บทที่ 887 โลกแคบ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 887 โลกแคบ

บทที่ 887 โลกแคบ

ในท้ายที่สุด ซูอันก็ปฏิเสธที่จะให้พวกเขาโค้งคำนับ พ่อลูกตระกูลซ่างต่างก็ชื่นชมในความใจกว้างนี้

พวกเขาเคยเป็นศัตรูกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจดีว่าชายหนุ่มคนนี้ฝ่าฟันสิ่งใดมาบ้างและตอนนี้เขาน่าเกรงขามเพียงใด

“ว่าแต่ อาซู เจ้ารอดหลังจากการเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิได้อย่างไร?” ซ่างหงถามด้วยความสงสัย ซ่างเฉี่ยนและเจิ้งตานจ้องมองซูอันด้วยเช่นกัน ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาทั้งหมดเชื่อว่าซูอันเป็นคนที่ควรจะตายไปแล้ว

“มันเป็นเพราะความเมตตาขององค์จักรพรรดิ” ซูอันกล่าว “ข้ามอบวิชาวัฏจักรหงส์อมตะแก่ฝ่าบาท พระองค์จึงมอบตำแหน่งขุนนางให้ข้าด้วยความเมตตา”

ข้อตกลงของเขากับจักรพรรดิเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และไม่สามารถให้ใครรู้ความจริงได้

“เมตตา?” ดวงตาของซ่างหงส่องประกายเย้ยหยัน ถ้าจักรพรรดิมีเมตตาจริง ๆ เขาคงไม่อยู่ในสภาพนี้ ที่ผ่านมาเขาได้อุทิศตนเพื่อทำงานให้กับจักรพรรดิซึ่งทำให้ขุนนางจำนวนนับไม่ถ้วนขุ่นเคือง แต่เขากลับต้องอาญาทันทีที่ถูกขุนนางเหล่านั้นกลั่นแกล้ง

เขารู้ว่าชะตากรรมนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ลูกชายคนเดียวของเขาเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ ทำให้เขาไม่มีทายาท เขาจะมองจักรพรรดิอย่างชื่นชมต่อไปอีกได้อย่างไร?

ซ่างเฉี่ยนขมวดคิ้ว “เป็นไปได้ไหมว่าวิชาวัฏจักรหงส์อมตะไม่สามารถให้ความเป็นอมตะได้อย่างแท้จริง?”

นี่เป็นคำอธิบายเดียว จักรพรรดิย่อมไม่ปล่อยให้ซูอันมีชีวิตอยู่หากวิชาวัฏจักรหงส์อมตะมอบชีวิตอันเป็นนิรันดร์ได้จริง ๆ

ซูอันยิ้ม “ความเป็นอมตะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ทว่าข่าวลือทำให้ความจริงนี้ถูกบิดเบือน”

นี่คือคำตอบที่เขาและจักรพรรดิเห็นพ้องต้องกัน ด้วยคำตอบนี้ซูอันจะไม่ถูกคนทั้งโลกตามล่าอีกต่อไป

แน่นอนว่ามันแตกต่างกันสำหรับราชันลมปราณ ซึ่งจะไม่มีวันถือคำของจักรพรรดิเป็นข้อเท็จจริง ราชันลมปราณจะต้องยืนยันด้วยตัวเองก่อนจึงจะพอใจ หากจักรพรรดิได้รับความเป็นอมตะโดยที่เขาไม่รับรู้ การวางแผนทั้งหมดตลอดชีวิตของเขาจะกลายเป็นเรื่องตลก

ซ่างหงมีสีหน้าครุ่นคิด เขารู้จักจักรพรรดิดีและเชื่อว่ายังมีความจริงที่ลึกซึ้งกว่านี้

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดคั้นต่อและพูดว่า “อาซู ตระกูลซ่างของเราขอสัญญาในอนาคต หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เจ้าสามารถมาบอกเราได้ แม้ว่าเจ้าจะโชคดีมาโดยตลอด แต่ก็ยังง่ายที่จะถูกพายุแห่งเมืองหลวงพัดพา ความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนอยู่

“ขอบคุณผู้อาวุโสซ่าง” ซูอันมีความสุขที่ได้ยินประโยคนี้ เขามีความรู้น้อยเกินไปเกี่ยวกับอำนาจในเมืองหลวง แต่ด้วยความช่วยเหลือของซ่างหง สิ่งต่าง ๆ จะดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้น เพราะจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้อยู่ในแวดวงการการเมืองมานานหลายทศวรรษ

ซ่างหงกล่าวต่อว่า “ข้าแก่แล้ว เกรงว่าจะไม่มีประโยชน์เหมือนเมื่อก่อน การตายของลูกชายได้ส่งผลกระทบต่อข้ามากเช่นกัน ถ้าเจ้าต้องการอะไร ลองถามเฉี่ยนเอ๋อร์ ความคิดนางเฉียบแหลมเหมือนข้า ข้าแน่ใจว่านางสามารถช่วยเจ้าได้”

ซูอันอึ้งไปชั่วครู่ ตอนนี้เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นกระทบต่อจิตใจของซ่างหงมากจนดูไม่เป็นเหมือนคนเดิมที่เขาเคยเจอที่เมืองจันทร์กระจ่าง ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะชราเพิ่มขึ้นไปอีกสิบปีในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ที่ผ่านมา

ซูอันถอนหายใจ จากนั้นโค้งกายเล็กน้อยไปทางซ่างเฉี่ยนและกล่าวว่า “แม่นางซ่าง ข้าขอขอบคุณล่วงหน้า”

“พี่ซูไม่ต้องเกรงใจ” ซ่างเฉี่ยนยิ้มแล้วมองพ่อของนางด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าพ่อของนางพยายามจะจับคู่ให้กับนางและซูอัน แต่ท่านพ่อรู้ไหมว่าเขากับพี่สะใภ้เป็น…

นางลอบถอนหายใจ

“โอ้ ใช่แล้ว” ซ่างหงอุทานออกมาทันที “จักรพรรดิทรงอนุญาตแล้ว อีกไม่กี่วันเราจะเดินทางไปบ้านเกิดเพื่อฝังซ่างเชียนรวมกับบรรพบุรุษคนอื่นของตระกูลซ่าง เราอาจจะหายหน้าไปสักพัก”

“หืม?” ซูอันมองไปที่เจิ้งตานโดยไม่รู้ตัว พวกเขาเพิ่งกลับมาเจอกันอีกครั้ง ตอนนี้ต้องแยกจากกันอีกแล้วเหรอ?

เขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเจิ้งตาน นางแบกความรับผิดชอบของตระกูลไว้ แม้ว่านางจะยังทำพิธีแต่งงานไม่เสร็จ แต่นางก็ยังคงเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลซ่างอย่างเป็นทางการ ตราบใดที่ตระกูลซ่างและตระกูลเจิ้งไม่ยกเลิกการแต่งงาน นางก็จะไม่เป็นอิสระ

แน่นอนว่านางสามารถหนีไปได้ถ้าต้องการ แต่ชื่อเสียงของนางจะเสื่อมเสียอย่างมาก รวมถึงชื่อเสียงของตระกูลเจิ้งด้วยเช่นกัน

นางตั้งใจที่จะอยู่กับตระกูลซ่างตลอดช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดนี้ ตระกูลซ่างสูญเสียลูกชายคนเดียวผู้เป็นทายาทไป และกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการงานศพ การถือโอกาสหย่าร้างตอนนี้คงเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง

ซ่างเฉี่ยนสูดลมหายใจ สองคนนี้แลกเปลี่ยนสายตากันต่อหน้า! เจ้าคิดว่าข้าตาบอดหรืออย่างไร?

นอกจากนี้ พ่อของข้าที่เคยฉลาดอย่างเหลือเชื่อเสมอมา ทำไมเขาไม่สังเกตเห็นอะไรเกี่ยวกับพี่สะใภ้ของข้าเลย?

ซ่างหงกระแอมและพูดอย่างกระทันหันว่า “อย่างไรก็ตาม อาซู ข้าต้องเตือนเจ้าเรื่องหนึ่ง ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้เจ้าเป็นราชเลขาขององค์รัชทายาท เจ้าต้องระวังทางด้านวังตะวันออก องค์ชายรัชทายาท แม้ว่าเขาจะ…เล็กน้อย…อะแฮ่ม ใสซื่อและตรงไปตรงมา เจ้าไม่สามารถปฏิบัติกับเขาเหมือนคนโง่ทั่วไปได้ เขามีนิสัยที่โหดเหี้ยมอย่างไม่มีเหตุผล เขาทำทุกอย่างที่ตัวเองพอใจเสมอ มีขันทีและนางกำนัลจำนวนมากที่ตายลงอย่างน่าเวทนาหลังจากยั่วยุเขา ดังนั้นเจ้าอย่าทำให้เขาขุ่นเคืองเป็นอันขาด”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของผู้อาวุโสซ่าง” ซูอันพยักหน้า นึกถึงขันทีโชคร้ายที่เขาเคยเห็น ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าครอบครัวธรรมดาให้กำเนิดลูกชายที่มีความบกพร่องทางจิต แต่เมื่อบุคคลนี้เป็นรัชทายาท สถานะของเขาทำให้เขามีอำนาจมหาศาล เมื่อเกิดอารมณ์ร้าย ความเสียหายที่เขาก่อขึ้นย่อมจะมหาศาลเช่นกัน

“มีอีกเรื่องหนึ่ง” ซ่างหงกล่าวต่อ “นายน้อยของตระกูลซือผู้ซึ่งเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าที่เมืองจันทร์กระจ่าง เขาเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาขององค์รัชทายาทเช่นกัน”

“ห้ะ?” ซูอันเกือบลืมผู้ชายคนนั้นไปแล้ว ก่อนหน้านี้นายน้อยผู้นั้นรีบหนีจากเมืองจันทร์กระจ่างมายังเมืองหลวง ใครจะคิดว่าพวกเขาจะได้พบกันอีกเร็ว ๆ นี้?

โลกช่างแคบจริง ๆ!

ซ่างเฉี่ยนยิ้ม “ถ้าพี่ซูสามารถฆ่าแม่ชียุงได้ ซือคุนที่เลวทรามต่ำช้าย่อมไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เมื่อฝ่าบาททรงแสดงความโปรดปรานแก่ท่านแล้ว ข้าไม่คิดว่าตระกูลซือจะกล้าใช้สถานะของพวกเขามารังแกท่าน”

“ขอบคุณสำหรับคำชมของแม่นางซ่าง” ซูอันมองไปที่ซ่างเฉี่ยนอย่างยินดี

พวกเขาคุยกันอยู่อีกพักใหญ่ก่อนที่ซูอันจะกล่าวคำอำลา แม้ว่าเขาต้องการใช้เวลากับเจิ้งตานให้มากกว่านี้ แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้มากในขณะที่สมาชิกตระกูลซ่างอีกสองคนยังอยู่ด้วย

เขากลับไปที่เรือนสกุลติ้ง เอ่อ…ไม่ใช่สิ ตอนนี้มันคือบ้านของข้าเอง…

เขาตกใจมาก ซูอันพบว่าทุกอย่างภายในนั้นดูใหม่เอี่ยม ภายในห้องได้รับการทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันและแม้กระทั่งชุดเครื่องนอนก็ถูกเปลี่ยนใหม่

ความคิดแวบแรกของเขาคือจูเซี่ยฉือซินส่งคนมาจัดการทุกอย่าง แต่เขาปฏิเสธความคิดนี้อย่างรวดเร็ว ทูตยุทธ์เสื้อแพรรู้วิธีฆ่า แต่ไม่มีทางที่จะถูกฝึกมาให้จัดการอะไรบางอย่างเช่น การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อยได้ขนาดนี้

เขาสังเกตว่าสถานที่นี้ดูคล้ายกับห้องของเขาที่เคยอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ที่เมืองจันทร์กระจ่าง

จากนั้นเขาได้กลิ่นพฤกษาสดชื่นที่หลงเหลืออยู่ในอากาศ นี่ต้องเป็นผลงานของเฉียวเสวี่ยอิงแน่นอน!

มีเพียงนางเท่านั้นที่มีความสามารถจัดการงานเรือนและคุ้นเคยกับตระกูลฉู่