บทที่ 735 ต้องฉลอง

บทที่ 735 ต้องฉลอง

ขณะที่กำลังลังเล รุ่นพี่ทั้งสองได้หยิบถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ขึ้นมาแล้ว

“รุ่นพี่ มันจะเป็นการรบกวนเกินไปนะคะ ให้เราทำเองดีกว่าค่ะ!” เสี่ยวเถียนรีบบอก

“เธอเป็นเด็กผู้หญิง ให้พวกเราดูแลเถอะ งานหนัก ๆ แบบนี้ควรให้ผู้ชายทำดีกว่า” ชายผมทรงทหารยิ้มแล้วเอ่ยอย่างเป็นห่วง

เสี่ยวเถียนเพียงแค่ขอบคุณ แต่ไม่ได้รับความเอาใจใส่กลับมาด้วย

รุ่นพี่ที่แข็งแรงทั้งสองถือถุงอย่างขยันขันแข็ง ฉางจงหยวนรีบตามมาพร้อมกับถุงเสื้อผ้าผู้ชายบนหลัง ทั้งสี่คน มีเพียงเสี่ยวเถียนคนเดียวที่เดินตัวเปล่า

ไม่นานเราก็เดินมาถึงชั้นล่างของหอพัก

ป้าคนดูแลหอชื่นชอมเสี่ยวเถียนมาก ตอนเห็นเด็กสาวเดินเข้ามาใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความสุขทันที

“คุณป้าขา พี่ ๆ สองคนนี้ช่วยหนูขนเสื้อผ้าฝึกทหารค่ะ ให้พวกเขาเข้าไปได้ไหมคะ?”

เสี่ยวเถียนพูดจาไพเราะสุภาพ น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งทำให้ป้าคนดูแลหอเอ็นดูกว่าเดิม

“พวกเธอสองคนเก่งจังเลย รู้จักช่วยน้องด้วย มา เดี๋ยวป้าแบ่งเมล็ดแตงโมให้นะ”

หญิงวัยกลางคนกำเมล็ดแตงโมออกมาสองกำจากกะละมังบนโต๊ะ แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กหนุ่มทั้งสอง

สองหนุ่มมองหน้ากัน สถานการณ์อะไรเนี่ย?

ป้าหอหญิงนิสัยดีกันขนาดนี้เลยหรือ?

หลังจากรีบเอ่ยขอบคุณ คนทั้งสองก็ถือถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ขึ้นไป

“เสี่ยวเถียน ถ้าหนูอยากได้อะไรบอกป้านะ ไม่ต้องเกรงใจ!” ป้าเอ่ยไล่หลังเด็กหญิง

“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ!” เสี่ยวเถียนขอบคุณเสียงหวาน แล้วจ้ำเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว

ถึงเด็กหนุ่มทั้งสองจะมีพละกำลังมาก แต่การต้องแบกถุงใหญ่ ๆ ขึ้นไปชั้นบนยังเล่นเอาหอบเหมือนกัน

เสี่ยวเถียนเปิดประตูแล้วเอ่ยขอบคุณ จากนั้นก็ช่วยยกถุงเสื้อผ้าลงจากไหล่

“น้อง เดี๋ยวพวกพี่ไปแล้วนะ ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกให้คนอื่นทำนะ เธอตัวแค่นี้ทำเองไม่ไหวหรอก!ก่อนจะจากยังไม่ลืมเอ่ยเตือนอีกครั้งด้วย

เสี่ยวเถียนอยากจะชวนดื่มน้ำ แต่เธอไม่มีถ้วยสำหรับแขกเลย แถมป้าดูแลหอก็กำลังรอให้พวกเขากลับไปอยู่ด้วย

ตอนนี้มหาวิทยาลัยเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ชายไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหอพักหญิง

“รุ่นพี่ เดี๋ยวหนูเลี้ยงข้าวกลางวันดีกว่าค่ะ!”

เธอไม่มีอะไรตอบแทนความช่วยเหลือเลย วิธีนี้จึงง่ายที่สุดในการตอบแทนแล้ว

แต่คนทั้งสองที่เพิ่งช่วยขนของนั้นจะยอมรับการตอบแทนได้ยังไง? พวกเขาคิดว่าไม่ควรกินอาหารของเธอ จึงโบกมือปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วรีบจากไป

เสี่ยวเถียนจ้องมองแผ่นหลังของทั้งสองคน แล้วขบคิดกับตัวเองว่ายังมีคนดีอีกมากมายบนโลก!

จากนั้นเธอก็รีบมุ่งหน้าไปที่โรงอาหาร เธอหาโต๊ะที่นัดกับเพื่อนไว้เจออย่างง่ายดาย

มันเป็นโต๊ะที่นั่งสี่รวมกันสองตัวเป็นแปดที่นั่ง และตอนนี้มีคนนั่งอยู่แล้ว 6 คน รูมเมททุกคนอยู่ที่นี่กันหมดยกเว้นอิ่นหรูอวิ๋น กับตัวเธอที่เพิ่งมาถึง

เสี่ยวเถียนแปลกใจมากที่ฉีเสี่ยวฟางมานั่งกินด้วย หากแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงที่ว่าง

“เสี่ยวเถียน ฉันได้ซี่โครงหมูตุ๋นมาเลยสั่งมาให้เธอชิ้นหนึ่ง แล้วก็มีมะเขือม่วงผัดอีกอย่าง” จ้าวหงเหมยเลื่อนกล่องอาหารมาไว้ตรงหน้า

เสี่ยวเถียนเอ่ยขอบคุณก่อนจะเปิดกล่อง

เด็กสาวเหลือบมองอาหารกลางวันคนอื่น ๆ นอกจากตัวเธอที่ได้ซี่โครงหมูตุ๋นแล้ว คนอื่น ๆ ยังมีเหมือนกันด้วย

นั่นรวมถึงฉีเสี่ยวฟางเช่นกัน

“เสี่ยวเถียน เพื่อเป็นการฉลองที่เธอได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้า เราจึงฉลองด้วยการกินเนื้อไงล่ะ!”ฉู่เยว่เอ่ยอย่างร่าเริง

“ฉลองด้วยการกินเนื้อหรือ?”

มีเรื่องแบบนี้ด้วย?

เสี่ยวเถียนมองเพื่อนด้วยความประหลาดใจ

“จะบอกว่ามันควรเป็นเรื่องแห่งความสุขนะ แต่ตอนบ่ายเรามีฝึกทหารก็เลยทำได้แค่ฉลองด้วยการกินข้าวนี่ล่ะ” จ้าวหงเหมยเอ่ยราวกับเป็นเรื่องปกติ

“ถ้าจะฉลอง ฉันควรเป็นฝ่ายเลี้ยงมากกว่าหรือเปล่า?” เสี่ยวเถียนเอ่ยหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง

“เธอรู้จักเลี้ยงก็ดีแล้ว ข้าวมื้อนี้เธอไม่ต้องคืนเงินค่าอาหารนะ ไว้ฝึกทหารเสร็จค่อยเลี้ยงคืนแล้วกัน!” จ้างหงเหมยปรบมือ

กำลังรอสาวน้อยพูดประโยคนี้ออกมาเลย!

เสี่ยวเถียนไม่ปฏิเสธ

“เรื่องนี้ง่ายมาก เดี๋ยวพาไปกินหออีหมิงหลังจากฝึกทหารวันหยุดนะ”

มีหลายคนที่รู้จักร้านอาหารแห่งนี้ และฉู่เยว่ในฐานะที่เป็นคนในเมืองตกใจมาก

“เสี่ยวเถียน ฉันได้ยินคนบอกว่าอาหารหออีหมิงแพงมากเลยนะ”

ฐานะบ้านเธอไม่แย่ก็จริง แต่ยังไม่กล้าไปกินข้าวที่นั่นเลย

“ไม่เป็นไร ฉันจ่ายได้” เสี่ยวเถียนยิ้ม

บทสนทนาในกลุ่มมีอินหรูอวิ๋นที่เพิ่งกินข้าวกับอ้ายอวี้เสร็จผ่านมาได้ยินพอดี

สีหน้าเธอดำทะมึนทันที

หออีหมิงถือเป็นสถานที่อันดีในเมืองหลวง คนธรรมดาทั่วไปไม่กล้าผลาญเงินเล่นหรอกนะ แต่เสี่ยวเถียนกลับอยากเลี้ยงรูมเมทตั้งหลายคนที่ร้านนั่นเนี่ยนะ

ขนาดฉีเสี่ยวฟางยังไปเลย เธอมองไปยังอีกฝ่ายด้วยความโกรธ ชัดแล้วสินะที่ยัยลูกสามพ่อ*[1]มาเกาะเธอกินแต่แรก แต่วันนี้กลับไปหาซูเสี่ยวเถียนแทน

ฉีเสี่ยวฟางบังเอิญเห็นสายตาของอิ่นหรูอวิ๋นพอดี แต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะตนกำลังกินอยู่ เธอไม่ได้กินเนื้อมานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้กินของอร่อย ๆ แบบนี้ ขนาดข้าวที่แช่ในน้ำแกงยังอร่อยเลย

โชคดีจริง ๆ ที่ได้มานั่งกินที่นี่ด้วย

เพราะเราอยู่ห้องเดียวกัน ออกมาเดินบนถนนเส้นเดียวกัน และถึงหอพร้อมกัน ระยะการเดินทางเท่ากัน

เฉียนเสี่ยวเป่ยและหลี่เจี้ยนหงทนไม่ไหว รู้สึกมันน่าอึดอัดเกินไปเลยเรียกฉีเสี่ยวฟางมาเดินด้วย

ฉีเสี่ยวฟางไม่ได้ตั้งใจจะสร้างปัญหาให้เพื่อน จึงเข้ามาร่วมด้วย ใครจะรู้เล่าว่ารูมเมทกำลังจะไปกินเนื้อฉลองกัน ที่จริงเธออยากจะถอนตัวนะ แต่สุดท้ายก็ยืนกรานที่จะอยู่

เพิ่งจะอายุเท่านี้เธอยังมีเวลาให้รักษาหน้าตาอีกเยอะ จะไม่ยอมให้ใครดูแคลนเพราะข้าวมื้อเดียวหรอกนะ

คนนั่งกันเต็มโต๊ะ บางส่วนมีหมูตุ๋น บางส่วนมีซี่โครงหมู

ฉีเสี่ยวฟางรู้สึกว่าเนื้อซี่โครงไม่คุ้มเพราะเนื้อน้อย แล้วยังมีกระดูกอีก จึงสั่งหมูตุ๋นมาแทน แล้วก็เช่นเคย เธอเจอกับป้าขายข้าวในโรงอาหารที่ทะเลาะด้วยตั้งแต่วันแรก

ตอนแกเห็นเด็กสาว หลังจากตักเนื้อให้เต็ม ๆ ช้อนแล้วยังตักน้ำซุปเพิ่มให้อีกช้อนด้วย ทำเอาคนอื่น ๆ อิจฉาตาร้อนไปหมด!

ฉีเสี่ยวฟางกินอย่างเอร็ดอร่อย

ด้วยเวลากระชั้นชิดและต้องกลับไปแจกเสื้อผ้าที่หออีก เสี่ยวเถียนจึงรีบตักข้าว

จ้าวหงเหมยกินเกือบเสร็จแล้ว เธอแทะซี่โครงชิ้นสุดท้ายก่อนเหลือบตามอง “ไม่อยากจะบอก แต่อาหารของมหาวิทยาลัยเราอร่อยมากเลยนะ”

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนยอมรับ อาหารของที่นี่อร่อยจริง ๆ

[1] ลูกสามพ่อ หมายถึง คนกลับกลอก ไว้ใจไม่ได้ เป็นคำที่เตียวหุยใช้เรียกลิโป้