ที่แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลหยุนหัวมีป้ายเล็ก ๆ อยู่ที่ประตูห้องให้คําปรึกษาของแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อน
ป้ายชื่อสองแผ่นสามารถเสียบเข้ากับป้ายขนาดเล็กได้ คนหนึ่งระบุตําแหน่งของแพทย์ ขณะที่อีกคนระบุชื่อแพทย์ ตัวอย่างเช่น เมื่อใดก็ตามที่ เหอหยวนเจ๋งกําลังให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอกป้ายชื่อทั้งสองจะระบุว่า “การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ” และ “เหอหยวนเจ๋ง” ตามลําดับ
อันดับต่ํากว่า “การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ” คือ “รองหัวหน้าแพทย์” และ “แพทย์ที่เข้ารับการรักษา” สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ยังมี “การปรึกษาหารือพื้นฐาน” ซึ่งใช้ในการประกอบตัวเลขเมื่อไม่มีแพทย์ที่มีตําแหน่งสูงกว่า
ป้ายชื่อที่ระบุว่า “รองหัวหน้าแพทย์” และ “แพทย์ที่เข้าร่วม” นั้นสามารถอธิบายตนเองได้ ในขณะที่ “การให้คําปรึกษาขั้นพื้นฐาน” นั้นได้รับจากแพทย์ประจําบ้านหลายคนแพทย์ที่เข้ารับการรักษาในรุ่นน้องก็จะให้ “คําปรึกษาขั้นพื้นฐาน” เป็นระยะๆส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มเพื่ออนุญาตให้ผู้ป่วยตรวจร่างกายกําหนดยา และใบรับรองแพทย์ที่อนุญาตให้ผู้ป่วยหยุดงานได้
“การให้คําปรึกษาเฉพาะทาง” ไม่ได้ให้โดยหัวหน้าแพทย์เท่านั้น ตามธรรมเนียมของโรงพยาบาลหยุนหัวในโรงพยาบาลในหยุนหัวผู้นําของกลุ่มการรักษามีตั้งแต่ผู้อํานวยการแผนกไปจนถึงหัวหน้าแพทย์และหัวหน้าแพทย์
แม้ว่าหลิงรันจะเป็นผู้นํากลุ่มบําบัดขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องให้คําปรึกษาของแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนป้ายชื่อที่ประตูเพียงระบุว่า “การปรึกษาหารือพื้นฐาน”
เหอหยวนเพิ่งแสดงสีหน้าขอโทษในขณะที่เขาอธิบายสิ่งต่างๆ ให้ฮัวฉงจุนและหลิงรัน “ฉันขอโทษจริงๆ เราต้องขออนุญาตก่อนเพื่อให้แพทย์สามารถคําปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้อย่าง ไรก็ตาม ราคามีความแตกต่างกัน ค่าปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญราคา 17 หยวน ในขณะที่ การให้คําปรึกษาขั้นพื้นฐานราคา 5 หยวน แม้ว่าจะมีแค่ส่วนต่างของราคาเพียง 12 หยวน หลายคน สนใจเรื่องนี้ ผู้อํานวยการแผนฮวงเนื่องจากคุณไม่ได้แจ้งให้ฉันทราบล่วงหน้า
ขณะที่ ผู้อํานวยการฮวงมองไปที่ เหอหยวนเพิ่งเขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก”
เมื่อ ผู้อํานวยการฮวงแนะนําให้ หลังรันให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอกเมื่อวานนี้ เขาไม่ได้ตัดสินใจว่าหลิงรัน ควรอยู่ภายใต้แผนกใด ในท้ายที่สุด หลังจากฟังคําแนะนําของหลิงรันแล้ว และพิจารณาข้อเท็จจริงด้วยว่าแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนเป็นแผนกที่อ่อนแอที่กลั่นแกล้งได้ง่ายเหมือน กับลูกพลับที่อ่อนนุ่มและอ่อนนุ่มเขาจึงตัดสินใจให้หลิงรันไปปรึกษาหารือกัน ห้องของแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อน
หลิงรันเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก ศัลยกรรมมือและเท้า ศัลยกรรมทั่วไป และการผ่าตัดตับ แผนกออร์โธปิดิกส์และแผนกศัลยศาสตร์ทั่วไปเป็นแผนกชั้นนําในโรงพยาบาลหยุนฮัว และผู้อํานวยการแผนกของพวกเขาก็เป็นบุคคลที่มีอํานาจเหนือกว่าเช่นกันผู้อํานวยการฮวงจะต้องมีการสนทนาที่ยาวนานและเป็นมิตรกับพวกเขาเพื่อให้ หลิงรัน เข้าไปในห้องปรึกษาของพวกเขาแผนกศัลยกรรมมือยิ่งหมดค่าถามเป็นแผนกเอซของโรงพยาบาล หยุนหัวและแม้แต่ผู้อำนวย การฮวงก็ยังต้องเผชิญหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อต้องรับมือกับพวกเขานอกจากนี้ การผ่าตัดมือส่วนใหญ่เป็นการผ่าตัดฉุกเฉินแทนการผ่าตัดตามกําหนดดังนั้นแผนกศัลยกรรมมือจึงไม่ใช่แผนกที่เหมาะสมสําหรับหลังรันในการเรียนรู้วิธีให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอก
เหลือแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนเพียงแห่งเดียว และแน่นอนว่าเป็นแผนกที่สะดวกที่สุด
ผู้อํานวยการฮวงไม่ต้องพูดอะไรมากกับผู้อํานวยการฮวงเขาส่งหลิงรันไปก่อนที่จะแจ้งเหอหยวนเจิ้ง เหมือนกับพนักงานขับรถที่ซื้อตั๋วรถประจําทางหลังจากขึ้นรถเท่านั้น
แน่นอน แม้ว่าเฮ่อหยวนเพิ่งจะเป็นลูกพลับเนื้อนุ่ม แต่เขาไม่ใช่ลูกพลับที่เน่าเปื่อย เขาประท้วงโดยปล่อยให้หลิงรัน “ให้คําปรึกษาพื้นฐาน” เท่านั้น สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นลูกพลับเนื้อนุ่มที่จะเริ่มเน่าหลังจากผ่านไปสองสามวัน
ผู้อ่านวยการฮวงไม่ได้คํานึงถึงเรื่องนี้เลย เขาเจาะป้ายชื่อแทนหลิงรันและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “การให้การปรึกษาขั้นพื้นฐาน นั้นไม่เหมือนกับการให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอกในแผนกฉุกเฉิน ทําไมไม่เรียนรู้เชือกและทําความคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆ ก่อนยิ่งกว่านั้นคุณสามารถให้คําปรึกษาเมื่อใด ก็ตามที่มีผู้ป่วยและอ่านหนังสือบางเล่มเมื่อไม่มีผู้ป่วยคุณสามารถใช้โอกาสนี้ในการทําความคุ้นเคยกับการให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอกได้”
อารมณ์ของ เหอหยวนเจ๋งดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าการโต้แย้งของเขาประสบความสําเร็จ เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก ครูของฉันบอกฉันว่าการให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอกเป็นโอกาสในการฝึกความอดทนของคุณ ขึ้นอยู่กับว่ามีผู้ป่วยอยู่รอบๆ หรือไม่เมื่อฉันเคยให้คําปรึกษาผู้ป่วยนอก ฉันได้เขียนงานวิจัยสามชิ้นเอกสารในปีแรกนั่นเอง”
แม้ว่าเหอหยวนเจ๋ง ที่ประสบความสําเร็จในการเป็นผู้อํานวยการแผนกตอนอายุสี่สิบจะอยู่ในความเมตตาของผู้อำนวยการฮวง แต่เขาก็เคยเป็นนักวิจัยที่ยอดเยี่ยม และเขาก็ยังคงเป็นอยู่!
ผู้อํานวยกรฮวงเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า เหอหยวนเจิ้ง(นักวิจัยที่ยอดเยี่ยม) กําลังแสดงออกเขาเพียงพูดอย่างเฉยเมยกับหลิงรันว่า “แค่พยายามทําความคุ้นเคยกับบรรยากาศที่นี่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องดีที่คุณให้คําปรึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น เนื่องจากอาการของผู้ป่วยมักจะไม่ซับซ้อนเกินไป ถ้าคุณ พบสิ่งที่ซับซ้อนเกินไปเพียงแค่ส่งผู้ป่วยไปยังผู้อํานวยการแผนกเหอ รับเฉพาะผู้ป่วยที่นายสามารถผ่าตัดได้เท่านั้น”
ใบหน้าของ เหอหยวนเพิ่งบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ไม่เพียงแต่ฉันต้องเป็นพี่เลี้ยงเด็กของหลิงรันเท่านั้น แต่เขายังใช้แผนกของเราในการสอดแนมผู้ป่วยสําหรับแผนกฉุกเฉินด้วย
จริงอยู่ที่ว่าตอนนี้กรมฉุกเฉินกําลังมีกระแสตอบรับคนไขในแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนอยู่ แล้วอย่างไรก็ตาม เหอหยวนเพิ่งยังคงตั้งใจที่จะชะลอแนวโน้มนี้
“ช่องของฉันเต็มแล้ว ดังนั้นถ้าหมอหลิงจะส่งผู้ป่วยมาหาฉัน ฉันอาจไม่มีเวลาให้คําปรึกษากับผู้ป่วยเหล่านั้น..” เหอหยวนเจ๋งปฏิเสธอีกครั้ง
“เพียงแค่สร้างช่องเพิ่มเติม” ผู้อํานวยการฮวงยิ่งเหตุผลของ เหอหยวนเจ๋งทันที
เหอหยวนเจ๋งกัดฟันลาออก เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นฟันของ ผู้อ่านวยการฮวงเขาตัดสินใจที่จะทนต่อความอัปยศอดสูเพื่อเหตุผลที่ยิ่งใหญ่กว่า “หมอหลิงคุณไม่ควรรับผู้ป่วยจํานวนมากดังนั้น ไม่เป็นไรถ้าคุณแนะนําผู้ป่วยบางคนให้ฉัน ทําไมเราไม่ทําเช่นนี้ ในซอฟต์แวร์ของแผนกของเรามีการเซตบางอย่างที่ช่วยให้เราสามารถแบ่งปันผู้ป่วยได้…”
“ฉันวางแผนที่จะให้จางอันหมินรับผิดชอบการใช้งานซอฟต์แวร์” หลิงรัน ตัด เหอหยวนเจ๋งออกเพื่อแสดงสิทธิพิเศษของเขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญ…
ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงไม่จําเป็นต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง เขาจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการวินิจฉัยผู้ป่วย พวกเขาจะมีเวลาจดรายละเอียดทั้งหมดอย่างอดทนได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามเหอหยวนเจิ้ง อดไม่ได้ที่จะหยุดอยู่ครู่หนึ่ง
ความจริงแล้ว เฮ่อหยวนเจ๋งไม่มีลูกน้องคนใดที่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์แทนเขาได้
อายุของเขาเป็นสาเหตุหนึ่ง
ในสถานที่เช่นโรงพยาบาลหยุนฮัว ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสทุกคนที่อายุเกินห้าสิบใช้คอมพิวเตอร์ ไม่เก่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับผู้ที่มีอายุเกินห้าสิบห้าปี โดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาต้องการผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ในนามของพวกเขา
ในแผนกขนาดใหญ่ มักจะมีแพทย์ประจําบ้านแม่บ้าน หรือแพทย์ฝึกหัดนั่งข้างผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม เหอหยวนเพิ่งมีอายุเพียงสี่สิบกว่าปีเท่านั้น ไม่เพียงแต่เขาเชี่ยวชาญในการใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่เขายังต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาแตกต่างไปจากแพทย์คนอื่นๆ ที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกัน
มันเป็นไปไม่ได้สําหรับเขาที่จะทําสิ่งนี้ด้วยทักษะของเขา ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ เขาทําได้เพียงชดเชยข้อบกพร่องด้วยทักษะการใช้คอมพิวเตอร์อันยอดเยี่ยมของเขา
นี่คือเหตุผลที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหอหยวนเจ๋งไม่เคยขอให้แพทย์รุ่นเยาว์คนใดให้รายละเอียดของผู้ป่วยในนามของเขา
อย่างไรก็ตามขณะที่เหอหยวนเพิ่งจ้องมองไปที่จางอันหมินซึ่งยืนอยู่ข้างหลังหลิงรันในตอนนี้ เหอหยวนเจ๋งก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ในตอนท้ายของวันจางอันหมินยังคงเป็นแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อน
“ฉันกําลังจะไปห้องปรึกษา คนไข้เข้าคิวข้างนอกแล้ว” เฮ่อหยวนเจ๋งไม่รู้จะพูดอะไรอีกต่อไปเขาแค่อยากจะหนีไป
เขาหันหลังและเดินตรงเข้าไปในห้องปรึกษาตรงข้ามกับหลิงรันซึ่งอยู่ห่างออกไป 15 ฟุต โดยไม่หันกลับมามอง
“กรุณาเข้าห้องปรึกษาตามหมายเลขคิวของท่าน ท่านที่มีร่องด้านหลังกรุณารอนอกห้องปรึกษาข้อที่ 2 อยู่หมายเลข 2 หรือไม่?” ขณะที่เหอหยวนเพิ่งเข้าไปในห้องให้คําปรึกษาพยาบาลก็ออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่ผู้ป่วย
ในโรงพยาบาล แม้ว่าผู้ป่วยมักปฏิเสธที่จะฟังแพทย์ พวกเขาก็เต็มใจที่จะปฏิบัติตามคําสั่งของพยาบาล
ในไม่ช้า คิวเล็กๆก็ปรากฏขึ้นที่หน้าห้องปรึกษาของเหอหยวนเพิ่ง
เนื่องจาก เหอหยวนเจิ้งเป็นผู้อํานวยการแผนกแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนของโรงพยาบาลหยุนหัว เขาจึงได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาล นอกจากนี้โรงพยาบาลหยุนฮัวยังเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีคะแนนสูงที่สุดในจังหวัดฉางซี ดังนั้น เหอหยวนเจ๋งจึงไม่เคยประสบปัญหาขาดผู้ป่วย
เป็นเพียงว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องการผ่าตัดตบหยุดไปหาเขา
ทุกวันนี้ เหอหยวนเจ๋งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทํางานอย่างหนักเพื่อพัฒนาทักษะของเขาในการรักษาโรคท่อน้ําดี แม้ว่าผู้ที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรคตับจะดูถูกผู้ที่รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาถุงน้ำดี แต่โรคท่อน้ําดีก็ถือว่ารักษาได้ยากเช่นเดียวกับโรคตับ
เหอหยวนเจิ้งให้คําปรึกษาผู้ป่วยสองรายในคราวเดียว และใช้เวลาเพียงหกนาทีเท่านั้น ขณะที่เขารอคนไข้รายต่อไปเขาก็ลุกขึ้นและเทน้ําหนึ่งแก้วหลังประตูห้องปรึกษาจากนั้นเขาก็มองไป ที่ห้องปรึกษาตรงข้ามเขา
ประตูห้องปรึกษาของหลิงรันถูกปิด และไม่มีใครอยู่นอกประตู
เหอหยวนเจิ้งอดยิ้มไม่ได้ทุกวันนี้ทําไมผู้ป่วยถึงไปรับคําปรึกษาขั้นพื้นฐาน!?
ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางเดิน พยาบาลที่ช่วยเหลือเขาในการรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่ผู้ป่วยกําลังพูดคุยกับผู้ป่วยด้วยน้ําเสียงที่เงียบงัน
“ถ้าคุณกําลังทุกข์ทรมานจากปัญหาตับ คุณควรไปพบแพทย์หลิงรัน ห้องให้คําปรึกษาของเขาอยู่ตรงข้ามนี้ ใช่เขาเป็นแพทย์ที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลของเราในเรื่องโรคตับ…” แม้ว่าพยาบาลจะ พูดด้วยเสียงต่ํา น้ําเสียงของเธอหนักแน่นมาก