บทที่ 854 วิธีการยั่วยุ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ลีน่าเองก็มองออกว่าสถานการณ์ของคายาโกะ ยามาโมโตะในตอนนี้วิกฤตแค่ไหน แต่เธอกลับยิ้มอย่างไม่กังวลแม้แต่น้อย “ไม่เป็นไรน่า แม้ว่าตอนนี้สไตล์ที่เธอกับเพื่อนร่วมทีมออกแบบจะต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่ฉันเชื่อว่าเธอและเพื่อนร่วมทีมจะสามารถลุกขึ้นสู้ได้อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น คายาโกะ ยามาโมโตะก็คงหาเพื่อนร่วมทีมที่จะมาเป็นคู่หูไม่ได้หรอก ฉันไม่เชื่อหรอกนะ ก่อนที่คายาโกะ ยามาโมโตะจะหาเพื่อนร่วมทีม จะไม่รู้สไตล์ของเพื่อนร่วมทีมตัวเองเชียวหรือ?”

วารุณีพยักหน้า “ที่เธอพูดก็ถูก”

“เพราะงั้นน่ะ คายาโกะ ยามาโมโตะต้องรู้แน่ว่าเสื้อผ้าที่เพื่อนร่วมทีมออกแบบมันไม่เข้ากับเครื่องประดับของเธอ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่เห็นท่าทีที่ประหลาดใจบนใบหน้าของเธอหรอก คงจะเห็นแต่ท่าทีที่จริงจังเท่านั้น ดังนั้นสถานการณ์แบบนี้ คายาโกะ ยามาโมโตะจึงรู้อยู่แก่ใจละ ฉันเชื่อว่าในสองวันนี้ เธอและเพื่อนร่วมทีมจะสามารถเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีได้แน่”

“เธอดูมั่นใจในตัวคายาโกะ ยามาโมโตะจังนะ” วารุณีถามด้วยรอยยิ้ม

ลีน่าเสยผมของเธอและตอบอย่างองอาจ “แน่นอนสิ อย่างไรก็ตามเธอก็เป็นคู่ต่อสู้ของลีน่าคนนี้ ฉันยังมีความมั่นใจนี้อยู่นะ”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าต่อไปเธอกับคายาโกะ ยามาโมโตะจะเข้ากันไม่ได้”

“ถูกต้อง” ลีน่าตอบ

วารุณีลุกขึ้นยืน “เอาละจ้ะ เราไปส่งต้นฉบับกันก่อนเถอะ เธอยังรอกอดสุขใจอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

เมื่อได้ยินคำว่าสุขใจ ลีน่าก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที จึงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไปกันเถอะ รออะไรอยู่ รีบเอาต้นฉบับไปส่ง เร็วเข้าสิวารุณี”

เมื่อเห็นวารุณียังคงนั่งไม่ยอมลุก ลีน่าก็รีบคว้าข้อมือเธอและดึงเธอขึ้นจากเก้าอี้เพื่อไปส่งต้นฉบับ

วารุณีสั่นศีรษะอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ลุกขึ้นตามเธอไปยังที่นั่งของกรรมการ

เมื่อเดินผ่านข้างคายาโกะ ยามาโมโตะลีน่าก็หยุดครู่หนึ่ง “ยามาโมโตะต้นฉบับของฉันเสร็จแล้วนะ แล้วเธอล่ะ?”

“ฉันก็เหมือนกัน” คายาโกะ ยามาโมโตะเงยหน้าตอบพลางหยิบเอาสิ่งของมาปิดงานออกแบบของตัวเองไว้

สายตาลีน่าเป็นประกายแวววับ และจงใจหันไปมองอย่างไม่เชื่อ “ไม่มั้ง เธอก็วาดเสร็จแล้วเหมือนกันหรือ? แต่ดูท่าทางเธอหน้านิ่วคิ้วขมวด เห็นทีจะไม่ใช่แบบนั้นละมัง”

คายาโกะ ยามาโมโตะก้มหน้าลง “เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเอาหลักฐานให้เธอดู”

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ถึงวันที่จะประกาศต้นฉบับ เธอจึงแสดงงานออกแบบของเธอให้ลีน่าดูไม่ได้

ลีน่าส่งเสียงจุ๊ๆ “อย่ากระโตกกระตากสิ ฉันไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อนี่นา ก็แค่เห็นเธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เลยมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงน่ะ แต่ว่านะยามาโมโตะหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ เธอมั่นใจในตัวเองเสมอไม่ใช่หรือ ทำท่าทางแบบนี้คงไม่ใช่เพราะว่าไม่พอใจกับงานออกแบบหรอกนะ? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นเธอต้องระวังตัวแล้วละ ฉันน่ะพอใจกับงานออกแบบของตัวเองมาก ไม่แน่ว่าท้ายที่สุดแล้วเธออาจจะแพ้ฉันก็ได้นะ พอถึงเวลานั้น เธอก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ปรับกับฉันแล้ว”

คายาโกะ ยามาโมโตะได้ยินคำพูดของเธอคราวนี้ ใบหน้าของเธอจึงแดงก่ำด้วยความโกรธ “ฮึ วางใจเถอะ เธอจะไม่สมดั่งใจปรารถนาแน่นอน ฉันจะไม่มีวันแพ้เธอ ฉันว่านะ สุดท้ายแล้วคนที่ต้องแพ้ก็คือเธอนั่นแหละ”

“แหม อวดดีอะไรขนาดนี้หนอ ได้ งั้นฉันจะคอยดู” ลีน่ายักไหล่ และยกเท้าเดินต่อไปข้างหน้าอย่างคัดค้าน ราวกับไม่ได้สนใจคำพูดของคายาโกะ ยามาโมโตะ

คายาโกะ ยามาโมโตะเห็นเช่นนั้น เธอจึงโกรธจัด

สีหน้าของดีไซเนอร์ที่อยู่ข้างๆ เธอก็ดูไม่ดีเช่นเดียวกัน “ยามาโมโตะดูเหมือนเธอจะไม่คิดว่าเราจะเอาชนะเธอได้เลย”

“แน่นอนว่าเธอไม่คิด เธอเห็นแล้วว่าฉันหน้านิ่วคิ้วขมวด เธอไม่ใช่คนโง่ ทำไมเธอถึงจะดูไม่ออกว่างานออกแบบของเรามีปัญหา เธอจึงตั้งใจเข้ามาโจมตีฉันอย่างไรเล่า” คายาโกะ ยามาโมโตะนวดขมับพลางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

ดีไซเนอร์ที่อยู่ข้างกายเธอได้ยินดังนั้น เธอรู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดจึงก้มศีรษะลง “ฉันขอโทษนะยามาโมโตะเป็นความผิดของฉันเอง เธอร่างงานออกแบบของเธอเสร็จแล้ว แถมยังสมบูรณ์แบบมาก ฉันตามไม่ทันเอง ถึงทำให้เธอ… ”

“ไม่ใช่เธอตามไม่ทัน แต่งานออกแบบของเธอมันล้ำสมัยมาก เพียงแค่ไม่ใช่สไตล์เดียวกับงานออกแบบของฉันเท่านั้นเอง” คายาโกะ ยามาโมโตะโบกมือ “เอาละ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว มาพูดเรื่องระหว่างเรากับวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับสไตล์ของพวกเรากันต่อเถอะ ในการส่งต้นฉบับ เราแพ้พวกเขาไปแล้ว แต่ในการแข่งขัน เราต้องไม่แพ้”

เธอรับรู้ได้ว่าคนอื่นๆ ยืนอยู่ในระดับเดียวกับเธอ แต่เธอจะต้องไม่ให้คนอื่นแซงหน้าเธอ เหยียบย่ำเธอ

ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะแพ้ลีน่าไม่ได้

ในอีกด้านหนึ่ง ลีน่าไม่รู้ว่า คายาโกะ ยามาโมโตะกำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากที่ส่งต้นฉบับแล้ว เธอก็เดินออกจากการแข่งขัน และจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา

วารุณีเดินข้างๆ มองมาที่เธอแล้วถามว่า “เมื่อกี้เธอตั้งใจยั่วโมโหยามาโมโตะล่ะสิ?”

ลีน่าหัวเราะฮิฮิ “เธอพูดถูกแล้วละวารุณี ฉันตั้งใจน่ะ ตอนนี้เธอกับเพื่อนร่วมทีมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้อย่างไร ฉันเลยใส่ไฟสักนิด กระตุ้นสักหน่อย และทำให้เธอตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่แน่ว่าวิธีนี้ พวกเขาอาจจะคิดวิธีแก้เพื่อตามให้ทันก็ได้นะ”

“วิธียั่วยุแบบนี้จะว่าดีก็ดี แต่เธอไม่กลัวว่ายิ่งทำจะยิ่งเสียหรือ?”

“ยิ่งทำยิ่งเสียหรือ?” ลีน่ามองวารุณี

วารุณีตอบรับ “ในกรณีที่พวกยามาโมโตะเธอไม่ทุ่มเทกายใจเพื่อจะไล่ตามให้ทัน แต่กลับโกรธเคืองและกระทบจิตใจพวกเขา คิดหาทางแก้ปัญหาอะไรไม่ออก เธอ…”

“โธ่เอ๋ย เป็นไปไม่ได้หรอกน่า” ลีน่ายิ้มพลางโบกมือ “ฉันรู้จักยามาโมโตะดี เธอเป็นผู้หญิงบ้าๆ ที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่รู้จักถอยหลัง คู่ต่อสู้แบบนี้น่ากลัวมากนะ แถมจิตใจของเธอก็แข็งแกร่งเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่คำพูดของฉันจะไปกระทบจิตใจเธอ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะโกรธเพราะคำพูดเหล่านั้น เธอเพียงแค่พยายามที่จะตามให้ทัน เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้แย่ไปกว่าฉัน”

เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของเธอ วารุณีจึงยอมไม่โต้เถียง “ในเมื่อเธอพูดอย่างนั้นแล้ว งั้นก็ได้ แล้วแต่เธอ”

“แบบนี้แหละถูกแล้ว” ลีน่าคว้าแขนของเธอไว้ “ไปกันเถอะวารุณี พวกเราเดินเร็วหน่อย ฉันอยากเจอสุขใจจะตายแล้ว”

เห็นท่าทีที่คาดหวังและตื่นเต้นของเธอแล้ว วารุณีสั่นศีรษะอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แล้วเร่งฝีเท้าตามที่เธอบอก

เธอก็อยากเจอสุขใจเร็ว ๆ เหมือนกัน

เธอเพิ่งเจอสุขใจเพียงชั่วโมงเดียว แต่ชั่วโมงสั้นๆ นี้จะเพียงพอให้เธออยู่กับสุขใจได้อย่างไร

ดังนั้นเธอจึงอยากกอดสุขใจให้มากกว่านี้

ไม่นาน ทั้งสองก็มาถึง ณ ประตูห้องรับรอง

วารุณียกมือขึ้นกำลังจะเคาะประตู ประตูห้องรับรองก็เปิดออก

นัทธียืนอยู่ที่ประตูและมองที่เธอ จากนั้นถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “การแข่งขันจบแล้วหรือ?”

วารุณีพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

“เข้ามาสิ” นัทธีหันข้างเพื่อให้มีพื้นที่ให้คนเข้ามา

วารุณีก้าวเท้าเดินเข้ามาข้างใน นัทธีเดินตามหลังเธอ ตามด้วยลีน่าเป็นคนสุดท้าย

หลังจากเข้าไปในห้องรับรองแล้ว วารุณีกลับไม่เห็นสุขใจกับแฝดทั้งสอง จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “เด็กๆ ล่ะคุณ?”

“นั่นสิท่านประธาน สุขใจอยู่ไหน?” ลีน่ามองไปที่นัทธีด้วยความคาดหวัง กำมือทั้งสองข้างแน่น

นัทธีรินน้ำให้วารุณีแล้วตอบกลับ “อารัณไอริณหลับไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลย ส่วนสุขใจดื่มนมอยู่ในห้อง”

เขาชี้ไปที่เวลาเที่ยงตรง วารุณีเดินเข้าไปดูในห้องของสุขใจ

วารุณีพยักหน้าทันที “ถึงว่าละ ฉันกำลังจะพูดเลยว่าทำไมเด็กๆ ทั้งสองคนไม่ออกมาหาฉัน”

ถ้าหากว่าเป็นเวลาปกติ เด็กสองคนก็จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอก่อนนัทธีแน่นอน

“ช่วงบ่ายพวกเขาดูคุณแข่งอยู่ตลอดเลย เดิมทีก็อยากรอจนกว่าคุณจะกลับมา แต่พลังของพวกเขามีจำกัด สุดท้ายจึงหลับอย่างอดไม่ได้” พูดถึงตรงนี้ มุมปากนัทธียกขึ้น และใบหน้าพลันปรากฏรอยยิ้ม