บทที่ 733 กินองุ่น

บทที่ 733 กินองุ่น

เสี่ยวเถาอยู่กับคุณหนูหลิวมาหลายปี นางได้เงินเพียงเล็กน้อยต่อเดือน แต่คุณหนูกลับใจดีกับคนแปลกหน้ามาก เมื่อคิดถึงเรื่องนี้นางก็รู้สึกน้อยใจ

ในตอนบ่าย เสี่ยวเถาไปที่สวนหลี่อีกครั้ง

แต่คราวนี้นางเข้าประตูไม่ได้ด้วยซ้ำ

เปล่าประโยชน์

หลังจากเคาะประตูอยู่นานก็ไม่มีการตอบรับ

เสี่ยวเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอที่ประตูทั้งบ่าย!

หน้าร้อนนี้ช่างร้อนนัก แม้มีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้าง ๆ และมีร่มเงา แต่นางไม่กล้าไปที่นั่น เพราะกลัวว่าถ้านางหันกลับมา นางจะคลาดกับกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ

บ่ายนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นางต้องได้พบกับกู้เสี่ยวหวาน

คุณหนูหลิวได้เสนอเงื่อนไขที่เอื้อเฟื้อถึงเพียงนี้แล้ว แม้แต่คนโง่ก็สามารถจินตนาการได้ว่ามันน่าซาบซึ้งเพียงใด

เสี่ยวเถาทำได้เพียงยืนรอที่ประตู แสงอาทิตย์ในฤดูร้อนส่องกระทบร่างของนาง ซึ่งนอกจากผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมสำหรับพัดลมและเช็ดเหงื่อแล้ว นางก็ไม่ได้ดื่มน้ำสักหยด

เสี่ยวเถากระหายน้ำและตัวร้อนเหมือนถูกเผา นางนั่งอยู่ที่ประตูพลางซับเหงื่อที่ไหลย้อย ก่อนใช้ผ้าเช็ดหน้าพัดโบกไปมา โดยหวังว่าจะได้ลมรับเย็น ๆ

เสี่ยวเถาเฝ้ารออยู่ที่นี่อย่างใจจดใจจ่อ

ในอีกด้านหนึ่ง กู้เสี่ยวหวานกำลังเพลิดเพลินกับความเย็นของฤดูร้อนอย่างสบายใจ

ประมาณเที่ยงของวันนี้ เสี่ยวลู่จือจากร้านอวี้ซู่ตั้งใจขับรถม้ามาหา โดยบอกว่ามีผลไม้หายากเพิ่งมาถึงบ้าน และมันถูกแช่เย็นอยู่ในบ่อน้ำ ขอให้กู้เสี่ยวหวานไปลองชิม

หลังจากฟังคำบรรยายของเสี่ยวลู่จือ ผลไม้นั้นมีขนาดเท่าลูกตา มีสีม่วง รสชาติหวานอมเปรี้ยว ผิวของมันเรียบ และเมื่อลองกัดหนึ่งคำก็รู้สึกได้ว่ามันสดและกรอบมาก

กู้เสี่ยวหวาน คิดได้ทันทีว่าพวกมันต้องเป็นองุ่น

ปากของนางมีน้ำลายไหลในทันที บังเอิญว่าครั้งก่อนฮูหยินสวีตั้งใจมาหานางเป็นพิเศษ ซึ่งนางยังไม่เคยขอบคุณอีกฝ่าย ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงใช้โอกาสนี้เพื่อไปขอบคุณ

นางซื้อขนมหลายชิ้นในร้านขายขนมแล้วเข้าไปในร้านอวี้ซู่

กู้หนิงอันอยู่ในชั้นเรียน กู้เสี่ยวหวานจึงไม่ได้รบกวนเขาและพากู้หนิงผิง กู้เสี่ยวอี้ ฉินเย่จือ และอาโม่ไปที่โถงซึ่งฮูหยินสวีกำลังรอพวกเขาอยู่

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ มาถึงแล้ว ใบหน้าของฮูหยินสวีก็มีความสุขยิ่ง นางสั่งให้หญิงรับใช้ยกน้ำชามา จากนั้นจึงขอให้เสี่ยวลู่จือนำองุ่นแช่เย็นขึ้นมาจากบ่อน้ำ

ในช่วงสั้น ๆ น้ำลายของกู้เสี่ยวหวานแทบจะไหลลงมาแล้ว

กู้เสี่ยวอี้และกู้หนิงผิงไม่รู้ว่าองุ่นนี้คืออะไรและอร่อยแค่ไหน พวกเขาเพียงแค่นั่งรออย่างเชื่อฟัง เมื่อเห็นพี่สาวของพวกเขาตั้งตารออย่างกระตือรือร้น พวกเขาจึงอยากรู้อยากเห็นมาก

พี่สาวของพวกเขาเองก็ไม่เคยลิ้มรสของอร่อยเช่นนี้!

เมื่อเห็นท่าทางคาดหวังของกู้เสี่ยวหวาน ฮูหยินสวีก็มีความสุขเช่นกัน และคิดว่ามันถูกต้องแล้วที่เชิญพวกเขามาในวันนี้!

แน่นอนว่า เมื่อเสี่ยวลู่จือและสาวใช้อีกคนเดินเข้ามาพร้อมกับองุ่น ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานก็สว่างขึ้น ส่องแสงเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้าในวันนั้น

ฉินเย่จือนั่งถัดจากกู้เสี่ยวหวาน เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานน้ำลายแทบไหลแบบนั้นก็รู้สึกขบขันในใจ เขาไม่เคยเห็นว่านางจะชอบกินอะไรเป็นพิเศษ แต่ในวันนี้กลับพบแล้ว

มีโต๊ะกลมในโถง กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ นั่งลง บนโต๊ะกลมมีองุ่นสองจานวางอยู่ กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ นั่งกินองุ่นอย่างสำราญใจ

ผิวขององุ่นนั้นเรียบเนียนและอวบอิ่ม ดูสดมาก พวงทั้งพวงเต็มไปด้วยผลองุ่น ซึ่งผลเหล่านั้นก็เติบโตอย่างหนาแน่นและเบียดชิดกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผิวยังเป็นสีม่วงเข้มดุจน้ำหมึกอีกด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า องุ่นยิ่งสีม่วงยิ่งหวาน และสีม่วงยิ่งเข้มก็ยิ่งดี เพียงแค่วางลงบนโต๊ะก็จะได้กลิ่นหอมของผลองุ่น

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานน้ำลายสอ ฮูหยินสวีก็รีบพูดด้วยรอยยิ้ม “รีบกินสิ นี่คือของที่ลูกศิษย์ของอาจารย์สวีที่มาเยี่ยมที่นี่เมื่อสองวันนำกลับมาจากภูเขาหมิน”

อะไรนะ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่นี่ยังมีการปลูกองุ่นด้วย?

กู้เสี่ยวหวานก็ไม่สุภาพเช่นกัน นางยื่นมือออกไปก่อนแล้วเด็ดออกมาหนึ่งลูก

ทั้งกู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ไม่เคยเห็นองุ่นมาก่อน พวกเขาทั้งหมดมองดูมันด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นพวกเขาเห็นพี่สาวของพวกเขาเด็ดองุ่นไปแล้วยื่นไปที่ปากของนาง นางจับที่ส่วนปลายขององุ่นแล้วบีบให้เนื้อเข้าไปในปาก

องุ่นถูกแช่อยู่ในบ่อน้ำ มันจึงเย็นและมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หากได้กินไม่กี่ผล ความร้อนก็จะหายไป

ผลไม้โปรดของกู้เสี่ยวหวานในชีวิตที่แล้วก็คือองุ่น

ทุกฤดูร้อนจะมีองุ่นสดติดตู้เย็นทุกวัน

ในสวนบ้านคุณยายปลูกองุ่นไว้หลายต้น ในหน้าร้อน พวงองุ่นจะห้อยอยู่ใต้ใบเขียว ตอนแรกมีสีเขียว ก่อนเปลี่ยนเป็นแดง แล้วก็กลายเป็นม่วงใส ดูน่ากินจนน้ำลายสอ

คุณยายรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานชอบกินองุ่น ตอนแรกนางกินองุ่นจากบ้านของนางเอง เมื่อองุ่นที่บ้านหมดแล้ว คุณยายก็ออกไปซื้อมาใส่ตู้เย็น เมื่อกู้เสี่ยวหวานอยากกิน นางล้างมันด้วยน้ำสะอาดหนึ่งครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่ชะล้างสิ่งสกปรกภายนอกออกไปเท่านั้น แต่ยังทำให้ความเย็นขององุ่นที่เพิ่งนำออกมาจากตู้เย็นลดลงไปด้วย

จากนั้นมันถูกจัดใส่จานแล้ววางไว้บนเก้าอี้หวายตัวเล็กด้านนอก ซึ่งกู้เสี่ยวหวานก็นั่งบนเก้าอี้โยก พูดคุยกับคุณยายและคุณตาขณะโยกเก้าอี้โยก

คุณยายโบกพัดหางนกยูงของนางเพื่อพัดให้กู้เสี่ยวหวาน ขณะที่คุณตาสวมแว่นสายตายาว อ่านหนังสือพิมพ์พลางพูดคุยกับกู้เสี่ยวหวานไปด้วย

วันเวลาเหล่านั้นได้หายไปตลอดกาล แต่มันเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในหัวใจของกู้เสี่ยวหวาน

ฮูหยินสวีมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างสงสัย

กู้เสี่ยวหวานยังคงถือผลองุ่นไว้ในมือของนาง และกำลังจะโยนเปลือกองุ่นลงบนโต๊ะ ทันใดนั้นนางก็เห็นดวงตาสงสัยของฮูหยินสวี นางจึงพลันตระหนักว่าตัวตนของกู้เสี่ยวหวานในโลกนี้ควรเป็นคนที่ไม่เคยเห็นองุ่นมาก่อน แล้วตอนนี้นางจะกินองุ่นเป็นได้อย่างไร?

กู้เสี่ยวหวานมองไปรอบ ๆ เห็นเพียงกู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้มองมานางอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ได้ขยับมือ พวกเขาไม่เคยเห็นจะรู้ได้อย่างไรว่าจะกินเข้าไปอย่างไร!

ทว่ากู้เสี่ยวหวานกลับลงมือกิน!

ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรฮูหยินสวีถึงจะไม่รู้สึกสงสัย?

ความคิดหนึ่งวาบผ่าน กู้เสี่ยวหวานขยับมือของนางพร้อมเปิดปากออก ก่อนโยนเลือกองุ่นเข้าไปในปากของนางราวกับว่านางโยนองุ่นทั้งลูกเข้าปาก

กู้เสี่ยวหวานเคี้ยวเปลือกกับเนื้อเข้าด้วยกันและพูดอย่างมีความสุข “องุ่นเหล่านี้หวานมาก!”

เพียงแต่ว่าเมื่อกินเปลือกองุ่นไปด้วย ดังนั้นรสชาติจึงแย่ลงมาก!