บทที่ 810 หัวใจที่พังทลาย
บทที่ 810 หัวใจที่พังทลาย
ซูอันที่อยู่ตรงหน้านางไม่แสดงความเมตตาใดต่อนางแม้แต่น้อย
เขายังคงพูดจาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นราวกับปีศาจกรอกเข้าหูของนางต่อ “เมื่อเหลียนรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอกเมื่อไรและเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมดเข้ากับความคับข้องใจที่มีมาตั้งแต่อดีต ความคิดแรกของเขาที่จะมีก็เพียงเข้าใจว่าเจ้าได้พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อข้า ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงทรยศเขา และท้ายที่สุดเขาจะเชื่อว่ามันเป็นเจ้าด้วยที่วางแผนกับข้าเพื่อหลอกลวงเขา!”
“ไม่ เขาไม่มีทาง…” เสี่ยวถู่วพึมพำ ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตาม นางรู้ดีว่าคำพูดของซูอันนั้นเป็นไปได้อย่างยิ่งยวด
“ทำไมเจ้าถึงบอกความจริงทั้งหมดนี้กับข้า? หรือว่าเจ้ายังสะใจไม่พอ? หรือว่าเจ้าต้องการให้ข้าขาดใจตายตรงหน้าเจ้าอย่างนั้นเหรอ?” เสี่ยวถู่วมองกลับไปที่ซูอัน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา
ซูอันมองกลับมาที่นางแล้วเอื้อมมือออกไปเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “เหตุผลที่ข้าต้องบอกเจ้าทั้งหมดก็เพราะว่าข้าต้องการเจ้า!”
“เจ้ามีใจให้ข้ามาตลอด!” เสี่ยวถู่วกรีดร้อง เขาเพลิดเพลินกับร่างกายนางทั้งวันทั้งคืน! อย่าบอกนะว่าแค่นั้นยังไม่จุใจ?!
ซูอันส่ายหัว “ไม่! ข้าไม่มี!”
เสี่ยวถู่วตกตะลึง ตอนแรกนางสับสน แต่นางก็ค่อย ๆ เข้าใจความหมายของเขา
ชายหนุ่มไม่ได้ต้องการแค่ร่างกาย แต่ยังต้องการหัวใจของนางด้วย
นางเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้หรืออย่างไร?!”
ซูอันกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเจ้าที่มีต่อข้าในระยะหลังนี้ รวมไปถึงความลังเลและความรู้สึกผิดที่เจ้ารู้สึกโดยไม่รู้ตัวทุกครั้งที่เจ้าเปิดเผยข้อมูลที่นำไปจากข้า ข้าจะไม่แม้แต่จะใส่ใจที่จะพูดมากกับเจ้า”
เสี่ยวถู่วเงียบ
ซูอันกล่าวต่อว่า “เจ้าควรจะรู้เอาไว้ว่าใครก็ตามที่สามารถใช้ร่างกายของคนรักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางอย่าง คนผู้นั้นมันคือคนที่ไม่คู่ควรทุ่มเทสิ่งใดให้เลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ ต่อให้จะไม่พูดถึงความรู้สึกของเจ้าที่มีต่อเหลียนหรือความเกลียดชังที่เจ้ามีต่อข้า เจ้าก็ยังมีครอบครัวและผู้คนในแคว้นถู่วที่ต้องกังวล เจ้าอยากให้พวกเขาทั้งหมดถูกสับเป็นเนื้อสับและโดนนำมาเป็นเครื่องบูชาแก่สวรรค์เพียงเพราะความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”
ร่างกายของเสี่ยวถู่วเริ่มสั่นเทา “เจ้ามันปีศาจตัวจริง!”
ซูอันส่ายหัว “ข้าไม่ได้พูดทั้งหมดนี้เพื่อข่มขู่เจ้า เจ้าต้องเข้าใจว่าบ่อยครั้งการตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับจักรพรรดิเพียงผู้เดียว เมื่อถึงเวลาที่เหลียนจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา คณะขุนนางในราชสำนักจะสืบสวนทั้งเจ้าและครอบครัวของเจ้า รวมไปถึงผู้คนในแคว้นของเจ้า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถทัดทานได้ด้วยการโบกมือ แม้ว่าข้าจะต้องการหยุดพวกเขาก็ตาม ถ้าข้าทำอย่างนั้น คนทั้งอาณาจักรของข้าคงไม่ยินยอม”
“ข้าบอกเจ้าเพียงเพราะข้าต้องการให้เจ้าเลือกเส้นทางที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองจริง ๆ โดยเฉพาะในกรณีที่เจ้าเต็มใจมอบตัวเองให้กับข้า ข้าจะสามารถโน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อว่าทุกสิ่งที่เจ้าทำเป็นส่วนหนึ่งของแผนของข้า เมื่อนั้นเจ้า ครอบครัว และประชาชนในแคว้นของเจ้าจะหลีกเลี่ยงจุดจบอันขมขื่นได้”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่ว่างเปล่าของนาง ซูอันก็ก้มศีรษะลงเพื่อจูบริมฝีปากสีเชอร์รี่ของนาง
เสี่ยวถู่วเอื้อมมือออกไปจะผลักเขาโดยไม่รู้ตัว แต่มือของนางกลับแข็งค้างกลางทาง
ซูอันยิ้ม เขาประสานนิ้วของเขาเข้ากับนิ้วของนาง
หัวใจของเสี่ยวถู่วเริ่มเต้นแรง แม้ว่านางจะใกล้ชิดกับเขาอยู่ตลอดในช่วงหลายวันมานี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ขณะนี้นางรู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง นางอาจจะรู้สึกประหม่ามากกว่าครั้งแรกของนางด้วยซ้ำ
นางรู้ดีว่าอย่างน้อยคราวนี้หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความลังเลใจ
ทว่าขณะที่นางลังเล ในเวลาเดียวกันนางรู้สึกถึงความคุ้นเคยและโอบกอดชายตรงหน้าไว้โดยสัญชาตญาณ
เมื่อเป็นเช่นนี้เสี่ยวถู่วยอมรับชะตากรรมของตัวเองในที่สุด ดูเหมือนว่าร่างกายของนางจะยอมรับชายคนนี้ไปแล้วก่อนหน้าหัวใจนางซะอีก
“มองข้าสิ” เสียงสั่งดังข้างหูของนาง
นางต้องการที่จะหันหน้าหนี แต่ซูอันจับศีรษะนางหันกลับมาทันที
เสี่ยวถู่วรู้สึกหมดหนทางอย่างยิ่งเมื่อมองเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจของอีกฝ่าย
ขณะที่พวกเขายังคงจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ทันใดนั้นนางรู้สึกถึงประกายแห่งความสุขที่เบ่งบานอยู่ภายในตัวนาง แม้จะเลือนลาง แต่นางก็รู้ว่าการกระทำของนางไม่ได้เกิดจากการยึดมั่นในภารกิจอีกต่อไป
…
หลังจากความสุขผ่านไปอีกยาวนานเท่าใดไม่มีใครรู้ เสี่ยวถู่วพบว่าตัวเองซุกอยู่ในอ้อมกอดของซูอันและมองดูเขาอย่างเงียบ ๆ
เขาหลับไปไวมาก ส่วนทางด้านเสี่ยวถู่วแม้จะหมดแรงเช่นกัน แต่จิตใจของนางที่ยุ่งเหยิงขณะนี้ทำให้นางไม่มีทางที่จะหลับตานอนได้
ความคิดแล่นเข้ามาในหัวของนางอย่างต่อเนื่อง
และเมื่อนางลองทบทวนตัวเองดูอย่างละเอียด นางกลับรู้สึกประหลาดใจที่ความคิดคำนึงส่วนใหญ่ในหัวของนางเต็มไปด้วยจักรพรรดิองค์นี้ นางแทบไม่ได้นึกถึงเหลียนเลย
เสี่ยวถู่วมองชายที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าซับซ้อน นางจะสามารถพัฒนาความรู้สึกกับเขาได้จริงหรือ?
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดนางก็ผล็อยหลับไปเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน
ขณะที่นางกำลังฝัน คิ้วของนางขมวดและสีหน้าแสดงออกสะท้อนถึงความตื่นตระหนกอย่างชัดเจน นางขยับเข้าไปใกล้ซูอันโดยไม่รู้ตัว เมื่อนางรู้สึกถึงความอบอุ่นและสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจของเขา นางก็ค่อย ๆ สงบลง
เมื่อเสี่ยวถู่วตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา นางพบว่าตัวเองขดตัวอยู่กับเขาขณะที่นางหลับสนิท
ใบหน้าของนางแดงก่ำ นางไม่คิดว่าตัวเองจะติดเขามากแม้ในขณะที่หลับอยู่
ขณะที่นางจ้องไปที่ใบหน้าของเขาก็ต้องตะลึงงันอีกครั้ง จักรพรรดิผู้นี้หล่อเหลาหาข้อบกพร่องไม่เจอราวกับถูกแกะสลักโดยจิตรกรมือหนึ่ง
นางหน้าแดง จักรพรรดิไร้ยางอายผู้นี้ดูดีเหมือนกัน…!
จิตของนางล่องลอยไป หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่นางอยู่กับเหลียนนางพบว่าตัวเองหายใจติดขัด และความทรงจำส่วนใหญ่ของนางกับเหลียนก็เต็มไปด้วยความขมขื่นและความทุกข์ทน
ทว่าความทรงจำของนางในช่วงเวลาที่นางอยู่กับผู้ชายคนนี้กลับมีแต่ความหวานชื่น ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? นี่อาจเป็นความรักจริงหรือ?
“ข้าเคยได้ยินมาว่าถ้ามองใครนานเกินนับเลขหนึ่งถึงสิบห้า คนผู้นั้นจะตกหลุมรักอีกฝ่าย ทว่าเจ้าแอบมองข้านานกว่านั้นซะอีก” เสียงหัวเราะของซูอันก้องไปทั่วห้อง
หัวใจของเสี่ยวถู่วเต้นผิดจังหวะ และนางถอยห่างจากเขา “เจ้า…เจ้าตื่นแล้วเหรอ?”
“ข้าตื่นเพราะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของใครบางคนที่เร็วขึ้น” ซูอันโอบเอวเรียวของนางไว้ในอ้อมแขนของเขา “เราเป็นคู่รักกันแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบัง”
“คู่รัก…” ความอบอุ่นแทรกซึมเข้าสู่หัวใจที่เยือกเย็นของเสี่ยวถู่ว
ก่อนที่นางจะพูดอะไร นางก็รู้สึกถึงน้ำหนักของเขาที่ทาบทับตัวนางมา “น…นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ!” นางร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“เช้าแล้วอย่างไรล่ะ?” ซูอันดูเหมือนไม่สะทกสะท้านอย่างเต็มที่
คิ้วสวยของเสี่ยวถู่วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย นางพ่นลมหายใจแล้วกล่าวว่า “เจ้านี่มันเป็นจักรพรรดิที่เสเพลจริง ๆ…”
…
หลังจากที่พวกเขาเล่นรักกันซักพัก ซูอันก็เรียกคนสนิทของเขาเข้ามาและออกคำสั่ง “ส่งคำสั่งข้าออกไป! ข้าจะประทานธงสีขาวและขวานสีเหลืองให้แก่เหมียนหม…แค่ก ๆ…ฟู่ห่าว นับจากนี้นางไม่จำเป็นต้องรายงานข้าก่อนตัดสินเรื่องในทัพแนวหน้าที่กำลังทำศึก!”
ในยุคนี้ ธงขาวและขวานสีเหลืองแสดงถึงอำนาจแห่งจักรพรรดิ ไม่เคยมีผู้ใดได้รับมอบเกียรตินี้มาก่อน
เสี่ยวถู่วซึ่งกำลังนอนอยู่ภายในห้องชั้นใน นางแสดงสีหน้าซับซ้อน
ดูเหมือนว่าจักรพรรดิจะรักองค์จักรพรรดินีอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ความไว้วางใจที่ไม่ธรรมดาที่พวกเขามีต่อกันเป็นสิ่งที่หายากและมีค่าอย่างยิ่ง
ขณะนี้นางมั่นใจแล้วว่าความพยายามทั้งหมดของเหลียนในการผลักดันให้เกิดความไม่สงบในเมืองอินล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
เสียงของซูอันดังขึ้นอีกครั้ง “และประกาศออกไปให้ผู้คนทั้งหลายได้รับรู้ว่า นับจากนี้ไปเสี่ยวถู่วจะเป็นสนมของข้า และให้ฟู่ซัวและคนอื่น ๆ จัดการพิธีการแต่งตั้งนางเป็นสนมของข้าอย่างเป็นทางการ!”
———————–