บทที่ 694 ราชวงศ์ซาง 2 (1)
เหตุใดอาจารย์ลุงจ้าวถึงมาที่นี่?
หลี่ฉางโซ่วไม่คาดคิดจริงๆ เขาคิดจะต่อสู้ร่วมกับข่งเชวี่ยน
มีโอกาสเล็กน้อยที่เขาจะกระตุ้นเหล่าปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานให้เข้ามายับยั้งการต่อสู้
ทว่าการลงมาจากฟากฟ้าอย่างกะทันหันของอาจารย์ลุงจ้าวนั้น ก็เป็นเรื่องเหนือจินตนาการจริงๆ
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของพี่สาวใหญ่ข่ง ไข่มุกเทพทะเลของอาจารย์ลุงจ้าว และปรมาจารย์ระดับสูงสองคนที่อยู่ภายใต้จอมปราชญ์บรรพกาล กำลังถือครองพลังเวทที่ทรงพลังแข็งแกร่งและสมบัติเวทสองประเภท
และในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาก็กำลังพยายามจะลอบกัดขัดขานักพรตเต๋าหรานเติ้ง!
มีนักพรตเต๋าหรานเติ้ง ผู้ไร้ไข่มุกเทพทะเลยี่สิบสี่เม็ดที่อนุมานถึงทั้งยี่สิบสี่สวรรค์…
มันยังไม่สมบูรณ์เลย!
ทว่าในยามนี้ หรานเติ้งเป็นรองเจ้าสำนักแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน และตามที่หลี่ฉางโซ่วกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าโอกาสจะดีมากเพียงใด เขาก็แตะต้องหรานเติ้งไม่ได้จริงๆ
อย่างน้อยที่สุด เขาก็ไม่อาจปล่อยให้ศิษย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าทำได้
ก่อนหน้านี้ หลี่ฉางโซ่วเคยคิดจะยืมมีดฆ่าคนโดยใช้ผู้อื่นสังหารเขา เขาได้ซัดโคมสมบัติโลงศพวิญญาณจนปลิวกระเด็นออกไปสองครั้งติดต่อกันเพราะเหตุนั้นเพื่อเป็นการปูทาง แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ได้ที่จะหลอกข่งเชวี่ยน…
หลี่ฉางโซ่ว ข่งเชวี่ยน และจ้าวกงหมิงต่างก็ส่งข้อความเสียงออกไป และร่างทั้งสามก็ล้วนพุ่งตรงเข้าหาหรานเติ้งพร้อมๆ กัน
ทว่าหลี่ฉางโซ่วและจ้าวกงหมิงก็รู้สึกผ่อนคลายราวกับว่าพวกเขากำลังเดินเล่นกันไปเรื่อยๆ ส่วนในอีกด้านหนึ่งนั้น ข่งเชวี่ยนก็กำลังพุ่งไปด้วยความเร็วเต็มที่พร้อมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
เขารีบพุ่งไปที่ด้านข้างของหรานเติ้ง และเริ่มปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีออกไปอย่างต่อเนื่อง จากที่ห่างออกไปไม่ถึงสิบจั้ง
เมื่อหลี่ฉางโซ่วขี่เมฆบินไปข้างหน้า เขาก็ไม่ลืมที่จะร้องตะโกนออกไปว่า “พลังเวทที่รวดเร็วยิ่งของนักพรตเต๋าข่งเชวี่ยนนั้นช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ข้ายังตามไม่ทัน ข้าตามไม่ทัน”
เมื่อจ้าวกงหมิง “ความเร็วตก” ลงไปอย่างรวดเร็ว เขาก็ถอนหายใจอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์เมื่อกล่าวว่า “พลังเวทของเผ่าหงส์นั้นพิเศษเหนือสามัญจริงๆ!
สหายเต๋าข่งเชวี่ยน โปรดให้ความเมตตาด้วยเถิด ท่านไม่อาจสังหารรองเจ้าสำนักแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานได้!”
“เหอะ!”
ข่งเชวี่ยนแสดงความไม่พอใจด้วยการใช้เสียงขึ้นจมูกอย่างแรงในขณะที่แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสียังคงกวาดสาดส่องไปที่หรานเติ้ง
พวกเขาปิดผนึกฐานพลัง ปิดผนึกการรับรู้ของเขา และค้นหาสมบัติ…
หลังจากนั้นไม่นาน สมบัติวิญญาณเพิ่มขึ้นมากมายและกองวัสดุล้ำค่ากองเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังข่งเชวี่ยน
มันเป็นพลังเวทสังหารขั้นสูงสุด แต่ในขณะนี้ มันถูกใช้เป็นมือมหัศจรรย์ที่ว่างเปล่า[1]
สมบัติวิญญาณมากมายส่วนใหญ่เป็นสมบัติวิญญาณโฮ่วเทียนธรรมดา นอกจากนี้ยังมีสมบัติวิญญาณเซียนเทียนซึ่งมีจิตวิญญาณที่น่าทึ่ง
ตัวอย่างเช่น สายประคำเจริญสมาธิหนึ่งสายที่มีลูกประคำหนึ่งร้อยแปดเม็ด บาตรม่วงทอง และไข่มุกสองเม็ดซึ่งมีอักขระเต๋าที่น่าอัศจรรย์
เมื่อข่งเชวี่ยนกวาดสิ่งเหล่านี้ สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม
แม้เขาจะโจมตีต่อไป แต่เขาก็ไม่ได้แตะต้องสิ่งของที่ถูกกวาดกลับมาเลย เขาเพียงแค่ใช้แสงศักดิ์สิทธิ์โยนพวกมันไปทิ้งไว้ทางด้านหลังเท่านั้น
ที่ด้านล่าง เหล่าผู้เป็นเซียนจากสำนักเซียนเต๋าเวย และสำนักตู้เซียนล้วนเงยหน้าขึ้นมองภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
แน่นอนว่า พวกเขาจะต้องมองหาคางของพวกเขาไปทั่วทุกสถานที่บนพื้นหลังจากนี้
เกิดอันใดขึ้น?
ในขณะนี้ ร่างทรงพลังโบราณ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋า รองเจ้าสำนักแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน และนักพรตเต๋าหรานเติ้งซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกับปรมาจารย์ซันชิง กำลังนอนอยู่บนศีรษะของพวกเขา
พวกเขาถูกไข่มุกเทพทะเลตรึงเอาไว้ และถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสาดส่อง เว้นแต่เสื้อคลุมแล้ว…
คลังเวทจัดเก็บของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว!
ผู้ใดรู้แล้วไม่ออกมาดูบ้าง?
วันนี้ เทพวารีแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน กงหมิงแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย และข่งเชวี่ยนแห่งเผ่าหงส์ ได้ร่วมมือกันเพื่อวางแผนต่อต้านหรานเติ้ง!
ทว่าผู้เก่งกาจที่โจมตีเป็นหลักคือ ข่งเชวี่ยน ผู้ทรงพลังยิ่งในขณะที่อีกสองคนก็กำลังร้องตะโกนว่า
“หยุดสู้กัน! สหายเต๋า ปล่อยเขาไปเถิด!”
นี่…
ผู้ยิ่งใหญ่ชั้นสูงที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งโลกบรรพกาล ช่างไร้ยางอายยิ่ง แค่กๆ ช่างน่ารักยิ่ง?
เมื่อคิดอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ในตอนนี้นักพรตเต๋าหรานเติ้งก็เป็นผู้ที่โจมตีข่งเชวี่ยนก่อน มันย่อมจะไม่ยากเกินไปที่เขาจะฟื้นตัวในภายหลัง
มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่รับมือได้ยากก็คือ ในเวลานี้ ถือได้ว่าเป็นการตบหน้า[2]สำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน…
หากหรานเติ้งไม่มีตำแหน่งรองเจ้าสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน เขาคงถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีละลายไปแล้ว!
เจ้าสำนักแห่งสำนักตู้เซียน จี้อู๋โหย่ว ยืนเอามือไพล่หลัง เขาถอนหายใจเบาๆ และกล่าวกับปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งซึ่งอยู่ข้างๆ เขา
“ฟู่กุ้ย ความแตกต่างระหว่างเรากับปรมาจารย์ที่แท้จริงนั้นยังห่างไกลมากเกินกว่าแค่ระดับฐานพลังของเราเท่านั้น”
“ใช่ขอรับ”
ปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งกล่าวพลางมองดูแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่ยังคงปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผู้ใดว่าพลังเวทด้อยกว่าสมบัติเวท? จริงๆ แล้ว พวกเรายังตามหลังอยู่มาก เช่นนั้นเรามาฝึกฝนกันเถิด”
“ไม่ ไม่ ไม่ แค่กๆ!”
จี้อู๋โหย่วส่ายศีรษะและตอบกลับผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “พลังเวทประเภทนี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และไม่อาจได้รับผ่านการฝึกฝนได้
ข้ากำลังพูดถึงเต๋าวางแผนและการเสียหน้า
ดูสิ เทพวารีและผู้อาวุโสกงหมิงต้องการจะหยุดผู้ทรงพลังยิ่งใหญ่แห่งเผ่าหงส์ผู้นี้ พวกเขากำลังดำเนินการต่อไป ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยุติเรื่องนี้ด้วยวิธีใด”
ปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า “ท่านเจ้าสำนัก ผู้อาวุโสเทพวารีจะสังหารรองเจ้าสำนักผู้นี้หรือไม่?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก” จี้อู๋โหย่วกล่าวพลางเผยรอยยิ้มบางออกมา
“เวลานี้ไม่ใช่ในสมัยโบราณ หรานเติ้งสามารถถูกเย้ยหยันและทำให้เรื่องยุ่งยากสำหรับเขา เพียงเพราะเขาได้รับตำแหน่งรองเจ้าสำนักจากจอมปราชญ์ และหรานเติ้งไม่อาจทำให้จอมปราชญ์เสียหน้าได้
ทว่าการสังหารรองเจ้าสำนักแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานเพียงเพราะทะเลาะกันอยู่สักพัก เช่นนั้นก็ย่อมจะทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในสำนักบำเพ็ญเต๋าอย่างแน่นอน
แม้แต่ผู้อาวุโสเทพวารี และผู้อาวุโสจ้าวกงหมิงก็ต้องชดใช้ด้วยราคามหาศาล”
ปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งพยักหน้าช้าๆ และใคร่ครวญอย่างละเอียดถี่ถ้วน
เขาเชื่อว่า เขาไม่ได้บำเพ็ญเพียรมานานและไม่รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับการพลิกผันแห่งโลกบรรพกาล
เขาไม่อาจเปรียบเทียบกับหน่วยรบเฒ่าอย่างเจ้าสำนักได้…