บทที่ 745 ตัวการร้ายก็คือเธอ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 745 ตัวการร้ายก็คือเธอ

บทที่ 745 ตัวการร้ายก็คือเธอ

เสี่ยวเถียนทิ้งห่างเราไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงโผล่กลับมาอีกรอบได้ล่ะ? ยิ่งรู้ว่าเสี่ยวเถียนไล่ตามมาจากด้านหลังก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม

ความแข็งแกร่งทางร่างกายเด็กสาวดีขนาดนั้นเลยหรือ? เราวิ่งกันตั้งหลายรอบแต่เธอกลับไล่ตามทันแล้ว? พอเทียบอายุของเสี่ยวเถียนกับพวกเรา เหล่านักศึกษาเลือดร้อนสัมผัสได้ถึงพลังงานในร่างที่พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที

ซูอู่ร่างเห็นน้องวนกลับมาถึงก็สละตำแหน่งคนนำวิ่งและมอบหน้าที่คืนให้เสี่ยวเถียน

ระยะทาง 8 กิโลเมตรไม่ได้มากมายสำหรับเสี่ยวเถียน แต่สำหรับคนอื่น ๆ ถือว่ามันหนักพอตัว

เด็กสาวชะลอความเร็วในช่วงครึ่งหลังเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นหยุดฉับพลันตอนวิ่งครบแปดรอบ

แต่คนอื่น ๆ ไม่ได้คิดเยอะ นึกว่าเสี่ยวเถียนวิ่งไม่ไหวแล้ว

พวกผู้ชายบางส่วนคิดว่า ในช่วงเวลาแบบนี้จะใช้แรงฮึดที่มีอยู่เอาชนะเด็กหญิงนำวิ่งได้หรือเปล่านะ?

เพราะพวกเราเป็นผู้ชาย แถมยังเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย

“วิ่งช้าลงหน่อย ร้อยสองร้อยเมตรสุดท้ายจะได้มีแรงวิ่ง!”

หลังจากที่รู้ว่าเพื่อนมีความคิดแบบนั้นจึงรีบเตือนทันที

เป็นตอนนั้นเองที่ทุกคนได้รู้ว่าเสี่ยวเถียนจงใจวิ่งช้า ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมพูดแบบนั้นแต่ก็ยังยอมเชื่อฟังอยู่ดี

บางส่วนยังมีกะจิตกะใจอยู่ ในขณะที่บางส่วนเริ่มถอดใจแล้ว โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนแอ ตอนนี้อยากจะนั่งพักเสียไม่ไหวแล้ว

“ทุกคนสู้ ๆ นะ อีกครึ่งรอบก็ถึงแล้ว จะได้พักดื่มน้ำด้วย!”

ได้ทั้งกำลังใจ รวมถึงระดับความเร็วที่ช้ามาก ทุกคนจึงสามารถกัดฟันอดทนต่อไป

ถ้าไม่มีเธอ เราก็คงไม่ยอม!

ในหมู่คนกลุ่มนี้ถังหมิ่นหมิ่นคือหนึ่งในนั้น

เธอมีความมั่นใจในตัวเองสูง คิดว่าตัวเองมีอำนาจ ทว่ากลับโดนซูเสี่ยวเถียนทำลายจนแหลกเป็นชิ้น ๆ ซึ่งไม่อยากยอมรับเลยสักนิด แม้ตอนนี้ขาจะหนักมากแค่ไหนก็ตาม พวกเขาทำได้แค่อดทนเท่านั้น

เสี่ยวเถียนเป็นคนแรกที่ไปถึงเส้นชัยแต่ไม่ได้หยุดฝีเท้า และวิ่งตรงไปยังจุดเดิม

“หัวหน้า เธอพักสักหน่อยเถอะ!” ฉางจงหยวนมองเด็กสาวด้วยสายตาชื่นชม

เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าหัวหน้าวิ่งมากกว่าเราหนึ่งรอบ รวมทั้งหมดเก้ากิโลเมตรเลยนะ

เขาเป็นผู้ชายวิ่งแค่แปดกิโลเมตรก็รับไม่ไหวแล้ว และหัวหน้าที่เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทนไหวได้ยังไง? อันที่จริงเขาเชื่อมั่นเลยว่า ถ้าไม่มีคนคอยวิ่งนำคงทนไม่ไหวแน่นอน

ซูอู่ร่างเดินเข้ามาหาก่อนเห็นพวกนักศึกษาบางส่วนนอนแผ่กับพื้น เลยตะโกนเสียงดังลั่น “ขยับแขนขากันด้วยนะ ให้ดีก็ตบ ๆ สักหน่อย ไม่งั้นพรุ่งนี้แขนขาปวดหนักแน่ อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ!”

เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนใส่ใจอะไรเท่าไร ชีวิตในโรงเรียนทหารตลอดสองปีนี้ทำให้ได้รู้ว่าตนยิ่งไม่ใส่ใจมากกว่าเดิม

แต่ที่พูดก็เพื่อผลดีต่อพวกนักศึกษาเอง แม้จะได้คำแนะนำจากเสี่ยวเถียน แต่กลุ่มคนที่วิ่งมาในช่วงครึ่งรอบสุดท้ายก็ยังไม่ยืดแขนขาอยู่ดี

“เสี่ยวเถียน จริงหรือเปล่า?” จ้างหงเหมยหอบหายใจ

หลังจากวิ่งยาวรวดเดียว ในที่สุดก็ได้ทรุดตัวลงนั่งพักเสียที

แต่ครูฝึกอยากให้เรากระโดดอยู่กับที่เนี่ยนะ

ฉู่เยว่ทำตามด้วยความลำบากยากเย็น เขย่าแขนขา และเคลื่อนไหวพื่อยืดเส้นยืดสาย

“หงเหมยลองทำดูสิ เธอจะรู้ว่ามันมีประโยชน์!”

ถึงจะไม่อยากพูดตอนนี้ แต่คิดว่าเตือนเพื่อนสักหน่อยดีกว่า

จ้าวหงเหมยได้ฟังก็ทำตามฉู่เยว่

เสี่ยวเถียนทำใกล้เสร็จแล้ว ต่อมาจึงเริ่มยืดเส้น

ในไม่ช้าสาว ๆ ห้อง 314 ก็เริ่มทำตาม นักศึกษาคนอื่นที่เฝ้ามองเสี่ยวเถียนอยู่จึงพลอยเห็นไปด้วย นั้นทำให้ซูอู่ร่างพึงพอใจมาก

การที่น้องเล็กอยู่ด้วย ทำให้เขาที่เป็นครูฝึกประหยัดเวลาและแรงได้มาก!

ขณะเสี่ยวเถียนยืดตัวอยู่ สายตาได้เหลือบไปเห็นฉู่เยว่เลยทำให้รู้หลาย ๆ สิ่ง พื้นเพเพื่อนคนนี้คงไม่ธรรมดาแน่นอน บางทีอาจมีคนในครอบครัวเป็นทหารก็ได้

ตอนนี้ทุกคนในคณะส่วนใหญ่วิ่งเกือบเสร็จหมดแล้ว

อิ่นหรูอวิ๋นเห็นคนอื่น ๆ ได้พักเธอจึงหมายเข้ามาพักบ้าง

“นักศึกษาคนนั้นไปวิ่งต่อด้วยครับ ยังเหลืออีกสี่รอบนะ!”

ซูอู่ร่างกัดฟันว่า

ผู้หญิงคนนี้เดินรอบสนามมาตั้งสี่รอบ ไม่รู้กล้าเดินต่อหน้าเพื่อน ๆ ในได้ยังไง หน้าไม่อายเลยจริง ๆ

อิ่นหรูอวิ๋นไม่คิดเลยว่าครูฝึกจะจำจำนวนรอบของตนได้ สีหน้าพลันเป็นเป็นดำทะมึนทันที

“ครูฝึก หนูวิ่งไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่วิ่งแล้วได้ไหมคะ!”

อิ่นหรูอวิ๋นใช้มารยาที่เคยทำเมื่อก่อนด้วยการใช้น้ำเสียงน่ารัก ๆ คุยด้วย ตราบใดที่ทำแบบนี้ไม่ว่ายังไงก็เป็นผลเสมอ

น่าเสียใดที่ชายที่เจอวันนี้คือซูอู่ร่าง คนที่ขัดขาเธอทุกทาง

“ถามเพื่อนเถอะว่าได้หรือเปล่า!”

เขาชำเลืองมองนักศึกษาคนอื่นที่กำลังหอบหายใจ ตบขา ไม่ก็กระโดดยืดเส้นยืดสาย

“อิ่นหรูอวิ๋น มันเป็นเพราะเธอนั่นแหละที่ทำให้เราต้องวิ่งเยอะขนาดนี้ แล้วยังมีหน้าไม่อยากวิ่งอีกหรือ?” ถังหมิ่นหมิ่นเป็นคนพูด

เดิมทีเธอมีสมรรถภาพทางกายค่อนข้างดี อดทนไหว และไม่ได้ถูกทิ้งให้รั้งท้ายด้วย แต่มีแค่ตัวเองเท่านั้นละที่รู้ว่า ที่ทำแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ซูเสี่ยวเถียนเยาะเย้ย

ตอนนี้เธอหมดแรงสุด ๆ แต่ไฟในใจยังคุกรุ่นเสมอ ก็เลยพูดจาถากถางใส่อิ่นหรูอวิ๋นสักหน่อย จนฝ่ายนั้นได้แต่ตะลึงงัน

ไหงพุ่งมาใส่เธอเฉยเลยล่ะ?

จะวิ่งกี่รอบมันเป็นเพราะครูฝึกกำหนดไม่ใช่หรือไง? เกี่ยวอะไรกับฉัน? หรือเห็นว่าเราอ่อนแอเลยคิดจะกลั่นแกล้ง?

อิ่นหรูอวิ๋นมองคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ไม่มีใครคิดช่วยพูดเลย

จากนั้นเธอก็ทำตัวอ่อนแอน่าสงสารออกมาโดยไม่รู้ตัว และเรื่องที่อิ่นหรูอวิ๋นผู้สร้างปัญหาไม่อยากวิ่ง มันทำพวกเราไม่เห็นใจเลยสักนิด

น่าเสียดาย เพราะทุกคนรู้ว่าการต้องวิ่งเพิ่มอีกสี่รอบมันเป็นเพราะใคร

แถมต้องมาเห็นเจ้าตัวทำท่าน่าอนาถใจอีก ตอนนี้รู้แค่ว่าอยากจะสาปส่งกลับไปเพื่อระบายความโกรธ

จริง ๆ นะ ตอนนี้สภาพเธอน่าสมเพชสุด ๆ

แถมก่อนมาฝึกยังทาแป้งมาซะหนาเตอะเลย

พอวิ่งได้สักหน่อยเหงื่อก็แตกพลั่กแล้ว แป้งบนใบหน้าไหลเยิ้มเกิดเป็นร่อง เจ้าตัวไม่รู้สักนิดว่าหน้าตนเองเป็นคราบ

เอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าแสนสวยอยู่น่ะสิ

อิ่นหรูอวิ๋นไม่อยากวิ่งต่อแล้วทว่าเธอไม่มีทางเลือก จึงต้องทำต่อไปภายใต้สายตากดดันของทุกคน

แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังได้หยั่งรากลึกลงไปในใจทุกคนแล้ว!