ตอนที่ 817 สติหลุดลอยชั่วขณะ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 817 สติหลุดลอยชั่วขณะ

ซีไหวอ๋องคิดอย่างคนเห็นแก่ตัวว่าขอเพียงเซียวหรงเหยี่ยนทำเพื่อแคว้นบ้านเกิดของตัวเอง ใช้ความรักหลอกล่อองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เรื่องนี้ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินเสียงคนด้านนอกเอ่ยทักเซียวหรงเหยี่ยน ซีไหวอ๋องรีบลุกขึ้นยืนพลางดันฉากกั้นที่แกะสลักเป็นลายดอกไม้ออก จากนั้นมองไปด้านนอกประตู เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนในชุดยาวเดินผ่านลานหญ้าเข้ามาด้านในจึงเอ่ยทัก “หรงเหยี่ยน!”

แม้ส่วนหลังของโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะปล่อยเช่าให้แก่ผู้ที่มีเงินมากพอพักอาศัยเท่านั้น ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนก็ยังสั่งให้เยว่สือเหมาที่พักด้านหลังไว้ทั้งหมดเพื่อกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ป้องกันไม่ให้มือสังหารแฝงตัวลอบเข้ามาสังหารซีไหวอ๋องอีก

องครักษ์ที่ป้องกันสามชั้นนอกของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ล้วนเป็นคนของเซียวหรงเหยี่ยน ผู้ที่ป้องกันสามชั้นด้านในคือทหารหน่วยกล้าตายของซีไหวอ๋อง โรงเตี๊ยมแห่งนี้ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา

แม้จะคุ้มกันแน่นหนาถึงเพียงนี้ ทว่า องครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูของซีไหวอ๋องก็ยังไม่วางใจ เขารีบพุ่งเข้าไปขวางซีไหวอ๋องเอาไว้ “ท่านอ๋องทรงระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ ครั้งที่แล้วเรื่องเกิดในโรงเตี๊ยมเหมือนกัน หากไม่ได้เซียวเซียนเซิง…”

เมื่อซีไหวอ๋องได้ยินเช่นนี้ เขาจึงหยุดอยู่หน้าประตูห้องอย่างหงุดหงิด มองเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังเดินมาด้านบนไม่วางตา จากนั้นกล่าวขึ้น “เร็วหน่อย!”

เซียวหรงเหยี่ยนที่ยิ้มอย่างอบอุ่นเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้อง ชายหนุ่มเตรียมโค้งกายคำนับซีไหวอ๋องก็ถูกซีไหวอ๋องกระชากตัวเข้าไปใกล้เสียก่อน “เจ้าและข้าไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้”

ซีไหวอ๋องกระชากคนเข้าไปในห้อง จากนั้นถามอย่างทนไม่ไหว “เจ้าหมั้นหมายกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วตั้งแต่เมื่อใด เรื่องใหญ่เช่นนี้เหตุใดจึงไม่บอกข้า!”

ซีไหวอ๋องนั่งลงบนโต๊ะไม้หวงฮวาหลีกลม จากนั้นเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เขากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “หากข้ารู้มาก่อนว่าเจ้าหมั้นหมายกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วแห่งแคว้นต้าจิ้น ข้าคงไม่ต้องดิ้นรนมาพบแม่ทัพหน้ากากผีไกลถึงเพียงนี้ ข้าขอร้องให้น้องสะใภ้ของข้าไปขอร้องให้องค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นส่งทัพไปข่มขู่ต้าเยี่ยนก็สิ้นเรื่องแล้ว!”

ยิ่งกล่าวใบหน้าของซีไหวอ๋องก็ยิ่งแดงก่ำราวกับพบวิธีที่ดีที่จะช่วยเหลือแคว้นเว่ยแล้ว เขามองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่นั่งลงด้านข้างด้วยตาเป็นประกาย ราวกับกำลังรอให้เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า

เซียวหรงเหยี่ยนยังคงยิ้มให้ซีไหวอ๋องด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเช่นเดิม ชายหนุ่มยกกาน้ำชารินให้ซีไหวอ๋อง จากนั้นดันถ้วยชาไปตรงหน้าซีไหวอ๋อง “ท่านอ๋องทรงคิดว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่สังหารทหารยอมจำนนของซีเหลียงอย่างง่ายดายจะเป็นคนเห็นแก่ความสัมพันธ์หรือพ่ะย่ะค่ะ”

ซีไหวอ๋องอึ้งไปกับคำกล่าวของเซียวหรงเหยี่ยน “ทว่า พวกเจ้า…”

เซียวหรงเหยี่ยนรินน้ำชาให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง จากนั้นวางกาน้ำชาลงแล้วหยัดกายตรงมองไปทางซีไหวอ๋อง “เหยี่ยนเป็นคนแคว้นเว่ย ท่านอ๋องคิดว่าเหยี่ยนไม่เคยขอร้องให้แคว้นเว่ยหรือพ่ะย่ะค่ะ ทว่า องค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการถือโอกาสตอนที่ต้าเยี่ยนทำลายแคว้นเว่ยทำลายแคว้นต้าเหลียงพ่ะย่ะค่ะ”

ซีไหวอ๋องมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอย่างไม่เข้าใจ “หรงเหยี่ยน เจ้ารู้ดีว่าข้าเป็นเพียงอ๋องที่เสพสุขไปวันๆ ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้ากล่าว”

เซียวหรงเหยี่ยนใช้นิ้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำชา จากนั้นวาดแผนที่ของทุกแคว้นลงบนโต๊ะไม้หวงฮวาหลีกลมแล้วชี้ไปยังต้าจิ้นที่อยู่ใจกลางแคว้นทั้งหมด “ท่านอ๋องดูตำแหน่งที่ตั้งของต้าจิ้นพ่ะย่ะค่ะ ดินแดนสี่ทิศของต้าจิ้นล้วนติดกับแคว้นอื่น หากต้าจิ้นต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ต้าจิ้นต้องทำลายแคว้นต้าเหลียง ไม่ก็ต้าเยี่ยนหรือไม่ก็หรงตี๋ให้ดับสูญให้ได้สักแคว้น เช่นนี้ต้าจิ้นจะได้ไม่ตกเป็นเป้าโจมตีของแคว้นอื่นพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นต้าจิ้นโจมตีต้าเยี่ยนก็ได้นี่นา” ซีไหวอ๋องเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยน

เซียวหรงเหยี่ยนส่ายหน้า “ต้าจิ้นบุกโจมตีต้าเหลียงเพราะต้าเหลียงไม่ยอมมอบดินแดนที่เคยตกลงกันไว้ตอนเจรจาสงบศึกให้ต้าจิ้นตามสัญญา ต้าจิ้นมีเหตุผลที่ยกทัพบุกต้าเหลียง ต่อมาต้าจิ้นมอบยารักษาโรคระบาดให้แก่ชาวบ้านต้าเหลียง ทว่า จักรพรรดิแห่งต้าเหลียงก็ยังไม่ยอมจำนน คิดแต่จะแก้แค้นให้โอรสของตนเอง หากต้าจิ้นทำลายล้างต้าเหลียงจนดับสูญในตอนนี้ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล ทว่า ต้าจิ้นไม่มีเหตุผลในการยกทัพไปโจมตีหรงตี๋หรือต้าเยี่ยน การทำเช่นนั้นอาจทำให้ต้าจิ้นถูกโจมตีจากทุกแคว้น ต้าจิ้นไม่มีทางทิ้งโอกาสอันดีที่จะได้ยึดครองต้าเหลียงไปเพื่อแคว้นเว่ยหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

สมองของซีไหวอ๋องสับสนมาก เขารู้สึกว่าเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวมีเหตุผล เขาลุกขึ้นยืนเดินไปมาในห้องอย่างร้อนรน “เช่นนั้นจะทำเช่นไรดี มีเพียงไปขอร้องให้แม่ทัพหน้ากากผีช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ ไม่รู้ว่าไทเฮาจะยื้อได้ถึงตอนนั้นหรือไม่ เราส่งของกำนัลล้ำค่าไปให้ต้าจิ้นและแคว้นอื่นๆ มากหน่อยดีหรือไม่”

สิ้นเสียงของซีไหวอ๋อง เสียงรายงานของเยว่สือดังมากจากด้านนอก “นายท่าน คุณหนูใหญ่นำทหารมาที่นี่ขอรับ ใกล้ถึงเรือนแล้วขอรับ!”

เมื่อซีไหวอ๋องที่กำลังร้อนรนได้ยินคำว่าทหารก็หันไปมองเซียวหรงเหยี่ยนด้วยความตกใจทันที เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน เขาจึงรีบถาม “ผู้ใดนำทหารมากัน”

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว…” เซียวหรงเหยี่ยนอธิบาย

ไม่รอให้เซียวหรงเหยี่ยนเดินออกไปต้อนรับ ซีไหวอ๋องรีบชิงเปิดประตูไม้แกะสลักลายดอกไม้ออกก่อน เขาเตรียมเดินลงไปต้อนรับไป๋ชิงเหยียนโดยไม่สนการห้ามปรามขององครักษ์ ทว่า เมื่อเดินไปถึงบันได เขาก็เห็นร่างองอาจของสตรีในชุดเกราะสีเงินที่รวบผมสูงเดินถือดาบเข้ามาด้านในเรือนที่พัก ซีไหวอ๋องจับเสาใหญ่สีแดงแกะสลักแน่น สติหลุดลอยไปชั่วขณะ

ร่างในชุดเกราะสีเงินของไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาด้านในท่ามกลางแสงสีส้มอ่อนของดวงตะวัน

สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาตรงหน้าคือร่างปราดเปรื่องของสตรีที่มีใบหน้างดงามไร้ที่ติ ผิวของหญิงสาวขาวละเอียดราวกับหิมะ หากไม่ใช่เพราะดวงตาของสตรีผู้นี้ล้ำลึก ร่างเต็มไปด้วยไอสังหารและบารมีที่น่าเกรงขาม ซีไหวอ๋องคงไม่อาจเชื่อว่าสตรีที่งดงามราวกับเทพธิดาผู้นี้จะเป็นคนเดียวกันกับเทพสังหารองค์หญิงเจิ้นกั๋วแห่งแคว้นต้าจิ้น

ซีไหวอ๋องไม่เคยพบไป๋ชิงเหยียนมาก่อน เขาเคยแต่ได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนรูปโฉมงดงามมาก องค์ชายสี่เว่ยฉีเหิงแห่งแคว้นต้าเหลียงเคยเข้าใจผิดคิดว่าไป๋ชิงเหยียนคือหญิงงามอันดับหนึ่งหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูของแคว้นต้าจิ้น ตอนนั้นซีไหวอ๋องที่มีภาพวาดของหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูยังคิดอยู่เลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะงดงามมากเพียงใดกันแน่ถึงได้งามกว่าหญิงงามอย่างหลิ่วรั่วฟูเช่นนี้

วันนี้เมื่อได้พบเขาจึงเข้าใจแล้วว่าหญิงงามล่มเมือง งามจนบุรุษใจสั่นสะท้านเป็นเช่นไร

หากไม่ใช่เพราะหญิงสาวดูดุดันและทรงพลังมากกว่าบรรดาน้องชายของนาง ซีไหวอ๋องคงเกิดความคิดล่วงเกินนางไปแล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนเดินออกมาจากห้องพัก เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนมองมาทางเขา ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ทั้งๆ ที่สั่งให้นางนอนพักต่อแท้ๆ เหตุใดยังเดินทางมาที่นี่อีก ไม่เป็นห่วงร่างกายของตัวเองบ้างหรืออย่างไรกัน

ทว่า เมื่อคิดดูให้ดีเซียวหรงเหยี่ยนก็เข้าใจในทันที ไป๋ชิงเหยียนคงมาเพราะเรื่องแม่ทัพหน้ากากผีซึ่งเป็นคุณชายของตระกูลไป๋ผู้นั้นแน่

“เชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะองค์หญิงเจิ้นกั๋ว” องครักษ์ข้างกายของซีไหวอ๋องรู้ว่าเจ้านายของตนเองอยากพบองค์หญิงเจิ้นกั๋วมาก เขาจึงรีบเข้าไปผายมือเชิญ

ไป๋ชิงเหยียนละสายตาจากร่างของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นมองไปทางร่างสูงโปร่ง ทว่า ค่อนข้างซูบผอมของบุรุษคนหนึ่งที่อยู่ในชุดสีขาวปักด้วยลายเมฆมงคลสีทอง ผูกผ้าคาดเอวหยก

ไป๋ชิงเหยียนเดาว่าเขาคือซีไหวอ๋อง

ไป๋ชิงเหยียนปลดดาบที่เอวของตัวเองส่งให้องครักษ์ของซีไหวอ๋องตามกฎ หญิงสาวส่งสัญญาณให้องครักษ์ของตัวเองรออยู่ด้านนอก จากนั้นเดินขึ้นไปบนชั้นสองคนเดียว

ซีไหวอ๋องขยับริมฝีปากเล็กน้อย เขามีเรื่องต้องการขอร้องให้หญิงสาวช่วย อีกทั้งตอนนี้เขาอยู่ต่างแคว้น เขาจึงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อมที่สุด “คารวะองค์หญิงเจิ้นกั๋ว”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าเดินขึ้นไปด้านบน “ซีไหวอ๋องไม่ต้องมากพิธี”