บทที่ 764 มองด้วยสายตาต่างไปจากเดิม

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​อะไร​นะ​ ​เดิน​วน​เป็น​วงกลม​หรือ​?​!​ ​ทำไม​เจ้า​ไม่​บอก​ให้​เร็ว​กว่านี​้​ล่ะ​?​!​”​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คนอื่นๆ​ ​เอะอะ​เสียงดัง

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คน​นั้น​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​แหบแห้ง​ว่า​ ​”​ข้า​ก็​เพิ่ง​รู้ตัว​เมื่อครู่นี้​เหมือนกัน​ ​เจ้า​ลด​เสียง​ลง​หน่อย​ ​หยิบ​ยันต์​ออกมา​ ​แล้ว​หมุนตัว​สาม​รอบ​จากนั้น​ลอง​เดิน​ออก​ไป​ข้างหน้า​ดู​สิ​”

การ​เดิน​วน​เป็น​วงกลม​ไม่ใช่​อุปสรรค​อัน​ยากจะแก้ไข​แต่อย่างใด

แต่​มัน​ก็​น่ากลัว​เพราะ​ถ้า​พวกเขา​ไม่​สามารถ​ทำลาย​อุปสรรค​ที่ว่า​นี้​ได้​ละ​ก็​ ​พวกเขา​อาจจะ​ต้อง​ติด​อยู่​ที่นี่​ไป​ตลอดชีวิต​ ​พวกเขา​จะ​ยังคง​ติด​อยู่​ที่​เดิม​ ​และ​เดิน​วน​ไป​วน​มาซ​้ำ​แล้ว​ซ้ำ​เล่า​เป็น​ปี​ๆ

โชคดี​ที่​พวกเขา​เป็น​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​รู้จัก​วิธี​รับมือ​กับ​สถานการณ์​เช่นนี้

ทุกคน​เปิด​ย่าม​แล้ว​เตรียม​ที่จะ​ร่าย​อาคม

แต่​ทันใดนั้น​พวกเขา​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่ายันต​์​ใน​ย่าม​ของ​พวกเขา​หาย​ไป​จน​หมดเกลี้ยง​!

“​เป็นไปได้​อย่างไร​ ​ยันต์​ของ​ข้า​หาย​ไป​ไหน​”

“​ของ​ข้า​ก็​หาย​ไป​เหมือนกัน​!​”

“​ค้น​ดู​อีกครั้ง​สิ​!​”

“​ยัง​หาไม่​เจอ​เลย​สัก​แผ่น​เดียว​!​”

จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​เงยหน้า​ขึ้น​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ท่วม​ไป​ด้วย​เหงื่อ​ ​สถานการณ์​นี้​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​มี​ใคร​บางคน​วางแผน​เล่นงาน​พวกเขา​ด้วย​การขโมย​ยันต์​ของ​พวกเขา​ไป

“​ใคร​กัน​จะ​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​ ​พวกเขา​จะ​ทำ​เช่นนี้​ไป​ทำไม​”​ ​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​ทุบ​กำปั้น​ลง​กับ​พื้น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​ประหลาดใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​”​ในเมื่อ​นี่​เป็นการ​แข่งขัน​ ​ดังนั้น​แน่นอน​ว่าย​่​อม​มี​การ​ใช้​เล่ห์เหลี่ยม​เป็นธรรมดา​ ​นาย​น้อย​อวิ​๋น​ ​เจ้า​ควร​ทำตัว​ให้​คุ้นเคย​กับ​เรื่อง​พวก​นี้​เสีย​”

“​ข้า​…​”​ ​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​สุขุม​เยือกเย็น​มาโดยตลอด​ ​เขา​ไม่เคย​คิด​แม้กระทั่ง​จะ​ทำร้าย​ใคร​ ​แม้​เขา​จะ​รู้​ว่าการ​แข่งขัน​นี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ ​แต่​เขา​ก็​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​มี​ใคร​ทำตัว​ต่ำช้า​เช่นนี้​ ​พวกเขา​อยู่​ใน​สุสาน​หลวง​ ​การขโมย​ยันต์​ไป​จาก​พวกเขา​จึง​ไม่​ต่าง​จาก​การ​พราก​ชีวิต​ของ​พวกเขา​สักนิด​!

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​ไปร​อบ​ตัว​ ​จากนั้น​จึง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​แล้ว​ปัดฝุ่น​บน​มือ​ออก​ ​”​เรา​มี​กัน​เก้า​คน​ตอน​ออกเดินทาง​ ​แต่​ตอนนี้​มี​เพียงแค่​แปด​คน​ ​จะ​ต้อง​มี​ใคร​สังเกตเห็น​สิ่งผิดปกติ​ที่เกิด​ขึ้น​และ​หนี​ไป​ก่อน​แน่​ ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​เตรียมตัว​สำหรับ​เรื่อง​นี้​มานาน​แล้ว​”

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​พอ​จะ​เดา​ออก​ว่า​เจ้าของ​อุบาย​นี้​คือ​ใคร​ ​คน​พวก​นั้น​ต้อง​เป็น​ใคร​บางคน​จาก​ตระกูล​หนี​หรือไม่ก็​ตระกูล​หลิน​อย่างแน่นอน​ ​มี​แค่​เพียง​สอง​ตระกูล​นี้​เท่านั้น​ที่​ต้องการ​ขัดขวาง​ไม่​ให้​ตระกูล​จู​เก​่อ​ได้รับ​ชัยชนะ​ ​โดยปกติ​แล้ว​กลอุบาย​อัน​โหดเหี้ยม​เช่นนี้​มักจะ​เป็น​คำสั่ง​จาก​ประมุข​ของ​ตระกูล

ถ้า​เรื่อง​นี้​เกิด​จาก​ตระกูล​หนี​ ​เช่นนั้น​สถานการณ์​ในเวลานี้​ก็ช่าง​น่าหวาดกลัว​ยิ่งนัก

พวกเขา​เชื่อใจ​และ​ชื่นชม​หนี​เปียว​อย่างมาก​ ​ทั้ง​ยัง​ยก​ให้​เขา​เป็น​ถึง​ต้นแบบ​ของ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​!

“​ไม่ใช่​ตระกูล​หนี​แน่​!​”​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​หนุ่ม​เอ่ย​ขึ้น​พร้อมกับ​เม้ม​ริมฝีปาก​แน่น​ ​เขา​ปฏิเสธ​ที่จะ​ยอมรับ​ใน​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​คาดเดา

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เขา​ ​แล้ว​พูด​อย่าง​ไม่แยแส​ว่า​ ​”​เวลานี้​ตัวการ​คือ​ใคร​ย่อม​ไม่สำคัญ​”

“​ถูกต้อง​”​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​อาวุโส​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ขึ้น​ ​เขา​ยังคง​ดู​สงบ​เยือกเย็น​ ​”​น้อง​เว​่​ยพูด​ถูก​ ​อุบาย​นี้​จะ​เป็นฝี​มือ​ใคร​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​ ​ตอนนี้​สิ่ง​ที่​พวกเรา​ควร​เป็นห่วง​คือ​การ​หาทาง​พาตัว​เอง​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ต่างหาก​”

เมื่อ​ไม่มี​ยันต์​อยู่​กับ​ตัว​ ​พวกเขา​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​ไป​จาก​หมู​ที่​วาง​อยู่​บน​เขียง​ ​ไม่ว่า​ปัญหา​ที่​พวกเขา​เจอ​จะ​เป็น​อะไร​ ​มัน​ก็​มี​แต่​จะ​ทำให้​พวกเขา​ถูก​คนอื่น​จัดการ​ได้​ทั้งนั้น

ยิ่งกว่านั้น​ ​ใน​สุสาน​หลวง​ก็​ยัง​แตกต่าง​จาก​โลก​ภายนอก​ ​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​เวลา​ต่อไป

การ​เผชิญหน้า​กับ​ความกลัว​ที่​ตน​ไม่รู้​จัก​ทำให้​ทุกคน​สัมผัส​ได้​ถึง​ความรู้สึก​เย็นยะเยือก​ที่​ก่อตัว​ขึ้น​มาจาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ ​ก่อน​จะ​ลาม​ไป​ทั่ว​สันหลัง​ ​ทั้งที่​ใน​สุสาน​ไม่มี​ลม​พัด​ ​แต่​พวกเขา​กลับ​รู้สึก​เหมือน​มี​ใคร​กำลัง​เดินตาม​พวกเขา​อยู่

บรรดา​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ไม่กล้า​พูด​อะไร​อีก​ ​แต่​ความ​เงียบ​นี้​ก็​อยู่​ได้​เพียง​ครู่เดียว​เท่านั้น​ก่อนที่​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​นาม​ว่า​เสี่ยว​หลิง​จะ​ได้ยิน​เสียง​อะไร​บางอย่าง​เข้า

มัน​เป็น​เสียงร้อง​ไห้​ ​เขา​หันหน้า​กลับ​ไป​ถาม​ด้วย​ความ​ไม่​มั่นใจ​ว่า​ ​”​เจ้า​ร้องไห้​ทำไม​”

ร้องไห้​หรือ​?​ ​สายตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จริงจัง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นาง​ไม่​ตอบ​แต่กลับ​ม้วน​แขน​เสื้อ​ยาว​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​แล้ว​กำมือ​รอบ​มีด​สั้น​ขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ส่อง​ประกาย​อยู่​ใน​มือ

นาง​ไม่แน่ใจ​ว่า​เสี่ยว​หลิง​ได้ยิน​เสียง​คน​ร้องไห้​จริงๆ​ ​หรือเปล่า

แต่​ในเวลานี้​การ​ปิดปากเงียบ​ย่อม​เป็น​สิ่ง​ที่​ดีที​่​สุด

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เคย​อ่านหนังสือ​เกี่ยวกับ​ภูตผี​วิญญาณ​มามาก​ ​มีเรื่อง​หนึ่ง​เขียน​เอาไว้​เช่นนี้

ชาวนา​สามีภรรยา​กลับมา​ถึง​บ้าน​ตอนค่ำ​หลังจาก​ทำนา​เสร็จ

สามี​แบก​ภรรยา​ที่​เดิน​ไม่ได้​เอาไว้​บน​หลัง​ระหว่าง​กลับบ้าน

การ​เดินเท้า​ใน​ตอนกลางคืน​ค่อนข้าง​ลำบาก​ ​และ​สามี​ก็​เหน็ดเหนื่อย​อย่างมาก​ ​อีกทั้ง​จู่ๆ​ ​ภรรยา​ที่อยู่​บน​ไหล่​ของ​เขา​ก็​ร้องไห้​ออกมา

ชาวนา​ขมวดคิ้ว​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​”​จู่ๆ​ ​เจ้า​ร้องไห้​ทำไม​”

ภรรยา​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​นาง​ตอบ​ว่า​ ​”​ข้า​ไม่ได้​ร้อง​”

สามี​รู้​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​ตระหนัก​ได้​ถึง​เรื่อง​น่า​ตกใจ​เรื่อง​หนึ่ง

ในเมื่อ​ภรรยา​ของ​เขา​บอกว่า​นาง​ไม่ได้​ร้องไห้​ ​เช่นนั้น​มัน​ย่อม​เป็นความ​จริง​ ​แต่​เขา​ได้ยิน​เสียง​ใคร​กัน​ล่ะ

ชาวนา​ไม่กล้า​คิด​ต่อ​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​รีบเร่ง​ฝีเท้า​ขึ้น

หลังจาก​พวกเขา​มาถึง​บ้าน​ ​ภรรยา​ก็​ถาม​เขา​เรื่อง​เสียงร้อง​ไห้​เมื่อ​ครู่​ ​เขา​จึง​ตอบ​ว่า​ ​”​โชคดี​ที่​ข้า​รู้จัก​เจ้า​ดี​ ​อีกทั้ง​ยัง​พอ​จะ​รู้​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​อยู่​บ้าง​ ​ถ้า​พวกเรา​หันกลับ​ไป​ ​พวกเรา​คง​ไม่ได้​กลับมา​ถึง​บ้าน​อย่างแน่นอน​”

ชาวนา​พูด​ถูก​ ​เพราะ​การ​หันหลัง​กลับ​ไประ​หว่าง​เดิน​อยู่​ใน​ความมืด​นั้น​ถือเป็น​สิ่งต้องห้าม

ทุกคน​มี​โคมไฟ​ปกปักรักษา​ร่างกาย​อยู่​ด้วยกัน​สาม​ดวง​ ​ดวง​หนึ่ง​อยู่​ทางซ้าย​ ​ดวง​หนึ่ง​อยู่​ทางขวา​ ​และ​อีก​ดวง​หนึ่ง​อยู่​ด้านหลัง

เห็นได้ชัด​ว่า​โคมไฟ​ดวง​ที่อยู่​ด้านหลัง​เสี่ยว​หลิง​คง​ดับ​ไป​เสีย​แล้ว​…

ยิ่ง​เสียงร้อง​ไห้​ที่​ข้าง​หู​ของ​เขา​ดัง​ขึ้น​เพียงใด​ ​เสี่ยว​หลิง​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับ​เงียบ​มากขึ้น​เท่านั้น​ ​แต่​นาง​ทำ​หน้า​ราวกับ​ตระหนักถึง​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มา​ได้​ ​เขา​ไม่กล้า​ถาม​อะไร​ต่อ​ขณะที่​เหงื่อ​เย็น​ๆ​ ​ไหล​ลงมา​จาก​หน้าผาก​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ซีดเผือด​ ​ทันทีที่​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ ​เขา​ก็​มองเห็น​เงาดำ​ทะมึน​เงา​หนึ่ง​ ​รูม่านตา​ของ​เขา​หด​แคบ​เข้าหา​กัน​ทันที​ ​”​อะไร​น่ะ​ ​นั่น​มันตั​วอะ​ไร​?​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เงยหน้า​ขึ้น​ทันที​พร้อมกับ​มอง​ไป​ยัง​ที่​ที่​เขามอ​งอยู​่​ ​นาง​เห็น​รูปปั้น​มนุษย์​ตั้งอยู่​ที่​หน้า​ทางเข้า​ถ้ำ

รูปปั้น​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​พวก​นาง​เคย​เห็น​มาก​่อน​หน้า​นี้​ก็​จริง​ ​แต่​สิ่ง​ที่​ทำให้​เสี่ยว​หลิง​หวาดกลัว​ก็​คือ​ดวงตา​อัน​น่าขนลุก​ของ​รูปปั้น​ที่ว่า​นี้​ ​ตา​คู่​นั้น​ดูเหมือน​จะ​ขยับ​ได้​และ​กำลัง​จ้องมอง​พวกเขา​อยู่

รอยยิ้ม​เย็นชา​ชวน​ขน​หัว​ลุก​ทำให้​เขา​เสียว​สันหลัง

“​ไม่ได้​การ​แล้ว​ ​พวกเรา​ต้อง​รีบ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​!​”​ ​เสี่ยว​หลิง​ก้าว​ถอยหลัง​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ราวกับ​เขา​กำลัง​เผชิญหน้า​กับ​ปีศาจ​ ​ไม่ว่า​คนอื่น​จะ​ตะโกน​บอก​เขา​ว่า​อย่างไร​ ​แต่​เขา​ก็​เอาแต่​พร่ำพูด​ประโยค​นี้​ออกมา​!

สำหรับ​คนอื่น​นั้น​ ​รูปปั้น​ไม่ได้​ขยับ​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เสี่ยว​หลิง​แล้ว​ขมวดคิ้ว​ ​จากนั้น​นาง​จึง​บอก​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นว​่า​ ​”​ส่ง​กระบอก​น้ำ​มา​ให้​ข้า​”

“​ขอรับ​!​”​ ​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นรีบ​หยิบ​กระบอก​น้ำ​ส่ง​ให้​นาง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ใช้​ปาก​เปิด​กระบอก​ ​แล้ว​ราด​น้ำเย็น​ๆ​ ​นั้น​ใส่​หน้า​ของ​เสี่ยว​หลิง

น้ำเย็น​ที่​ราด​ลงมา​ปลุก​เสี่ยว​หลิง​ให้​ตื่นขึ้น​จาก​ภวังค์​ ​เขา​จ้องมอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขณะที่​หยดน้ำ​ไหล​ลงมา​ตาม​ใบหน้า​ ​และ​ตระหนัก​ได้​ว่า​เขา​คง​ไม่​สามารถ​หนี​ได้​หาก​สมอง​ของ​เขา​ไม่​แจ่มชัด​พอ​ ​เขา​ร้องไห้​ออกมา​ทันที​ ​”​ขอบคุณ​ ​ฮือ​ ​ขอบคุณ​ขอรับ​”

“​ไม่เป็นไร​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​เล็กน้อย​ระหว่าง​ตบ​บ่า​เขา​ ​นาง​รู้​ว่า​เขา​ยัง​เด็ก​ ​และ​นี่​อาจจะ​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​นาง​วางมือ​ของ​ตัวเอง​ลง​บน​ไหล่​ของ​เขา​ ​แล้ว​ปลอบ​เขา​ว่า​ ​”​ใจเย็น​ๆ​ ​อย่า​แตกตื่น​ไป​ ​ถ้า​เจ้า​ได้ยิน​ใคร​เรียกชื่อ​ ​อย่า​ได้​ขานรับ​”

เสี่ยว​หลิง​พยักหน้า​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​แต่​ใน​ใจ​เขา​ไม่มีความรู้​สึก​อื่นใด​นอกจาก​ความเชื่อ​ใจ​มอบให้​กับ​คน​ผู้​นี้

เขา​เชื่อ​ใน​ตัว​ของ​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​เขา​มากกว่า​ที่​เขา​เชื่อ​ใน​ตระกูล​เจี่ยง​เสียอีก​ ​เขา​เชื่อ​ว่า​ชาย​คน​นี้​จะ​พา​พวกเขา​ออก​ไป​จาก​สถานที่​อัน​น่าสะพรึงกลัว​นี้​ได้​อย่างปลอดภัย​…

แต่​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คนอื่นๆ​ ​กลับ​ไม่ได้​มี​ความมั่นใจ​ถึง​เพียงนั้น​ ​พวกเขา​ทึ้ง​ผม​ของ​ตัวเอง​พร้อมกับ​บ่นว่า​ ​”​ถ้า​ไม่มี​ยันต์​แล้ว​พวกเรา​จะ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​อย่างไร​”