บทที่ 847 ความลับความสัมพันธ์

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 847 ความลับความสัมพันธ์

เมื่อเห็นฉู่ชูเหยียน ซูอันอยากจะกางแขนออกกว้างเดินเข้าไปหาฉู่ชูเหยียนและพูดว่า ‘ไม่เลย ๆ เจ้ามาในเวลาที่เหมาะสม’

แต่หลังจากคิดทบทวนอีกรอบ เขาตัดสินใจไม่ทำแบบนั้นจะดีกว่าเพราะเขายังไม่อยากตายในตอนนี้!

เพ่ยเหมียนหมานรู้สึกหดหู่ ฉู่ชูเหยียนหย่ากับซูอันแล้ว แต่ทำไมนางถึงยังรู้สึกผิดอยู่?

นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉู่ชูเหยียนเดินมาหาพวกเขา ทำให้นางยิ่งหมดความมั่นใจ

เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของนางแดงแค่ไหน ซูอันก็ตระหนักว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะแอบซ่อน “ข้า…”

ก่อนที่เขาจะอธิบายตัวเองได้ จมูกของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอม ฉู่ชูเหยียนได้โผเข้ามาในอ้อมแขนของเขาแล้ว

ซูอันตกตะลึง ฉู่ชูเหยียนมักจะเย็นชาและดูไร้ความรู้สึกเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเพราะนางบ่มเพาะกระบี่เกล็ดหิมะหรือเป็นนิสัยโดยธรรมชาติของนาง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางมีอารมณ์อย่างอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย

“อาซู ข้ามีความสุขดีตราบใดที่พวกเจ้าไม่เป็นอะไร” ร่างกายของฉู่ชูเหยียนสั่นเล็กน้อย นางกอดเขาแน่นราวกับกลัวว่าเขาอาจจะหายไปได้ทุกเมื่อ

ซูอันรู้สึกถึงความอ่อนโยน เขากอดนางแน่นเพื่อเป็นการตอบแทน

ทั้งสองคนเพิ่งสนิทสนมกลมเกลียวสมเป็นคู่สามีภรรยาที่แท้จริง เหตุร้ายที่เกิดกับตระกูลบังคับให้พวกเขาต้องแยกจากกันเป็นเวลานาน และเพิ่งกลับมาเจอกันอีกครั้ง

พวกเขากอดกันราวกับว่าไม่มีใครอื่นอยู่ด้วย ทหารที่อยู่รายรอบทั้งหมดมองดูเงียบ ๆ แต่ละคนรู้สึกอยากจะร้องไห้

ทหารเหล่านี้หลงรักฉู่ชูเหยียนอย่างหมดหัวใจหลังจากเดินทางร่วมกับนาง

แม้พวกเขาจะรู้ว่านางเคยแต่งงานมาก่อน แต่คนสวยถึงเพียงนี้ถึงจะมีลูกติดสักคนพวกเขาก็ไม่สนใจ

นอกจากนี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปว่างานแต่งงานได้เป็นโมฆะไปแล้ว และฉู่ชูเหยียนก็โสดอีกครั้ง

แม้จะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ห่างไกลจากพวกเขา แต่สัญชาตญาณของผู้ชายยังคงทำให้พวกเขายังคงร่ำร้องหานางเกือบตลอดการเดินทาง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ซูอันหายตัวไป หลายคนพูดปลอบใจนางแต่จริง ๆ แล้วพวกเขาแอบดีใจอยู่ภายใน

ไม่มีใครคาดหวังให้ชายคนนี้กลับมา!

ถึงกระนั้นต่อให้ซูอันจะกลับมามันก็มีผลเพียงเล็กน้อย เพราะจักรพรรดิได้สั่งจับกุมเขาแล้ว ดังนั้นอนาคตของซูอันจึงไม่พ้นความตายอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ทุกคนได้เห็นเขาพลอดรักกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และแม่นางฉู่ยังได้เห็นกับตาของตัวเองอีกด้วย

ฮึ่ม! แม่นางฉู่เห็นแล้วว่าชายคนนี้เป็นเสือผู้หญิงและจะไม่สนใจเขาอีกต่อไป ในที่สุดเราก็มีโอกาส!

เดี๋ยวนะ…เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมันไม่เป็นไปอย่างที่คิดล่ะ?

อย่างน้อยเจ้าควรจะตบหน้าเขาสองสามครั้งใช่ไหม?

หรืออาจจะสอนบทเรียนให้ผู้หญิงคนนั้น!

เดี๋ยวนะ ผู้หญิงอีกคนทำไมถึงสวยขนาดนั้น?? นี่นางไม่ได้ดูด้อยกว่าแม่นางฉู่เลยนี่นา…โดยเฉพาะหน้าอกอันใหญ่โตของนาง…

เอ่อ…ข้าว่าเราไม่สามารถตำหนิซูอันที่หวั่นไหวไปกับผู้หญิงอีกคนได้…

อารมณ์ของซูอันดีขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามา คนเหล่านี้ต้อนรับเขาดีจริง ๆ!

จูเซี่ยฉือซินกระแอมอีกครั้ง เขารู้สึกไม่สบายใจเท่าไรนักกับการต้องมารับชมความรักหวานชื่นของคู่หนุ่มสาวในเวลานี้ “แม่ชียุงอยู่ที่ไหน?”

ฉู่ชูเหยียนรีบเอ่ยคำพูดผ่านกระแสพลังชี่ให้ซูอัน “เมื่อเราได้ยินว่าพวกเจ้าถูกแม่ชียุงไล่ เราพยายามตามหาเจ้าให้เร็วที่สุด แต่พวกเรามาช้าเกินไป และเห็นนางหายตัวไปในมิติลับพร้อมกับเจ้าสองคน เราไม่สามารถเข้าไปในมิติลับได้ และทำได้เพียงรอข้างนอกเท่านั้น เรารีบมาทันทีหลังจากสัมผัสได้ถึงการปะทุของพลังชี่ตรงนี้”

ซูอันมองนางด้วยความขอบคุณ จากนั้นเขาก็พูดกับจูเซี่ยฉือซินว่า “แม่ชียุงหายไปแล้ว”

“หนีไป? นางไม่ได้ตามล่าเจ้าอยู่หรอกเหรอ?” จูเซี่ยฉือซินยังคงสงสัยอย่างชัดเจน “แล้วเหตุใดจึงมีร่องรอยการต่อสู้อยู่รอบตัวเรา”

แน่นอนว่าซูอันไม่ต้องการเปิดเผยไพ่เด็ดของเขา เพ่ยเหมียนหมานรีบพูด “ผู้บ่มเพาะลึกลับสองคนจัดการกับแม่ชียุง พวกเขาออกไปก่อนที่ท่านจะมาถึง”

“ผู้บ่มเพาะลึกลับ?” จูเซี่ยฉือซินมองไปรอบ ๆ ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งควรเป็นผู้บ่มเพาะธาตุโลหะที่ใช้กระบี่ ในขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะธาตุน้ำแข็ง “พวกเขาเป็นใคร? ทำไมพวกเขาถึงช่วยชีวิตเจ้า?”

เพ่ยเหมียนหมานส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้ เราไม่มีเวลาถามอะไรพวกเขาเลย”

นางแอบให้สัญญาณซูอันขณะพูด แผนคือการทำให้น้ำขุ่นต่อไปและปล่อยให้อีกฝ่ายเดาตัวตนของผู้บ่มเพาะลึกลับสองคนนั้น

แน่นอนว่าจูเซี่ยฉือซินตกอยู่ในห้วงความคิด ความเป็นไปได้มากมายปรากฏขึ้นในสมองของเขา หลังจากตัดตัวเลือกไปหลายอย่าง แต่เขาก็ยังคิดไม่ออก

“เราจะพานักโทษกลับไปที่เมืองหลวงก่อน” จูเซี่ยฉือซินกล่าวว่าเขาจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยใช้เครือข่ายข้อมูลของทูตยุทธ์เสื้อแพร

ซูอันไม่ได้ตั้งใจจะหนีตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงยอมร่วมมือ

ฉู่ชูเหยียนเดินไปหาเพ่ยเหมียนหมานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหมียนหมาน มีอะไรที่เจ้าควรบอกข้าหรือไม่?”

เพ่ยเหมียนหมานตื่นตระหนก ในท้ายที่สุด นางตัดสินใจที่จะเปิดเผยทุกอย่าง “ชูเหยียน อาซูและข้าได้กลายเป็นสามีภรรยากันในมิติลับแล้ว”

ฉู่ชูเหยียนและซูอันได้หย่าร้างกันไปแล้ว นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ด้วยวิธีนี้ นางจะได้ไม่ต้องหลบเลี่ยงผู้หญิงคนนี้โดยไม่รู้ตัว

“สามีภรรยา?” ฉู่ชูเหยียนมองนาง “แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้ายังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่”

เพ่ยเหมียนหมานตกตะลึง

ตอนนี้นางรู้แล้วว่าถึงแม้พวกเขาจะใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยากันหลายชั่วอายุคน แต่เป็นเพียงแค่ทางจิตวิญญาณเท่านั้น ในโลกแห่งความจริงนางยังคงเป็นสาวพรหมจรรย์!

ใบหน้าของเพ่ยเหมียนหมานแดงก่ำทันที นางทั้งอับอายและขุ่นเคือง คนบ้านั่นจะเอาความบริสุทธิ์ของข้าไปทั้งสามชั่วชีวิต!

ฉู่ชูเหยียนคิดว่าเพ่ยเหมียนหมานอาย นางถอนหายใจและพูดว่า “เหมียนหมาน ข้ามีเพื่อนไม่มากนัก เจ้าคือเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า”

ใบหน้าของเพ่ยเหมียนหมานร้อนขึ้น “ข้าเสียใจ”

นางบอกตัวเองว่าทั้งสองคนหย่ากันแล้ว ไม่มีอะไรหลงเหลือระหว่างซูอันและชูเหยียน แต่นางรู้ว่าไม่สามารถหลอกตัวเองได้

ท้ายที่สุดแล้ว การหย่าร้างนั้นเกิดจากถูกสถานการณ์บีบบังคับและตัวนางเองได้เข้ามาพัวพันกับซูอันก่อนที่จะมีการหย่าร้างเกิดขึ้นเสียอีก

ฉู่ชูเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อนางสังเกตเห็นเพ่ยเหมียนหมานหน้าแดงราวกับเพิ่งแต่งงานใหม่ “คิดว่าข้าโกรธเจ้าเหรอ?”

“เดี๋ยวนะ นี่เจ้าไม่โกรธเหรอ?” เพ่ยเหมียนหมานตะลึงกับน้ำเสียงของชูเหยียน

“ถ้าสิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามปกติแน่นอนว่าข้าคงโกรธ” ฉู่ชูเหยียนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ “แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอาซูในตอนนี้? เราอยู่ท่ามกลางวิกฤต แต่เจ้าก็ยังเต็มใจที่จะอยู่กับเขา นี่แสดงว่าเจ้ารักเขาจริง ๆ ข้าจะตำหนิเจ้าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

เพ่ยเหมียนหมานนิ่งเงียบอย่างกังวล คู่กรณีของซูอันแข็งแกร่งเกินไปในครั้งนี้และดูเหมือนจะไม่มีความหวังใด ๆ “เขายืนกรานที่จะไปเมืองหลวงเสมอ เขาบอกว่าเมื่อไปถึงที่นั่น เขาสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้”

“เขาพูดอย่างนั้นจริงเหรอ?” ฉู่ชูเหยียนตกตะลึง “พูดตามตรง ข้าคาดหวังให้เจ้าสองคนซ่อนตัวหลังออกจากมิติลับ น่าเสียดายที่จูเซี่ยฉือซินพบพวกเจ้าเข้าเสียก่อน”

เพ่ยเหมียนหมานกัดริมฝีปาก นางเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเช่นกัน “ข้าบอกให้เขาหนี แต่เขาไม่ต้องการทิ้งเจ้าไว้เบื้องหลัง”

ฉู่ชูเหยียนตกตะลึง นางมองไปที่ซูอันและดูเหมือนว่านางจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง