บทที่ 844 ซื้อเครื่องประทินผิว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 844 ซื้อเครื่องประทินผิว

บทที่ 844 ซื้อเครื่องประทินผิว

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งซึ่งก็คือ เมื่อมองดูมันเทศที่ใกล้จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว กู้เสี่ยวหวานก็มีความสุขมาก

ปีนี้นับเป็นปีที่เฟื่องฟู

นางขุดมันเทศขึ้นมาสองสามหัว ทุกหัวมีผิวบาง แม้ว่าระยะการเก็บเกี่ยวจะยังสั้นไปหน่อย และรสชาติก็ไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้ก็นับว่าดีมากแล้วกับรูปลักษณ์เช่นนี้

กู้เสี่ยวหวานลองขุดมันเทศขึ้นมาสามสี่ต้นจากที่ดินสองผืน มีหัวมันเทศสีแดงสามสี่หัวต่อหนึ่งต้น มากสุดมีห้าหรือหกหัว และผลผลิตของมันเทศบางต้นก็สูงถึงประมาณยี่สิบหัว

มันเทศนี้มีผลผลิตมากจริง ๆ

นางเพิ่งขุดมันเทศขึ้นมาสองสามต้น และพวกมันมีน้ำหนักราว ๆ ร้อยชั่ง

ทุกคนต่างตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาต่างเฝ้ารอการเก็บเกี่ยวในอีกหนึ่งเดือนที่จะมาถึง

โชคดีที่ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวมันเทศมาถึงเร็วกว่าพืชชนิดอื่น

ปีนี้ผู้เช่าที่ดินได้ชำระค่าเช่าตามจำนวนที่กำหนด และหลังจากเก็บไว้ในปริมาณที่สามารถทานได้เป็นเวลาสองหรือสามปี ส่วนที่เหลือทั้งหมดก็ถูกขายให้กับร้านธัญพืชเฉิงซิ่น

หลายปีมานี้ กู้ฟางสี่เลี้ยงตัวเองและหลิวชิงซานด้วยการปักผ้าเช็ดหน้าในร้าน และนางยังมีความคุ้นเคยกับทักษะนี้

ผ้าเช็ดหน้าที่ปักออกมาไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แม้แต่เชือกก็สามารถถักออกมาได้เช่นกัน

ในเวลานั้น กู้ฟางสี่ซื้อผ้าราคาถูกเพราะมือของนางแข็งด้าน หากซื้อผ้าที่ดีก็กลัวว่ามันจะเป็นรอยหากนางสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นผ้าเช็ดหน้าที่นางปักจึงมีราคาไม่กี่เหรียญสำหรับคนในชนบท

ในช่วงเวลานี้ กู้เสี่ยวหวานพานางไปในเมืองเพื่อซื้อเครื่องประทินผิว โดยบอกว่าสิ่งเหล่านี้ดีสำหรับใบหน้า

กู้เสี่ยวหวานและกู้ฟางสี่ไปที่ร้านลี่เฝิ่นในเมืองหลิวเจีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขายชาดและเครื่องประทินโฉม

เจ้าของร้านลี่เฝิ่นเป็นสตรีอายุสี่สิบปีที่ยังดูอายุน้อย

ในวันธรรมดา นางสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสและชอบสวมเสื้อผ้าสีแดงสด เขียว และม่วง เนื่องจากนางเปิดร้านขายชาดและเครื่องประทินโฉม นางจึงแต่งหน้าเป็นประจำทุกวัน แม้ว่านางจะอายุสี่สิบปีแล้ว แต่ก็ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์และไม่ได้ดูอายุมากจนเกินไป

ครั้งล่าสุดที่กู้เสี่ยวหวานพากู้ฟางสี่ไปซื้อของ ลี่เหนียงบอกกู้ฟางสี่เกี่ยวกับปัญหาและสถาพปัจจุบันของผิวหน้าและผิวหนังบนมือ และบอกข้อควรระวังแก่นางมากมาย

ลี่เหนียงมอบสินค้าตัวทดลองให้แก่กู้ฟางสี่ แต่ไม่ได้คะยันคะยอจะขายมากเกินไป

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโบราณได้รับการพัฒนาโดยคนสมัยก่อน ไม่มีสารตะกั่ว สารปรอท กู้เสี่ยวหวานจึงรู้สึกโล่งใจมาก ตราบใดที่นางรู้สึกว่ามันดีต่อผิวของกู้ฟางสี่ กู้เสี่ยวหวานจะซื้อทุกอย่าง

แต่กู้ฟางสี่นั้นแตกต่างออกไป ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเห็นหลานสาวเลือกสิ่งของมากมายให้นาง กู้ฟางสี่ก็ไม่อยากลองแล้ว

มารดาของนางซื้อสิ่งเหล่านี้ให้หนึ่งหรือสองอย่างในชีวิต แต่ตลอดห้าปีของการแต่งงาน นับประสาอะไรกับสิ่งของสักชิ้นเดียว นางไม่เคยเห็นกล่องเลยแม้แต่ใบเดียว

ตราบใดที่นางปักผ้าเช็ดหน้า หลิวชิงซานจะนำมันไปขายด้วยตัวเอง และเมื่อได้เงินมาเขาก็ซื้อวัสดุอุปกรณ์มาให้นางปักอีกโดยไม่ให้เงินแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว แล้วนางจะมีเงินซื้อสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานซื้อของให้ตนเองมากมายในครั้งนี้ ความคิดเรื่องการประหยัดก็ท่วมท้นอีกครั้งในทันที มันร้องกู่ตะโกนในใจว่านางกำลังเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

อย่างไรก็ตาม กู้เสี่ยวหวานยังคงยืนยิ้มอยู่กับที่ และเกลี้ยกล่อมกู้ฟางสี่ พลางสังเกตการแสดงออกของลี่เหนียงที่อยู่ด้านข้างอย่างลับ ๆ

เมื่อลี่เหนียงได้ยินว่ากู้ฟางสี่กำลังจะจากไปและตะโกนบอกว่าจะไม่ซื้อของ ใบหน้าของนางไม่มีแม้แต่ร่องรอยความไม่พอใจ และรอยยิ้มเพียงเป็นมิตรประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ คิ้วที่ยกขึ้นเล็กน้อย แม้แต่รอยยิ้มยังส่งไปถึงดวงตา

นางไม่ได้ตื่นเต้นที่กู้เสี่ยวหวานเลือกหลายสิ่งหลายอย่าง และนางก็ไม่ได้รำคาญที่ต้องใช้เวลานานในการแนะนำให้กู้ฟางสี่ แต่สุดกลายเป็นว่านางไม่ต้องการมัน

นางยังคงมีท่าทางนิ่งสงบอยู่เสมอ ยืนอยู่ด้านข้างด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

กู้เสี่ยวหวานเกลี้ยกล่อมกู้ฟางสี่อย่างนุ่มนวลโดยบอกว่ามันสามารถปรับสภาพผิวและริมฝีปากที่แห้งแตกของนางได้ แต่กู้ฟางสี่ปฏิเสธที่จะซื้อมัน

ลี่เหนียงยังคงมีรอยยิ้มตลอดเวลาที่ยืนอยู่ด้านข้าง ฟังเสียงกระซิบระหว่างอากับหลานสาว นางไม่ตั้งใจฟังอะไรทั้งนั้น และได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

แต่ในใจเริ่มรู้สึกแปลกเล็กน้อย

เมื่อฟังคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน เมื่อนางรู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้ามีอายุเพียงยี่สิบต้น ๆ ลี่เหนียงก็ตกใจเช่นกัน เมื่อนางมองไปที่กู้ฟางสี่ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสาร ผู้หญิงคนนี้เคยใช้ชีวิตแบบไหนมาก่อนถึงได้มีสภาพแบบนี้

โดยธรรมชาติแล้วนางทนไม่ได้

ตอนนี้เด็กหญิงอายุสิบกว่าขวบพาอาหญิงของตนเองมาซื้อชาดและเครื่องประทินผิว โดยธรรมชาติแล้วนางรู้ว่าเด็กคนนั้นทำเพื่ออาของตัวเอง และอยากให้นางสวยขึ้น ลี่เหนียงจึงทนไม่ได้ นางจึงไม่ได้แนะนำอะไรสิ่งใดมากเกินไปและเป็นสิ่งที่คนธรรมดาสามารถซื้อได้

ฐานลูกค้าของลี่เหนียงมุ่งเป้าไปครอบครัวของชาวบ้านธรรมดา

คนที่จะเข้าร้านเครื่องประทินผิวได้ต้องมีอาหารเพียงพอ ไม่เช่นนั้น คนที่ไม่มีเงินจะกินอาหารจะมาที่ร้านเครื่องประทินผิวได้อย่างไร

ลี่เหนียงพบหญิงสาวตรงหน้า แม้ว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นวัสดุที่ดี แต่ใบหน้าและมือของนางนั้นเกิดจากการทำงานหนักเกินไปและสัมผัสกับลมและแสงแดดเป็นเวลานาน นางต้องมาจากครอบครัวที่ยากจน

สิ่งของเหล่านี้ไม่แพงเลย ต้องขอบคุณเจตนาดีของสาวน้อย

มันมีราคาเจ็ดหรือแปดตำลึงเงิน ซึ่งถือว่าถูกกว่าในบรรดาของที่คนอื่นเข้ามาซื้อ

แต่อาหญิงของนางก็ยังลังเลที่จะซื้อมัน ลี่เหนียงพูดอะไรไม่ออก แต่เมื่อเห็นริ้วรอยบนใบหน้าของกู้ฟางสี่ นางก็ยังแนะนำให้ใช้มันและอดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อม “ท่านพี่ ท่านมีหลานสาวที่ดีขนาดที่ถึงกับซื้อเครื่องประทินผิวให้ ท่านอย่าหักล้างความตั้งใจของนางเลย เอาล่ะ สาวน้อยรับไปก่อน ข้าไม่คิดเงิน ข้าจะให้อาของเจ้าลองใช้สักพัก ลองดูว่าได้ผลอย่างไร ถ้าดีค่อยมาซื้อใหม่ เช่นนี้ดีหรือไม่”

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินว่าลี่เหนียงไม่ต้องการเงินจึงมองนางอย่างสงสัย

เมื่อเห็นว่าลี่เหนียงยังคงยิ้มอยู่ แต่เมื่อกู้เสี่ยวหวานมองไปยังตาของลี่เหนียงก็เห็นได้ชัดว่ามีความสงสารในดวงตาของนาง