บทที่ 766 ก่อนการตบหน้าพ่อลูกตระกูลหนีจอมอวดดี

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

ตระกูล​หนี​ประสบ​กับ​การ​ ​’​เดิน​หลง​เป็น​วงกลม​’​ ​ที่​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​สุสาน​เช่นกัน​ ​แต่​พวกเขา​สามารถ​รับมือ​กับ​มัน​ได้​อย่างง่ายดาย​โดย​ไร้​ปัญหา​เพราะ​พวกเขา​มียันต​์​อยู่​กับ​ตัว​ ​นอกจากนั้น​ ​คน​ส่วนใหญ่​ใน​จำนวน​พวกเขา​ก็​เป็น​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​มีประสบการณ์​อีกด้วย

แต่​พวกเขา​ไม่ได้​รู้สึกตัว​เร็ว​เท่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

กว่า​หนี​เฟิ​่ง​จะ​สังเกต​ถึง​ความผิดปกติ​นี้​ได้​ ​พวกเขา​ก็​เดิน​วนรอบ​ที่นี่​เป็น​รอบ​ที่สาม​แล้ว

คนอื่นๆ​ ​ก็​ประหลาดใจ​กับ​สิ่ง​ที่​หนี​เฟิ​่ง​พูด​ ​แล้ว​กล่าว​ชมเชย​ใน​สติปัญญา​อัน​เฉลียวฉลาด​ของ​นาง

หนี​เปียว​ยิ้ม​แก้ม​แทบ​ปริ​หลังจาก​ได้ยิน​เสียง​ชื่นชม​บุตรสาว

ตราบใดที่​บุตรสาว​ยังอยู่​ที่นี่​ ​คน​พวก​นี้​ก็​จะ​เชื่อใจ​และ​ให้การ​สนับสนุน​ตระกูล​หนี​ต่อไป

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​พระ​สรีระ​หรือ​โลก​ใบ​นี้​ ​ทั้งหมด​ก็​ล้วนแต่​ถูก​ลิขิต​ให้​เป็น​ของ​เขา​แต่เพียง​ผู้เดียว​!

ในขณะที่​หนี​เปียว​กำลัง​ตกอยู่ในภวังค์​นั้น​ ​คน​คน​หนึ่ง​ก็​ก้าว​เข้ามา​หา​เขา​ ​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ ​”​ข้า​จัดการ​ทุกอย่าง​เรียบ​แล้ว​ขอรับ​ ​นายท่าน​ ​ข้า​เอา​ยันต์​ของ​พวกเขา​มา​หมด​แล้ว​ ​ป่านนี้​คน​พวก​นั้น​อาจจะ​ยัง​ติด​อยู่​ที่นั่น​ ​และ​ยัง​หาทาง​ออกมา​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​”

“​ทำได้​ดีมาก​”​ ​หลังจาก​รู้สึก​หงุดหงิด​มาทั​้ง​วัน​ ​ในที่สุด​หนี​เปียว​จึง​รู้สึก​โล่งใจ​ได้​ ​ดวงตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความโหดเหี้ยม​ ​ใน​สุสาน​เช่นนี้​ ​การ​เสีย​ยันต์​ไป​ย่อม​เท่ากับ​ความตาย​ ​หาก​ตัด​สถานการณ์​อื่น​ออก​ไป​ ​เพียงแค่​การ​เดิน​หลง​เป็น​วงกลม​ก็​นับว่า​เป็นปัญหา​มาก​พอ​อยู่​แล้ว​ ​เพราะ​พวกเขา​จะ​ต้อง​ถูก​บังคับ​ให้​เดินหน้า​ต่อไป​เรื่อยๆ​ ​บน​ถนน​เส้น​เดิม​จนกว่า​จะ​ตาย​เพราะ​หมดแรง​ ​พวกเขา​ไม่มีวัน​ไป​ถึง​ทางออก​ได้​ ​หรือ​บางที​สิ่งมีชีวิต​ที่อยู่​ใน​สุสาน​อาจจะ​ยื่นมือ​ออกมา​จาก​ใต้ดิน​แล้ว​ลาก​พวกเขา​ลงนรก​ก่อนที่​พวกเขา​จะ​ทัน​ได้​เหนื่อย​เสียอีก​!

หนี​เปียว​ไม่​สามารถ​ข่ม​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ได้​เมื่อ​เขา​คิดถึง​การตาย​ของ​คน​พวก​นั้น​ ​มุม​ปาก​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​กระตุก​ขึ้น​ในขณะที่​อีก​ข้าง​กลับ​แข็งทื่อ​ราวกับ​ซากศพ​ ​ก่อให้เกิด​เป็น​สีหน้า​ชวน​ขน​หัว​ลุก​ ​เขามอง​ไม่เห็น​สีหน้า​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​คนที​่​ยืน​อยู่​ตรงข้าม​กับ​เขา​พลัน​รู้สึก​หวาดกลัว​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​”​นายท่าน​!​ ​เมื่อครู่นี้​ท่าน​!​”

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ร้อง​เสียงแหลม​ ​ทุกคน​หันมา​จ้องมอง​พวกเขา​ด้วย​ความตกใจ

หนี​เปียว​ขมวดคิ้ว​ ​”​เอะอะ​อะไร​ ​เจ้า​รีบ​ไป​ได้​แล้ว​”

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ตก​อยู่​ใน​อาการ​เหม่อลอย​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ผู้​เป็น​อาจารย์​ไม่ได้​มีท​่า​ทาง​แตกต่าง​จาก​ก่อนหน้านี้​ ​พวกเขา​ก็​ส่ายหน้า​ ​เมื่อครู่นี้​ข้า​ตาฝาด​หรือ

“​ท่าน​พ่อ​ ​มีเรื่อง​อะไร​เกิดขึ้น​หรือ​”​ ​หนี​เฟิ​่ง​เดิน​เข้ามา​หา​หนี​เปียว​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ซ่อน​อยู่​ใต้​ผ้าคลุม​หน้า​ ​ยิ่ง​เมื่อ​อยู่​ใต้​เงามืด​จาก​แสง​ของ​คบเพลิง​แล้ว​ ​ก็​ยิ่ง​ไม่มีใคร​สามารถ​มองเห็น​ใบหน้า​ของ​นาง​ได้​ ​สำหรับ​พวกเขา​แล้ว​ ​นาง​ดู​เป็น​คนอ่อนแอ​และ​เปราะบาง​อย่างมาก

ร่าง​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​พลัง​วิญญาณ​ ​ดังนั้น​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ทุกคน​จึง​รู้สึก​สงบใจ​เมื่อ​นาง​เดิน​เข้ามา​ใกล้

หนี​เปียว​มีน​้ำ​อด​น้ำ​ทน​ต่อ​ผู้​เป็น​บุตรสาว​อยู่​เสมอ​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ตอบ​อ้อม​ๆ​ ​ว่า​ ​”​ไม่มี​อะไร​ ​ก็​แค่​พวก​ชั้นต่ำ​ทำตัว​ไม่รู้​ความ​และ​ชอบ​สร้าง​แต่​ปัญหา​เท่านั้น​ ​เฟิ​่ง​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​เอง​ก็​ไม่​ค่อย​สบาย​อยู่​ ​ดังนั้น​เจ้า​อย่า​ได้​ห่วง​ข้า​เกินไป​เลย​ ​เพื่อ​ช่วย​พวกเรา​ ​เจ้า​ต้อง​รู้จัก​พัก​เมื่อถึง​ขีดจำกัด​ของ​ตัวเอง​ ​เรา​จะ​ได้​ไป​ถึงใจ​กลาง​สุสาน​กัน​เร็ว​ๆ​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

หนี​เปียว​ไม่ได้​พูดถึง​หนี​เฟิ​่ง​ ​แต่​กำลัง​พูดถึง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คนอื่นๆ​ ​อยู่

เขา​อยาก​ให้​พวกเขา​รู้​ว่าที่​พวกเขา​มา​ได้​ไกล​ถึง​เพียงนี้​ก็​เพราะ​บุตรสาว​สุดที่รัก​ของ​เขา

หนี​เฟิ​่ง​ไอ​ขึ้น​ทันที​ ​แล้ว​โบกมือ​ไปมา​เมื่อ​ได้​ฟัง​คำพูด​ของ​ผู้​เป็น​บิดา​ ​”​ข้า​สบายดี​เจ้าค่ะ​ท่าน​พ่อ​ ​การ​อยู่​ใน​สุสาน​หลวง​ย่อม​มี​อันตราย​ ​พวกเรา​ควร​ไป​ให้​ถึงใจ​กลาง​สุสาน​ให้​เร็ว​ที่สุด​”​ ​นาง​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​นุ่มนวล​ ​แต่​ก็​ฟัง​ดู​อ่อนล้า

“​เฮ้อ​ ​เจ้า​ก็​เอาแต่​ห่วง​ทุก​ชีวิต​บน​โลก​เกินไป​”​ ​หนี​เปียว​มอง​หนี​เฟิ​่​งอย​่า​งมี​เมตตา​ ​ดวงตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความสงสาร

นาง​เอ่ย​ต่อ​พร้อมกับ​หอบ​หายใจ​ไป​ด้วย​ ​”​นี่​เป็น​หน้าที่​ของ​ข้า​ใน​ฐานะ​พระ​ชายา​เจ้าค่ะ​”

คนอื่นๆ​ ​ยิ่ง​รู้สึก​ชื่นชม​บูชา​ตระกูล​หนี​มากขึ้น​เมื่อ​ได้​เห็นภาพ​นี้​ ​แม้กระทั่ง​ความ​คลางแคลงใจ​ที่​พวกเขา​มี​เมื่อ​ครู่​ก็​พลัน​ถูก​ขจัด​ไป​ ​พวกเขา​เอ่ย​ชม​ความเมตตา​ของ​หนี​เฟิ​่​งกั​นอย​่าง​ไม่ขาดปาก

ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ริมฝีปาก​ของ​นาง​ที่​ขยับ​ไปมา​ราวกับ​กำลัง​เคี้ยว​อะไร​บางอย่าง​ตอนที่​นาง​ก้มหน้า

ส่วน​ทาง​หนี​เปียว​ ​เวลานี้​เขา​ดู​เหน็ดเหนื่อย​อย่างมาก​ ​เขา​สะบัดหน้า​ไปมา​เพราะ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ง่วง​ขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน

“​นายท่า​นข​อรับ​?​”​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ได้รับ​ภารกิจ​ให้​ไป​ขโมย​ยันต์​มาจาก​พวก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยัง​มอง​เขา​อยู่​ ​เขา​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความเป็นห่วง​ทันทีที่​เห็น​ม่านตา​ที่​ขยาย​ขึ้น​ของ​หนี​เปียว​ ​”​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือเปล่า​ขอรับ​”

หนี​เปียว​ได้สติ​ ​เขา​ดูรู​้​สึก​ตัว​มากขึ้น​ขณะ​ตอบ​ว่า​ ​”​ไม่มี​อะไร​ ​จะ​ว่า​ไป​ทำไม​เมื่อครู่นี้​เจ้า​ถึง​ร้อง​ขึ้น​มา​เล่า​ ​มี​อะไร​ติด​อยู่​บน​หน้า​ข้า​หรือ​”

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​ส่ายหน้า​ ​”​ไม่มี​อะไร​ขอรับ​ ​ข้า​คง​มอง​ผิด​ไป​”​ ​ข้า​จะ​พูด​ได้​อย่างไร​ว่า​เมื่อครู่นี้​นายท่าน​เหมือน​คน​ถูก​ผีสิง​ไม่มี​ผิด​ ​แต่​มัน​ไม่มีทาง​เป็น​เช่นนั้น​ได้​ ​เพราะ​นายท่าน​เป็น​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​เมือง​แห่ง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​ดังนั้น​ย่อม​ไม่มี​ภูตผี​วิญญาณ​ตน​ใด​สามารถ​เข้าใกล้​เขา​ได้

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คิด​ว่า​เขา​คงจะ​ตาฝาด​ไป​เพราะ​มี​ความเป็นไปได้​ที่​เขา​จะ​รู้สึก​สับสน​หลังจาก​เดิน​หลง​เป็น​วงกลม​อยู่นาน

แต่​ไม่ว่า​เขา​จะ​พยายาม​ปลอบใจ​ตัวเอง​เท่าใด​ ​ใน​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ยังคง​มีเสียง​เสียง​หนึ่ง​ถาม​อยู่​ตลอดเวลา​ว่า​มัน​เป็น​เพียงแค่​ภาพหลอน​จริงๆ​ ​หรือ​ ​เพราะ​ภาพ​นั้น​ช่าง​ดู​สมจริง​เสียนี​่​กระไร

“​ถึง​ทางออก​แล้ว​!​”

ใครคนหนึ่ง​ตะโกน​ขึ้น​ทันทีที่​เห็น​แสง​สลัว​ๆ​ ​ที่อยู่​ด้านหน้า

ผู้เฒ่า​หลี​่​มอง​เขา​เป็นการ​บอก​ให้​เขา​ลด​เสียง​ลง​ ​หลังจากนั้น​ผู้เฒ่า​หลี​่​จึง​เดิน​นำ​ทุกคน​ออกจาก​อุโมงค์​แห่ง​นี้​ ​เขา​ยก​คบไฟ​ขึ้น​เพื่อ​จุด​ตะเกียง​น้ำมัน​ที่อยู่​บน​พื้น

ทันใดนั้น​ก็​เกิด​เสียงดัง​ปัง​ก้องกังวาน​ไป​ทั่ว​อากาศ​!

แสงไฟ​สว่าง​ไป​ทั่ว​สุสาน​ ​พร้อมกับ​ภาพจิตรกรรมฝาผนัง​ขนาด​มหึมา​ที่​ปรากฏ​เข้ามา​ใน​ครรลอง​สายตา

พวกเขา​รู้สึก​เหมือน​กำลัง​เดิน​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​อัน​โอ​อ่า​ที่​มีทองคำ​และ​อัญมณี​ประดับประดา​อยู่​ทั่วทุกแห่ง​บน​กำแพง​ ​ทุกอย่าง​ดู​ยิ่งใหญ่​อลังการ​จน​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ออกมา​เป็น​คำพูด​ได้

บรรดา​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​อดใจ​ไม่ไหว​และ​กำลังจะ​ก้าว​ขาออก​ไป​เมื่อ​เห็น​เพชรพลอย​ที่​ส่อง​ประกาย​แวววาว​อยู่​ตรงนั้น​ ​บางที​นี่​อาจจะ​เป็นธรรมชาติ​ของ​มนุษย์​ ​พวกเขา​ล้วนแต่​ปรารถนา​ที่จะ​ร่ำรวย

“​อย่า​ขยับ​”​ ​ผู้เฒ่า​หลี​่​ตะโกน​ขึ้น​ห้าม​พวกเขา​ทันที​ ​เขา​ชี้​ขึ้นไป​ด้านบน​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​พวก​เจ้า​ดู​สิว​่า​นั่น​อะไร​”

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​จุด​ที่​ผู้เฒ่า​หลี​่​ชี้​ ​พวกเขา​เสียว​สันหลัง​วาบ​ทันทีที่​ได้​เห็น​เจ้า​สิ่ง​ที่ว่า​นั่น

สิ่ง​ที่​ถูก​แขวน​ไว้​บน​หลังคา​ไม่ใช่​เครื่องประดับ​หรือ​ของ​ตกแต่ง​ใดๆ​ ​แต่​เป็น​ซากศพ

แต่​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ที่สุด​ก็​คือ​บน​นั้น​มี​ร่าง​ของ​กัว​จื่อ​กับ​เสี้ยว​จื่อ​ที่​ตาย​อยู่​ตรง​ทางเข้า​สุสาน​ถูก​แขวน​ไว้​ด้วย​!

ทุกคน​ตก​อยู่​ใน​อาการ​หวาดกลัว​ทันทีที่​เห็น​ศพ​เหล่านั้น

ทำไม​พวกเขา​ถึง​มา​อยู่​ที่นี่​ได้​ล่ะ

พวกเขา​เข้ามา​ได้​อย่างไร

พวกเขา​เป็น​ผีดิบ​หรือ

แต่​ผีดิบ​ที่ไหน​จะ​เอา​ตัวเอง​ไป​แขวน​ไว้​บน​คาน​แบบ​นั้น​กัน

นอกจากนั้น​ ​ท่าทาง​ของ​พวกเขา​ก็​ยัง​แปลกประหลาด​อย่างมาก​ ​มัน​ดูเหมือน​กับ​หุ่นเชิด​ไม่มี​ผิด​ ​แขนขา​และ​ข้อต่อ​ของ​พวกเขา​แอ่น​อย่าง​ผิดธรรมชาติ​ ​อีกทั้ง​ยัง​สามารถ​ขยับ​ไปมา​ได้​อีกด้วย​ ​พวกเขา​จ้องมอง​คนที​่​อยู่​ข้างล่าง​ด้วย​รอยยิ้ม​ชวน​ขน​หัว​ลุก​ราวกับ​จะ​ลืมตา​ตื่นขึ้น​และ​พุ่ง​เข้าใส่​คนที​่​อยู่​ข้างล่าง​ได้​ทุกเมื่อ​!

แต่​จุด​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​คือ​คำถาม​ที่​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ทุกคน​กำลัง​สงสัย​อยู่​ ​พวกเขา​สอง​คน​ขึ้นไป​อยู่​บน​นั้น​ได้​อย่างไร

พวกเขา​ไม่เห็น​ทั้งสอง​ระหว่างทาง​ ​แล้ว​ก่อนหน้านี้​ร่าง​ไร้​วิญญาณ​ของ​พวกเขา​อยู่​ที่ไหน​?

พวกเขา​ต้อง​มี​ฝีเท้า​ที่​รวดเร็ว​มาก​ทีเดียว​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​เร็ว​และ​คล่องแคล่ว​กว่า​ซากศพ​ทั่วไป

ทุกคน​รู้​ว่า​คนตาย​ที่​เพิ่ง​กลายเป็น​ผีดิบ​นั้น​เดิน​ได้​ช้า​เพียงใด​ ​แม้​พวกเขา​จะ​สามารถ​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​ก็ตาม​ ​ดังนั้น​ทั้งสอง​ก็​ควรจะ​ทำได้​เพียง​รั้งท้าย​อยู่​ข้างหลัง

แต่​ตอนนี้​ทั้งคู่​กลับมา​ปรากฏตัว​อยู่​ตรงหน้า​พวกเขา​เสีย​ได้​!