บทที่ 787 ไม่พอใจ

บทที่ 787 ไม่พอใจ

ตอนนี้ในสมองของพวกอันธพาลกำลังหมุนติ้ว พอเห็นว่าไม่สามารถเอาชนะพวกเสี่ยวลิ่วได้ ก็เปลี่ยนเป้าหมาย หันหลังกลับพุ่งเข้าหาสองสามีภรรยาทันที

เจ้าเด็กพวกนี้เหมือนสนิทกับไอ้แก่สองคนนั่น ถ้าจับพวกแก่นั่นเอาไว้ได้ ยังมีอะไรต้องกลัวอีก?

ขณะพุ่งเข้าไปชายร่างอ้วนตอนสนองทันที เขารีบใช้มืออ้วน ๆ คว้าหลีอวี๋เหนียงไว้ เพราะคิดว่าต่างคนต่างจับน่าจะดีที่สุด

ชายกางเกงขาม้าอยากเข้าไปร่วมวงด้วย ให้โดนเจ้าเด็กพวกนี้รุมยังไงก็ไม่ดีเท่าไปไล่จับไอ้แก่ไร้ประโยชน์สองคนนั้น

แต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ทำให้เสี่ยวลิ่วยังโกรธอยู่ จะยอมปล่อยพวกเขาไปได้ยังไงล่ะ?

“จะไปไหน? ไม่มีทางหรอกนะ!”

เสี่ยวลิ่วใช้แรงทั้งหมดต่อยจนชายขาม้าหกล้มหน้าคะมำ ทั้งยังเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าอีก

สองสามีภรรยาถานตกใจมาก แต่ร่างของพวกเขาแสดงปฏิกิริยาเเคลื่อนไหวเหมือนกันออกมา ทั้งสองผุดลุกขึ้นยืนปกป้องเสี่ยวเถียนไว้ด้านหลัง

สายตามุ่งมั่นพร้อมจะเสี่ยงชีวิต

กลับกันเสี่ยวเถียนเฝ้ารอเวลาแบบนี้มานาน มีไอ้พวกไม่ได้เรื่องเข้ามาหาเองถึงที่จะปล่อยโอกาสหลุดลอยไปได้ยังไง?

เธอถูมือแล้วพุ่งออกไปข้างหน้าทันที

ถานจื่อสือเห็นแบบนั้นก็เหงื่อแตกพลั่ก

“เสี่ยวเถียน มาหลบข้างหลังพวกเราเร็วเข้า!” หลีอวี๋เหนียงตะโกนลั่น

“คุณปู่คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ พวกท่านดูเฉย ๆ ก็พอแล้วค่ะ” เสี่ยวเถียนยกยิ้มมั่นใจให้

คนรอบข้างสังเกตเห็นว่าเธอเริ่มโกรธขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้แต่คิดว่าแล้วยัยเด็กนี่มันโมโหใคร?

เจ้าของเสื้อลายดอกไม้กำลังจะเอ่ยบางอย่าง จากนั้นก็พบว่าตัวเองโดนเล่นงานเสียแล้ว ร่างกายของเขากระเด็นออกไปไกล…

เสี่ยวเถียนใช้มือและเท้า ทั้งต่อยทั้งเตะจนเจ้าเสื้อลายดอกไม้ กับชายร่างอ้วนล้มลงไปนอนแผ่หมดสภาพ

เสี่ยวลิ่วหัวเราะลั่นกับสภาพน่าสมเพชพวกคนพวกนั้น

เจ้าพวกโง่นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องสาวเราเก่งที่สุดในบ้าน แค่รอให้พวกเขาออกโรงก่อนเฉย ๆ เท่านั้น

ดูสิ!หัวจุ่มดินขนาดนั้นน่าจะหายซ่าไปอีกหลายวัน ต่อให้เขาพยายามก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าน้องเล็กเลย

เสี่ยวเถียนมองทั้งสองด้วยความไม่พอใจ ไม่ได้เรื่องเลย ตัวใหญ่เสียเปล่ากลับทำตัวไร้ประโยชน์

“รีบ ๆ ลุกขึ้นมาสิ เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ หลายวันนี้ไม่ได้สู้กับใครเลย มือเท้าพานแข็งไปหมดแล้ว!”

เสี่ยวเถียนกระโดดไปมา รอให้เจ้าพวกนี้มันลุกขึ้นมาสู้ต่อ

เราเป็นพวกอันธพาลนะ จะไปเก่งกาจสามารถได้ยังไง?

อย่าว่าแต่สงครามสามร้อยรอบเลย*[1] สามสิบรอบยังจำเป็นอยู่ไหม? ต่อให้สถานการณ์ย่ำแย่ สิบสามรอบก็หรูแล้ว แล้วถ้าไม่รอดจริง ๆ งั้นขอสักสามรอบก็แล้วกัน ดีไหม?

ยังไม่ได้ทันได้อุ่นเครื่องการต่อสู้ก็จบลง คนที่โดนเตะจนล้มไม่รู้เป็นอย่างไรกันบ้าง

ผู้ใหญ่พวกนี้โดนเด็ก ๆ จัดการหรือนี่? แถมยังโดนเสียหนักเลยด้วย ว่าไปแล้วจะมีหน้าไปพบใครได้อีก? แล้วสาวน้อยคนนี้เป็นปีศาจตนไหนกัน? แค่เคลื่อนไหวครั้งเดียวก็โค่นคนทั้งสองได้แล้ว

เด็กผู้หญิงควรจะร้องไห้อยู่ข้าง ๆ สิ ทำไมทำเรื่องแบบนี้กัน แถมเรายังเอาชนะไม่ได้อีกด้วย แล้วอนาคตจะต้องทำยังไงต่อไปเนี่ย?

เสี่ยวชีมองชายกางเกงขาม้า เจ้าคนที่คิดจะพาเสี่ยวเถียนกลับไปด้วย?

กล้าไหมล่ะ?

เขาอยากจัดการเจ้าตัวน่ารำคาญคนนี้มาสักพักแล้ว แต่อีกฝ่ายสู้กับพี่ชายอยู่ แถมตนก็ติดคนอื่นอยู่ด้วยเลยล้มเลิกความคิดไป

ตอนได้ยินเสียงหัวเราะของเสี่ยวลิ่วเขาไม่สนใจสักนิด เขาจ้องเจ้ากางเกงขาม้าที่ล้มกลิ้งอยู่ แล้วใช้โอกาสนั้นพุ่งเข้าไปตะครุบพลางกดมันไว้ ก่อนจะง้างมือฟาดปากอีกฝ่าย

“แกพูดจาแทะโลมน้องสาวฉันเรอะ ฉันจะตบให้ฟันร่วงเลย!”

“แกคงไม่อยากมีปากอีกแล้วสินะ”

“ฉันจะตบให้ตายเลย!”

เสี่ยวชีฟาดเข้าไปที่เนื้อเต็ม ๆ ชายกางเกงขาม้าทุกข์ทรมานมาก

เขาไม่มีโอกาสได้ร้องไห้หาพ่อแม่ด้วยซ้ำ ตอนโดนกระทำความสนใจทั้งหมดของศัตรูพุ่งเป้าไปที่ปากเป็นหลัก ตอนนี้เลยทรมานมาก แต่มันก็เป็นเพราะสิ่งที่ตัวเขาเองกระทำ ใครใช้ให้มันไม่รู้ล่ะว่า เราสามารถข่มเหงใครในบ้านซูก็ได้ แต่ไม่สามารถทำใส่เสี่ยวเถียนได้

หลังจากหญิงชราข้างบ้านไล่เด็ก ๆ กลับไปก็ได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้น

เธอตกใจมาก ทำไมเด็ก ๆ พวกนี้ไม่เชื่อฟังกันเลย เข้าไปแบบนั้นก็เลยโดนซ้อมใช่ไหม? แค่ได้ยินเสียงก็น่ากลัวจนตัวสั่นแล้ว

เด็ก ๆ ที่น่าสงสาร

ทำยังไงดีล่ะ? โทรหาตำรวจดีไหม?

แล้วถ้าพวกอันธพาลมันรู้เข้า จะมาจัดการเธอหรือเปล่า?

หญิงชรากลัวคนพวกนี้จริง ๆ แต่เธอยังนึกห่วงเด็ก ๆ ว่าจะโดนเล่นงานหนักจนอยู่ในอาการสาหัส เลยตัดสินใจปีนขึ้นกำแพงไปแอบมอง

เธอโผล่หัวขึ้นไปอย่างระมัดระวัง ตอนเห็นเธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากกะพริบตาอยู่หลายครั้ง ก็มั่นใจแล้วว่ามันคือเรื่องจริง พวกเด็ก ๆ เอาชนะคนชั่วเหล่านั้นได้ แถมยังจัดการจนอีกฝ่ายสภาพดูไม่จืด

เธอตะลึงงัน

แม่เจ้า เด็ก ๆ เก่งมากจริง ๆ

เจ้าพวกนี้มันทำชั่วมาหลายวันแล้ว และวันนี้ก็ได้เข้าไปยุ่งกับคนไม่สมควร

เด็ก ๆ สุดยอดไปเลย!

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองสามีภรรยามีลูกหลานเก่งกาจแบบนี้? ถ้าพวกเขามาก่อนสักวันสองวัน สามีภรรยาเถียนก็คงไม่โดนข่มเหงเช่นนี้หรอก

คู่สามีภรรยาก็เหมือนกัน ที่บ้านมีเด็ก ๆ เก่งแบบนี้ ไม่รู้จักเรียกให้มาช่วยตั้งแต่เนิ่น ๆ?

พอรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เสียเปรียบ เธอก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาอื่นเลยไม่ดูอีกต่อไป จากนั้นก็ลงจากเก้าอี้เงียบ ๆ แล้วไปจัดการเรื่องของตัวเองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ส่วนพวกอันธพาลร้องโหยหวนขอความเมตตา พวกมันโดนซ้อมอยู่นานจนไม่รู้ว่ามีเด็ก ๆ กี่คนลงมือกับตนเองอยู่

“พอแล้วเสี่ยวชี ไม่งั้นต้องรับผิดชอบนะ”

ถานจื่อสือเพิ่งได้สติ ก็รีบห้ามหลานทันที

คนรอบข้างรู้ดีว่า เจ้าพวกนี้มันมีเบื้องบนคอยดูแลอยู่ ถ้าไม่ยอมปล่อยไป เกิดเด็ก ๆ เสียเปรียบขึ้นมาจะทำยังไง? จริง ๆ นึกห่วงเหมือนกัน จึงไม่ได้ขอความช่วยเหลือและคิดจะจัดการเองเพราะแบบนี้แหละ

เพราะส่วนใหญ่มันก็เป็นพวกลอบกัด แต่ใครจะรู้เล่าว่ามันจะเข้ามาแย่งชิงของซึ่ง ๆ หน้า

“เสี่ยวชี ไปกันเถอะ มัดพวกมันแล้วส่งให้ตำรวจกัน”

เสี่ยวลิ่วเห็นว่าทุกอย่างใกล้จบแล้ว ถึงเวลาต้องส่งพวกมันไปยังสถานที่ที่ควรไปเสียที

[1] หมายถึงสู้กันไปมาจนกว่าจะมีฝ่ายไหนแพ้ ถึงจะเลิก