บทที่ 871 บ้านซูที่แสนวุ่นวาย

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 871 บ้านซูที่แสนวุ่นวาย

บทที่ 871 บ้านซูที่แสนวุ่นวาย

หลังแก้ปัญหาเรื่องเงินเสร็จ เสี่ยวเถียนแวะมาเล่นหมากรุกกับฉือเก๋อ พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันมาก มีเพียงเสียงตัวหมากที่กระทบกระดานเท่านั้น

สองปู่หลานเป็นพวกมีความอดทน เล่นกันยาวตลอดครึ่งเช้า และในที่สุดก็จบรอบเสียที

“เยี่ยม ฝีมือพัฒนาขึ้นเยอะนะ!” ฉือเก๋อเอยชมพร้อมรอยยิ้ม

เด็กคนนี้มีพรสวรรค์มาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็เรียนรู้ไวกว่าเด็กคนอื่น ๆ เสมอ เพิ่งจะเรียนได้ไม่เท่าไร ก็เป็นคู่ประลองที่สูสีกับเขาแล้ว

“ชมเกินไปแล้วค่ะ คุณปู่สอนเก่งต่างหาก” เสี่ยวเถียนยิ้ม

ฉือเก๋อมีงานอดิเรกคือการเล่นหมากรุก ตั้งแต่ที่หลานชายไปต่างประเทศชายชรามักใช้เวลาไปกับเด็ก ๆ ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ส่วนเวลาที่เหลือจะนั่งเล่นหมากรุก

เสี่ยวเถียนเข้าใจความรู้สึกเขาดี ชาติก่อนที่ต้องเธอต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่มันทรมานมากจริง ๆ

เพื่อที่จะได้เล่นหมากรุกกับชายชราเป็น เธอศึกษาจากในหนังสือเองอยู่หลายเล่มเลย

ความเข้าใจของเธอน่าทึ่งมาก อ่านแค่สองรอบก็สามารถเข้าใจได้ในทันที บวกกับฉือเก๋อสอนเพิ่มอีกจึงทำให้เรียนรู้ได้ไวกว่าเดิม

“เด็กคนนี้ พูดจาน่าฟังจริง ๆ” ก่อนจะว่าต่อ “วันนี้อยู่กินข้าวด้วยกันสิ”

“ได้ค่ะ จริง ๆ หนูก็ตั้งใจมากินข้าวกับคุณปู่ฉืออยู่แล้วนะ”

ฉือเก๋อจะกินข้าวกับเด็ก ๆ โดยจะมีอาหารจานเนื้อและอาหารจานผักอย่างละหนึ่ง มีหมั่นโถวและข้าวให้เลือก เด็ก ๆ กินกันอย่างเบิกบานใจ

เสี่ยวเถียนเห็นรอยยิ้มพวกเขาพลันรู้สึกมีความสุขมาก โดยเฉพาะรอยยิ้มของสองผู้อาวุโสบ้านถาน ชีวิตหลีอวี๋เหนียงยากลำบากมาเสมอ ทั้งยังไม่มีลูกเป็นของตัวเองอีก ถ้าการได้ดูแลเด็กกำพร้าพวกนี้แล้วทำให้เธอมีความสุขก็คุ้มแล้วละ

ตอนนี้หญิงชราดูแลเด็กที่อายุน้อยที่สุดอย่างทะนุถนอม ดูแลอย่างดีราวกับเป็นหลานชายแท้ ๆ ของตัวเอง ถานจื่อสื่อทั้งช่วยดูแลและรักษาความสงบเด็กคนอื่น ๆ ด้วย แต่พวกเขารู้จักนิสัยสองผู้อาวุโสดี ต่อให้ถานจื่อสือทำหน้านิ่งก็ไม่เกรงกลัวแต่อย่างใดก็ตาม

สามพี่น้องไม่ได้กลับบ้านจนถึงเย็น

ตลอดวันหยุดหน้าหนาว เสี่ยวเถียนยุ่งกว่าตอนอยู่มหาวิทยาลัยเสียอีก

ช่วงปีใหม่ที่โรงงานจะยุ่งมาก มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเจรจาธุรกิจ ต่อให้โรงงานหลาย ๆ แห่งจะมีล่ามเป็นของตัวเองแต่พวกเขาไว้วางใจในการแปลและการปรับตัวของเสี่ยวเถียนมากกว่า หลาย ๆ ที่จึงอยากว่าจ้างเธอชั่วคราว

เสี่ยวเถียนอยากปฏิเสธนะ แต่เราสนิทกันมาหลายปีแล้วก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงด้วย เลยตอบรับเอาไว้ ผลคือ 20 วันก่อนถึงปีใหม่เธอยุ่งมาก ๆ แต่ได้เงินกลับมาเยอะเหมือนกันนะ

เสี่ยวเถียนมองดูกองธนบัตรเธอรู้สึกว่าไม่ได้เสียแรงเปล่าเท่าไร เพื่อนร่วมห้องทั้งสามของเสี่ยวเถียนไปทำงานที่หออีหมิงจริง ๆ พวกเธอทำหน้าที่เป็นพนักงานและแคชเชียร์ในช่วงวันหยุด

งานคุณปู่ซูสบายมากขึ้น มีเวลาให้พักผ่อนมากขึ้น

ส่วนคุณย่าซู ตั้งแต่มอบหน้าที่ในครัวส่วนใหญ่ให้เหลียงซิ่ว ตัวแกมีหน้าที่แค่คอยให้คำแนะนำเท่านั้น

ตอนนี้สองผู้อาวุโสมีชีวิตใกล้เกษียณแล้ว เสี่ยวเถียนคิดว่ามันควรเป็นแบบนี้แหละ แกทำงานหนักมาตลอดเลย จะให้มาพะวงเรื่องลูกหลานต่ออีกไม่ได้

ส่วนคนอื่น ๆ ในบ้านมีหน้าที่ของตัวเองและทำการทำงานกันหมด แม้แต่พี่หก พี่เจ็ด พี่แปด และพี่เก้าที่ไม่มีงานให้ทำ เสี่ยวเถียนก็มอบหมายงานให้อย่างเหมาะสม ต้องดูแลเรื่องปศุสัตว์ และเรื่องอื่น ๆ ในโรงงานแปรรูปด้วย

เสี่ยวปาเสี่ยวจิ่วต้องไปเรียน

เสี่ยวลิ่วเสี่ยวชีไปลี่เฉิงกับพี่รอง

เรามีเวลาดูแลโรงงานที่นั่นในช่วงวันหยุดเท่านั้น

ส่วนใหญ่ก็เป็นคนนอกคอยดูแล ถึงจะมีเฉินจื่ออันคอยดูแลให้แต่ยังไม่อาจหายห่วงได้

วันเวลาที่แสนวุ่นวายผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานก็ถึงวันที่ 26 เดือน 12 ปีนี้บ้านซูไม่ได้กลับบ้านเกิดไปฉลองส่งท้ายปีเก่า ก็เลยปิดร้านตั้งแต่วันที่ 28 แล้วเตรียมของเพื่อรอคนอื่น ๆ มาร่วมฉลองที่นี่ แต่พอใกล้ปีใหม่ สามสาวก็เริ่มคิดถึงบ้านขึ้นมา ปีนี้พวกเธอไม่ได้กลับเพราะต้องทำงานพิเศษน่ะ

“ถ้าเราไม่กลับแล้วจะไปไหนดีล่ะ?” ฉีเสี่ยวฟางดูลังเล

พวกเราจะอยู่ฉลองกับบ้านซูไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ที่บ้านเกิดเราไม่มีใครเขาทำแบบนี้หรอก ถ้าพูดออกไปโดนหัวเราะเยาะตาย อีกสองวันร้านจะปิดแล้วด้วย

เราอยู่กินอยู่นอนบ้านเขาโดยไม่เสียอะไรเลยสักนิด และมันน่าละอายใจเหลือเกิน แล้วเราก็ไม่มีอะไรให้ทำช่วงร้านปิดด้วย จะอยู่บ้านเขาต่อก็ไม่ใช่เรื่องเหมาะสม

หออีหมิงไม่มีบ้านพักให้พนักงาน สาว ๆ จึงต้องไปนอนที่บ้านตู้ช่วงนี้ไปก่อน

อวี่รุ่ยหยวนจัดการเรือนสี่ประสานให้เป็นบ้านพักแล้วให้พวกเธอเข้ามาพักอาศัย

เตียงเตาหลังใหญ่ อุ่นสบายกว่าในหอพักเสียอีก แต่ยังไงมันก็เป็นบ้านของคนอื่น แล้วเราก็เกรงใจที่จะอยู่กับเขาช่วงปีใหม่ด้วย

“ถ้ากลับบ้านก็ไม่ทันใช่ไหม?” หลี่เจี้ยนหง

การเดินทางยากลำบากพอควร ทั้งค่าใช้จ่ายทั้งเวลาที่กระชั้นชิด สู้เอาเงินส่งกลับบ้านดีกว่า ช่วยได้มากกว่าการกลับบ้านมากเลย อยู่บ้านคนอื่นก็ไม่ดี อยู่หอพักก็ไม่ได้ นี่แหละคือปัญหา

“งั้นเราไปหาโรงแรมพักอยู่สักวันไหม? หรือสองวันก็ได้” ฉีเสี่ยวฟางแนะนำ

เธอไม่ค่อยอยากใช้เงินเท่าไร แต่เราต้องตัดสินใจแล้วว่าจะทำยังไงต่อ

เสี่ยวเถียนบังเอิญเดินมาได้ยินพอดี

“ก็อยู่ที่บ้านคุณย่าอวี่ไปเลย ช่วงปีใหม่ก็มาฉลองที่บ้านฉันไง” เธอทำข้อสรุปให้

เพื่อน ๆ ตกใจมาก

“แบบนั้นไม่ดีเลย เราเป็นคนนอกนะ” เฉียนเสี่ยวเป่ยเอ่ยอย่างเชื่องช้า

“ไม่เป็นไรหรอก คุณปู่ฉือ บ้านคุณปู่คุณย่าตู้ก็มากินข้าวฉลองปีใหม่ที่บ้านเหมือนกัน”

สาว ๆ มองหน้า ไม่คิดว่าบ้านซูจะมีคนเยอะขนาดนี้เลย

แถมยังมารวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองด้วยกันด้วย

ที่เมืองหลวงมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?

ต่างครอบครัวมารวมตัวฉลองที่ปีใหม่น่ะนะ?