ตอนที่ 1493 มาโดยไม่ได้รับเชิญ (3) ตอนที่ 1494 กลิ่นหอมของสตรี (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1493 มาโดยไม่ได้รับเชิญ (3) / ตอนที่ 1494 กลิ่นหอมของสตรี (1)
ตอนที่ 1493 มาโดยไม่ได้รับเชิญ (3)

ตำหนักหยกวิญญาณมีขนาดใหญ่มาก ครั้งที่แล้วที่จวินอู๋เสียมา นางแค่เดินอยู่ในตำหนักชั้นนอกเท่านั้น นางเดินผ่านทางเดินยาวที่เต็มไปด้วยดอกไม้หอมและเสียงนกร้อง สระน้ำใสแจ๋วส่องประกายที่มีดอกบัวบานอยู่ที่ผิวน้ำมากเกินกว่าจะนับได้ แต่ถึงแม้ว่าถ้ำใต้ดินนี้จะใหญ่โต แต่ก็ยังมองไม่เห็นท้องฟ้าอยู่ดี จวินอู๋เสียสังเกตเห็นว่าบนหลังคาของตำหนักหยกวิญญาณ ด้านบนสุดของถ้ำ เต็มไปด้วยอัญมณีสีม่วงเรียงราย อัญมณีเหล่านั้นดูเหมือนจะมีแสงซ่อนอยู่ข้างใน ทำให้ทุกอย่างภายในถ้ำสว่างขึ้น

ราวกับวังที่สร้างขึ้นจากอัญมณี

จวินอู๋เสียเดินตามยายเยว่ไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เดินผ่านศิษย์ของตำหนักหยกวิญญาณ สาวๆ พวกนั้นรวมกลุ่มกันหัวร่อต่อกระซิก และเมื่อพวกนางเห็นจวินอู๋เสียอยู่ด้านหลังของยายเยว่ ทุกคนก็พากันแยกย้ายไปด้วยความหวาดกลัว

ภาพนั้นทำให้จวินอู๋เสียเอามือแตะใบหน้าตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

หรือว่าหน้าปลอมของนางครั้งนี้จะน่าเกลียดเกินไป เลยทำให้พวกสาวๆ ตกใจกลัว

“คุณชายจวินอย่าใส่ใจเลย เด็กพวกนั้นไม่ค่อยได้ออกจากตำหนักหยกวิญญาณและไม่ได้ติดต่อกับคนนอกมากนัก พอเจอบุรุษ พวกนางก็เลยทำอะไรไม่ถูก” ยายเยว่พูดอย่างเป็นกันเอง

“พวกนางไม่เคยออกจากตำหนักหยกวิญญาณเลยหรือ” จวินอู๋เสียพลันรู้สึกอยากรู้ขึ้นมาว่าตำหนักหยกวิญญาณรักษาตัวเองให้อยู่มาได้จนถึงวันนี้ได้อย่างไร

ยายเยว่กล่าวว่า “บางคนก็ออกไป บางคนก็มาที่นี่และไม่เคยออกไปอีกเลย ในเมื่อคุณชายจวินมาจากข้างนอก คุณชายก็คงรู้ว่าตอนนี้สามโลกชั้นกลางไม่มีที่ให้ตำหนักหยกวิญญาณยืนหยัดอยู่ได้ เด็กๆ พวกนี้ไม่ได้มีพรสวรรค์สูงอะไรนัก พลังของพวกนางก็อยู่ในระดับปานกลาง อาศัยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของจ้าวตำหนักตลอดเวลา ถ้าพวกนางออกไปข้างนอก พวกนางก็อาจจะถูกหาเรื่องเอาได้”

ตำแหน่งของตำหนักหยกวิญญาณตอนนี้ค่อนข้างกระอักกระอ่วนอยู่ แม้ว่าเก้าวังยังยอมรับการมีอยู่ของพวกเขา แต่สิบสองตำหนักก็ต่อต้านพวกเขาอย่างมากจนถึงขนาดที่พยายามจะกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก

ตอนที่ตำหนักหยกวิญญาณรับศิษย์นั้นไม่ได้ดูที่พรสวรรค์หรือความสามารถ แต่มีเพียงเกณฑ์เดียวเท่านั้น คือต้องเป็นสตรี

“เด็กพวกนี้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา คุณชายจวินวางใจได้ ข้าจะเตือนพวกนางไม่ให้มารบกวนคุณชาย และจะให้คนมาส่งอาหารให้วันละสามมื้อ” ยายเยว่พาจวินอู๋เสียมาที่เรือนเล็กๆ ที่เงียบสงบ มีศาลาหลังเล็กอยู่ภายในลานบ้าน และมีบ้านอยู่หนึ่งหลัง ที่นี่เงียบสงบมาก

“ของที่นี่มีครบทุกอย่าง คุณชายจวินพักผ่อนก่อนเถอะ ถ้าต้องการอะไรก็สั่นกระดิ่งนี้ พอกระดิ่งดังก็จะมีคนมาที่นี่”

จวินอู๋เสียพยักหน้าและพูดว่า “รบกวนแล้ว”

ยายเยว่ยิ้มและก้าวออกจากห้องโดยไม่ได้รีรออยู่นาน นางดึงประตูปิดตามหลังขณะออกไปด้วย

จวินอู๋เสียมองไปรอบๆ ห้องสีชมพูที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเด็กหญิง เมื่อพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติในห้อง จวินอู๋เสียก็นั่งลงอย่างสบายๆ

“ตำหนักหยกวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อหนึ่งพันปีก่อน และตำแหน่งของพวกเขาก็ไม่มั่นคง ตอนนั้นมีศิษย์ของตำหนักหยกวิญญาณเหลืออยู่กี่คน แล้วหลังจากนั้นรับศิษย์เข้ามาอีกกี่คน” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง ยิ่งนางรู้เรื่องของตำหนักหยกวิญญาณมากเท่าไร นางก็คิดว่าตำหนักหยกวิญญาณแห่งนี้แปลกมากขึ้นเท่านั้น

พลังของยายเยว่แข็งแกร่งกว่านาง ขณะที่พลังของนางสูงกว่าผู้อาวุโสคนหนึ่งในตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ

จวินอู๋เสียไม่รู้ว่าตำหนักหยกวิญญาณซ่อนยอดฝีมือที่แข็งแกร่งแบบนี้เอาไว้อีกเท่าไร แต่ไม่ว่านางจะมองอย่างไร นางก็ไม่คิดว่าตำหนักหยกวิญญาณเลือกจะเก็บตัวเพราะพวกเขาอ่อนแอจริงๆ

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จวินอู๋เสียก็ไม่อยากเสียเวลาคิดเรื่องนี้อีก นางรวบรวมสมาธิแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ข้างโต๊ะ หยิบอ่างที่เก็บดอกบัวเอาไว้จากในถุงเอกภพออกมาเริ่มต้นฝึกฝนพลังของนาง

ตอนที่ 1494 กลิ่นหอมของสตรี (1)

ภายในตำหนักหยกวิญญาณ จ้าวตำหนักหยกวิญญาณนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขา ดวงตารูปซิ่งเหรินที่น่ามองของเขาจ้องมองไปที่กระดาษที่ใช้สำหรับวาดภาพด้วยความเศร้าโศก

“ท่านจ้าวตำหนัก” ร่างยายเยว่ปรากฏตัวที่หน้าประตู

“จัดการที่พักของคุณชายจวินเรียบร้อยแล้ว ท่านจ้าวตำหนักไม่ต้องกังวลแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณพยักหน้าเล็กน้อย

“ข้าเห็นว่าคุณชายจวินมีบุคลิกที่เย็นชา ดวงตาใสกระจ่างชัดเจนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เขาดูไม่เหมือนคนที่มีเจตนาชั่วร้ายและไม่น่าจะไปรบกวนศิษย์คนอื่นในตำหนัก” ยายเยว่บอกกับจ้าวตำหนัก

“ข้ารู้” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณตอบอย่างสิ้นหวังพลางนวดขมับตัวเอง “ถ้าเขาเป็นคนที่มีเจตนาไม่ดีจริงๆ ข้าคงไม่ยอมให้เขาเหยียบเข้ามาในตำหนักด้วยซ้ำ ข้าไม่กังวลว่าเขาจะทำอะไรศิษย์ในตำหนักหรอก แต่เหตุผลที่ข้าไม่อยากให้เขาอยู่ในตำหนัก เยว่เอ๋อร์ก็รู้อยู่แล้วนี่”

สายตาของยายเยว่จ้องมองไปที่พื้น ที่เรียกว่านางว่า ‘เยว่เอ๋อร์’ นั้นอาจจะฟังดูแปลกมากที่จะใช้กับหญิงชราที่มีความสามารถสูงอย่างนาง แต่มันเป็นคำเรียกที่นางได้ยินจากบุรุษคนนี้มาตลอดชีวิตแล้ว

“ข้าเข้าใจความกังวลของท่านจ้าวตำหนัก ข้าจะให้คนเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณชายจวินจะไม่แตะต้องสิ่งของของท่าน”

“อืม เจ้าเองก็ไปพักผ่อนเถอะ” จ้าวตำหนักหยกวิญญาณโบกมืออย่างเกียจคร้าน

ยายเยว่ถอยออกจากห้องทันที

จ้าวตำหนักหยกวิญญาณนั่งอยู่คนเดียวในห้องของเขา จ้องมองกระดาษเปล่าตรงหน้าพร้อมกับถอนหายใจยาว

ตอนนี้จวินอู๋เสียพักอยู่ในตำหนักหยกวิญญาณ และตาม ‘ข้อตกลง’ ผ่านการข่มขู่ของนางกับจ้าวตำหนักหยกวิญญาณ อาหารสามมื้อจะถูกส่งให้นางทุกวัน และส่วนใหญ่จะแค่เคาะประตูห้องของนาง จวินอู๋เสียจะเห็นแค่ร่างที่วิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้แต่กล่องอาหารวางอยู่ที่หน้าประตู

โดยไม่ต้องทำอะไรมาก จวินอู๋เสียจะอยู่แต่ในห้องของนางเพื่อฝึกฝนพลังวิญญาณ แม้ว่าเจ้านายของภูติวิญญาณประเภทพฤกษาจะไม่สามารถฝึกฝนให้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วในสถานที่ที่มีพลังวิญญาณเข้มข้นสูงเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ แต่จวินอู๋เสียได้ค้นพบเมื่อนานมาแล้วว่า แม้ว่านางจะไม่สามารถดูดซับพลังวิญญาณได้โดยตรง แต่นางสามารถเพิ่มความเร็วได้ด้วยการเพาะเลี้ยงบัวหิมะซังอวี้ซึ่งตอนนี้ได้เติบโตขึ้นมาเป็นบัวหิมะฮ่องเต้แล้ว ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของบัวหิมะฮ่องเต้ได้อย่างมากเช่นกัน

แม้ว่าการเพาะเลี้ยงบัวหิมะฮ่องเต้โดยใช้น้ำพุสวรรค์จะไม่ได้ให้ผลที่ดีเยี่ยมเท่ากับการฝึกฝนจากร่างของดอกบัวขาวน้อย แต่การกินเข้าไปก็ยังสามารถให้ผลที่โอสถวิเศษชั้นยอดที่สุดก็ไม่สามารถให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างและบำรุงร่างกาย จวินอู๋เสียได้ปลูกบัวหิมะฮ่องเต้เอาไว้หลายดอกในช่วงนี้ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปยังสามโลกชั้นกลางครั้งนี้ นอกจากจะมาทำให้สิบสองตำหนักพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแล้ว จวินอู๋เสียยังตั้งใจที่จะไปโลกภูติวิญญาณเพื่อตามหาวิญญาณของจวินกู้บิดาของนางอีกด้วย ก่อนหน้านั้นนางต้องทำให้แน่ใจว่าร่างของจวินกู้ยังคงสมบูรณ์และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ด้วยเหตุนี้นางจึงปลูกบัวหิมะฮ่องเต้หลายดอกทำเป็นโอสถวิเศษผสมกับน้ำและเทลงคอของจวินกู้ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก

“น่าเสียดายที่เมล็ดของข้าไม่สามารถปลูกด้วยตัวเจ้านายเองได้ ไม่อย่างนั้นข้าก็อยากจะเห็นเจ้านายมองเมล็ดของข้าด้วยสายตาเร่าร้อนแบบเดียวกับที่มองดอกบัวพวกนี้เหมือนกัน” ไม่รู้ว่าอิงซู่ออกมาตั้งแต่เมื่อไร เขานอนระทวยอยู่บนเตียง แนวกระดูกคอของเขาดูมีเสน่ห์อย่างมาก

แมวดำตัวน้อยเหลือบมองไปทางอิงซู่ที่มีความยั่วยวนโดยกำเนิดและเลียอุ้งเท้าของมันต่อ

เจ้าหมอนี่กล้าขนาดนี้เพราะรู้ว่าจอมมารไม่ได้อยู่ข้างๆ จวินอู๋เสียน่ะสิ แถมเยี่ยซาและเยี่ยกูก็ติดอยู่ข้างนอกตำหนักหยกวิญญาณ ไม่สามารถไปฟ้องอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงกลับไปทำตัวแบบเดิมอย่างรวดเร็ว!

“ถ้าเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก เจ้าเชื่อหรือไม่เล่าว่าข้าจะทำให้เจ้าลุกจากเตียงไม่ได้ไปอีกสามวันเลย” บัวหิมะมัวเมากระโจนขึ้นไปบนเก้าอี้ข้างๆ เขาถือน้ำเต้าสุราเอาไว้ในมือแบบหลวมๆ ใบหน้าแดงระเรื่อขณะจ้องไปที่อิงซู่

แมวดำตัวน้อยเอาเท้าปิดหน้าตัวเองทันที

คำพูดพวกนั้น! ล่อแหลมเกินไปแล้ว!