บทที่ 958 กลัว
บทที่ 958 กลัว
เสี่ยวเฉ่าไม่รู้ว่าน้องกำลังคิดอะไร เธอกำลังเลือกซื้อของอยู่ในห้างอย่างมีความสุข
“เสี่ยวเถียน ของในเมืองหลวงดูดีกว่าในมณฑลเสียอีก รูปแบบก็สวยกว่า ทำดีกว่าด้วย พี่ว่าจะซื้ออีกสักหน่อย เอาไว้ให้พ่อกับแม่ แล้วก็ให้หลานชายหลานสาว พี่ชายพี่สะใภ้ด้วย…”
“เสี่ยวเถียนดูสิ เสื้อตัวนี้เหมาะกับแม่พี่ไหม?”
“พี่ว่าพ่อต้องชอบปากกาแท่งนี้แน่เลย”
เสี่ยวเฉ่าเอ่ยไม่หยุดขณะเลือกของขวัญ เธอต่างไปจากตัวตนตามปกติโดยสิ้นเชิง
เมื่อดูท่าทางที่กำลังมีความสุขแล้ว เสี่ยวเถียนก็รู้เลยว่าพี่เขาต้องรักคนที่บ้านมากแน่นอน
เด็กสาวจึงไม่ได้พูดอะไร
ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่ไม่รู้จะพูดอะไรต่างหาก
ไม่อยากนึกภาพว่าหากวันนี้เธอรู้ว่าคุณลุงคุณป้าไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง พี่เขาจะเสียใจมากแค่ไหน
คนเดินซื้อของไม่ได้มีแค่เสี่ยวเฉ่าเท่านั้น แต่เซี่ยหนานยังเตรียมของไว้ตั้งสองถุงใหญ่
เธอไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน ถ้าเสี่ยวเฉ่าเป็นลูกสาวเธอจริง ๆ ก็พร้อมจะตอบแทนทั้งชีวิต
แต่ถ้าไม่ใช่ เราอาจสร้างสายสัมพันธ์อันดีต่อกันได้!
แม้ไม่มีลูกชายหรือลูกสาว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นยังคงอยู่
และมีโอกาสน้อยมากที่โชคชะตาจะส่งเด็กคนนี้มาให้ แน่นอนว่าโอกาสนี้มอบให้เซี่ยหนานอยู่แล้ว
ซานกงกลับมาในวันหยุดก่อนจะพบว่าน้องสาวเดินทางกลับหนานหลิ่งแล้ว
เขาเอ่ยยิ้ม ๆ เด็กคนนี้เอาแต่คิดทำเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าเรียนเลยนะ
ตอนนั้นเองที่เสี่ยวเฉ่าปรากฏตัวขึ้น
หญิงสาวอยากรู้เหตุผลที่เสี่ยวเถียนตัดสินใจเดินทางกลับหมู่บ้านมาก ๆ
คุณย่าซูเหลือบมองอีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไร
“เสี่ยวเฉ่าปรับตัวได้หรือยัง? ครูที่นั่นไม่ได้รังแกเธอใช่ไหม?” ซางกงถาม
หลังจากเล่นสงครามประสาทกันมานาน ในที่สุดเสี่ยวเฉ่าก็สามารถคุยกับซานกงตามปกติได้เสียที
แค่เวลาคุยกันเธอไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าคุยกับคนอื่นน่ะ
หญิงชราหัวเราะตอนเห็นหลานสาวตกใจที่ซานกงถาม
“เจ้าเสี่ยวเฉ่าเอ้ย ซานกงไม่ได้น่ากลัวสักหน่อย ทำไมต้องตกใจเวลาเจอกันด้วยฮึ? ตอนเด็ก ๆ ก็โตมาพร้อมกับนมเต้าเดียวกันแท้ ๆ”
เสี่ยวเฉ่าหน้าแดงแจ๋
ซานกงเขินไม่ต่างกัน หูเหอแดงไปหมด
“คุณย่าพูดทำไมคะ พวกเราโตกันแล้วนะคะ!”
ก่อนหญิงชราจะรู้ตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว
เด็ก ๆ โตกันหมดแล้ว คงจะอายที่ได้ยินเรื่องแบบนี้
ท่านหัวเราะออกมา “ไม่พูดแล้ว ๆ ว่าแต่สองสามวันมานี้ทำไมไม่เห็นครูอวี่มาส่งเลยล่ะ?”
หญิงสาวคิดว่าอีกฝ่ายก็เป็นตัวเลือกที่ดีอยู่นะ
แล้วทำไมช่วงนี้ไม่เห็นเจอเลยล่ะ?
ซานกงคาดไม่ถึงกับสิ่งที่ได้ยิน
เขาเหลือบมองหญิงสาวโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มไม่แปลกใจเท่าไรเพราะเสี่ยวเฉ่าเป็นคนที่สวยมากแล้วก็อ่อนโยน ผู้หญิงแบบนี้จะไม่มีคนตามจีบได้อย่างไร?
แต่ทำไมถึงเสียใจราวกับโดนแย่งของไปเลยล่ะ?
ซานกงไม่รู้ และคิดว่าคงเป็นเพราะเธอเป็นน้องสาว
คนเป็นพี่ทนเห็นพวกผู้ชายแย่งน้องสาวไปไม่ได้หรอกนะ
“เสี่ยวเถียนแค่วานให้เขาดูแลเองค่ะย่า ตอนนี้หนูคุ้นเคยกับที่โรงเรียนแล้ว เขาก็เลยไม่ได้ห่วงอีกน่ะค่ะ” เธอรีบอธิบาย
แต่สายตายังคงเหลือบมองซานกง และเห็นเพียงแวบเดียวก็หลุบลง มองไม่เห็นอารมณ์ใด ๆ
“น่าเสียดายจัง!” คุณย่าเอ่ยก่อนจะจำได้ว่านี่ก็เย็นมากแล้ว ถึงเวลาทำอาหารเสียที “พวกหลานนั่งคุยกันไปก่อนนะ ย่าไปทำกับข้าวก่อน”
จากนั้นท่านก็รีบออกไปทันที ทิ้งซานกงและเสี่ยวเฉ่าให้มองหน้ากัน
ซานกงมองเสี่ยวเฉ่าอยู่พักหนึ่ง “เสี่ยวเฉ่า ฉันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?”โนเวล-พีดีเอฟ
เสี่ยวเฉ่ารีบส่ายหัวปฏิเสธ
อันที่จริง ซานกงเป็นคนประเภทที่เห็นแล้วทำให้รู้สึกสงบ ไว้วางใจได้ ไม่ได้น่ากลัวสักนิด
แต่จะพูดออกไปได้ยังไงล่ะ?
มันเป็นความรู้สึกไม่สามารถเปิดเผยได้ ต่อให้เธอไม่สนใจชื่อเสียงตัวเอง แต่ก็ต้องสนใจชื่อเสียงของซานกงอยู่ดี
“ไม่อยู่แล้ว แต่ชายหญิงควรมีระยะห่างระหว่างกันนะ เราโตกันแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อน!”
ว่าจบเธอก็หาข้ออ้างไปช่วยคุณย่าทำอาหาร
ฝั่งเสี่ยวเถียนเพิ่งลงจากรถไฟ
ขบวนที่นั่งเข้ามาถึงตัวอำเภอด้วย เธอรู้สึกว่ามันสะดวกกว่าน่ะ
เพราะเดินทางกันด้วยกระเป๋าหลายใบ
พวกเธอมาถึงอำเภอตอนสิบโมงเช้า
ขณะยืนอยู่บนถนน แววตาของเซี่ยหนานก็ปรากฏความขมขื่น
ผ่านมาตั้งยี่สิบกว่าปี เธอจะยังตามหาลูกสาวที่พลัดพรากกันเจออยู่ไหม?
พอมองไปรอบ ๆ ก็เห็นถนนหนทางที่เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ยุคสมัยเปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยน!
แต่ถึงเปลี่ยนไปก็ยังกลับมาใช่ไหมล่ะ?
“อาจารย์อย่าเสียใจไปเลยนะคะ เราจะได้เผชิญกับมันแล้ว หนูเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีค่ะ”
เสี่ยวเถียนสัมผัสได้ว่าอาจารย์กำลังหดหู่ จึงเอ่ยปลอบ
“เมื่อก่อนฉันมาที่นี่บ่อยมาก แต่มันก็เมื่อสิบปีที่แล้วน่ะ” เซี่ยหนานซับน้ำตา
สิบกว่าปีที่ไม่ได้มา ถึงอำเภอจะเปลี่ยนไปเยอะ แต่ความรู้สึกไม่เปลี่ยนเลย
อารมณ์ของเซี่ยหนานเหวี่ยงไปมาอย่างรุนแรง
มีคนบอกว่าพออยู่ใกล้บ้านแล้วจะรู้สึกกลัว
ตอนนี้ยังไม่ทันถึงก็กลัวเสียแล้ว
ความกล้าหาญเลือนหายไปตั้งแต่ขึ้นรถไปแล้วละ
ถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังล่ะ?
ถ้าเสี่ยวเฉ่าเป็นลูกสาวของพวกเขาจริง ๆ แล้วไม่เต็มใจคืนลูกให้เธอจะทำยังไง?
แล้วถ้าเป็นลูกสาวของเธอ เด็กคนนั้นจะยอมรับตนเป็นแม่ไหม?
“ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงก็ตาม เราก็มาถึงกันแล้วค่ะ” เสี่ยวเถียนปลอบ “จะใช่หรือไม่ อย่างน้อยก็สบายใจนะคะ”
เซี่ยหนานพยักหน้า
ก็จริง เรามาถึงแล้วไม่มีทางหนีแล้วละ
“ถ้าเสี่ยวเฉ่าไม่ใช่ลูกสาวฉัน งั้นรับเป็นลูกบุญธรรมได้ไหม?”
เสี่ยวเถียน “…”
เธอควรตอบยังไงดี?
“ไว้คุยกับลุงฉางจิ่วเองดีกว่าค่ะ เขาอาจจะเห็นด้วยก็ได้นะคะ!”
ยังเหลืออีกชั่วโมงกว่ารถประจำทางจะมาถึง พวกเธอจะยืนรอเฉย ๆ ไม่ได้
แถมอาจารย์ก็อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร พาไปผ่อนคลายดีกว่า
“ยังมีเวลาอีกนาน เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะค่ะ” เสี่ยวเถียนแนะนำ