เธอรู้สึกลึกลับและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ของที่อยู่ในนี้เป็นของขวัญที่เธอให้ฉันหรอ”
“แน่นอน” ลีน่าพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นกล่องให้ “นี่สำหรับเธอ”
“งั้นก็ขอบใจนะ” วารุณีเอื้อมมือไปรับ จากนั้นก็เตรียมจะดึงริบบิ้นดอกไม้ที่ตกแต่งบนกล่องออก
เมื่อเห็นอย่างนี้ ลีน่าก็รีบคว้ามือเธอไว้ “เธอกำลังทำอะไรวารุณี”
วารุณีมองไปที่ลีน่าด้วยสีหน้าแปลกใจ “เปิดกล่องดูว่าข้างในเป็นอะไรน่ะสิ จะทำอะไรได้อีก ทำไม ฉันเปิดไม่ได้หรอ”
การได้รับของขวัญแล้วเปิดกล่องเลยไม่ถือว่าเป็นการเสียมารยาทสำหรับพวกเธอ
เพราะว่าพวกเธอสนิทกันมาก จึงไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้
และประการที่สองก็เพราะว่าพวกเธอได้สัมผัสวัฒนธรรมตะวันตกมามากมาย และอยู่ต่างประเทศมานานจึงคุ้นเคยกับการแกะ จึงคุ้นเคยกับการแกะของขวัญหลังได้รับมันทันที ไม่เหมือนในประเทศที่ต้องรอให้คนให้ของขวัญกลับก่อนถึงจะเปิดได้
ดังนั้นเธอกำลังจะเปิดของขวัญ
แต่ไม่คิดว่าตอนกำลังจะเปิดจะถูกลีน่าห้ามไว้
“ไม่ใช่แน่นอน” ลีน่าส่ายหัว แสดงว่าของขวัญนั้นไม่ใช่ไม่สามารถเปิดได้
วารุณีเลิกคิ้ว “แล้วเธอห้ามฉันทำไม”
ลีน่ากระแอมสองครั้ง “ของขวัญชิ้นนี้ค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นฉันขอแนะนำว่าไม่ควรเปิดในที่สาธารณะ ไม่อย่างนั้นจะน่าอาย เธอควรกลับไปที่ห้องก่อนค่อยเปิด”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ หัวใจของวารุณีก็เต้นผิดจังหวะ และลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็รุนแรงขึ้น
เธอมองลงไปที่กล่องในมือ มองดูท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนของลีน่า แล้วหรี่ตาลงถาม “ในนี้มีอะไรกันแน่”
ห้ามเปิดในที่สาธารณะ ไม่อย่างนั้นถ้าคนอื่นเห็นจะอายมาก
เป็นอะไรกันแน่ถึงทำให้เธอบอกอย่างเฉพาะเจาะจง และจริงจังเป็นพิเศษ
“วารุณีเธอไม่ต้องถามแล้ว สรุปว่าไม่ใช่อะไรที่ไม่ดี แต่เป็นอะไรที่ดีอีกด้วย นัทธีชอบแน่นอน เอาล่ะไม่พูดแล้ว เธอรีบกลับห้องเถอะ กลับห้องเธอก็จะรู้เอง”
พูดจบลีน่าก็หมุนตัววารุณี และด้านหลังเธอให้เดินขึ้นไปทางบันได
วารุณีก็ไม่ได้ขัดขืน เธอเดินตามทางที่โดนดันไป
เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้างในเป็นอะไรกันแน่ ถึงทำให้ลีน่าทำตัวลับๆล่อๆระวังเป็นพิเศษ
หลังจากดันหลังวารุณีมาถึงหน้าบันได เธอก็ปล่อยมือออกจากหลังของวารุณี
ลีน่าโบกมือแล้วพูดว่า “วารุณีเธอขึ้นไปเองนะ ฉันไม่ขึ้นไปแล้วลูกพี่ลูกน้องฉันโทรมา เดี๋ยวจะไปเล่นเป็นเพื่อนสุขใจ”
“โอเค งั้นเธอยุ่งเรื่องของเธอเถอะ ฉันไปก่อนแล้ว” วารุณียิ้มพยักหน้า จากนั้นก็ยกกระโปรงยาวขึ้นและเดินขึ้นบันไดด้วยท่าทางสง่างาม
แล้วก็ถึงห้องนอนอย่างรวดเร็ว
วารุณีผลักประตูเข้าไปก่อนจะเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้อง สีหน้าของเธอประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงมาอยู่นี่ล่ะ”
ผู้ชายคนนั้นก็คือนัทธี ตอนนี้เขานั่งอยู่บนโซฟา วางโน๊ตบุ๊กบนตัก สองมือกำลังวางอยู่บนคีย์บอร์ด เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังทำงานอยู่
นัทธีได้ยินเสียงของเธอจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับไม่ค่อยมีความสุข “ที่นี่เป็นห้องของผม ทำไมผมจะอยู่ไม่ได้”
วารุณีเลิกตกใจและปิดประตูพร้อมกับพูดยิ้มๆว่า “คุณกับฉันแยกห้องนอนกันแล้วไม่ใช่หรอ”
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าที่นี่เป็นห้องของเธอคนเดียวแล้ว
ห้องของเขาอยู่ข้างๆ
นัทธีจะฟังไม่ออกได้ยังไงว่าวารุณีกำลังล้อเลียนเขาอยู่ เขาจึงกระแอมเบาๆ “ตอนนี้พวกเราดีกันแล้ว ผมย้ายกลับมาก็ถูกแล้ว”
วารุณีตลก “คุณรู้หน้าที่เร็วมาก ทนรอไม่ไหวเลยล่ะสิ”
เธอยังไม่ได้บอกให้เขาย้ายของเข้ามาเลย อาจจะไม่ยอมให้ย้ายมาก็ได้
แต่เขากลับย้ายตัวเองกลับมาด้วยตัวเอง
แต่เขาย้ายกลับมาก็ดี เขาย้ายกลับมาก็แปลว่าดีกันจริงๆแล้ว
ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะคืนดีกันแค่ภายนอก ความรู้สึกยังมีปัญหาอยู่
ตอนนี้เขากลับมาแล้ว หินก้อนใหญ่ในหัวใจของเธอก็เบาบางลงไป
นัทธีแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจการล้อเลียนของเธอ ก่อนสายตาของเขาจะเห็นกล่องในมือของเธอ จึงหรี่ตาถาม “นั่นคืออะไร”
วารุณีเดินไปหาเขา “เป็นของขวัญที่ลีน่าให้พวกเรามา เธอบอกว่าสามารถพัฒนาความรู้สึกของพวกเราสองคนได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไร ตอนแรกฉันก็ว่าจะเปิดดู แต่ถูกเธอห้ามไว้ เธอบอกว่าฉันต้องกลับมาดูที่ห้องเท่านั้น แถมยังบอกว่าคุณต้องชอบของขวัญแน่นอน”
“หืม” นัทธีขมวดคิ้ว
เขาต้องชอบแน่นอนหรอ
ผู้หญิงคนนั้นมั่นใจมาก!
บนโลกใบนี้ของที่เขาชอบมีไม่มากนัก
เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนั้นเอาความมั่นใจที่ไหนมาบอกว่าเขาจะชอบ
เหมือนจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ วารุณีจึงส่งกล่องนั้นให้เขา “อะ คุณดูเองเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำ”
นัทธีสูงเสียงตอบรับและรับกล่องมา
วารุณีเดินไปทางห้องน้ำ
เธอสวมเดรสสายเดี่ยวสีดำยาวคลุมขาเกือบถึงพื้น และกระโปรงก็เข้ารูป มีแค่ช่วงขาล่างเท่านั้นที่ปล่อย ส่วนที่เหลือทั้งหมดรัดกายเธอทั้งหมด ทำให้เห็นรูปร่างของเธออย่างชัดเจน
ทุกครั้งที่เธอเดินเอวและสะโพกของเธอจะสั่นไหวไปมา ซึ่งสะดุดตามาก ทำให้ไม่สามารถละสายตาไปได้
นัทธีมองเธออยู่อย่างนั้น ดวงตาของเขามืดลง ลำคอกระตุก ร่างกายของเขารู้สึกแห้งและร้อนขึ้นมาทันที
เขาดึงเน็คไทออกและขณะเดียวกันก็หยิบน้ำเย็นบนโต๊ะน้ำชาขึ้นมาดื่ม หลังจากร่างของวารุณีหายไปจนลับสายตาแล้ว อารมณ์ร้อนรุ่มของเขาจึงลดลงมาบ้าง
“นางยั่ว!” นัทธีกำแก้วแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
มีภรรยาที่สวยเป็นเรื่องที่ดี
แต่บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะว่าเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังจะกินข้าว เขาจะต้องลงโทษเธอให้ถึงที่สุดแน่ ให้เธอรู้ว่าการยั่วเขาจะมีจุดจบยังไง
วารุณีไม่รู้ว่าการเดินของเธอ การโชว์แผ่นหลัง กระตุ้นผู้ชายขนาดไหน
ถ้ารู้ว่าการทำแบบนี้เป็นการยั่วยวนเขา เธอจะตะโกนออกไปว่าเขาเข้าใจผิดอย่างแน่นอน
เพราะเธอไม่ได้อยู่กับเขา เธอเดินตามปกติ ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
เป็นผู้ชายเองที่ทนไม่ได้ จะโทษเธอได้ยังไง
พอวารุณีปิดประตูห้องอาบน้ำ นัทธีถึงได้ยอมละสายตากลับมา และก้มหน้ามองกล่องในมือ
กล่องไม่หนัก และค่อนข้างเบาด้วย
ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไรกันแน่ ลีน่าผู้หญิงคนนั้นถึงกล้าพูดว่าเขาจะชอบมัน
แววตาดูถูกปรากฏขึ้นมาในสายตาของนัทธี จากนั้นเขาก็ดึงริบบิ้นที่ผูกเป็นดอกไม้อยู่บนกล่องออก
หลังจากไม่มีเชือกผูกแล้ว เขาก็สามารถเปิดกล่องออกได้อย่างง่ายดาย
เขายกมือขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย เปิดกล่องออก และในที่สุดของในกล่องก็ปรากฏต่อสายตาของเขา
เมื่อเห็นของในนั้น ม่านตาของนัทธีก็หดลง ที่แท้ก็คือ…
นัทธียื่นมือออกไปจับของในกล่อง หัวใจของเขาเต้นเร็วมาก
ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงว่าลีน่าจะส่งของขวัญชิ้นนี้ให้พวกเขา
ตอนนี้สีหน้าของนัทธีไม่เย็นชาเหมือนตอนเริ่มเปิดกล่องอีกต่อไป และคิดไม่ถึงว่าที่ลีน่าบอกว่าเขาจะชอบมากจะเป็นเรื่องจริง
ใช่ ครั้งนี้ลีน่าผู้หญิงคนนั้นทำดีมาก ทำให้เขาพอใจมาก
เธอพูดถูก ของขวัญชิ้นนี้เขาชอบมาก ชอบที่สุด
เห็นแก่ของขวัญที่เธอส่งมาให้ เขาจะไม่โทษที่เธอรบกวนเขากับภรรยาตอนจู๋จี๋กันแล้วกัน
ริมฝีปากบางของนัทธีกระตุกเล็กน้อย