War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2137
ตอนที่ 2,137 : ทางเข้าปิดตัว!
ฟืด!
พอได้ฟังคำยืนยันจากปากผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าดังเฮือก ใบหน้าฉายชัดถึงความประหลาดใจ!
เดิมทีเขาคิดว่า ระนาบเทียมแห่งนี้เป็นคลังสมบัติที่เหลือทิ้งไว้โดยยอดคนเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ก็ยอดเยี่ยมแล้ว!
เพราะแค่นี้ก็มากพอให้เขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทั้งกระหาย!
ทว่าตอนนี้ผู้เฒ่ากลับบอกเขาว่า…
ผู้ที่สร้างระนาบเทียมแห่งนี้…กลับไม่ใช่ยอดคนเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์แค่คนเดียว…แต่เป็นยอดคนระดับนั้นถึง 3 คน!
ระนาบเทียมแห่งนี้กลับเป็นอะไรที่ทั้ง 3 ยอดคนร่วมมือกัน!!
‘ระนาบเทียมที่ถูก 3 เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปแล้วร่วมมือกันสร้างขึ้นงั้นเหรอ…ถ้างั้นก็คงไม่ธรรมดาเหมือนคลังสมบัติของคนๆเดียวแน่!’
พอคิดถึงจุดนี้ลมหายใจของต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ถี่จะถี่รัวขึ้นมา
จังหวะนี้ไม่ให้เขาตื่นเต้นก็คงไม่ได้!
เพราะสุดท้ายแล้วสถานที่ๆเขาอยู่ตอนนี้ ก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนคลังสมบัติของเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนแค่คนเดียว! และยังไม่ธรรมดาเหมือนคลังสมบัติของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์แค่คนเดียว…!
แต่มันคือคลังสมบัติที่เหลือทิ้งไว้โดยเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ถึง 3 คน!!
‘ในเมื่อทั้ง 3 คนนั่นร่วมมือกันสร้างระนาบเทียมนี่ ก็มากพอจะชี้ให้เห็นว่าทั้ง 3 สมควรมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน…อีกทั้งการที่พวกมันลงทุนทำถึงขนาดนี้ ไม่พ้นเพราะคิดเหลือมรดกวิชา เวทย์พลัง กระทั่งสมบัติล้ำค่าที่สะสมมาชั่วชีวิตแต่ไม่อาจนำขึ้นไปในแดนสวรรค์ไว้ให้ผู้มีวาสนามาพบแน่!’
‘บางทีในสายตาทั้ง 3…สิ่งของที่พวกมันเหลือไว้คงเป็นได้แค่ของไร้ค่าที่ไม่อาจเอาติดตัวไปได้ แต่สำหรับคนที่ยังไม่บรรลุถึงขั้นนั้น ขอเพียงเป็นสมบัติดีๆสักชิ้นของพวกมัน…เกรงว่าหากไปโผล่ในระนาบโลกียะปกติ คงเป็นของหายากแน่!!’
พอนึกถึงจุดนี้อารมณ์ต้วนหลิงเทียนที่สงบลงบ้างก่อนหน้าก็ปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง
กระทั่งการทดสอบหลังจากนั้นอีกหลายด่าน ต้วนหลิงเทียนยังยากจะสงบอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาลงได้ ยังเผลอสู้ไปทั้งใจลอยอยู่หลายครั้ง!
โชคดีที่บททดสอบที่เกิดขึ้นไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถของเขา
“ยิ่งมายิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ…หากยังไม่จบลงง่ายๆ เกรงว่าการทดสอบหลังจากนี้น่ากลัวจะยิ่งยากจนไม่อาจผ่านได้แน่ แล้วนี่มันจะจบเมื่อไหร่กัน!?”
หลังผ่านบททดสอบได้อีกด่าน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่กล้าใจลอยสืบไป ตอนนี้เขาเริ่มจริงจังขึ้นมาบ้างแล้ว
ตั้งแต่ที่เข้ามาจนถึงตอนนี้เขาเองก็จำไม่ได้แล้วว่าเผชิญหน้ากับบททดสอบมากี่ด่าน
และตั้งแต่ที่วูบร่างเข้ามาในระนาบเทียมแห่งนี้ ศัตรูอันเป็นบททดสอบทั้งหมดก็ผุดโผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหันไม่หยุดหย่อน ยากที่เขาจะหลีกเลี่ยงอะไร ทำได้แค่เผชิญหน้ากับพวกมันมาตลอด
ตอนแรกก็ง่ายเสียจนไม่อยู่ในสายตา แต่ยิ่งมาก็ยิ่งหนักแรงขึ้นเรื่อยๆ!
จนมาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกว่าตึงๆบ้างแล้ว ไม่อาจลงมือสบายๆได้อีกต่อไป!
แน่นอนว่าสาเหตุที่เขารู้สึกตึงมืออยู่บ้าง เพราะเขาเพียงลงมืออย่างเรียบง่าย ไม่ได้ใช้ทักษะทั้งหมดที่มีเพียงลงมือเท่าที่จำเป็นเพื่อสงวนพลัง และฟื้นพลังที่พร่องไปก่อนหน้า…
“มาต่อ!”
ความว่างเริ่มสะท้านสะเทือนอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่าบททดสอบครั้งต่อไปกำลังจะมาถึงแล้ว และครู่ต่อมาก็ปรากฏสัตว์ร้ายตัวเขื่องจากความว่างเปล่านับสิบๆ!
เห็นฉากนี้สองตาต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหดหยีลง ทีท่าเปลี่ยนเป็นขึงขังแววตาจริงจังเอาเรื่อง
ตอนนี้เขาไม่กล้าคิดอะไรฟุ้งซ่านหรือใจลอยอีก
กับสัตว์ร้ายพวกนี้ หากประมาทเพียงครั้ง ไม่พ้นถูกกำจัดแน่!
สำหรับความเป็นไปคร่าวๆในระนาบเทียมแห่งนี้ผู้เฒ่าหั่วก็ได้เตือนเขาไว้แล้ว ยังกล่าวถึงผลที่จะตามมาหลังพ่ายแพ้…เขาจะถูกระนาบเทียมนี่ขับออกไปทันที!
และเมื่อถูกขับออกไปแล้ว ก็จะไม่สามารถย้อนกลับเข้ามาได้อีก!
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็หมายความว่าเขาจะชวดสมบัติทั้งหลายในนี้…สมบัติที่ยอดคนเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนผู้ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ทั้ง 3 เหลือไว้!!
แค่คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกปวดตับอย่างแรง
เช่นนั้นเมื่อศัตรูเริ่มเอาเรื่อง เขาย่อมไม่กล้าประมาทอะไรอีกต่อไป ยังจริงจังถึงที่สุด
ฮู่ม! ฮู่ม! ฮู่ม! ฮู่ม! ฮู่ม!
…
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่สัตว์ร้ายตัวเขื่องนับสิบปรากฏตัว พวกมันก็คำรามเสียงดังอย่างดุรร้าย มวลพลังมหาศาลปะทุเร่งเร้าขึ้นมาทั่วร่างอย่างน่ากลัว! ดั่งกองไฟนับสิบลุกโชนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง!!
บรรยากาศถึงกับสั่นสะเทือน สายลมแรงพัดสาดออกมาปานคมมีด ต้วนหลิงเทียนเองก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วด้วยเพราะสัมผัสได้ว่า…สัตว์ร้ายของบททดสอบรอบนี้ มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร พวกอ้าปากควบแน่นบอลพลังเตรียมยิงใส่เขาทันที!!
“ปราการเต่าทมิฬ!!”
ต้วนหลิงเทียนไม่กล้ารอช้า พลังเซียนสุริยันปะทุออกฉับไว ใช้ออกด้วยเวทย์พลังสายป้องกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เข้ามาในระนาบเทียมแห่งนี้!
และเวทย์พลังป้องกันที่เขาใช้ ก็คือเวทย์พลังสายป้องกันที่ได้ชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดของลัทธิบูชาไฟ…ปราการเต่าทมิฒ!
ทันทีที่เวทย์พลังสำแดงเดช ก็ปรากฏมวลพลังขุมใหญ่ ค่อยๆก่อลักษณ์มหึมาดั่งสัตว์ร้ายในยุคบรรพกาล ห่อหุ้มคลุมครอบร่างต้วนหลิงเทียนเอาไว้อย่างมิดชิด!
หากคิดทำร้ายต้วนหลิงเทียน ก็ต้องฝ่าการป้องกันของสัตว์ร้ายตัวเขื่องนี่ให้ได้เสียก่อน!
“ฮู่มมมม!!”
“ซู่มมมม!!”
…
เสียงคำรามสนั่นดังขึ้นอีกครา ร่างสัตว์ร้ายทั้ง 10 ที่ควบแน่นพลังมหาศาลไม่รอช้าอะไร พวกมันโจนทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน พร้อมยิงบอลพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ควบแน่นไว้ออกมาอย่างพร้อมเพรียง!!
บอลพลังแต่ละลูกอัดแน่นไว้ด้วยขุมพลังอันน่าสะพรึงกลัว บรรยากาศยังถึงกับบิดเบี้ยว ก้อรพลังสังหารพุ่งแหวกอากาศมาอย่างแรงจนก่อให้เกิดการแตกออกของอากาศเสียงดัง! สายลมแรงดั่งมหาพายุกวาดสะท้านออกไปโดยรอบทันที!!
ด้วยมีก้อนพลังทำลายล้างนับสิบ คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นพาลให้โลกทั้งใบเสมือนถูกเขย่า! อากาศสะท้านสะเทือนราวกับจะพังทลายลงได้ทุกเวลา!!
อีกทั้งเมื่อบอลพลังนับสิบพุ่งเข้ามาได้พักหนึ่ง พวกมันกลับควบรวมผสานเข้าด้วยกันเป็นมวลพลังก้อนมหึมา! โลกหล้าคลายมืดลง ก้อนพลังดั่งเมฆดำปิดฟ้าโถมมาเตรียมกลืนร่างต้วนหลิงเทียน!!
ต้วนหลิงเทียนหยีตาลง ทัวร่างปรากฏแสงพลังสว่างไสวดั่งดวงตะวัน เงาร่างเต่าทมิฬตัวเขื่องทอประกายสว่างจ้า! เร่งเร้าพลังเตรียมรับการปะทะ!!
ทันใดนั้น
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นปานฟ้าถล่ม เงาร่างเต่าทมิฬถึงกับบิดเบี้ยวกระเพื่อมไปอย่างแรง แลคล้ายเรือที่โอนเอียงยามเผชิญคลื่นสมุทรโหมกระหน่ำเจียนอัปปางโย้ไปเย้มา!
ยิ่งมาม่านพลังลักษณ์เต่าทมิฬก็บิดๆเบี้ยวจนแทบไม่อาจคงตัวได้ไหว! พวกมันคล้ายจะแตกสลายลงได้ทุกเวลา กลิ่นอายพลังเริ่มแผ่วลง สภาวะพลังคล้ายศรที่ยิงไปสุดสาย!!
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เต่าทมิฬกำลังจะสิ้นท่าดั่งเรืออัปปาง มวลพลังมหาศาลของสัตว์ร้ายนับสิบก็สิ้นพลังอำนาจลงแล้วเช่นกัน!!
“โอ…หยุดได้จริงๆ!”
เห็นฉากนี้ต้วนหลิงเทียนที่เตรียมพร้อมลงมือเพิ่มเติมก็อดไม่ได้ที่จะตาลุกวาวขึ้นมา “สมแล้วที่ถูกเรียกว่าเวทย์พลังป้องกันอันดับ 1 ของลัทธิบูชาไฟ แม้จะพึ่งสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้นแต่กลับให้พลังป้องกันที่แข็งแกร่งขนาดนี้…”
เมื่อคิดอย่างยินดีจบ เงาพลังลักษณ์เต่าทมิฬที่ดั่งศรสุดสายก็เริ่มจางหายไปช้าๆ ก่อนที่จะอันตรธานหายไปไม่มีเหลือ ราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
ขวับ
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ยกมือขึ้นเบาๆ กระบี่พันอาคมเซียนพลันผุดโผล่จากความว่างเข้ามือ
และทันทีที่เขาคลายมือที่ถือกระบี่พันอาคมเซียน ก็คล้ายมีพลังอำนาจที่มองไม่เห็นขุมหนึ่งชักนำกระบี่ให้พุ่งไปทะลวงสังหารสัตว์ร้ายตัวเขื่องที่โถมเข้ามานับสิบทันที!
เป็นต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ ขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่…
ขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ เคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจนี้ ดั่งจะบรรลุจุดสูงสุดของวิชาควบคุมกระบี่บิน เพียงใจคิดกระบี่จี้ถึง! เรียกว่าเพียงต้วนหลิงเทียนคิดจะทะลวงร่างสัตว์ร้ายตัวเขื่อง กระบี่ก็บินไปทะลวงสังหารพวกมันด้วยความเร็วสูงสุดเรียบร้อย!!
“ตอนนี้พลังจากเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจขอบเขตที่ 3 ของใจกระบี่…ต่อให้เป็นวรยุทธ์เซียนสายกระบี่ระดับนภาโดดเด่นที่ร้ายกาจที่สุดในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าก็สู้ไม่ได้!”
ต้วนหลิงเทียนมั่นใจในเรื่องนี้นัก
ฟั่ฟฟฟ!!
และตอนนี้เองเสียงหอนของกระบี่แหวกกรีดอากาศก็พึ่งดังขึ้น ทว่ากระบี่ในมือต้วนหลิงเทียนนั้น ได้พุ่งไปแทงร่างสัตว์ร้ายตัวเขื่องนับสิบและตีวงโค้งยอดกลับมาเข้ามือเรียบร้อยแล้ว…
หลังจากนั้นร่างสัตว์ร้ายตัวเขื่องนับสิบก็สลายหายไปดั่งอากาศธาตุ…
ไม่เพียงบ่งบอกว่าพวกมันตายตก ยังหมายความว่าต้วนหลิงเทียนผ่านการทดสอบด่านนี้เรียบร้อย
“มันปิดแล้ว…”
ทว่าตอนนี้เองเสียงของผู้เฒ่าหั่วพลันดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียนพอดี พอรู้สึกตัวก็ส่งเสียงถามกลับไปด้วยสงสัย “มันปิดแล้ว? อะไรปิดหรือผู้เฒ่าหั่ว?”
“ทางเข้าของระนาบเทียมแห่งนี้…รอยแยกนั่น มันปิดแล้ว”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวตอบ
“หืม? ทางเข้าระนาบเทียมปิดแล้ว?”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอแสงสว่างเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง “ผู้เฒ่าหั่วท่านหมายความว่า…หลังจากนี้จะไม่มีใครเข้ามาในระนาบเทียมแห่งนี้ได้อีก?”
“เป็นเช่นนั้น”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวตอบ
หลังได้รับคำยืนยันจากผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมาทันที
ทางเข้าปิดตัวลงแบบนี้ หมายความว่าจะไม่มีหน้าใหม่เข้ามาแข่งขันอะไรกับเขาได้อีก เสมือนไม่มีคู่แข่งที่คิดแย่งส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น!
สำหรับเขานี่นับว่าเป็นเรื่องดีที่เกี่ยวพันถึงผลกำไร และไม่มีข้อเสียใดๆ
“แต่อย่างไรข้าก็เข้ามาตั้งนานกว่าทางเข้านั่นจะปิด ท่าทางคนของนครแห่งบาปจะเข้ามากันหมดแล้ว เผลอๆคนของลัทธิอารามทมิฬกับขุมพลังใกล้นครแห่งบาปก็น่าจะเข้ามาแล้วเช่นกัน เพราะยังไงพวกมันก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก…ส่วนขุมพลังอื่นๆที่อยู่ห่างจากนครแห่งบาป ก็คงมีแต่สุดยอดฝีมือที่มาทัน…”
คิดถึงเรื่องนี้ คิ้วต้วนหลิงเทียนเพียงขมวดยู่ย่นเล็กน้อย แต่ไม่นานก็คลายลง
ครู่ต่อมาก็ปรากฏสายลมแรงหนึ่งพัดปะทะร่างต้วนหลิงเทียน…สัตว์ร้ายชุดใหม่ที่พลังเข้มแข็งกว่า และจำนวนมากกว่าเดิมก็ปรากฏตัวขึ้น
….
ในขณะเดียวกัน บริเวณด้านนอกเหล่าผู้ที่ถูกขับออกมาเพราะไม่อาจผ่านบดทดสอบ รวมถึงผู้ที่ยังคงรออะไรบางอย่าง ก็จำต้องอึ้ง เพราะอยู่ดีๆรอยแยกกลางหาวนั่นก็หุบลงปิดตัว! อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา!!
“ทะ…ทางเข้าหายไปแล้ว!!”
จังหวะนี้เรียกว่าลูกตาของผู้ชมดูเรื่องราวอยู่ด้านนอกอดไม่ได้ที่จะหดหยีลง!
ครู่ต่อมาก็มีเสียงอุทานออกเสียงดังด้วยความเจ็บใจ เป็นผู้ที่รีบเร่งรุดออกมาจากนครแห่งบาป หากทว่ากลับไม่ทันได้เข้าไปในรอยแยกนั่น มันก็ดันปิดตัวลงเสียก่อน ยังปิดลงต่อหน้าต่อตา!“บัดซบ! อีกแค่ไม่ถึง 10 ก้าว!!”
“มารดามัน…ข้าขออีกแค่สองลมหายใจ ไม่สิแค่ลมหายใจเดียวข้าก็มาทันแล้ว!”
“เพียงครึ่งลมหายใจ กลับห่างกันเหมือนไกลแสนไกล…”
“โอย ไฉนฟ้าถึงกลั่นแกล้งข้าพเจ้าเช่นนี้ นั่นมันคลังสมบัติของยอดคนเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ พันปียากจะพบพานสักครั้ง!หากหายไปก่อนข้าพเจ้ามิว่ามิบ่น แต่กลับมาหายไปต่อหน้าต่อตาข้าพเจ้าเนี่ยนะ!? ถุยชีวิต…”
…
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ปรากฏแสงมากมายลากผ่านฟ้ามาแต่ไกล เป็นผู้คนที่รีบมาหลังได้รับข่าว อนิจจาพอทั้งหมดมาถึงก็ได้รับทราบข่าวร้าย…ทางเข้าปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดรู้สึกเสียดายนัก ที่ไม่อาจมาถึงให้เร็วกว่านี้
วูบ! วูบ!!
ทว่าทันใดนั้นเองไม่ทันที่จะมีใครได้บ่นอะไร พลันปรากฏความเคลื่อนไหวบางอย่าง สายลมพัดแรงออกมาโชยกระทบหน้าผู้คน 2 สาย เป็นชายหนุ่ม 2คนที่อยู่ๆก็ผุดโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาทุกคน
“นายน้อย!”
“นายน้อย!!”
ทันทีที่ชายหนุ่ม 2 คนนี้ปรากฏตัวขึ้น เหล่ากลุ่มคนที่ลอยร่างอยู่ด้วยกันก็ตะโกนเรียกหาพวกมันทันที
ชายหนุ่มทั้ง 2 คนนี้ คนหนึ่งมาในชุดที่สมควรเคยหรูหรามีระดับมาก่อน ทว่าตอนนี้กลับขาดวิ่นดั่งผ้าขี้ริ้ว ส่วนอีกคนนั้นชุดคลุมสีน้ำเงินที่แลคล้ายบัณฑิต ตอนนี้เสมือนถูกอันธพาลข้างถนนทุบตีมาจนยู่ยี่ ไม่เหลือเค้าความสง่างามแม้แต่น้อย
ทั้ง 2 คนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นนายน้อยของพันธมิตร 7 สังหารโอวฉิง และนายน้อยของพันธมิตรพันสารท ตงกั๋วจื่อ!
ทั้ง 2 ถูกกำจัดออกจากระนาบเทียมแทบจะพร้อมเพรียงกัน!!