บทที่ 782 ซูเสี่ยวชีคนโง่

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 782 ซูเสี่ยวชีคนโง่

บทที่ 782 ซูเสี่ยวชีคนโง่

ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบเดินซื้อของ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เพื่อเดินเล่นเป็นเพื่อนน้องสาว พวกเราอดทนได้เสมอ ถ้าน้องสาวเจออันไหนน่าสนใจ พวกเขาก็ชื่นชอบตามน้องไปด้วย

“น้องเล็ก ดูนี่สิ ชุดกระโปรงสีแดงตัวนี้สวยมากเลยเนอะ?” เสี่ยวชีบังเอิญเห็นชุดสีแดงที่แผงริมถนน เขารู้สึกว่ามันดูดีมากเลยเอ่ยขึ้น

เสี่ยวเถียนเดินไปตามเสียงเรียก สมกับเป็นรสนิยมผู้ชายจริง ๆ ชุดนี้มันเหมาะกับเธอจริงหรือ?คุณภาพด้อย ทั้งฝีมือและรูปแบบก็ไม่สวยเท่าไร เธอไม่ใช่เจ้าหญิงตัวน้อยผู้สูงส่งอีกแล้วนะ

เจ้าของแผงเห็นมีคนสนใจก็รีบขายของทันที

“พ่อหนุ่มตาถึงจริง ๆ น้องสาวเธอผิวขาว ใส่สีแดงแล้วขับผิวมากเลยนะ” ปริปากได้ก็พูดจาเรื่อยเปื่อยเป็นเรื่องเป็นราวทันที

“จริงครับ ชุดนี้เหมาะกับน้องเล็กจริง ๆ!”

เสี่ยวชีเหมือนจะไม่รู้ว่าโดนหลอก คิดว่าตัวเองตาถึงจริง ๆ ท่าทางของเขาจึงมีความภูมิใจเล็กน้อย

เสี่ยวเถียนพูดไม่ออก

พี่เจ็ดเป็นคนเคยขายของแท้ ๆ ทำไมถึงไม่เข้าใจวิธีการแบบนี้เล่า?

“สาวน้อย กระโปรงตัวนี้ฉันซื้อมาจากหรงเฉิงเลยนะ ไม่อยากจะโม้แต่ตัวนี้ราคา 85 หยวน เป็นสินค้าชั้นนำเลย ถ้าสาวน้อยใส่ต้องมีหน้ามีตากับเขาแน่! เพื่อน ๆ ต้องอิจฉาแน่นอน!”

เสี่ยวเถียนขอบอกเลยว่าเถ้าแก่คนนี้พูดจาไร้สาระเก่งมาก

พอเห็นว่าเด็กกลุ่มนี้อายุยังน้อย ไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแลจึงเข้าทางเขาเลย ทั้งยังเป็นลูกค้าที่แต่งตัวราวกับมาจากครอบครัวร่ำรวย ในมือถือของดี ๆ อยู่มากมาย ดูท่าแล้วพวกเขาคงจะมีฐานะไม่น้อย

นี่เลยเป็นเหตุผลที่เขาพยายามขายของเป็นอย่างมาก เพื่อจัดการลูกค้ากลุ่มนี้ให้อยู่หมัด แต่สิ่งที่เถ้าแก่คนนี้ไม่รู้คือ หากเป็นเพียงเด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวธรรมดา สมองพวกเขาก็คงโง่เขลาจริง ๆ

แต่เสี่ยวเถียนไม่ใช่หนึ่งในนั้น ทีแรกเธอจะผละตัวออกไปแล้ว ไม่ว่าจะขายยังไง ถ้าเธอไม่อยากได้มันก็ช่วยไม่ได้อยู่แล้ว ทว่าพี่เจ็ดรั้นจะซื้อให้ได้เลย

เด็กสาวตบหน้าผากอย่างหมดหนทาง แต่การพาเด็กซนออกมามันยากยิ่งกว่า! พี่เจ็ดคิดจะทำอะไรน่ะ? ส่งตัวเองไปให้โจรหลอกหรือ?

“พี่เจ็ด หนูมีกระโปรงเยอะแล้ว” เสี่ยวเถียนพูดได้แค่นั้น

แต่เสี่ยวชีกลับคิดว่าตนไม่ค่อยได้ซื้อกระโปรงให้น้องเท่าไหร่จึงนึกเสียใจ และยืนกรานจะซื้อให้ได้

เสี่ยวลิ่วมองน้องชาย เขานึกเสียสติอะไรขึ้นมาเนี่ย? เสื้อผ้าสวย ๆ ในหรงฟาตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่ไปดูล่ะ? แถมเสื้อผ้าที่ป้าเถาฮวาทำยังดีกว่าอีก

“พ่อหนุ่มสายตาหลักแหลมจริง ๆ แบบนี้แล้วกัน เดรสตัวนี้จริง ๆ แล้วราคา 85 หยวน ฉันขายเธอ 95 หยวนแล้วกันอีก 10 หยวนคิดเป็นค่าเดินทางและความลำบากของฉันน่ะ”

ไม่รู้อะไรดลใจเสี่ยวชี เขาไม่คิดจะต่อรองราคาเลยสักนิด แต่โชคดีที่เขาไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น

“พี่หก พี่ให้ผมยืมเงินก่อนได้ไหม ผมเอามาแค่ 10 หยวนเอง” ถ้ารู้ก่อนคงเอาเงินมาเยอะกว่านี้แล้วแน่นอน แต่วันนี้ดันเอาเงินมาน้อยเนี่ยสิ

เสี่ยวเถียนโล่งใจ ไม่ได้เอาเงินมาก็ดีแล้ว

เจ้าพี่โง่คิดจะใช้เงิน 95 หยวนเพื่อซื้อกระโปรงตัวละ 5 หยวนเนี่ยนะ

เสี่ยวเถียนมองพี่หก

เสี่ยวลิ่วเองก็ทำอะไรไม่ถูก ทำไมน้องคนนี้มันโง่นัก?

ไม่สิ เขาโง่มาตลอดเลย

เมื่อก่อนที่ไปเร่ขายของอยู่บ่อย ๆ พวกเราไม่กล้าปล่อยเสี่ยวชีไปตั้งแผงคนเดียวเลย ไม่งั้นได้หมดตัวแน่

แต่ไม่คิดเลยว่าการมาเดินถนนคนเดินกลับทำให้เขาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเช่นนี้

“พี่ว่านะเสี่ยวชี เงินก็ไม่เอามาแล้วยังกล้าจะซื้อเสื้อผ้าอีก” เสี่ยวลิ่วมองด้วยสายตาตำหนิ

เสี่ยวชีเขินมาก

“พี่หก ผมยืมก่อนเดี๋ยวกลับถึงบ้านค่อยคืนไง!”

เจ้าของร้านเป็นชายหนุ่ม พอได้ยินเสี่ยวชีมีเงินในมือแค่สิบหยวนพลันคิดทันทีว่าตนกำลังจะล้มเหลวในการทำธุรกิจแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์พลิกผัน มีคนรวยอยู่ในกลุ่มด้วย

“พ่อหนุ่มดูนี่สิ เสื้อผ้าสวย ๆ แบบนี้จะไปหาจากไหนในถนนสายนี้ล่ะ แถมตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยฉันยังไม่ได้เปิดร้านด้วย ไม่งั้นก็คงให้ราคานี้ไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ?”

เถ้าแก่หลอกล่อเสี่ยวลิ่ว ใครก็ตามที่มีเงินก็คือป๋าทั้งนั้นล่ะ

เสี่ยวลิ่วไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าจะซื้อ แต่ก้าวออกไปหยิบตัวที่เสี่ยวชีชอบและมองอย่างจริงจัง

“เนื้อผ้าก็ด้อยกว่า ยังไม่ต้องพูดถึงฝีมือในการเย็บนะ ผ้าหยาบยิ่งกว่าอวนจีบปลา ถ้าเดาไม่ผิดใส่สามวันด้ายก็รุ่ยแล้ว”

“ถึงสีจะสด แต่แช่น้ำไปสักพักสีก็ตกแล้ว เผลอ ๆ ใส่แล้วสีเปื้อนตัวอีกต่างหาก”

“ฝีมือแบบนี้ไม่อยากจะพูดอะไรสักนิด รอยเย็บที่ย่าทำสวยกว่านี้เยอะ”

“กอปรกับใช้วัตถุดิบที่นิยมทั่วไปอีก อยากรู้จริง ๆ ว่าใครมันทำ”

คำพูดของเสี่ยวลิ่วส่งผลให้สีหน้าเถ้าแก่ย่ำแย่ขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่เห็นจำนวนคอของอีกฝ่ายก็อยากจะทุบอีกฝ่ายสักทีสองที ตกลงพวกเขามาซื้อเสื้อผ้าหรือมาสร้างความวุ่นวายกันแน่?

“ไอ้หนุ่ม พูดจาแบบนี้ได้ยังไง? ฉันทำมาค้าขายไม่ได้นะ ทั้ง ๆ ที่เสื้อผ้าฉันดีขนาดนี้!”

“เถ้าแก่ คุณไม่เคยได้ยินประโยคที่ว่า ลูกค้าที่ไม่ชอบสินค้าคือคนที่ซื้อจริง ๆ น่ะ?”

เสี่ยวลิ่วเอ่ยเบา ๆ แต่อีกฝ่ายได้ยินเต็มสองหู

เถ้าแก่ร้านครุ่นคิด ถึงเด็กคนนี้จะพูดจาไม่ดีแต่ก็มีเหตุผล ถึงจะไม่ชอบใจแต่ก็อยากต่อรองสักนิด เอาเถอะ ต้นทุนไม่ได้แพง เราอาจต่อรองกันได้

“หนุ่ม ฉันเข้าใจที่เธอพูดนะ แต่ถ้าจะต่อรองราคาก็ไม่ควรพูดจาแย่แบบนั้นหรือเปล่า? ฉันเห็นพวกเธอเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ฉันยอมขูดเลือดขูดเนื้อลดราคาให้เลยนะ” เถ้าแก่พูดด้วยความไม่เต็มใจ

เสี่ยวเถียนเริ่มสนใจกับท่าทางเจ้าของร้าน เลยเกิดความรู้สึกอยากเจรจาขึ้นมา ถ้าชุดแบบนี้กล้าขอราคา 95 หยวนก็ถือว่ามีความสามารถนะ ไหน ๆ เธอก็ว่างอยู่พอดี ถือว่าฝึกฝนแล้วกัน ให้พี่เจ็ดได้รู้ว่าการต่อรองราคามันเป็นยังไง

เพื่อที่จะได้ก้าวเข้าสู่สังคมได้อย่างไม่เสียเปรียบใคร!

“เถ้าแก่ ชุดกระโปรงคุณสวยจริง ๆ ค่ะ ถ้าขายถูกกว่านี้หนูซื้อนะ!” เสี่ยวเถียนยิ้ม