บทที่ 915 แววตาอันเศร้าโศก

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 915 แววตาอันเศร้าโศก

บทที่ 915 แววตาอันเศร้าโศก

เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าเสี่ยวหลิ่วเป็นคนที่แปลกมาก

หลายวันมานี้ อีกฝ่ายปฏิบัติต่อเธอดีกว่าพี่สาวแท้ ๆ เสียอีก

ไม่รู้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่การที่สาวเจ้าถามมา นั่นหมายความว่าเขาเชื่อในตัวเรา

ในเมื่อถึงคราวช่วยก็ต้องช่วย!

เสี่ยวเถียนตั้งใจเลือกอยู่นาน จนในที่สุดก็เจอคลีเวียที่มีรูปร่างและคุณภาพดีมากทุก ๆ ด้านมากระถางหนึ่ง

ตอนเลือกตนจะไม่ได้ดูแค่ภายนอก แต่ยังใช้สกิลคุยกับพวกนั้นเพื่อที่จะได้ของดี ๆ ด้วย

เสี่ยวหลิ่วไม่รู้วิธีดู เพราะเธอเป็นแค่มือใหม่เท่านั้น

แต่ดอกไม้กระถางนี้สวยมาก เธอชอบตั้งแต่แรกเห็น ทั้งยังพอใจในการเลือกของเสี่ยวเถียนด้วย

หญิงสาวมองเด็กตรงหน้าด้วยแววตาที่ชื่นชมมากกว่าเดิม

เด็กคนนี้เก่งมาก จนเธอตามไม่ทันด้วยซ้ำ

“ขอบคุณมากนะเสี่ยวเถียน มันสวยมากเลย” เสี่ยวหลิ่วเอ่ยชมอย่างจริงใจ ท่าทางเป็นมิตรมาก

ถ้าไม่ใช่เพราะต้องทำตัวสำรวม เธอคงกระโดดเข้าไปกอดเสี่ยวเถียนแล้ว

“หนูเห็นมันสวยดีค่ะ” เสี่ยวเถียนยิ้มบาง

เจ้าหน้าที่ต้วนกระตุกยิ้มมุมปาก

เด็กคนนี้เลือกดอกที่ดีที่สุดในตลาดไปเกือบหมดแล้ว กล้าพูดได้ยังไงว่าเห็นแล้วสวยดี?

ความสามารถเธอเก่งกาจจริง ๆ

หรือนี่จะเป็นสายตาหลักแหลมในตำนาน?

โชคดีที่ไม่ใช่ทุกคนจะตาดีแบบนี้ บางส่วนก็ซื้อพวกที่ราคาเกินจริงไปเหมือนกัน

อย่างที่เจ้าหน้าที่ต้วนคาดการณ์ไว้ ต่อให้ตอนนี้ต้องซื้อของแพงกลับไป แต่ถ้าคุณมีความอดทนพอที่จะเลี้ยงมันสักสองปี จะไม่มีทางขาดทุนแน่นอน ทั้งยังมีแต่จะร่ำรวยอีกด้วย

แม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงการประมาณการทั่วไปเท่านั้น แต่ถ้าให้มั่นใจ ก็รออีกสักสี่ห้าเดือนข้างหน้า ดูว่าราคาจะเพิ่มขึ้นสักสองเท่าไหม

มันจะต้องเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้แน่!

เสี่ยวเถียนกับเสี่ยวหลิ่วไม่เห็นแววตาของเจ้าหน้าที่ต้วน

เสี่ยวหลิ่วมองกระถางดอกไม้ รู้สึกตื้นตันขึ้นเรื่อย ๆ

ดอกคลีเวียสวยมาก

เสี่ยวเถียนตาดีมาก ถ้าเป็นตนคงไม่มีทางหาเจอได้หรอก

“ขอบคุณเธออีกครั้งนะ พี่จะดูแลอย่างดีเลย”

เสี่ยวเถียนมีความรู้สึกหนึ่งที่บอกอยู่เสมอว่า เสี่ยวหลิ่วต้องเลี้ยงดูมันเป็นลูกแน่ ๆ

หลังจากนี้อยู่ให้ห่างเธอไว้จะดีกว่า ดูแปลก ๆ ชอบกล

อีกฝ่ายเป็นคนที่ทำให้ได้รู้ว่าเมื่อก่อนเกลียดมากแค่ไหนตอนนี้กลับชอบมาเท่านั้นสินะ?

เสี่ยวเถียน “ค่อย ๆ เลี้ยงเถอะค่ะ มันก็แค่ดอกไม้เอง”

เลี้ยงได้ดีก็มีเงิน เลี้ยงไม่ได้ดีก็แค่ขาดทุนนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

หญิงสาวอุ้มกระถางไว้ราวกับถือสมบัติ

แววตาของเธอเต็มไปด้วยความปีติยินดี

“หนูพูดจริงนะ!” เสี่ยวเถียนไม่รู้จะตอบรับยังไงดี

กระถางนั้นราคาสามร้อยยี่สิบหยวน แม้ราคาจะสูงไป แต่เสี่ยวหลิ่วก็ยังชอบอยู่ดี

แต่ท่าทางเหล่านั้นทำให้เสี่ยวจวีต้องเอ่ยออกมา

“เสี่ยวหลิ่ว เธอลงทุนขนาดนี้เลยหรือ?”

เสี่ยวจวีไม่คาดคิดไว้เลย

สามร้อยยี่สิบหยวนไม่ใช่เงินน้อย ๆ

เอามาซื้อเนื้อกินกันได้ตั้งปีครึ่ง

แล้วจะซื้อดอกขาด ๆ เนี่ยนะ?

มองยังไงก็ไม่คุ้ม!

เธอรู้สึกว่าเสี่ยวหลิ่วคงไม่มีเงินมากพอจะจ่ายแน่นอน

เราทำงานด้วยกันทั้งคู่ ตัวเธอเข้าทำงานก่อนเสี่ยวหลิ่ว อีกทั้งต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยินดีใช้เงิน

แล้วเสี่ยวหลิ่วทำได้ยังไง?

ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้คืนอีกนะ!

“ฉันเชื่อว่าเสี่ยวเถียนจะไม่ปล่อยให้ฉันขาดทุน” สีหน้าเจ้าตัวดูมีความสุข จากนั้นก็ยกยิ้มสดใสไปทางเสี่ยวเถียน

ความเชื่อมั่นพวกนี้มาจากไหนตนไม่รู้ด้วยซ้ำ

แค่รู้สึกว่าเด็กสาวควรค่าแก่การไว้วางใจมาก

เสี่ยวจวีกลอกตา

ก่อนหน้านี้ไม่ชอบเสี่ยวเถียนไม่ใช่หรือไง แต่ตอนนี้กลับแสร้งทำเป็นพี่รักน้องเสียอย่างนั้น

คนมักบอกว่าผู้หญิงเป็นพวกไม่แน่ไม่นอน แต่จะเป็นแบบนี้ไม่ได้หรือเปล่า?

“พี่เสี่ยวจวีก็ได้ยินเจ้าหน้าที่ต้วนบอกนี่คะว่าราคามันจะเพิ่มขึ้นน่ะ? ถ้าพี่ไม่ชอบจริง ๆ ก็ซื้อไปกระถางเดียวก็พอค่ะ อีกสักสองสามเดือนค่อยขาย ยังไงก็ได้เงินกลับมาอยู่ดีนะ?”

เสี่ยวจวีเริ่มคิดจริงจัง

เธอได้ยินเจ้าหน้าที่ต้วนบอกว่าราคาดอกไม้ชนิดนี้จะเพิ่มขึ้นหลายร้อยหยวนจริง ๆ

แต่จะจริงหรือ?

เดิมราคาก็สูงอยู่แล้วนะ

กลัวพอถึงคราวตัวเองจะไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิ

เนื้อแท้ของหญิงสาวก็ไม่ใช่คนชอบเสี่ยงเสียด้วย

ถึงจะเคยไปต่างประเทศ และเห็นโลกมาบ้างแล้ว แต่มันคือนิสัยที่มีมาแต่เดิม

เสี่ยวจวีไม่ชอบทำอะไรเสี่ยง ๆ

ถ้าราคาดอกละไม่กี่สิบหยวนก็เอาอยู่หรอก

แต่ตอนนี้เธอกำลังเก็บเงินอยู่ ต้องใช้เตรียมแต่งงานด้วยเลยต้องเก็บเพิ่มอีก

ถ้าต้องเอาออกมาใช้คงเสียใจแย่

ทางฝั่งเสี่ยวเถียนก็มีคนขอความช่วยเหลือเหมือนกัน

ไม่รู้ทำไมถึงเชื่อว่าเด็กคนนี้จะทำให้เราประหลาดใจได้อีก

การเดินทางในครั้งนี้เสี่ยวเถียนเข้ากับพวกเธอได้ดี

และด้วยอายุน้อยทุกคนเลยช่วยกันดูแลมากกว่าเดิม

ด้วยความเชื่อมั่นและเต็มใจของพวกเขาที่ขอความช่วยเหลือจากตน เสี่ยวเถียนจึงตอบตกลงทันที

เธอเชื่อในสายตาตัวเอง และรีบเลือกดอกไม้ให้ทันที

สหายต้วนอึดอัดใจขณะเฝ้ามองเด็กสาวเลือกต้นดี ๆ ให้ทีละคน

มันเป็นดอกไม้อันดับต้น ๆ ของตลาดเลยนะ ทั้งยังคัดมาหมดเลยด้วย แล้วจะเอาที่ไหนมาให้ผู้รู้ได้ชมกันเล่า?

เขาถึงกับน้ำตาซึม

ไม่คิดว่ากลุ่มคนที่ไม่คิดจะใส่ใจมากจะมีคนที่รู้เรื่องดอกไม้อยู่ด้วย

ถ้าไม่รู้ก็คิดว่าคนจากกระทรวงเกษตร

แต่เธอไม่ใช่ลูกหลานในครอบครัวท่านผู้นำหรอกหรือ? ทำไมถึงรู้เยอะจัง?

เสี่ยวเถียนสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังมองมา

จากนั้นก็หันไปเจอแววตาอันเศร้าโศกของเจ้าหน้าที่ต้วน

เขาไม่ได้มองแค่เธอ แต่ยังมองสลับกับต้นคลีเวียด้วย ดูเหมือนเขาไม่ต้องการจะให้มันขายออก

ทำไมทำหน้าแบบนั้น?

เพราะเธอเลือกต้นที่ดีที่สุดไปหรือ?

มันมีไว้ขายไม่ใช่หรือไง? เงินก็ได้จะมาหวงอะไรอีก?

เธอสับสนเพราะไม่เข้าใจจริง ๆ!

เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรกับการเลือกของตัวเอง

อันไหนเหมาะอันไหนดีก็เอาอันนั้นแหละ

ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน!