ตอนที่ 1527 สำนักธาราเมฆ (4) ตอนที่ 1528 ไม่ง่ายอย่างนั้น (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1527 สำนักธาราเมฆ (4) / ตอนที่ 1528 ไม่ง่ายอย่างนั้น (1)
ตอนที่ 1527 สำนักธาราเมฆ (4)

คำพูดของบุรุษคนนั้นทำให้กลุ่มผู้เยาว์ตกตะลึงทันที

ห้ามหาเรื่องจวินอู๋ ทำไม!

กลุ่มผู้เยาว์มองบุรุษคนนั้นอย่างตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน

จวินอู๋เสียดูหมิ่นคำเชิญของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจต่อหน้าทุกคน และจากวิธีการในอดีตของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ พวกเขาก็น่าจะได้รับคำสั่งให้ ‘ดูแล’ จวินอู๋เป็นอย่างดีในสำนักธาราเมฆไม่ใช่หรือ แล้วจู่ๆ …มันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

บุรุษจากตำหนักเปลวเพลิงปีศาจไม่ได้อธิบายอะไรต่อและเดินไปด้านข้างหลังจากพูดสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว

พวกผู้เยาว์ต่างสับสนกันหมด แต่พวกเขาก็ไม่กล้าถามอะไรอีก จึงพากันปิดปากแน่นขณะที่ในหัวหมุนวนไปด้วยความสับสนงุนงง

ยกเว้นเฉียวฉู่ที่หัวเราะอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

แผนของน้องเสียสุดยอดจริงๆ!

ผู้เยาว์ทุกคนรวมตัวกันนอกประตูสำนักธาราเมฆเป็นเวลานาน แม้ว่าประตูใหญ่ของสำนักธาราเมฆจะเปิดกว้าง แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปข้างในสักคน

ในสามโลกชั้นกลางมีสำนักทุกรูปแบบปรากฏขึ้นทั่วทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสิบสองตำหนักหรือเก้าวัง กลุ่มอำนาจทั้งหลายต่างมีสำนักที่สนับสนุนพวกเขาอยู่แล้ว และศิษย์ส่วนใหญ่ของพวกเขาก็ได้รับการส่งเสริมจากสำนักที่แต่ละตำหนักให้การสนับสนุนพวกนั้น

สำนักที่ได้รับการสนับสนุนจากสิบสองตำหนักและเก้าวังมีข้อได้เปรียบมากกว่าสำนักทั่วไป แต่สำนักเดียวที่อยู่เหนือกว่าสำนักอื่นๆ ทั้งหมด เป็นสำนักที่พิเศษที่สุดและสุดยอดที่สุดในสามโลกชั้นกลาง!

นั่นคือสำนักธาราเมฆ

สำนักธาราเมฆไม่ได้เป็นของกลุ่มอำนาจไหน แต่มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับสิบสองตำหนักและเก้าวัง

มันตั้งอยู่บนภูเขาฝูเหยาซึ่งเป็นสถานที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นที่สุดในสามโลกชั้นกลาง ควบคุมภูเขาฝูเหยาทั้งหมด ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงเชิงเขา ทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักธาราเมฆ นอกเหนือจากวันที่พวกเขาเปิดภูเขาให้และช่วงเวลาที่จัดงานชุมนุมเทพยุทธ์แล้ว ที่นี่จะถูกปิดไม่ให้คนนอกเข้า ใครก็ตามที่บังอาจบุกรุกเข้าไปในภูเขาฝูเหยามักจะไม่ได้กลับออกไป แม้ว่าสำนักธาราเมฆจะไม่ได้ถือว่าเป็นกลุ่มอำนาจ แต่พวกเขาก็มีอำนาจที่น่ากลัวมากพอที่จะหยุดยั้งผู้คนได้

และพวกผู้เยาว์ที่มาจากสำนักธาราเมฆก็มักจะเหนือกว่าสำนักอื่นๆ อยู่มาก

เพราะสำนักธาราเมฆมีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้อยู่ข้อหนึ่ง

ใครก็ตามที่เข้าเรียนในสำนักธาราเมฆจะไม่ได้รับอนุญาตให้จบการฝึกก่อนที่จะถึงตามมาตรฐานของสำนัก นั่นหมายความว่าตั้งแต่วันแรกที่ผู้เยาว์ทั้งหลายได้เข้าสำนักธาราเมฆ พวกเขาจะถูกผูกติดกับสำนักธาราเมฆไปอย่างไม่มีกำหนด นอกเสียจากว่าพลังของเขาจะถึงตามมาตรฐานของสำนักธาราเมฆ พวกเขาถึงจะถูกปล่อยให้ออกจากสำนักได้ ไม่อย่างนั้นต่อให้พวกเขาต้องตายในสำนัก พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสได้ออกไป!

ทุกครั้งที่มีการจัดงานชุมนุมเทพยุทธ์ สิบสองตำหนักและเก้าวังจะส่งผู้เยาว์กลุ่มใหญ่เข้าสู่สำนักธาราเมฆ แต่จำนวนผู้ที่สามารถเดินออกจากสำนักธาราเมฆได้นั้นกลับน้อยมาก บางคนใช้เวลาเป็นสิบปีก็ยังไม่ได้ตามมาตรฐานของสำนักธาราเมฆและยังติดอยู่ในสำนัก

แม้ว่าคนของสิบสองตำหนักและเก้าวังจะออกมาขอพวกเขา สำนักธาราเมฆก็ไม่สนใจไยดีอะไร

คนที่ถูกส่งเข้าสำนักธาราเมฆจะต้องทำตามกฎของสำนัก!

มันคือสำนักที่เข้าง่ายแต่ออกยาก

แต่มันก็เป็นทางเดียวที่สิบสองตำหนักและเก้าวังใช้ขัดเกลาผู้มีพรสวรรค์ของพวกเขา

ทุกคนที่สามารถจบการฝึกจากสำนักธาราเมฆล้วนมีอนาคตที่ดีในตำหนักของตน เมื่อมีตราของสำนักธาราเมฆอยู่บนตัว พวกเขาย่อมเริ่มต้นได้สูงกว่าคนอื่นๆ!

แม้ว่าความยากลำบากในสำนักธาราเมฆจะเป็นที่รู้กันดี แต่พวกผู้เยาว์ที่กระหายจะแสวงหาอนาคตที่ดียังคงพุ่งเข้าไปแย่งชิงกันเข้าร่วมงานชุมนุมเทพยุทธ์เพื่อทะยานสู่ความรุ่งโรจน์ได้ทันทีหลังออกจากสำนักธาราเมฆ!

ตอนที่ 1528 ไม่ง่ายอย่างนั้น (1)

ดวงอาทิตย์ลอยสูงอยู่บนท้องฟ้า และไม่มีใครอยู่หลังประตูที่เปิดกว้างของสำนักธาราเมฆเลยสักคน เหล่าผู้เยาว์ที่รออยู่ด้านนอกต่างกระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมาก ได้แต่รออยู่ที่นั่นภายใต้แสงแดดร้อนแรง

หลังจากนั้นไม่นาน บุรุษคนหนึ่งก็เดินออกมาจากประตูใหญ่ของสำนักธาราเมฆอย่างช้าๆ การปรากฏตัวของเขาทำให้พวกผู้เยาว์ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีหลังจากรอจนเบื่อ

บุรุษคนนั้นกวาดสายตามองผู้เยาว์กลุ่มใหญ่รอบหนึ่ง เมื่อสายตาของเขากวาดผ่านมาที่จวินอู๋เสีย มันก็หยุดอยู่ที่นางแวบหนึ่งก่อนจะเบนออกไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น หลังจากสำรวจคนทั้งกลุ่มหนึ่งรอบแล้ว ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นว่า “พวกเจ้าทุกคนตั้งใจจะเข้าสู่สำนักธาราเมฆในวันนี้ ข้าก็จะไม่พูดอะไรมากนอกจากเรื่องเดียวเท่านั้น ทุกคนที่เข้าสำนักธาราเมฆจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปจากสำนัก นอกจากว่าพวกเขาจะทำได้ตามมาตรฐานของสำนักธาราเมฆ ทุกเดือนจะมีวันหยุดหนึ่งวัน แต่คนที่ผ่านการประเมินประจำเดือนเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากสำนักได้ ข้าหวังว่าทุกคนจะเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน ตั้งแต่วินาทีที่พวกเจ้าก้าวเข้าสู่สำนักธาราเมฆ พวกเจ้าจะต้องปฏิบัติตามกฎของสำนักธาราเมฆ ถ้าใครไม่พอใจหรือรู้สึกข้องใจ ก็ออกไปจากที่นี่ได้เลย”

เสียงของบุรุษคนนั้นไม่ดัง แต่คำพูดของเขาก็ถ่ายทอดไปถึงหูของทุกคนที่นั่นอย่างชัดเจน

กฎแปลกๆ ของสำนักธาราเมฆเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วสำหรับทุกคนที่นั่น ในเมื่อพวกเขามากันถึงนี่แล้ว พวกเขาย่อมไม่ทิ้งโอกาสครั้งเดียวในชีวิตนี้ไปแน่นอน

หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง พวกผู้เยาว์ที่รออยู่นอกประตูสำนักธาราเมฆก็ไม่เห็นใครก้าวจากไปสักคน

รออยู่สักพัก แล้วบุรุษคนนั้นก็พูดขึ้นช้าๆ ว่า “ทุกคนตามข้าเข้ามาในสำนัก”

พูดจบเขาก็หันหลังกลับทันที คนจากตำหนักต่างๆ ก็กระตุ้นให้พวกผู้เยาว์รีบเข้าไปในสำนัก พวกผู้เยาว์ต่างรวมตัวกับคนจากตำหนักเดียวกันแล้วเดินเข้าไปข้างใน โดยมีจวินอู๋เสียเดินอย่างสบายใจอยู่คนเดียวที่ท้ายกลุ่ม

ซูจิ่งเหยียนยืนอยู่ใต้ต้นไม้นอกสำนักธาราเมฆ เขามองดูจวินอู๋เสียค่อยๆ หายไปในฝูงชน แล้วใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มที่ดูเหมือนสุนัขจิ้งจอก จากนั้นเขาก็ลูบคางและกระซิบบางอย่างเบาๆ

“รู้สึกว่าจะมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูเร็วๆ นี้แล้วสิ”

พวกผู้เยาว์ถูกพาเข้าไปในสำนักธาราเมฆ ในใจของพวกเขาเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น ไม่สามารถห้ามสายตาจากการมองทุกสิ่งรอบตัวได้

สำนักธาราเมฆตั้งอยู่พื้นที่ที่กว้างใหญ่ แทนที่จะบอกว่าเป็นสำนัก น่าจะเรียกว่าเมืองเล็กๆ มากกว่า ภายในสำนักนั้น หอพักแต่ละหลังมีการออกแบบที่เรียบง่าย ด้านหน้าหอพักมีผู้เยาว์สวมเครื่องแบบสำนักธาราเมฆเดินไปเดินมาอยู่จำนวนมาก สายตาของพวกเขาเย็นชาและห่างเหิน พวกเขาไม่สนใจผู้เยาว์ที่เพิ่งเข้าสำนักมาเลย ทำราวกับว่าเด็กใหม่พวกนี้ไม่มีตัวตน

ในสำนักที่กว้างใหญ่นี้เงียบมาก มีเพียงเสียงฝีเท้าที่ดังก้องอยู่ในหูของพวกผู้เยาว์ แม้ว่าในใจพวกเขาจะเต็มไปด้วยความกระวนกระวายและความวิตกกังวล แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดมาก ทำได้แค่ระงับโลหิตที่เดือดพล่านในตัว ขณะที่ก้าวตามหลังบุรุษที่นำพวกเขาไปทีละก้าว

ในที่สุด พวกเขาก็ถูกพามาที่หน้าหอพักสีขาวซึ่งเรียงรายเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ

บุรุษที่นำกลุ่มผู้เยาว์มาที่นี่หยุดที่หน้าหอพัก จากนั้นก็หันมามองพวกผู้เยาว์ที่อยู่ข้างหลังเขา

“เอาล่ะ พวกเจ้าแบ่งกันเป็นกลุ่มๆ ตามสนามแข่งที่พวกเจ้าเข้าร่วมเลย” บุรุษคนนั้นยกมือขึ้นชี้พื้นที่ที่แบ่งเป็นสี่ประเภท พลังวิญญาณ ภูติวิญญาณ ความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษ และพรสวรรค์แต่กำเนิด

พวกผู้เยาว์ที่รวมกลุ่มกันตามตำหนักก็แยกกันตามการจัดประเภทนี้ทันที หลังจากแบ่งกลุ่มแล้ว พวกเขาก็รวมตัวกับสหายของตัวเองอีกครั้ง ตั้งใจแบ่งพรรคแบ่งพวกชัดเจนมาก

ในขณะนั้นเอง ก็มีบุรุษสามคนเดินออกมาจากในหอพักด้านหน้าพวกเขา จากนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้ากลุ่มพลังวิญญาณ ภูติวิญญาณ และความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษ

“ตอนนี้ทุกคนก็แบ่งกลุ่มกันแล้ว อย่างนั้นพวกเจ้าก็ตามคนที่ยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มของพวกเจ้าไปเลย” บุรุษคนนั้นพูด