บทที่ 742 ในวันขึ้นบ้านใหม่

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 742 ในวันขึ้นบ้านใหม่

บทที่ 742 ในวันขึ้นบ้านใหม่

กู้เสี่ยวหวานมีความสุขมากที่เห็นว่ามีทั้งอาหารจานเนื้อและอาหารจานผัก

ทุกคนช่วยกันเตรียมวัตุดิบ ล้างผัก หั่นผัก ฆ่าไก่ และถอนขน

ด้วยการเพิ่มเข้ามาของภรรยาหลิวต้าจ้วงและภรรยาเถาต๋า ความเร็วจึงยิ่งเร็วขึ้น

หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน พวกเขาตรงไปที่บ้านโดยถอดเสื้อออก และทำงานหนักร่วมกับคนงานคนอื่น ๆ

ในเพิง ผู้หญิงกับเด็ก ๆ กำลังพูดคุยและหัวเราะขณะทำงาน ดูมีชีวิตชีวามาก

ที่นั่น แม่ครัวทอดปลากับลูกชิ้นไม่ค่อยเก่ง

แม้ว่าในชีวิตที่แล้ว กู้เสี่ยวหวานจะไปร่วมงานดังกล่าวกับปู่ย่าตายายของนางในชนบท แต่ส่วนใหญ่ก็จากไปหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

ไม่มีโอกาสได้ทำงานเหล่านี้เลย

คราวนี้เป็นบ้านของนางเองที่สร้างขึ้นใหม่ ยิ่งมีชีวิตชีวามากเท่าไรก็ยิ่งดี แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะยุ่ง แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเย่จืออยู่เคียงข้างนางเสมอ กลัวว่านางจะเหนื่อยหรือกระหายน้ำ ดังนั้นเขาจึงส่งน้ำให้กู้เสี่ยวหวานเป็นครั้งคราว

ภรรยาของหลิวต้าจ้วงและเถาต๋าที่อยู่ถัดจากเขาหัวเราะและพูดกับกู้เสี่ยวหวานว่า “แม่นางกู้ พี่ชายของเจ้าปฏิบัติต่อเจ้าดีมาก!”

ถูกต้อง ฉินเย่จือดูแลนางอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย!

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้อายเลย และไม่ได้ปิดบังด้วย นางยิ้มรับหลังจากได้ยินสิ่งนี้

มันทำให้ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง

ครั้นตะวันคล้อยไปทางทิศตะวันตก งานก็ใกล้จะเสร็จแล้ว

คนงานก็ทยอยกันกลับ

กู้เสี่ยวหวานเรียกให้นายช่างหลินหยุด และยังหยุดคู่สามีภรรยาหลิวต้าจ้วงและเถาต๋า แม่ครัวทั้งสองจัดโต๊ะอาหารและทุกคนนั่งรอบ ๆ

อาหารหลักในคืนนี้คือ ข้าวขาวจานใหญ่ ไก่ตุ๋นเห็ดป่าหนึ่งชาม หัวปลาผักกาดดองหนึ่งจาน ลูกชิ้นในน้ำแกง และเห็ดโคนทอดหนึ่งจาน แม้ว่าอาหารจะเรียบง่าย แต่มีปลา เนื้อสัตว์ น้ำมัน และน้ำแกงมากมาย

ในยุคนี้ เป็นปัญหาที่จะกินอาหารให้เพียงพอ ซึ่งอาหารที่มีน้ำมันและน้ำแกงเพียงพอย่อมเป็นอาหารที่ดี

นายช่างหลิน หลิวต้าจ้วง เถาต๋า และเหล่าภรรยา รวมถึงแม่ครัวสองคนที่คอยช่วยทำอาหารตลอดเวลามีความสุขมาก เมื่อเห็นว่าพวกเขาเต็มไปด้วยคำชม กู้เสี่ยวหวานก็มีความสุขมากเช่นกัน

ก่อนจากไป กู้เสี่ยวหวานทำลูกชิ้นทอดให้พวกเขาด้วยตัวเอง

กู้เสี่ยวหวานขอให้ทอดลูกชิ้นเหล่านี้จำนวนมาก แต่นางเกรงว่าจะมีไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา

นายช่างหลินและแม่ครัวทั้งสองรับมันไปอย่างมีความสุข แต่หลิวต้าจวงและเต้าต้าทั้งคู่ปฏิเสธที่จะรับมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

“แม่นางกู้ พวกเราไม่ได้ทำอะไร พวกเราแค่กินอาหารของเจ้าโดยเปล่าประโยชน์ และยังจะให้เจ้าให้ลูกชิ้นจำนวนมากแก่เราอีก พวกเรา…” หลิวต้าจวงพูดอย่างเขินอาย

เช่นเดียวกับเถาต๋าผู้ไม่ยอมรับสิ่งใด

กู้เสี่ยวหวานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “พวกท่านให้เห็ดป่าถุงใหญ่กับกระต่ายสองตัวไม่ใช่หรือ? พวกท่านช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนของข้าได้ ไม่อย่างนั้นข้าไม่รู้จะหาทั้งยี่สิบแปดที่นั่งอย่างมาได้อย่างไร พวกท่านรีบรับไว้เถอะ ถือเสียว่าเป็นคำขอบคุณจากข้า!”

เมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดเช่นกัน พวกเขาก็ยอมรับไปอย่างมีความสุข พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าเจ้านายเป็นคนใจกว้างยิ่ง ซึ่งในอนาคตพวกเขาจะต้องทำงานให้หนักขึ้น!

หลังจากส่งทุกคนออกไป กู้เสี่ยวหวานรู้สึกเหนื่อยมากจนนางแทบล้ม

ทว่าไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนนางก็มีความสุข

พรุ่งนี้เป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดและกู้เสี่ยวหวานก็พร้อมแล้วเช่นกัน

คืนนี้นางแค่อยากจะนอนหลับให้สบาย แล้วพรุ่งนี้ค่อยรีบมาแต่เช้า

เนื่องจากสิ่งของที่เตรียมไว้ทั้งหมดถูกวางไว้ที่ด้านข้างของบ้านใหม่ กู้เสี่ยวหวานจึงฝากให้อาโม่เฝ้าดูตอนกลางคืนเพื่อคอยจับตาดูด้วย เพราะเกรงว่าจะคนไม่ดีมาขโมยของไป

หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานกลับไป นางก็อาบน้ำและเข้านอนทันที

มันเป็นคืนที่เงียบสงบ

ก่อนรุ่งสางของวันที่สอง กู้เสี่ยวหวานก็ลุกขึ้น

กู้หนิงอันและคนอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องให้กู้เสี่ยวหวานปลุกพวกเขา พวกเขาต่างลุกขึ้นเอง ซึ่งเมื่อกู้เสี่ยวหวานเก็บข้าวของและวางแผนที่จะปลุกพวกเขา พวกเขาทั้งหมดก็แต่งตัวเต็มยศและพากันออกมาแล้ว

วันนี้พวกเขาทุกคนสวมเสื้อผ้ากึ่งเก่ากึ่งใหม่ใหม่แต่สะอาด วันนี้มีงานขึ้นบ้าน เสื้อผ้าจึงควรจะสะอาดเรียบร้อย แต่เนื่องจากต้องทำงาน พวกเขาจึงไม่สวมเสื้อผ้าใหม่เพราะกลัวว่าจะสกปรก

หลังจากที่หลายคนพร้อมแล้ว ฉินเย่จือก็ขับรถม้าออกไป และพวกเขาก็มาถึงบ้านหลังใหม่ในเวลาไม่นาน

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ กำลังมา อาโม่ก็ลุกขึ้นเช่นกัน เขารีบนำรถม้าไปด้านข้าง

เวลานี้ยังไม่รุ่งสาง แต่คนงานต่างก็ทยอยกันมา

เนื่องจากยังเช้าเกินไปจึงไม่มีใครได้กินอาหารเช้า เพียงแต่ในตอนนี้กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจอาหารเช้าของพวกเขา เพราะหม้อสามใบในเพิงกำลังถูกใช้เพื่อเตรียมงานเลี้ยงขึ้นบ้านหลังจากวางคานแล้ว

ทว่านี่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์เช่นกัน คนงานเองก็รู้ดีและไม่ได้ว่าอะไร ขอแค่ได้กินข้าวดี ๆ หลังขึ้นคานบ้านเสร็จเรียบร้อย

ผู้คนที่แสดงความยินดีก็มาถึงที่นี่กันทีละคน

หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานพบกับหลี่ฝานและสวีเซียนหลิน นางเองก็ได้พบกับผู้เช่าไม่กี่คนที่เช่าที่ดินของนางในเมืองหลิวเจีย

คนที่รู้ว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ต่างก็มากันที่นี่

รถม้าของหลี่ฝานขึ้นไปบนภูเขาและจอดข้างทาง

ครั้นเขาเห็นกู้เสี่ยวหวานก็รีบกล่าวแสดงความยินดี จากนั้นก็หยิบซองจดหมายสีแดงออกมาจากอกของเขาและส่งให้กู้เสี่ยวหวาน “เสี่ยวหวาน ยินดีด้วย!”

เมื่อเห็นหลี่ฝานสุภาพมาก กู้เสี่ยวหวานก็อายเล็กน้อยที่จะยอมรับ และปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่หลี่ฝานไม่เห็นด้วยและพูดอย่างจริงจัง “เด็กโง่ นี่เป็นงานน่ายินดี!”

เป็นเรื่องจริง บ้านหนึ่งหลังสำหรับบางคนแล้วในชีวิตหนึ่งยากที่จะได้มา

กู้เสี่ยวหวานตรึกตรอง เนื่องจากมันเป็นความปรารถนาดีของหลี่ฝาน นางจึงยอมรับมันมาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากหลี่ฝานมาถึง คนจากตระกูลสวีก็มาเช่นกัน

สวีเซียนหลิน ฮูหยินสวี และสวีเฉิงเจ๋อต่างก็มา

วันนี้เป็นวันหยุดของสำนักศึกษา ตระกูลสวีจึงใช้โอกาสนี้เพื่อมาแสดงความยินดีกับกู้เสี่ยวหวาน

เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดมาที่นี่ กู้เสี่ยวหวานก็ตื่นเต้นมาก “ท่านอาจารย์ ฮูหยิน พี่เฉิงเจ๋อ พวกท่านก็มาด้วย”

สวีเฉิงเจ๋อมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างตื่นเต้น เขารู้สึกมีความสุขมาก

เมื่อเห็นสวีเฉิงเจ๋อจ้องมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างตั้งใจ ฮูหยินสวีก็ยิ้ม “เสี่ยวหวาน เหตุใดพวกเราไม่มาร่วมงานที่มีความสุขแบบนี้กัน!”

หลังจากพูดจบ สวีเซียนหลินก็หยิบซองจดหมายสีแดงซองหนาออกมาจากแขนเสื้อของเขาและมอบให้กับกู้เสี่ยวหวาน “สาวน้อยเสี่ยวหวาน ขอแสดงความยินดีด้วย!”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ในที่สุดครอบของเด็กน้อยเหล่านี้ก็จะได้มีบ้านหลังใหญ่กับเขาเสียทีนะคะ

ไหหม่า(海馬)