บทที่ 812 พี่ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 812 พี่ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ

บทที่ 812 พี่ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ

พี่เสี่ยวเหมยแต่งงานไปเมื่อครึ่งปีก่อน คู่รักข้าวใหม่ปลามันใช้เวลาด้วยกันทุกวัน ขอแค่ซูเสี่ยวเหมยมีเวลาฮั่วซือเหนียนก็จะอยู่ด้วยกันเสมอ

ตอนนี้โครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดของเสิ่นจื่อเจินมาถึงส่วนสำคัญแล้ว หญิงสาวจึงยุ่งมากเป็นพิเศษ เสี่ยวเถียนไม่ได้เจอพี่สาวมาระยะหนึ่งแล้วเหมือนกัน ก็เลยพูดแบบนี้ออกมา

“สาวน้อย แซวเก่งจังเลยนะ” เสี่ยวเหมยยิ้มก่อนจิ้มหน้าผากน้อยนั่น

“หนูแซวเก่งตรงไหนกัน พี่เป็นภรรยาของอาจารย์หนูต่างหาก!” เสี่ยวเถียนยังหยอกล้อไม่หยุด

เสี่ยวเหมยหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เด็กคนนี้ตอนเด็ก ๆ ก็น่ารักอยู่หรอก ทำไมยิ่งโตยิ่งไม่น่ารักแล้วเนี่ย! แม้แต่เธอยังโดนแกล้งเลย!

ทั้งสองสนทนากันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเสี่ยวเถียนก็ชวนคนพี่ให้กินซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานด้วยกัน

ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานคือรสชาติที่คุณย่าซูเพิ่งลองทำ เป็นซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานที่ใช้บ๊วยทำ!เสี่ยวเถียนชอบรสชาตินี้มาก และเธอก็กินได้ไม่เบื่อเลย

เสี่ยวเหมยไปล้างมือก่อนทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามน้องสาว

“อร่อยจัง พี่เองก็ชอบ!” หลังได้ชิมคำหนึ่ง เธอหรี่ตาลงด้วยความพึงพอใจ

“วันนี้คุณย่าทำเยอะมากค่ะ ถ้าพี่เสี่ยวเหมยชอบก็เอาใส่กล่องตอนกลับไปด้วยนะ”

ปกติเสี่ยวเถียนใจกว้างกับคนในครอบครัวอยู่แล้ว เสี่ยวเหมยเองก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอก จึงตอบตกลงทันที

“งั้นพี่ไม่เกรงใจล่ะ”

“แล้ววันนี้พี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”

เสี่ยวเถียนสงสัยมาก การที่เจ้าตัวมาหาแสดงว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ ไม่มีทางมากินซี่โครงเฉย ๆ หรอกนะ

“วันนี้พี่มาหาเพราะต้องการความช่วยเหลือจากเธอน่ะ”

ร่องรอยความเขินอายปรากฏบนใบหน้า

สีหน้าของพี่สาวทำให้เสี่ยวเถียนแปลกใจมาก เขินที่ขอความช่วยเหลือจากเธอเหรอ แล้วทำไมต้องทำสีหน้าแบบนั้นด้วย อืม รู้สึกถึงความหวานอยู่ในนั้นด้วยนะเนี่ย!

“มีเรื่องอะไรคะ? พี่เสี่ยวเหมยพูดมาได้เลยนะ!”

เสี่ยวเถียนไม่ได้คิดอะไรเยอะ และหยิบซี่โครงขึ้นมาแทะอีกชิ้น ก่อนจะเห็นคนพี่ยืดตัวตรงแล้วเอ่ยอย่างจริงจัง

“ช่วงนี้โครงงานที่พี่ทำมาถึงช่วงสำคัญแล้วน่ะ แล้วเราจำเป็นต้องลงใต้ แต่พี่…พี่อยากให้เธอไปแทนน่ะ!”

“แต่หนูต้องไปเรียนนะ ทำไมพี่ถึงไม่ไปเองล่ะคะ?” เสี่ยวเถียนมัวแต่ห่วงเรื่องกินก็เลยไม่ได้คิดอะไรเยอะ

ถ้าจำไม่ผิดเหมือนพี่เสี่ยวเหมยกับพี่สามรับผิดชอบโครงการนี้ด้วยกัน ส่วนลุงเขยรับผิดชอบเป็นที่ปรึกษา ถ้ามันเป็นช่วงสำคัญทำไมถึงไม่ไปเองนะ

“เสี่ยวเถียน น้องสาวคนดี ถ้าพี่ไปเองได้พี่ไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วน่ะสิ”

ไปไม่ได้เหรอ?

เสี่ยวเถียนเงยหน้ามองด้วยความสงสัย

“หลังจากไตร่ตรองอย่างรอบคอบ พี่คิดว่าเธอเหมาะสมที่สุด ถ้าเป็นคนอื่นอาจลำบากน่ะ!” เสี่ยวเหมยว่าต่อ

ท่าทางผิดปกติชอบกล!

พี่เสี่ยวเหมยทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แล้วจู่ ๆ มาบอกว่าไปไม่ได้เนี่ยนะ แถมยังให้เธอไปแทนอีก แบบนี้เท่ากับยกโครงการนี้ให้เลยนะ!

หลังจากก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หลายครั้ง เธอก็สังเกตเห็นบางอย่างแล้วจ้องไปที่หน้าท้องของพี่สาว

“พี่เสี่ยวเหมย พี่คงไม่ได้ท้องหรอกใช่ไหมคะ?”

“ใช่จ้ะ ผลตรวจเพิ่งออกน่ะ หมอบอกว่าช่วงนี้ให้พักผ่อนดีกว่า! พี่เลยมาหาเธอ!” เสี่ยวเหมยยิ้มเขิน

“แต่ว่าถ้าหนูไปแทนจะเหมาะเหรอคะ?” เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าถ้าเธอไปคนเดียวมันจะดูไม่ดีเท่าไร

อีกอย่างเธอก็ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้แต่แรกด้วย ถ้าทำได้ไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง? งานส่วนใหญ่เสร็จแล้วด้วย ถ้าไปตอนนี้มันไม่เป็นการเอาเปรียบหรอกเหรอ?

“เสี่ยวเถียน เธอก็รู้ว่าซานกงกับพี่รับผิดชอบโครงการนี้ แล้วพ่อพี่ก็เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ตอนนี้พี่ไปไม่ได้แล้ว ถ้าใช้ซานกงจัดการคงเดียวเขาจะเหนื่อยเกินไปน่ะ”

“แต่ถ้าพี่ยกโครงการนี้ให้หนู พี่จะไม่เสียใจเหรอคะ?”

“พี่ตัดสินใจแล้วน่ะ และก็ไม่เสียใจด้วย เสี่ยวเถียน มันไม่มีใครที่เหมาะไปกว่าเธออีกแล้ว” เสี่ยวเหมยขอร้อง

เธอรู้ว่าน้องยังเรียนอยู่ การขอลาไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่เธอเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

โครงการวิจัยตัวนี้มีเรื่องซับซ้อนเยอะมาก ถ้าคนไปไม่ใช่เสี่ยวเถียนเธอคงวางใจไม่ได้

พอเห็นพี่สาวเป็นแบบนี้เธอก็เข้าใจได้

พี่เสี่ยวเหมยเดินทางไกลขนาดนั้นระหว่างท้องไม่ไหวหรอก

“งั้นในฐานะที่เป็นภรรยาอาจารย์ที่ปรึกษาของหนู ช่วยลาแทนได้ไหมคะ? หรือมันจะถือว่าเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวไหม?”

เสี่ยวเถียนยิ้มหยอกล้อ แต่แล้วก็โดยสายตาคนเป็นพี่จ้องเขม็ง เด็กคนนี้นิสัยไม่ดีเลยนะ! แต่ถ้าให้ลาแบบนี้แสดงว่ายอมไปใช่ไหม?

“ไม่ต้องห่วงจ้ะ ในฐานะภรรยาอาจช่วยลาไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพ่อพี่เขาทำได้นะ!”

แต่หลังจากพูดจบ เสี่ยวเหมยรู้สึกแปลก ๆ

เด็กคนนี้กำลังทำให้ลำดับญาติมันยุ่งเหยิงไปหมด

หลังจากอีกฝ่ายกลับไป เสี่ยวเถียนก็เริ่มเตรียมการเงียบ ๆ แม้ว่าจะยังไม่ได้รับสัญญาณจากฝั่งพี่สาวเลยก็ตาม

เราไม่น่าได้กลับมาในวันสองวันแน่ ๆ เธอเลยเตรียมของเพิ่ม

เช้าวันจันทร์ เสี่ยวเถียนมาเรียนตามปกติ

พอถึงวันพุธ ฮั่วซือเหนียนเรียกเสี่ยวเถียนไปพบและแจ้งเรื่องให้ทราบ

เสิ่นจื่อเจินมาลาให้ที่จิ่งเฉิงเป็นการส่วนตัว

เสี่ยวเถียนสามารถลาได้ แต่ข้อกำหนดของทางมหาวิทยาลัยคือต้องกลับมาก่อนสอบกลางภาคและทำการสอบตามปกติ

เสี่ยวเถียนต้องสอบให้ผ่านทุกวิชา และสอบให้ได้สามอันดับแรก เพราะฉะนั้นจะผ่อนปรนการเรียนเพราะขอลาไม่ได้นะ!

ตลกแล้ว สำหรับนักศึกษาเก่ง ๆ แบบซูเสี่ยวเถียนนั้น เราอยากให้เป็นเกณฑ์มาตรฐานของมหาวิทยาลัยเลยนะ แล้วจะให้เธอเรียนแย่ได้ยังไงล่ะ?

เด็กสาวนึกถึงการสอบที่ต้องกลับมาเจอ แล้วรู้สึกยากมาก

เสียใจตอนนี้ทันไหม ไม่ไปไม่ได้เหรอ?

ตั้งใจเรียนดีกว่าไหมเนี่ย

อย่าว่าแต่สามอันดับแรกเลย อันดับหนึ่งใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แถมเรื่องนี้ได้รับการตัดสินใจแล้ว เราลงทะเบียนกับกระทรวงเกษตรไปแล้วด้วย ไม่ไปไม่ได้แล้วละ!

เย็นวันนั้นเสี่ยวเถียนกลับบ้าน

คุณย่าตกใจมากที่จู่ ๆ หลานก็กลับมา

ทำไมถึงกลับมาเนี่ย?

เกิดอะไรขึ้น?

หญิงชรากำลังจะถามแต่เหลือบไปเห็นซานกงเสียก่อน

“ทำไมจู่ ๆ พวกหลานถึงกลับบ้านมาล่ะ? มาพักก่อนมา เดี๋ยวย่าเตรียมของอร่อยไว้ให้!” หญิงชราเอ่ยอย่างเบิกบานใจ

เด็ก ๆ ไปเรียนกันหมด ตอนนี้ที่บ้านจึงเหลือแต่ผู้ใหญ่เลยไม่มีสิ่งบันเทิงเลย

ตอนซานกงกลับมา เขาก็เอาตั๋วรถไฟของน้องมาด้วย