War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2102
ตอนที่ 2,102 : ถูกจับตา

“ปะ…เป็นไปได้ยังไงกัน!?”

หลังแผ่สำนึกเทวะลงไปในดวงจิตของปู้หงได้พักหนึ่ง หลูเถี่ยประหนึ่งถูกอัสนียามแล้งฟาดผ่า สองตาหดหยีร้องโพล่งออกมาด้วยความตกใจ หน้าตาเผยความเหลือเชื่อยากยอมรับ

“ท่านอาจารย์”

ได้ยินเสียงแตกตื่นของหลูเถี่ย ปูหงที่เดิมใจคอไม่ค่อยจะสู้ดีอยู่แล้วก็หน้าเสียหนักกว่าเดิม “พร…พรสวรรค์รากวิญญาณของข้า…ที่แท้มีปัญหาอันใดกันแน่!?”

หากรากวิญญาณของมันประสบปัญหาอะไร เช่นนั้นแล้วความสามารถในการสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินและการบ่มเพาะพลังจะได้รับผลกระทบก็ไม่แปลก

แต่ที่มันสนใจที่สุดตอนนี้ก็คือ

มีวิธีฟื้นฟูพรสวรรค์รากวิญญาณของมันหรือไม่?

เพราะตราบใดที่มันฟื้นฟูพรสวรรค์รากวิญญาณให้กลับมาเหมือนเดิมได้ล่ะก็ ทุกเรื่องราวจะกลับสู่ปกติ

ถึงตอนนั้นมันก็ยังคงเป็นอัจฉริยะปีศาจของลัทธิบูชาไฟผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีคราม ตราบใดที่มันมีเวลามากพอเรื่องที่จะฆ่าต้วนหลิงเทียนในวันหน้าย่อมไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เวลาแห่งการล้างอายเอาคืนของมันก็เพียงนับวันรอ!

“พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้า…มิได้มีปัญหาอันใด”

ได้ยินคำถามของปู้หง หลูเถี่ยพลันส่ายหัวไปมาด้วยสายตาเลื่อนลอย

ได้ยินคำตอบดังกล่าวสองตาปู้หงก็เรืองสว่างขึ้นมาทันที “รากวิญญาณของข้าไม่มีปัญหาหรือ!?”

ในสายตาของมัน

ตราบใดที่รากวิญญาณของมันไม่มีปัญหา เช่นนั้นสมควรมีบางสิ่งที่ทำให้พลังฝึกปรือของมันช้าลงและทำให้มันจับสัมผัสรากวิญญาณของตัวเองไม่ได้

จังหวะนี้มันอดไม่ได้ที่จะโล่งอก

“ใช่…พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าไม่มีปัญหาอันใด…”

ทว่าหลูเถี่ยพลันกล่าวออกมาสืบต่อ น้ำเสียงยังกลายเป็นหนักอึ้ง “เพราะ…พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ามันหายไปแล้ว”

พรสวรรค์รากวิญญาณหายไปแล้ว!!

วาจานี้ของหลูเถี่ยยามดังเข้าหูปู้หงก็ประหนึ่งอัสนียามแล้งที่ฟาดผ่าลงมาโดยไร้ซึ่งการตั้งเค้าอันใด พาลให้ปู้หงตะลึงไปไม่อยากรับรู้เรื่องราว ร่างทุรดลงกับพื้นอย่างอ่อนระโหยโรยแรง

ก่อนหน้านี้แม้มันจะรู้สึกหมดหวัง หากแต่ในใจยังเหลือเศษเสี้ยวความหวังอันเบาบางสายหนึ่งอยู่

ทว่าวาจานี้ของหลูเถี่ย เสมือนวาจาตัดสินพร้อมโยนป้ายประหาร! พรสวรรค์รากวิญญาณมันหายไปแล้ว!!

พรสวรรค์รากวิญญาณมันหายไปแล้ว…ต่อไปมันยังจะฝึกปรืออันใดได้อีก?

“นิ…นี่มันอะไร ไฉนเป็นเช่นนี้ ไฉนเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับข้า?!”

ปู้หงสิ้นหวังแล้วจริงๆ

“ต้วน! หลิง! เทียน!!”

ตอนนี้เองปู้หงพลันได้ยินเสียงกล่าวเล็ดลอดไรฟันอันเปี่ยมล้นไปด้วยโทสะของหลูเถี่ย ทำให้มันเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันได้ยินน้ำเสียงเปี่ยมโทสะอย่างเกรี้ยวกราดเช่นนี้!

“หงเอ๋อเจ้าอย่าได้กังวล…แค้นนี้ของเจ้าอาจารย์ผู้นี้จะชำระให้เอง!!”

ลูกตาหลูเถี่ยยามนี้เต็มไปด้วยวามเยียบเย็น ยังแหลมคมปานคมมีด ลั่นวาจาสัญญากับปู้หงเสียงหนัก!

“ท่านอาจารย์…ท่านหมายความว่า…ที่พรสวรรค์รากวิญญาณของข้าหายไป เป็นฝีมือต้วนหลิงเทียนหรือ?”

แม้ปู้หงจะสิ้นหวัง ทว่ามันยังแยกแยะจับความคำพูดของอาจารย์ได้

“เป็นฝีมือมันไม่ผิดแน่!!”

หลูเถี่ยกล่าวออกเสียงเย็น “ครั้งที่มันยังอยู่ในแท่นบูชาเต่าทมิฬ อาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬอย่างหลี่อัน เคยพาลูกศิษย์ส่วนตัวของมัน กู่ชุน ไปหาความกับต้วนหลิงเทียน…เพราะตอนนั้นพวกมันกล่าวโทษว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุน!”

“แต่ทว่าในยามนั้นไม่มีผู้ใดเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนจะมีปัญญาทำอะไรเช่นนั้นได้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวข้าเอง…ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่มันยังไม่บรรลุขอบเขตเซียนสวรรค์จึงไม่อาจสัมผัสถึงพรสวรรค์รากวิญญาณผู้ใดได้ แต่ต่อให้เป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ ก็มิมีทางทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณผู้อื่นโดยมิสร้างความเสียหายให้แก่ดวงจิต!”

“ยามนั้นหลี่อันกับกู่ชุนไร้ซึ่งหลักฐานอันใด และกระทั่งตัวกู่ชุนเองก็ไม่มั่นใจว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของมันจริงๆ…ทำให้มันไม่กล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า…สุดท้ายเรื่องนี้จึงสิ้นสุดไปอย่างน่าขัน”

“ข้าเองยังคิดว่าเรื่องราวนี้ล้วนเป็นเรื่องน่าขัน ไม่พ้นหลี่อันกับกู่ชุนรวมหัวกันใส่ความหมายเล่นงานต้วนหลิงเทียน…ทว่ามาตอนนี้ข้ากลับเชื่อแล้วว่าต้วนหลิงเทียนมีฝีมือย่อยเช่นนั้นจริงๆ มันสมควรรู้ทักษะบางประการที่สามารถทำลายรากวิญญาณผู้อื่นได้!!”

“หาไม่แล้วใต้หล้าไหนเลยยังจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้! พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ากลับหายไปหลังต่อสู้กับมัน!!”

หลูเถี่ยกล่าวคาดเดาออกมาเป็นเรื่องเป็นราว

และการคาดเดาของมันครั้งนี้นับว่าไม่ผิดเพี้ยนเลยจริงๆ!

“อะไร? ก่อนหน้าข้ามันเคยทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของผู้อื่นมาแล้ว?”

ได้ยินคำของหลูเถี่ย ปู้หงก็มั่นใจเต็มสิบส่วนว่าไม่พ้นต้วนหลิงเทียนต้องลงมือโดยใช้วิธีการเดียวกันกับครั้งก่อน ทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของมันแน่

“หงเอ๋อ อาจารย์จักล้างแค้นให้เจ้าเอง! เจ้าอยู่นี่รอฟังข่าวดีเถอะ!!”

สิ้นคำกล่าวก็ไม่รอให้ปู้หงตอบคำอะไร ร่างหลูเถี่ยวูบหายไปด้วยความเร็วสูงสุด

ยามเหินร่างตัดฟ้าไปด้วยความเร็วสูง ในใจหลูเถี่ยก็เต็มไปด้วยโทสะอันเดือดดาลถึงขีดสุด!

แม้มันจะมีศิษย์ส่วนตัว 2 คน หากแต่มันฝากความหวังทั้งหมดไว้กับปู้หงที่เป็นศิษย์เอก ทว่าตอนนี้ปู้หงกลับถูกทำลาย เช่นนั้นหมายความว่าความหวังของมันล้วนดับสลายหายไปสิ้น

ตอนนี้มันแทบทนรอบุกไปฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายคามือเพื่อระบายแค้นไม่ไหวแล้ว!

หากสามารถระบุได้ว่าต้วนหลิงเทียนทำลายพรสวรรค์ของปู้หงได้จริงๆ หลูเถี่ยก็ไม่จ้องกังวลเรื่องราวใดๆอีก

มันจะลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนด้วยตัวเองทันที!

น่าเสียดายที่หลูเถี่ยถูกลิขิตให้ผิดหวัง

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้อยู่ในลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป แม้มันคิดจะหาความอะไรจากต้วนหลิงเทียนเพื่อมัดตัว และตอบโต้อะไร มันก็ทำได้แค่รอให้ต้วนหลิงเทียนกลับมาก่อนเท่านั้น

และนั่นทำให้หลูเถี่ยที่บุกไปหมายจับต้วนหลิงเทียนถึงที่พัก จำต้องพบกับความผิดหวัง!

เพราะมันได้รับทราบความจริงเรื่องหนึ่ง…ต้วนหลิงเทียนหายไปจากลัทธิบูชาไฟ!!

และในขณะที่ความจริงเรื่องนี้เปิดเผยออกมา ด้านต่งหยวนจิ้นที่ส่งคนมาจับตาที่พักต้วนหลิงเทียนไว้ตลอดเวลาจึงได้ทราบเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนหายตัวไปเช่นกัน! หายตัวไปภายใต้จมูกของมัน!!

ต่งหยวนจิ้นแทบไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้

ต้วนหลิงเทียนทำร้ายบุตรชายของมันให้อับอายขายหน้าถึงสองครั้งสองครา ไหนเลยมันจะปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนไปง่ายๆ? มันจึงให้คนไปคอยเฝ้าจับตาดูต้วนหลิงเทียนเอาไว้ตลอด! กระทั่งยังให้คนมากมายไปเฝ้าที่ทางออกทุกทางหากในบ้านต้วนหลิงเทียนไร้ความเคลื่อนไหวใดๆเป็นเวลานาน!

อนิจจาไม่ว่ามันยากยอมรับเพียงใด แต่สุดท้ายความจริงก็วางตั้งอยู่ตรงหน้า

นั่นเพราะมันได้ทราบรายงานจากคนของมันชัดเจน ว่าหลูเถี่ยได้ไปฟ้องร้องเรื่องราวที่หอคุมกฏ กระทั่งนำผู้อาวุโสคุมกฏติดตามไปจับกุมต้วนหลิงเทียนถึงที่พัก ทว่าหลังบุกเข้าไปในเกาะส่วนตัวของต้วนหลิงเทียนแล้ว กลับไม่พบแม้แต่เงาคน!

กระทั่งกระจายกำลังกันออกไปตามหาทั่วลัทธิบูชาไฟ ก็ไร้วี่แวว!!

เช่นนั้นจึงสรุปได้อย่างเดียวว่า ต้วนหลิงเทียนได้ออกจากลัทธิบูชาไฟไปแล้ว…หายตัวไปภายใต้จมูกของต่งหยวนจิ้น!!

“ท่านพ่อวางใจเถอะ…ดูท่าจะเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วว่าต้วนหลิงเทียนมันทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของปู้หง! ตราบใดที่มันกลับมา มันไม่มีทางรอดพ้นโทษทัณฑ์สถานหนักแน่นอน!!”

ต่งหลินถึงกับยิ้มกริ่ม “นอกจากนี้ข้าได้ยินมาจากจ้าวแท่นบูชามังกรคราม ว่าศิษย์ส่วนตัวของหลี่อันที่เรียกว่ากู่ชุน ก็ถูกต้วนหลิงเทียนทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณเช่นกัน ด้วยก่ออาชญากรรมร้ายแรงซ้ำซ้อนเช่นนี้ มันมีแต่ตายกับตายเท่านั้น!!”

“แต่ว่า…”

ทันใดนั้นเองราวกับนึกอะไรได้ออก ต่งหลินกล่าวออกด้วยสีหน้ามากระวัง “ตอนนี้ทุกคนในหอคุมกฏรู้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของปู้หง…หากเรื่องราวนี้แพร่กระจายออกไป ข้ากลัวว่าหากต้วนหลิงเทียนที่ลอบออกไปจากลัทธิบูชาไฟรู้เรื่องเข้า มันจะไม่ย้อนกลับมาอีก…”

ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนไม่ย้อนกลับมา ถึงแม้จะมีความผิดร้ายแรงเพียงใด ทว่าหากไม่ได้รับการยืนยันให้แน่ชัด ทางหอคุมกฏของลัทธิบูชาไฟก็ไม่อาจตัดสินโทษคนได้ นับประสาอะไรกับเรื่องส่งยอดฝีมือไปตามล่าต้วนหลิงเทียน!

เพราะสุดท้ายแล้ว อาศัยเพียงวาจาลมปากของหลูเถี่ยเพียงอย่างเดียว หอคุมกฏก็ไม่อาจตัดสินต้วนหลิงเทียนว่าผิดจริงได้!

“หลินเอ้อ เพียงเจ้าฉุกคิดเรื่องนี้ได้พ่อก็ดีใจนัก”

ได้ยบินวาจาของต่งหลิน ต่งหยวนจิ้นอดไม่ได้ที่จะโล่งใจ “พ่อก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน จึงสั่งให้คนปิดข่าวแต่แรก…เช่นนั้นเรื่องนี้ย่อมไม่มีทางแพร่งพรายออกไปจากหอคุมกฏ จนกว่าต้วนหลิงเทียนจะกลับมา!”

“และตราบใดที่คนของหอคุมกฏไม่ปริปากอันใด เช่นนั้นภายนอกย่อมไม่มีหนทางทราบเรื่องนี้…ต้วนหลิงเทียนเองก็ย่อมไม่มีวันล่วงรู้!”

หลังกล่าวจบแล้วสีหน้าต่งหยวนจิ้นก็เผยความมั่นใจไม่น้อย

“ท่านพ่อฉลาดยิ่ง!”

สองตาต่งหลินสว่างใสเป็นประกายขึ้นมาทันใด

ทว่าหลังจากนั้นต่งหยวนจิ้นก็ขมวดคิ้วกล่าวออกด้วยความไม่เข้าใจ “แต่พ่อยังสงสัยนัก ว่าต้วนหลิงเทียนมันออกไปจากลัทธิบูชาไฟด้วยวิธีใดกันแน่?”

ต้วนหลิงเทียนสามารถออกจากลัทธิบูชาไฟไปได้ภายใต้จมูกของต่งหยวนจิ้น จึงยากที่ต่งหยวนจิ้นจะไม่ติดใจ

ด้านต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในนครแห่งบาป ก็ไม่ได้รู้เลยว่า…

ตอนนี้ในลัทธิบูชาไฟมีคนขุดหลุมรอให้เขากระโดดลงมา!

“ในที่สุด! ข้าก็ทะลวงผ่าน!!”

อย่างที่ต้วนหลิงเทียนคาดเอาไว้ไม่มีผิด ว่าเขาสมควรใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือนทะลวงถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด

แน่นอนว่าการที่เขาสามารถทะลวงด่านพลังได้เร็วขนาดนี้แม้จะไม่มีค่ายกลรวมวิญญาณเหมือนที่ลัทธิบูชาไฟ ล้วนเป็นเพราะรากวิญญาณของเขามันเจียนกลายเป็นสีครามเต็มที อีกทั้งเขาเองก็ขยันบ่มเพาะพลังอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย…

“กินเวลาไปกว่า 50 วันบนชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติแบบนี้…ข้างนอกก็ผ่านไป 5 วันสินะ…”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวพึมพำ

“ช่วงไม่กี่วันที่เหลือตีความเวทย์พลังต่อดีกว่า…ครบกำหนดพักโรงเตี๊ยมเมื่อไหร่ค่อยออกไปหาเหยื่อ! คราวนี้รากวิญญาณของข้าต้องกลายเป็นสีครามได้แน่!”

ต้วนหลิงเทียนวาดแผนเอาไว้เรียบร้อยว่าหลังจากนี้เขาจะทำอะไรต่อไป

แน่นอนว่าไม่กี่วันที่ว่าเป็นเวลาในโลกภายนอก

และเวลาที่เหลือ 4 วันกว่าในโลกภายนอก หากเป็นชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ก็เป็นเวลา 40 กว่าวัน!

เช่นนั้นแล้ว หลังใช้เวลาไปอีกเดือนกว่าๆบนชั้น 4 เจดียืหลิงหลง 7 สมบัติ ต้วนหลิงเทียนจึงค่อยออกมา

ถึงแม้เวทย์พลังทั้งหลายของต้วนหลิงเทียนจะยังไม่อาจบรรลุขั้นตอนความสำเร็จที่สูงขึ้นได้…แต่ก็มีความคืบหน้าไม่น้อย

ห่างจากขั้นตอนความสำเร็จต่อไปอีกแค่ก้าวเดียว

หลังเปิดประตูห้องหับเดินออกไปในสวน ต้วนหลิงเทียนก็สูดลมหายใจเข้ารับกลิ่นหอมจรุงของมวลบุปผาที่ปลูกไว้ด้านข้าง รู้สึกสดชื่ด หายจากอาการอุดอู้เบื่อหน่ายไม่น้อย

เขายืนสูดอากาศที่สวนอยู่พักหนึ่งค่อยเดินออกไปจากบ้านพักที่อาศัยอยู่มากว่า 9 วัน มุ่งหน้าไปแจ้งเรื่องออกพัก

หลังแจ้งเรื่องออกพักแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เดินออกจากโรงเตี๊ยมยินดีตอนรับทันที

“หืม?”

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เท้าของเขาก้าวออกจากโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ทันทีว่ามีสายตามากหมายหลายคู่กำลังจับจ้องมาที่เขา แม้จะเป็นการกวาดมองมาเพียงพริบตาเดียวก่อนที่จะละสายตาไป…แต่เขาก็จับสัมผัสได้ชัดเจน!!

หากไม่ใช่เพราะเขานับเป็นมือพระกาฬเรื่องการสะกดรอยตามและย้อนรอยจากชีวิตที่แล้ว แม้พลังฝึกปรือของเขาจะสูงส่งเพียงใด ก็คงยากจะจับจิตมุ่งร้ายจากสายตาหลายคู่ที่ลอบจับตาดูเขาอยู่ได้…