มองสภาพเธอที่ใบหน้าดูมั่นใจ ลีน่าเบิกตาขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง“อ้อ？เธอจะบอกว่าพวกเราทำไม่ได้？”
“ถูกต้อง พวกเธอไม่มีโอกาสนั้น”พูดจบ จุ๊บแจงก็ยิ้มอย่างภูมิใจไปที่พวกวารุณี จากนั้นเดินผ่านพวกเธอไป เดินเข้าไปในประตูสมาคมก่อนเธอ
วารุณีขมวดคิ้ว“เหมือนเธอกำลังวางแผนอะไรนะ？”
“ฉันก็คิดงั้น”ลีน่าพยักหน้า
ทั้งสองมองแผ่นหลังของจุ๊บแจง แล้วพูดคุยขึ้นมา
“วารุณี เธอก็คิดว่า เธอจะวางแผนอะไรใช่ไหม？”ลีน่าละสายตากลับ มองไปที่คนสวยข้างๆ
หญิงสาวเม้มริมฝีปากสีแดง“ฉันไม่รู้ แต่เธอเพิ่งพูดว่า จะไม่ให้ฉันทำสำเร็จ และยังบอกว่าพวกเราไม่มีโอกาสนั้นอีก ดังนั้นฉันคิดว่า เธออาจจะทำ โดยให้ลูกคนรวยที่อยู่เบื้องหลังเธอติดต่อทางฝั่งผู้จัดงานแข่งขัน ไล่พวกเราสองคนออกจากการแข่งขัน มีแค่แบบนี้ พวกเราสองคนถึงจะเปิดเผยเธอไม่ได้”
“ก็ใช่”ลีน่าพยักหน้าอย่างครุ่นคิด“แต่ถือว่าครั้งนี้เธอเดินผิดแล้ว ลูกคนรวยที่อยู่เบื้องหลังเธอจะใหญ่โตแค่ไหน ก็สู้ประธานนัทธีไม่ได้ ดังนั้นฉันว่า ผู้จัดงานน่าจะไม่ช่วยลูกคนรวยที่ช่วยเธออยู่เบื้องหลังแน่”
“ถูกต้อง”วารุณีพยักหน้า
ลีน่าหัวเราะอย่างเหยียดหยาม“ดังนั้น จุ๊บแจงยังไม่รู้อีกเหรอว่าเธอดีใจเก้อน่ะ？”
“ก็อาจใช่”วารุณีหรี่ตาลง
ลีน่าเก็บรอยยิ้มที่ใบหน้า จากนั้นถามทันที“หมายถึงอะไรวารุณี？”
“ความหมายของฉันคือ ถ้าจุ๊บแจงอยากไล่พวกเราออกไปจากการแข่งขัน มาปิดกั้นพวกเราที่จะเปิดโปงเธอว่าละเมิดลิขสิทธิ์และลอกผลงานของคนอื่น ถึงแม้เธอจะไล่พวกเราออกไปจากการแข่งขันอย่างสำเร็จ แต่อยากหยุดพวกเราที่จะเปิดโปงเธอก็ไม่ได้ พวกเราสามารถเปิดเผยเธอได้โดยตรง หรือว่าไปรายงานเธอที่สมาคมได้เลย วิธีมีเยอะแยะ เธอจะห้ามก็ห้ามไม่ได้ ดังนั้นฉันเดาว่า เธอน่าจะไม่ได้ไล่พวกเราออกไปจากการแข่งขันก่อน แต่ใช้วิธีอื่น”
ลีน่าเบิกตาโต“เธอพูดแบบนี้ก็เป็นไปได้จริงๆ งั้นเธอจะใช้วิธีไหนกันแน่？”
วารุณีส่ายหน้า“ไม่รู้ แต่ในใจฉันไม่ค่อยสบายใจนัก”
“ไม่สบายใจ？”ลีน่าขมวดคิ้ว
วารุณีตอบอือ“ถูกต้อง ตอนนี้ในใจฉันไม่สบายใจอยู่มาก มักจะรู้สึกว่ามีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้น แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็สามารถรับมือได้หมด ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วคอยจับตาดูก่อนดีกว่า นาน่า พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ”
“โอเค”ลีน่าตอบกลับ
ก็ได้แต่แบบนี้แหละ
ทั้งสองเดินเคียงข้างกันเข้าไปที่ประตูสมาคม แป๊บเดียวก็มาถึงห้องโถงแข่งขัน
วารุณีมองจุ๊บแจงที่นั่งตรงที่นั่ง จากนั้นเดินตรงไปที่ส่วนกรรมการตัดสินของตัวเอง
เธอเพิ่งนั่งลง ก็เห็นสายตาที่จุ๊บแจงมองมาที่เธอ
สายตาของจุ๊บแจงยังมีความยั่วยวน ตื่นเต้น และมีความสุขสุดๆอย่างชัดเจน และที่ปาก ยังทำท่าปากว่า“เธอจบแล้ว！”
เธอพูด
นี่คือคำที่วารุณีมองออกแล้วอ่านออกมา
วารุณีอ่านเข้าใจ ในใจก็รู้สึกไม่สบายมากขึ้น แต่เธอไม่ได้ทำอะไร หลังจากขมวดคิ้ว ก็ละสายตากลับ ไม่มองจุ๊บแจงอีก
ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ด้านข้างจุ๊บแจง ซึ่งก็คือคนนั้นที่ก่อนหน้านี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่แย่กับเธอ มองสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้ายของจุ๊บแจงที่มีต่อวารุณี ก็รู้สึกเยือกเย็น จากนั้นถามอย่างไม่พอใจเท่าไหร่“จุ๊บแจง เธอไม่ชอบครูที่ปรึกษาวารุณีมากเลยเหรอ？”
ครูที่ปรึกษาวารุณีเป็นไอดอลของเธอ ดังนั้นเธอไม่ชอบที่เห็นคนอื่นทำกับไอดอลเธอแบบนี้จริงๆ
ดังนั้น น้ำเสียงที่เธอพูดกับจุ๊บแจง จึงไม่พอใจอย่างชัดเจน
จุ๊บแจงฟังออก แต่ไม่ถือสา
แน่นอน ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอต้องติดใจแน่ แต่วันนี้เธอมีความสุข ดังนั้นเลยไม่เอาความอะไร ยกมุมปากขึ้น แล้วพูดอย่างภูมิใจ：“ฉันไม่ชอบเธอผิดเหรอไง？”
ผู้เข้าแข่งขันเบิกตาโต“ทำไม？คุณวารุณีไปทำให้เธอขุ่นเคืองตรงไหน？”
“เธอทำให้ฉันขุ่นเคือง เยอะมาก”จุ๊บแจงดูเย็นชา จากนั้นจ้องวารุณีที่อยู่ตรงส่วนกรรมการข้างบน กำดินสอในมือแน่น กัดฟันพูดว่า：“เธอแย่งผู้ชายฉันไปไม่พอ ยังจะคัดลอกผลงานออกแบบคนอื่นอีก ถามหน่อยคนแบบนี้ ไม่ทำให้คนรำคาญเหรอไง？”
ได้ยินคำพูดเธอ ผู้เข้าแข่งขันก็ตกใจ“เป็นไปไม่ได้！ครูที่ปรึกษาวารุณีเนี่ยนะจะแย่งผู้ชายเธอ และคัดลอกงานคนอื่นได้ไง？เธอพูดผิดแล้ว”
จุ๊บแจงหัวเราะอย่างเยือกเย็น“ฉันพูดผิด？ฉันบอกเธอให้นะ ฉันพูดไม่ผิดสักนิด ครูที่ปรึกษาวารุณีของเธอ แย่งแฟนฉันไป และยังลอกผลงานของคนอื่นอีก”
“เหลวไหล！”ผู้เข้าแข่งขันตื่นเต้นจนตาแดง ร่างสั่นเล็กน้อย “เธอจะบอกว่าครูที่ปรึกษาวารุณีแย่งผู้ชายเธอ แต่เธอต้องรู้นะว่า ครูที่ปรึกษาวารุณีแต่งงานไปตั้งนานแล้ว เป็นความจริงที่ทุกคนต่างรู้ และสามีของเธอ ก็ยังเป็นซีอีโอแบรนด์หรูชั้นนำระดับโลกอีก เธอบอกว่าครูที่ปรึกษาวารุณีแย่งผู้ชายเธอไป จะเป็นไปได้เหรอ？“
“แน่นอนว่าเป็นไปได้ เพราะว่านี่คือความจริง”สายตาจุ๊บแจงมีความร้อนตัวแวบเข้ามา แต่แป๊บเดียวก็หายไป เอาแต่พูดอย่างเดียวว่าวารุณีแย่งผู้ชายเธอ“เธอแต่งงานแล้ว แต่ประธานนัทธีเป็นของฉัน วารุณีแย่งไป ถ้าไม่มีวารุณี คนที่ประธานนัทธีรักก็คือฉัน คนที่จะอยู่กับเขา ก็คือฉัน ฉันสิควรเป็นคุณหญิงจุ๊บแจง”
เธอตบหน้าอกตัวเอง พูดอย่างร้อนใจ
ดวงตาผู้เข้าแข่งขันเบิกกว้าง เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
จากที่จุ๊บแจงพูดมาก็พอจะเข้าใจแล้วว่า จุ๊บแจงชอบประธานนัทธี แต่ประธานนัทธีไม่ชอบเธอ คนที่ประธานนัทธีรักคือครูที่ปรึกษาวารุณี จากนั้นแต่งงานกับครูที่ปรึกษาวารุณี
จุ๊บแจงไม่เต็มใจ อยากอยู่กับประธานนัทธีมาตลอด จากนั้นกลายเป็นคุณหญิงจุ๊บแจง
แต่สุดท้ายแล้วที่กลายเป็นคุณหญิงของประธานนัทธี ดันเป็นครูที่ปรึกษาวารุณีไม่ใช่จุ๊บแจง
ดังนั้นจุ๊บแจงจึงไม่พอใจ คิดว่าครูที่ปรึกษาวารุณีแย่งประธานนัทธีไป แย่งตำแหน่งคุณหญิงจุ๊บแจงไป
เหอะๆ ตลกเสียจริง
ประธานนัทธีไม่เคยรักจุ๊บแจง ที่รักมาตลอดก็คือครูที่ปรึกษาวารุณี ดังนั้นจะเป็นครูที่ปรึกษาวารุณีแย่งประธานนัทธีไปได้ไง？
ประธานนัทธีคบกับจุ๊บแจงแล้วเหรอ？
แน่นอนว่าไม่！
ประธานนัทธีจะสนใจจุ๊บแจงได้ไง？
เธอไม่ได้ดูถูกจุ๊บแจงนะ แต่จุ๊บแจงสู้ครูที่ปรึกษาวารุณีตรงไหนได้บ้าง？
หน้าตา？ความสามารถ？หรือบุคลิกประจำตัว？
ยังไงซะสำหรับเธอ ยังไงก็สู้ไม่ได้เลย ดังนั้นประธานนัทธีไม่มีทางชอบจุ๊บแจงแน่
แล้วจุ๊บแจงยังมีหน้ามาบอกว่าครูที่ปรึกษาวารุณีแย่งผู้ชายไป นี่มันไร้สาระมาก
“เธอหน้าด้านจริงๆ”พอคิดได้ ผู้เข้าแข่งขันก็มองจุ๊บแจงอย่างดูถูก แล้วพูดไป
สีหน้าจุ๊บแจงเปลี่ยนไป“เธอจะบอกว่าฉันหน้าด้าน？”
“ถูกต้อง เธอมันหน้าด้าน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เธออยากคบกับประธานนัทธี แต่ประธานนัทธีไม่สนเธอ จากนั้นเธอก็คิดว่าตัวเองไม่ผิด ที่ผิดคือครูที่ปรึกษาวารุณี ครูที่ปรึกษาวารุณีแย่งประธานนัทธีไป ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถคบกับประธานนัทธีได้ แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ถึงไม่มีครูที่ปรึกษาวารุณี เธอก็ไม่ได้คบกับประธานนัทธี เธอคู่ควรกับประธานนัทธีตรงไหนเหรอ？เธอมีค่าตรงไหนให้ประธานนัทธีชอบ？ผู้หญิงเพอร์เฟคบนโลกนี้มีเยอะแยะ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร？”
เผชิญหน้ากับสายตาดูถูกของผู้เข้าแข่งขัน คำพูดดูถูก จุ๊บแจงโกรธจนหน้าอกไม่หยุดกระเพื่อม
“เธอ……”
“เธออะไรเธอล่ะ？”ผู้เข้าแข่งขันสะบัดนิ้วจุ๊บแจงที่ชี้ตัวเองออกไป พูดอย่างเย็นชา：“เธอคิดว่าฉันพูดจี้จุดความเจ็บปวดของเธอ ดังนั้นเลยโกรธแบบนี้？เหอะ จุ๊บแจง ฉันคิดว่าเธอจะเก่งมากสักแค่ไหน ที่แท้ก็ไม่ได้อะไรหรอก แม้แต่เรื่องนี้ยังหลอกคน กลัวว่าที่เธอพูดว่าครูที่ปรึกษาวารุณีลอกผลงาน ก็คงหลอกด้วยสินะ？”
จุ๊บแจงสูดหายใจลึกๆ พยายามใจเย็นลง“ใครว่าฉันหลอก？ที่ฉันพูด มันเป็นจริง ถ้าเธอไม่เชื่อ เธอดูเองละกัน ดูว่าครูที่ปรึกษาวารุณีที่เธอนับถือ เป็นคนแบบไหนกันแน่”