War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2273
ตอนที่ 2,273 : ข้อมูลผิดเพี้ยนที่เริ่มแพร่ออกไป…

“ใต้เท้าต้วนหลิงเทียน?”

เรียกว่าเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ท่าทีของเผิงไหลได้แปรเปลี่ยนไปราวหน้ามือเป็นหลังมือ เรื่องนี้นับว่าสร้างความตกใจให้ศิษย์ลาดตระเวนทั้ง 4 ไม่เว้นติงเจี้ยนหงครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม พอคิดอีกทีพวกมันก็พอจะเข้าใจได้ ในเมื่อพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนร้ายกาจถึงขนาดนี้

‘หากต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไม่ได้ล้อเล่น และคิดเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของพวกเราจริงๆ…แม้ท่านจ้าววังจะทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เกรงว่าคงไม่คิดตำหนิต้วนหลิงเทียนเรื่องฆ่าเฉินอันกับเฉินตงรวมถึงอาวุโสหลินหย่วนแน่…’

ติงเจี้ยนหงลอบกล่าวในใจ ‘อย่างไรเสียคุณค่าของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเช่นมัน ให้เอาเฉินอันเฉินตงกับหลินหย่วนมามัดรวมกันก็ยังมิอาจเทียบได้!’

สำหรับหัวหน้าหน่วยชราที่ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าทิ้งหลังเฉินตงตายตก ไม่ว่าจะเผิงไหลหรือติงเจี้ยนหงก็ไม่แยแสแม้แต่น้อย

เพราะนั่นเป็นแค่สมาชิกทั่วไปของวังเซียนสัญจร ไม่ได้มีภูมิหลังใดๆ

ในขณะที่ติงเจี้ยนหงลอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆเสร็จ มันก็หันไปโค้งคำนับให้ต้วนหลิงเทียนเช่นกัน ยังกล่าวคำทักทายออกด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“คารวะใต้เท้าต้วน!”

ได้เห็นเผิงไหลรวมถึงติงเจี้ยนหงโค้งคารวะทักทายต้วนหลิงเทียนอย่างงสุภาพ ไหนเลยศิษย์ลาดตระเวนที่เหลือจะกล้ายืนหัวโด่ ต่างเร่งโค้งคารวะทักทายต้วนหลิงเทียนออกมาทันที

“คารวะใต้เท้าต้วน!”

หลังสิ้นเสียงคารวะอย่างพร้อมเพรียง 3 เสียง ฉากเรื่องราวก็กลายเป็นเงียบงันอีกครั้ง

ได้ยินคำถามของเผิงไหล ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาเสียงค่อย “ใจจริง ข้าเองก็อยากเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของเจ้า…แต่ดูเหมือนว่าคนวังเซียนสัญจรของเจ้าจะไม่อยากต้อนรับข้าสักเท่าไหร่…”

หลังกล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็มองลึกไปยังเผิงไหล

“เข้าใจผิด! ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจกันผิด!!”

เผิงไหลเร่งโบกไม้โบกมือปฏิเสธทันทีที่เห็นต้วนหลิงเทียนมองจ้องมาตาเขม็ง

หลังกล่าวปฏิเสธแล้ว เผิงไหลยังเร่งกล่าวสืบต่อว่า “หากใต้เท้าต้วนหลิงเทียนยังคิดเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของพวกเราอยู่ พวกเราวังเซียนสัญจรย่อมยินดีต้อนรับท่าน…ข้าเชื่อมั่นว่าหากท่านจ้าววังเซียนสัญจรของพวกเราได้รู้เรื่องดีงามนี้ ท่านจ้าววังย่อมยินดีต้อนรับใต้เท้าต้วนหลิงเทียนแน่!!”

“อ้อ จริงรึ? แต่ข้าพึ่งฆ่าคนวังเซียนสัญจรของพวกเจ้าไปนี่?”

ลูกตาต้วนหลิงเทียนหรี่ลง

“คนที่ใต้เท้าต้วนหลิงเทียนฆ่าไปนั้น พวกมันล้วนสมควรตายแล้ว! หากพวกมีตาแต่ไร้แววนั่นไม่ไปตอแยใต้เท้าต้วนหลิงเทียนก่อน ไหนเลยใต้เท้าต้วนหลิงเทียนจะแยแสพวกมัน?”

เผิงไหล พยายามปั้นยิ้มถึงขีดสุดกล่าวออกด้วยน้ำเสียงสุภาพ

ฟังแล้ววาจามันคล้ายประจบเอาใจต้วนหลิงเทียน แต่จริงๆแล้วมันกล่าววาจาออกมาจากใจ!

“ผู้น้อยขอเป็นธุระต้อนรับใต้เท้าต้วนหลิงเทียนกับภรรยาทั้งสองรวมถึงคุณหนูเถอะ เชิญใต้เท้ากับทุกท่านตามข้าน้อยมา ข้าน้อยจักไปจัดแจงที่พักให้ท่าน…และหลังจากข้าน้อยไปรายงานเรื่องราวให้ท่านจ้าววังทราบแล้ว ท่านจ้าววังย่อมมาพบใต้เท้าต้วนหลิงเทียนเป็นการส่วนตัว และมอบตำแหน่งให้ใต้เท้าต้วนหลิงเทียนด้วยความยินดีเป็นแน่”

เผิงไหล เร่งกล่าวออกด้วยน้ำเสียงสุภาพ ก่อนที่จะผายมือเชื้อเชิญ

ก่านหรูเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเผิงไหลกล่าวคำว่า “ภรรยาทั้งสอง” แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

“นางไม่ใช่ภรรยาของข้า”

อย่างไรก็ตามเมื่อเสียงเผิงไหลดังจบคำ ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวแทรกออกมา ยังผายมือไปทางก่านหรูเยี่ยนทั้งกล่าวอธิบายเสียงเข้มว่า “นางเป็นพี่สาวฝาแฝดของภรรยาข้า”

“ขอภัยด้วยใต้เท้าต้วนหลิงเทียน ขออภัยภรรยาใต้เท้าต้วน เป็นผู้น้อยเข้าใจผิด ขอใต้เท้าอย่าได้ถือสาข้าน้อยเลย…”

“ขออภัยแม่นางท่านนี้ด้วย…”

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน เผิงไหลก็เร่งหันไปขอขมาต้วนหลิงเทียนกับเค่อเอ๋อ รวมถึงหันไปประสานมือกล่าวขอขมาก่านหรูเยี่ยนด้วยอีกคน

หลังกล่าวคำขอขมาจบแล้วว เผิงไหล ก็มองต้วนหลิงเทียนอย่างระวัง ด้วยกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะติดใจเอาความ

อย่างไรก็ตามพอเห็นต้วนหลิงเทียนไม่ถือสาหาความ มันก็อดระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้

หลังจากนั้นมันก็นำทางด้วยตัวเอง

อีกด้านนั้น หลังได้ยินวาจาปฏิเสธเสียงแข็ง ทั้งเร่งอธิบายแก้ไขของต้วนหลิงเทียน สีหน้าก่านหรูเยี่ยนกลายเป็นบึ้งตึงขึ้นมาทันที ยังพึมพำกับตัวเบาๆว่า “คิดว่าผู้อื่นอยากเป็นภรรยาเจ้าตายล่ะ…”

เห็นเผิงไหลโรยตัวเข้าเขตวังเซียนสัญจรไป ต้วนหลิงเทียนที่อุ้มซือหลิงอยู่ก็โรยตัวตามมันลงไปทันที

คราวนี้เขาไม่ได้หอบหิ้วเค่อเอ๋อกับก่านหรูเยี่ยนไปด้วย

เพราะมันไม่จำเป็น

เผิงไหลนั้นเดินทางเชื่องช้านัก คล้ายกลัวต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นตามไม่ทัน ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงเพียงอุ้มลูกสาวและปล่อยให้ทั้ง 2 คนโรยตัวลงไปเอง

ไม่นานต้วนหลิงเทียนกับพวก ก็ตามเผิงไหลหายเข้าไปในวังเซียนสัญจร

ศิษย์ลาดตระเวนทั้ง 4 ไม่เว้นติงเจี้ยนหง ต่างรู้สึกโล่งอกไม่น้อย ยังถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียง หากแต่ในใจยังตกใจทั้งหวาดกลัวไม่หาย แผ่นหลังต่างชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อกาฬเย็นฉ่ำ

“หากใต้เท้าต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของพวกเราจริง…ด้วยพลังฝีมือระดับนั้นมิใช่ว่าจักได้ตำแหน่งรองจ้าววังทันทีเลยหรือไร?”

ติงเจี้ยนหงกล่าวพึมพำออกมาเบาๆ

ถึงแม้ว่าเสียงพึมพำของมันจะค่อนข้างเบา แต่ก็ดังพอให้ศิษย์ลาดตระเวนอีก 3 คนได้ยิน และต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าว

“ด้วยพลังฝีมือของใต้เท้าต้วนหลิงเทียน ได้เป็นรองจ้าววังก็เหมาะสมแล้ว!”

“หากใต้เท้าต้วนเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของพวกเราจริง…พลังรบโดยรวมของวังเซียนสัญจรของพวกเราย่อมเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล! อาวุโส 2 คนที่ตายไปด้วยน้ำมือใต้เท้า ความสูญเสียดังกล่าวจักไม่นับเป็นอะไรทันที!”

“หากใต้เท้าเข้าร่วมวังเซียนสัญจรเรา…ตำแหน่งรองจ้าววังไม่พ้นต้องหล่นใส่หัวใต้เท้าแน่แล้วล่ะ…”

“นั่นมันแน่อยู่แล้ว!”

……

ศิษย์ลาดตระเวนยังคงจ้อกันถึงเรื่องนี้ไม่หยุด ในวาจาของพวกมันยังคาดเดากันไปว่าต้วนหลิงเทียนต้องได้รับตำแหน่งรองจ้าววังแน่นอน

“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ข้าเกรงว่าคงปิดเอาไว้ยาก…”

ขณะเดียวกันติงเจี้ยนหงคล้ายจะพบบางสิ่ง หลังหันมองไปรอบๆพักหนึ่งก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้

เพราะบนฟ้าหลังม่านเมฆนั้นมีร่างมากมายที่ซ่อนตัวอยู่

ไม่ต้องเดามันก็รู้ ว่าที่กำลังซ่อนตัวดูเรื่องราวอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นหน่วยลาดตระเวนหน่วยอื่น กระทั่ง 9 ใน 10 สมควรเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกๆ

อีกด้านนั้น

ภายใต้การจัดการของ ‘เผิงไหล’ อาวุโสวังเซียนสัญจร ต้วนหลิงเทียนกับพวกก็ได้เข้าไปอยู่อาศัยในคฤหาสน์ว่างหลังหนึ่ง

ขณะเดียวกัน เผิงไหล ก็จัดแจงสาวใช้ 2-3 ให้มาคอยดูแลรับใช้กลุ่มของต้วนหลิงเทียน

‘เผิงไหลผู้นี้นับว่าฉลาดไม่เบา’

หลังเผิงไหลจากไป ต้วนหลิงเทียนพลันคิดขึ้นมาในใจ

หลังเขาฆ่าอาวุโสวังเซียนสัญจรอย่างหลินหย่วนไปเผิงไหลผู้นี้ไม่เพียงไม่มีทีท่าไม่พอใจ ยังสนทนากับเขาด้วยวาจาสุภาพท่าทางมากเคารพ

นอกจากนั้นต้วนหลิงเทียนยังมองเห็นได้ชัด

ความเคารพที่เผิงไหลเผยออกนั้น มันมาจากใจ หาได้เสแสร้งแกล้งทำไม่!

เรียกว่าวันนี้ตั้งแต่มาถึงวังเซียนสัญจร มีเพียงเผิงไหลคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ

‘หากคิดจะปักหลักอยู่ที่วังเซียนสัญจร มีผู้ช่วยไว้ค่อยใช้งานก็ย่อมดี เผิงไหลผู้นี้ก็นับว่าใช้การได้…อย่างไรก็ตามก่อนเผยเรื่องราวให้มันรู้ จำต้องให้มันสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเสียก่อน…’

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวอย่างลับๆ

ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่า ‘ใช้คนไม่สงสัย ถ้าสงสัยไม่ใช้’ แต่ในโลกที่มากอันตรายเช่นนี้ หากคิดได้รับความภักดีจากคนอื่นจริงๆ คำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้านั้นตรงไปตรงมาและเรียบง่ายที่สุด!

สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เจตนาของต้วนหลิงเทียนนั้น ในสายตาของเผ่าปีศาจมนุษย์แล้วมันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง!

เรื่องแบบนี้เป็นธรรมดาที่ต้องระวัง!

“ท่านพ่อ ท่านพ่อ…คนที่นี่แปลกยิ่ง ตอนแรกก็มาดุพวกเรา แต่พอท่านพ่อทุบตีพวกมันจนหนีไป คนพวกนี้ก็กลายเป็นใจดีทั้งสุภาพกับพวกเราเฉยเลย”

ต้วนซือหลิงที่ถูกต้วนหลิงเทียนอุ้มไวในอ้อมแขนพูดขึ้นมากับต้วนหลิงเทียน

“ใช่แล้วซือหลิง คนพวกนี้มันดื้อ…หากพวกเราไม่ทุบตีพวกมันจะไม่ค่อยเชื่อฟัง…”

ต้วนหลิงเทียนยิ้มพลางพยักหน้า

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อ ไม่ได้ว่าอะไร เพียงยิ้มเฉยเมย

ส่วนก่านหรูเยี่ยนนั้นชักสีหน้าแปลกๆ

ในระหว่างที่อาวุโสวังเซียนสัญจรอย่างเผิงไหลไปเข้าพบจ้าววังเซียนสัญจรนั้น ข่าวอันน่าอัศจรรย์ใจก็เริ่มแพร่ไปทั่ววังเซียนสัญจร!

และทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกมา ก็สร้างความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ให้คนของวังเซียนสัญจรนัก!

“ศิษย์ลาดตะเวนนามเฉินอัน ถูกสังหารหน้าวังเซียนสัญจรของพวกเราอย่างอุกอาจงั้นเรอะ?!”

“บิดาของเฉินอันอย่างอาวุโสเฉินตงคิดล้างแค้นให้เฉินอัน แต่ก็ถูกคนร้ายฆ่าทิ้งไปด้วย?”

ทั้ง 2 ข่าวดังกล่าวเมื่อแพร่ออกมา ย่อมไม่น่าแปลกใจที่จะสร้างความตื่นตระหนกให้กับวังเซียนสัญจร

ในประวัติศาสตร์ของวังเซียนสัญจรไม่ได้มีคนที่หาญกล้าถึงขั้นลงมือเข่นฆ่าคนของวังเซียนสัญจรหน้าวังปรากฏตัวขึ้นบ่อยๆ นับประสาอะไรกับถึงขั้นลงมือฆ่าชนชั้นอาวุโสของวังเซียนสัญจรแบบนี้!

นี่ยังต่างอะไรกับตบหน้าผู้คน!

ยังตบหน้าผู้คนทั้งวังเซียนสัญจร!

“ผู้ใดมันช่างกล้า!?”

“เจ้านั่นมันใช่เสียสติไปหรือไม่ หรือมันเบื่อจะมีชีวิตแล้ว?”

……

ทันใดนั้นผู้คนในวังเซียนสัญจรมากมายที่ได้รับทราบข่าวดังกล่าวก็โมโหเป็นฟืนไฟ ใคร่รู้นักว่า ‘ผู้เสียสติ’ ที่ว่านั่นเป็นใครกันแน่…

อย่างไรก็ตามพอมีอีกข่าวหนึ่งมาเสริม พวกมันก็ถึงกับปิดปากกันเงียบกริบไปกัหใหญ่…

“ผู้อาวุโสหลินหย่วนหลังได้รับทราบข่าวจากศิษย์ลาดตระเวนหน้าวัง ก็เร่งรุดออกไปจัดการเรื่องราว…แต่สุดท้ายกับถูกคนเสียสติผู้นั้นฆ่า?”

“นะ…นี่มัน เป็นไปได้ยังไงกัน!? อาวุโสหลินหย่วนมิใช่เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนหรอกหรือ? ไฉนถึงได้ถูกผู้อื่นฆ่าเอาได้ง่ายๆเล่า?”

“ยิ่งไปกว่านั้นยามสังหารอาวุโสหลินหย่วน เจ้านั่นยังใช้แค่สองกระบวนท่าเหมือนกับตอนที่ฆ่าอาวุโสเฉินตง!”

“ว่าอะไร อาศัย 2 กระบวนท่าฆ่าอาวุโสหลินหย่วน?เจ้าตลกเรอะ?”

“นี่มิใช่เรื่องล้อเล่น! เห็นว่าคนร้ายที่เสียสติผู้นั้นไม่ได้รีบร้อนฆ่าอาวุโสหลินหย่วนด้วยซ้ำ มันหยอกล้ออาวุโสหลินหย่วนอยู่พักหนึ่งโดยการอุ้มเด็กหญิงทั้งสตรี 2 คนเหินหนีไปหนีมาให้ผู้อาวุโสหลินหย่วนไล่ตามอยู่นาน! สุดท้ายคนเสียสตินั่นก็เลิกละเล่น หันกลับมาฆ่าอาวุโสหลินหย่วนใน 2 กระบวนท่า!!”

“จริงรึ? เรื่องนี้เจ้าไปรู้มาจากผู้ใดกัน?”

“ย่อมจริงแท้! เป็นสหายข้าที่เข้าเวรลาดตระเวนพื้นที่หน้าวังวันนี้เห็นมากับตา! มันซ่อนตัวหลังเมฆชมดูเรื่องราวแต่ต้นจนจบเลยเถอะ!!”

……

วาจาทำนองดังกล่าว แทบจะได้ยินกันทั่วในวังเซียนสัญจร

และคำพูดพวกนี้ก็เริ่มลุกลามจนได้ยินไปถึงหูหน่วยลาดตระเวนด้านนอกอย่างพวกติงเจี้ยนหงด้วย ทำให้พวกมันได้แต่ขมวดคิ้วหน้านิ่ว

“บัดซบ! ไอพวกหน่วยลาดตระเวนหน่วยอื่นที่ซ่อนตัวดูเรื่องราวหลังเมฆพวกมันรู้ตื้นลึกหนาที่ไหนกลับเอาไปเล่ากันผิดๆ…ยังผิดเพี้ยนจากเรื่องจริงไปไกลนัก!!”

ติงเจี้ยนหงกล่าวบ่นออกมาด้วยสีหน้าตึงเครียด

ข่าวที่กำลังแพร่กระจายไปทั่ววังเซียนสัญจรตอนนี้ ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับต้วนหลิงเทียนเลย

อย่างไรก็ตาม ‘พยาน’ ปากเอกเช่นมันที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ต้นจนจบ ย่อมรู้เบื้องลึกเบื้องหลังดี!

ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าเฉินอัน เฉินตง และหลินหย่วนจริง แต่ทุกการกระทำล้วนมีเหตุผลรองรับ หาใช่ลงมืออุกอาจตามอำเภอใจดั่งคนเสียสติไม่!

“ไม่ได้การแล้ว…ข้าต้องเอาเรื่องจริงไปประกาศบอกทุกคน! หาไม่แล้วหากใต้เท้าต้วนหลิงเทียนบังเกิดความไม่พอใจ กระทั่งเข้าใจผิดอันใดก็ย่ำแย่แล้ว ล้วนไม่ใช่เรื่องดีสำหรับวังเซียนสัญจรเราทั้งสิ้น!”

ไม่นานติงเจี้ยนหงก็ตัดสินใจได้