ตอนที่ 758 ป่วยติดเตียง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 758 ป่วยติดเตียง

“คุณหนูใหญ่!” ชุนเถากัดปากอย่างเขินอาย ทำทีเป็นหยิบถาดอาหารสีเหลี่ยมสีดำขึ้นมาจากโต๊ะแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างหงุดหงิด

เมื่อกลับถึงห้องของตัวเอง ชุนเถาหยิบป้ายหยกออกมาพิจารณาอย่างละเอียด ขอบตาร้อนผ่าว…

ที่จริงชุนเถาไม่ได้อยากได้ของล้ำค่าใดทั้งสิ้น ป้ายหยกล้ำค่ายังทำให้ชุนเถาคลายกังวลได้ไม่เท่าจดหมายรายงานความปลอดภัยฉบับหนึ่งเลย

นางรู้ดีว่าญาติผู้พี่ของนางเดินทางติดตามคุณหนูสามไปทำเรื่องสำคัญ นางไม่กล้าภาวนาให้ญาติผู้พี่ของนางกลับมาโดยเร็ว นางหวังเพียงญาติผู้พี่และคุณหนูสามกลับมาอย่างปลอดภัยและทุกอย่างราบรื่นเท่านั้น

ย่างเข้ากลางเดือนแปด ปกติไป๋ชิงเหยียนไม่สามารถอาบน้ำเย็นในช่วงฤดูร้อนได้ คุณหนูห้าและคุณหนูหกจึงมักพาคุณหนูแปดมาชวนไป๋ชิงเหยียนไปหลบร้อนที่เรือนเสาหวา

เรือนเสาหวามีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย กลางเรือนเต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้าที่ปลูกมานานหลายปี ทั้งเรือนมีแต่ความร่มรื่น

ศาลาของเรือนเสาหวาล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวขจีมากมาย แสงแดดส่องผ่านใบไม้ทึบเข้ามาในเรือนเสาหวาได้เพียงเล็กน้อยกระทบลงบนหน้าต่างที่เปิดอ้าไว้

ลมพัดโชยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของหมู่มวลดอกไม้ในเรือนเสาหวาเข้าไปด้านในฉากกั้น กระดิ่งสีเงินและทองซึ่งแขวนอยู่บนม่านไม้ไผ่ที่เกี่ยวอยู่ตรงระเบียงทางเดินส่งเสียงดังเป็นพักๆ สลับกับเสียงร้องของจักจั่นบนต้นไม้ ทำให้คนสัมผัสถึงกลิ่นอายของช่วงฤดูร้อน

รายงานสงครามของต้าเหลียงถูกส่งมาให้ไป๋ชิงเหยียนสองสามวันครั้ง ยิ่งทำสงครามถึงช่วงท้ายๆ ต้าจิ้นยิ่งสู้รบด้วยความยากลำบาก การบุกโจมตีเมืองต่างๆ ไม่ได้ง่ายดายเหมือนช่วงแรกๆ อีกแล้ว ต้าจิ้นยึดเมืองแต่ละเมืองมาได้ด้วยความยากลำบาก สูญเสียทั้งเวลาและกำลังคนจำนวนมาก

เมื่อได้รับจดหมายจากไป๋จิ่นซิ่วที่เมืองหลวง ไป๋ชิงเหยียนก็รู้ดีว่ารัชทายาทและขุนนางในราชสำนักหลายคนเริ่มไม่พอใจที่แม่ทัพหลิวหงและไป๋จิ่นจื้อยึดเมืองแต่ละเมืองของต้าเหลียงได้ช้าถึงเพียงนี้ รายงานทางทหารล่าสุดยิ่งทำให้รัชทายาทเดือดดาล กล่าวว่าสงครามครั้งนี้ทำให้ต้าจิ้นเสียหายอย่างรุนแรง ทว่า หากส่งทูตไปเจรจาอีกครั้งจะเป็นการทำให้แคว้นต้าจิ้นเสียหน้า รัชทายาทที่ลงมาจากหลังเสือไม่ได้ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม

ไป๋ชิงเหยียนเอนกายพิงเก้าอี้นุ่ม เคาะพัดไม้ไผ่กลมที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด แสงอาทิตย์สีทองลอดผ่านใบไม้ทึบส่องลงบนใบหน้าของหญิงสาว ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองไป๋จิ่นหวาและไป๋จิ่นเจาที่ถอดรองเท้านั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวนุ่มสีงาช้าง ทั้งสองคนกำลังนั่งหยอกเสี่ยวปาไป๋หวั่นชิงที่มัดแกะสองข้างอยู่บนศีรษะเล่นอย่างสนุกสนาน

แววตาของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ตั้งแต่เข้าฤดูร้อน มารดาของไป๋ชิงเหยียนก็ส่งให้บ่าวรับใช้แขวนผ้าม่านผืนบางลายอักษรมงคลห้าตัวตรงระเบียงทางเดินทั้งสองข้างเพื่อกันแสงแดดและแมลงตรงระเบียง โชคดีที่ไม่ได้ทำไปโดยเปล่าประโยชน์ เสี่ยวปาไป๋หวั่งชิงไม่เคยโดนยุงหรือแมลงกัดเลยตลอดช่วงฤดูร้อน

ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปยังภาพวาดเหมือนของคุณหนูตระกูลไป๋ซึ่งแขวนอยู่ด้านข้างภาพเหมือนวิวทิวทัศน์ตรงกลางศาลาในเรือนเสาหวา นั่นคือภาพที่ท่านย่าของนางสั่งให้ช่างภาพในวังหลวงมาวาดเก็บไว้ก่อนไป๋จิ่นซิ่วออกเรือนเพียงหนึ่งวัน วันนั้นไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ไปร่วมด้วย ในภาพวาดจึงไม่มีหญิงสาวอยู่ในนั้น

สายตาของหญิงสาวหยุดอยู่ที่ร่างของไป๋จิ่นจื้อที่ยืนเอามือไขว้หลังและส่งยิ้มอย่างสดใสอยู่ในภาพ หญิงสาวก้มหน้ายกนมหมักขึ้นมาจิบพลางใช้ความคิดไปด้วย…

บัดนี้ต้าจิ้นทำสงครามกับต้าเหลียงลำบากมากขึ้นเพราะการเสียชีวิตขององค์ชายสี่แห่งต้าเหลียงทำให้บรรดาทหารและชาวบ้านแคว้นต้าเหลียงโมโหขึ้นมา

ปกติในสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้การรบลำบากมากขึ้นไปอีก นอกเสียจากว่าจะเกิดเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ที่สามารถข่มขวัญกองทัพต้าเหลียงที่กำลังเลือดร้อนลงได้

ต้องคิดหาวิธี…

ขณะที่ไป๋ชิงเหยียนกำลังใช้ความคิด ถงงหมัวมัวเดินเข้ามาในเรือนเสาหวาอย่างรวดเร็ว สาวใช้รีบแหวกม่านให้ถงหมัวมัว เมื่อเห็นว่าถงหมัวมัวเดินขึ้นไปบนระเบียงทางเดินแล้วสาวใช้จึงรีบลดม่านลงตามเดิมเพราะกลัวว่ายุงหรือแมลงจะบินเข้าไปกัดคุณหนูของพวกนาง หากคุณหนูโดนกัดที่ใบหน้า พวกนางคงมีโทษแน่

ถงหมัวมัวถลกชายกระโปรงเดินเข้าไปด้านใน นางทำความเคารพคุณหนูทุกคน จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ ท่านหมอหงกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้รอพบคุณหนูใหญ่อยู่นอกเรือนเสาหวาเจ้าค่ะ ดูเหมือนท่านหมอหงมีเรื่องจะกล่าวกับคุณหนูใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ เยว่สือที่ส่งท่านหมอหงกลับมากำลังรอพบคุณหนูใหญ่อยู่ที่เรือนหน้าเช่นกันเจ้าค่ะ”

ท่านหมอหงกลับมาแล้วแสดงว่าอาการของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนคงดีขึ้นแล้ว ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งลายดอกไม้สีเหลืองขมิ้น ชุนเถารีบช่วยไป๋ชิงเหยียนใส่รองเท้า

“รบกวนหมัวมัวไปพาเยว่สือมายังศาลาเซียนเหรินด้วย ข้าจะไปพบเขาที่นั่น”

ไป๋ชิงเหยียนใส่รองเท้าเสร็จเรียบร้อยก็ลุกขึ้นมองไปทางน้องสาวทั้งสาม หญิงสาวจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองพลางกล่าวกับน้องสาวยิ้มๆ “เสี่ยวอู่ เสี่ยวลิ่ว พวกเจ้าอยู่เล่นกับเสี่ยวปาที่นี่นะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา”

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ พวกเราจะดูแลเสี่ยวปาให้ดีเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นเจากล่าวยิ้ม

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นประคองมือชุนเถาเดินออกไปจากเรือนเสาหวา สาวใช้แหวกม่านให้ไป๋ชิงเหยียนเดินออกไป ไป๋ชิงเหยียนเดินออกไปหาหมอหงกำลังโค้งกายทำความเคารพนางอยู่นอกเรือน

“ลำบากท่านหมอหงแล้ว”

หมอหงผอมลงกว่าเมื่อก่อนมาก เขาคงเหนื่อยกับการรักษาอาการประชวรของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนมาก

หมอหงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปด้านนอกพร้อมกับไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวขึ้น “ข้ามิเป็นอันใดขอรับ ทว่า อาการของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนไม่ค่อยสู้ดีนักขอรับ…”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าพลางเอ่ยถาม “แม้แต่ท่านหมอหงก็ช่วยไม่ได้อย่างนั้นหรือ…”

หมอหงพยักหน้า “พิษซึมเข้ากระดูกของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนแล้ว ตอนที่ข้ารักษาอาการให้พระองค์ ข้าเคยทูลพระองค์ไปแล้วว่าหากพักรักษาตัวดีๆ อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกสิบกว่าปี ทว่า ช่วงนี้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนไม่เพียงโหมงานหนัก พระองค์ยังถูกธนูยิงเข้าที่จุดสำคัญอีกด้วย ตอนนี้ต่อให้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนละทิ้งงานทุกอย่างและพักรักษาตัวอย่างเต็มที่ อย่างมากที่สุดก็เหลือเวลาอีกเพียงปีเดียวเท่านั้นขอรับ ทว่า แม้พระองค์จะได้รับบาดเจ็บหนักเช่นก็ยังไม่ยอมละทิ้งงานอยู่ดีขอรับ”

“แทนที่จะพักรักษาตัวอย่างเต็มที่ จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนคงอยากทุ่มเทเวลาที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้ต้าเยี่ยนมากกว่า” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบาหวิว

จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเป็นจักรพรรดิที่ดี น่าเสียดายที่แคว้นต้าจิ้น ตระกูลไป๋และกองทัพไป๋ไม่มีจักรพรรดิที่ดีเช่นนี้ หากตอนแรกตระกูลไป๋เจอจักรพรรดิที่ดีเช่นนี้ จักรพรรดิและขุนนางมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกนางต้องรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งได้แน่

หมอหงพยักหน้าเห็นด้วยกับคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน “จริงสิ เยว่สือกลับมาด้วยขอรับ เขาได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนให้มาเชิญคุณหนูใหญ่ไปพบขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนชะงักฝีเท้าลงทันที จากนั้นหันไปทางหมอหง “จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเสด็จมาด้วยอย่างนั้นหรือ”

“ขอรับ จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนทรงปลอมกายเป็นชาวบ้านธรรมดารอพบคุณหนูใหญ่อยู่ที่ริมทะเลสาบอิ๋งนอกเมืองซั่วหยางขอรับ”

“ข้าทราบแล้ว ท่านหมอหงเดินทางมาเหนื่อยๆ รีบกลับไปพักผ่อนเถิด เด็กอิ๋นซวงคิดถึงท่านหมอหงมาก สองวันก่อนยังมาถามข้าอยู่เลยว่าท่านไปที่ใด เหตุใดจึงไม่นำบ๊วยแสนอร่อยมาให้นางทานเสียที” เมื่อเอ่ยถึงอิ๋นซวงน้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

อิ๋นซวงไม่เพียงถามถึงหมอหงเท่านั้น นางยังถามถึงเสิ่นชิงจู๋ด้วย

ทว่า ตอนนี้ท่านอาจารย์ของเสิ่นชิงจู๋จำได้เพียงบางเรื่องเท่านั้น เขายังจดจำเรื่องในอดีตได้ไม่หมด อีกทั้งเป็นห่วงหลี่หมิงรุ่ยมาก เสิ่นชิงจู๋กลัวว่าเสิ่นไป่จ้งจะถูกหลี่หมิงรุ่ยหลอกใช้จึงอยู่ดูแลเขาที่เมืองหลวงต่อ

แววตาของหมอหงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เด็กตะกละเอาแต่คิดถึงเรื่องกิน!”

กล่าวจบหมอหงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน มองส่งไป๋ชิงเหยียนจากไปเสร็จ เขาจึงรีบกลับไปยังเรือนของตัวเอง

หากต้องเดินทางไปพบจักรพรรดิต้าเยี่ยนที่นอกเมืองซั่วหยาง การแต่งกายเป็นสตรีจะเป็นที่สะดุดตาเกินไป ไป๋ชิงเหยียนบอกกับคนภายนอกว่านางป่วยหนัก…คนนอกจึงคิดว่าไป๋ชิงเหยียนนอนพักรักษาตัวอยู่แต่บนเตียงเท่านั้น