เสียอย่างดุร้าย ก่อนจะหันหลังจากไป
ไม่ใช่แค่เจ้าเมืองที่รู้สึกว่ามันแปลก แต่ผู้ลี้ภัยทุกคนที่ได้เห็นกับตาตัวเองว่าพวกของหลิวเอ้อร์ถูกฆ่าตาย ก็พากันงงไปหมด ไม่ว่าจะคิดอย่างไร พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสียลบร่องรอยหลักฐานทั้งหมดไปตั้งแต่เมื่อไรและทำได้อย่างไร