ตอนที่ 789 ยินดีรับใช้จนวันตาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 789 ยินดีรับใช้จนวันตาย

จ้าวเซิ่งนั่งฟังไช่เซียนเซิงที่ปรึกษาข้างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วเล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเองให้ตนฟังอยู่บนเก้าอี้ จ้าวเซิ่งถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านี้ไช่เซียนเซิงผู้นี้เคยเป็นที่ปรึกษาของจวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าแห่งแคว้นต้าจิ้นมาก่อน ต่อมาหลี่เม่าทำผิดต่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วจึงส่งไช่เซียนเซิงไปรับโทษแทน ทว่า องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่เพียงไม่ลงโทษเขา กลับชักชวนเขาไปเป็นพวก อีกทั้งไม่เคยเห็นเขาเป็นเพียงคนนอก

ไช่จื่อหยวนรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นสตรีใจกว้างที่สามารถเมตตาคนทั่วทั้งใต้หล้า ดังนั้นเขาจึงเดาได้ว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการชักจูงจ้าวเซิ่งและกองทัพจ้าวมาเข้าร่วมกับตนเอง

ไช่จื่อหยวนถือถ้วยน้ำชาร้อนไว้ในมือพลางกล่าวกับจ้าวเซิ่งยิ้มๆ “แม่ทัพจ้าวอาจคิดว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วส่งข้ามาเจรจาโน้มน้าวท่าน ทว่า องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนเปิดเผย นางกระทำทุกสิ่งอย่างตรงไปตรงมา นางยื่นโอกาสไปตรงหน้าแม่ทัพจ้าวแล้ว หากแม่ทัพจ้าวไม่ยอมรับ นางก็คงไม่บังคับฝืนใจท่าน เพราะด้วยสติปัญญาและความสามารถขององค์หญิงเจิ้นกั๋วแล้ว นางไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ใดทั้งสิ้น!”

กล่าวถึงตรงนี้ ไช่จื่อหยวนเป่าไอร้อนในถ้วยชาของตัวเองเล็กน้อย เมื่อจิบชาไปอึกหนึ่งจึงกล่าวต่อ “ที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการดึงท่านมาเป็นพวกก็เพราะเสียดายความสามารถของท่าน หากได้ท่านมาช่วยเหลือ องค์หญิงเจิ้นกั๋วคงรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้เร็วขึ้น ทว่า หากแม่ทัพจ้าวไม่ตกลง นางก็แค่ทำได้ช้าลงหน่อยเท่านั้น องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้จะทำไม่สำเร็จ เพราะมีคนมากมายยินดีจะช่วยเหลือนางอยู่แล้ว พวกเขาล้วนอยากเห็นวันที่ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง ขอเพียงพวกเขามีชื่อจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ด้วย พวกเขาล้วนยอมพลีชีพเพื่อนางอยู่แล้ว”

สำหรับจ้าวเซิ่งแล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือได้อยู่จนเห็นวันที่ใต้หล้ารวบรวมเป็นหนึ่ง เขาไม่ได้อยากสร้างผลงานเป็นที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น

จ้าวเซิ่งไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น ความจริงไช่จื่อหยวนไม่จำเป็นต้องมากล่าวโน้มน้าวเขาแล้วด้วยซ้ำ

วันนี้จ้าวเซิ่งพบกับผู้นำทัพทั้งสองคนของกองทัพจ้าว พบกับแม่ทัพทุกคนของกองทัพต้าเหลียงและได้บอกเจตนารมณ์ของตัวเองให้พวกเขารับรู้หมดแล้ว…

ตอนแรกมีคนด่าทอว่าจ้าวเซิ่งเป็นคนทรยศ ทว่า เมื่อจ้าวเซิ่งเอ่ยถึงสถานการณ์ในราชสำนักต้าเหลียง กล่าวถึงโรคระบาดที่รุนแรงในต้าเหลียง กล่าวว่าจักรพรรดิแห่งต้าเหลียงเอาแต่จมปลักอยู่ในความแค้น ละทิ้งชาวบ้านอย่างไม่สนใจใยดี ทอดทิ้งชีวิตของบรรดาทหารทุกคนของต้าเหลียง บรรดาแม่ทัพของต้าเหลียงต่างนิ่งเงียบไปตามๆ กัน

ต่อมาจ้าวเซิ่งถ่ายทอดถ้อยคำที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเขาในวันนั้นให้ทุกคนฟัง ปลูกฝังความหวังเรื่องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งไว้ในใจของแม่ทัพทุกคน จากนั้นเขากล่าวถึงแผนการที่ต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งของต้าเยี่ยนและเหตุผลที่ต้าจิ้นต้องการทำลายล้างต้าเหลียงเพื่อปูทางสำหรับการรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด

แม่ทัพทุกคนของต้าเหลียงล้วนรู้ดีว่าจักรพรรดิของตนเองไม่ได้มีปณิธานอยากรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเพื่อยุติความวุ่นวายบนใต้หล้าแห่งนี้

ทว่า บรรดาแม่ทัพต้าเหลียงต่างสงสัยว่าจักรพรรดิต้าจิ้นที่หลงงมงายอยู่แต่เรื่องยาวิเศษมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นหรือ

ดังนั้นจ้าวเซิ่งจึงบอกเรื่องที่เขาคาดเดาให้แม่ทัพทุกคนของต้าเหลียงได้รับรู้อย่างชัดเจน เขาคิดว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีความทะเยอทะยานและจิตวิญญาณที่อยากครอบครองใต้หล้า เขามองออกว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีใจคิดกบฏต่อราชวงศ์ต้าจิ้น เขาเดาว่าการที่ต้าจิ้นร่วมแรงโจมตีต้าเหลียงเช่นนี้เป็นเพราะแผนการขององค์หญิงเจิ้นกั๋วผู้นี้

องค์หญิงเจิ้นกั๋วกล่าวกับเขาอย่างชัดเจนแล้วว่า หากต้าจิ้นต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ต้าจิ้นต้องยึดครองต้าเหลียงมาให้ได้จะได้ไม่ต้องคอยระแวงดินแดนทางฝั่งนี้อีก

เมื่อจ้าวเซิ่งกล่าวกับสหายร่วมรบทุกคนว่าเขาสงสัยว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วเตรียมพร้อมสำหรับการกบฏราชวงศ์ต้าจิ้นแล้ว บัดนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทำทุกอย่างเพื่อปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งและรอโอกาสที่เหมาะสม วันหน้านางต้องสร้างแคว้นต้าจิ้นขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน แม่ทัพของกองทัพจ้าวคุกเข่าลงบนพื้นพลางกล่าวว่ายินดีติดตามจ้าวเซิ่งรับใช้องค์หญิงเจิ้นกั๋วจนวันตายเป็นกลุ่มแรก

ในฐานะนักรบ ผู้ใดไม่อยากมีส่วนร่วมในการทำให้ใต้หล้าแห่งนี้สงบสุขบ้าง

หากกล่าวอย่างเห็นแก่ตัวสักนิด บัดนี้จักรพรรดิแห่งต้าเหลียงมีสภาพเป็นเช่นนี้แล้ว ต่อให้ต้าเหลียงอยู่รอดต่อไป นักรบอย่างพวกเขาก็ไม่มีทางได้ลืมตาอ้าปากแน่

วีรบุรุษก่อกำเนิดขึ้นในกลียุค หากมีการสร้างแคว้นใหม่ขึ้นมาจริงๆ …หากพวกเขาตามจ้าวเซิ่งไปรับใช้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว วันหน้าพวกเขาจะกลายเป็นขุนนางที่มีความดีความชอบในการสร้างแคว้นใหม่ พวกเขาจะมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ทว่า หากพวกเขาเสียชีวิตอยู่ที่ต้าเหลียง พวกเขาคงไม่มีชื่อปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์แม้เพียงเสี้ยวเดียว

ต่อมาแม่ทัพอีกหลายคนของต้าเหลียงต่างกล่าวว่ายินดีติดตามจ้าวเซิ่งไปรับใช้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ทว่า ต้าเหลียงก็มีแม่ทัพหัวแข็งอยู่เช่นเดียวกัน พวกเขาต่างด่าทอจ้าวเซิ่งและแม่ทัพที่ติดตามจ้าวเซิ่งว่าเป็นกบฏ ทรยศแผ่นดิน

ทว่า เมื่อจ้าวเซิ่งรู้ว่าต้าเยี่ยนก็มีความคิดที่จะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเช่นเดียวกัน เขาก็ยิ่งตั้งใจแน่วแน่ว่าจะติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วทำให้ใต้หล้าแห่งนี้มีแต่ความสงบสุข เขาทำความเคารพผู้ที่ด่าทอเขาด้วยความนอบน้อม เมื่อเดินออกมาจากคุก สิ่งแรกที่เขาทำคือการขอเข้าพบองค์หญิงเจิ้นกั๋ว

จ้าวเซิ่งไม่ได้เล่าสิ่งเหล่านี้ให้ไช่จื่อหยวนฟัง เขาไม่ใช่คนที่ถนัดกล่าวให้มากความ

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อเดินเข้ามาในกระโจมของจ้าวเซิ่ง ไช่จื่อหยวนรีบวางถ้วยชาในมือลงพลางลุกขึ้น

ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้ไช่จื่อหยวนเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางจ้าวเซิ่ง “ได้ยินว่าแม่ทัพจ้าวต้องการพบข้า”

จ้าวเซิ่งลุกขึ้นยืนพลางจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เป็นระเบียบ เขาเดินอ้อมออกมาจากโต๊ะ จากนั้นสะบัดชายชุดพลางคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น กล่าวเสียงดังลั่น “จ้าวเซิ่งยินดีนำกองทัพจ้าวติดตามรับใช้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ช่วยสร้างสันติสุขให้ใต้หล้าพ่ะย่ะค่ะ”

ผลลัพธ์เป็นดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์เอาไว้ นับตั้งแต่ที่ไป๋ชิงเหยียนเห็นแผนที่แบ่งดินแดนของจ้าวเซิ่ง ไป๋ชิงเหยียนก็รู้ทันทีว่าจ้าวเซิ่งเป็นคนทะเยอทะยานและมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ทว่า จักรพรรดิแห่งต้าเหลียงไม่ใช่คนที่มีปณิธานเช่นนั้น จ้าวเซิ่งจึงเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองไว้ในส่วนลึกของจิตใจ

ทว่า ใจของจ้าวเซิ่งยังไม่อยากยอมแพ้ เมื่อเขารู้ว่าต้าเยี่ยนเริ่มโจมตีแคว้นเว่ยเพื่อปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าเช่นเดียวกัน เขาจึงเริ่มร้อนใจ อยากเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ใต้หล้าสงบสุขบ้าง

ไป๋ชิงเหยียนก้าวไปด้านหน้า พยุงจ้าวเซิ่งให้ลุกขึ้น จากนั้นกล่าว “แม่ทัพจ้าวไปพบบรรดาแม่ทัพที่เหลือในคุกเพราะต้องการโน้มน้าวพวกเขาให้ติดตามท่านอย่างนั้นหรือ”

“ในเมื่อตัดสินใจติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋ว กระหม่อมก็ต้องแสดงความจริงใจให้องค์หญิงเห็นพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวเซิ่งจ้องไปยังดวงตาล้ำลึกของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวอย่างนอบน้อม

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “แม่ทัพจ้าวคงโดนคนเหล่านั้นด่าไม่น้อยทีเดียว”

“ต้าเหลียงมีแม่ทัพที่จงรักภักดีต่อแคว้นต้าเหลียงเช่นเดียวกับเจิ้นกั๋วอ๋องแห่งแคว้นต้าจิ้นอยู่เช่นเดียวกัน แคว้นต้าเหลียงเลี้ยงดู ให้ที่พักอาศัยพวกเรามาตั้งแต่เกิด บรรพบุรุษของพวกเราล้วนปกป้องรักษาดินแดนแห่งนี้มาทุกรุ่น บัดนี้กลับต้องติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วบุกทำลายแคว้นบ้านเกิดของตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนจะคิดได้พ่ะย่ะค่ะ” จ้าวเซิ่งกล่าว

“ใต้หล้าแห่งนี้ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ครั้งนี้ข้าไม่ได้ทำเพื่อทำลายล้างต้าเหลียงให้สิ้นซาก ข้าแค่ต้องการปูทางให้ทุกแคว้นกลับไปเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ให้ชาวบ้านทุกคนกลับไปเป็นครอบครัวเดียวกัน ให้ใต้หล้าแห่งนี้ไม่มีสงครามอีกต่อไป”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางจ้าวเซิ่ง หญิงสาวอยากกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ให้บรรดาทหารของต้าเหลียงฟัง ทว่า ถ้อยคำเหล่านี้จะออกมาจากปากของไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เด็ดขาด

“แม่ทัพจ้าว ไป๋ชิงเหยียนขอสาบานว่าทุกที่ที่ข้าไปเยือน ข้าจะไม่ทำร้ายชาวบ้านของเมืองนั้นเด็ดขาด ราชสำนักต้าเหลียงไม่ยอมให้ยารักษาโรคระบาดแก่ชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะมอบให้เอง! ราชสำนักต้าเหลียงไม่ปกป้องชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะปกป้องเอง หากข้าผิดคำสาบาน แม่ทัพจ้าวเอาศีรษะของข้าไปได้เลย!”