บทที่ 1011 ฮูหยินเจียงเสียใจไปจนตาย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1011 ฮูหยินเจียงเสียใจไปจนตาย

บทที่ 1011 ฮูหยินเจียงเสียใจไปจนตาย

กู้ซินเถาอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก

สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างจากที่นางคิดไว้ในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง

หลิวเทียนฉือบอกกับนางเองไม่ใช่หรือ เพียงแค่นางหุงข้าวสารเป็นข้าวสุกกับเจียงหย่วน ไม่ว่าอย่างไรฮูหยินเจียงก็ต้องจำใจและยอมให้นางแต่งงานกับเจียงหย่วน

แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ฮูหยินเจียงกลับไม่เห็นด้วยอย่างที่หลิวเทียนฉือพูด

กู้ซินเถาตัวสั่นเทาด้วยความกลัว ถ้าฮูหยินเจียงไม่เห็นด้วยที่จะแต่งนางเข้าตระกูลเจียง เช่นนั้นนาง…

เหลือหนทางแค่ตายตกไปเสียทางเดียว….

ซุนซื่อเห็นคนจากตระกูลเจียงต่อว่าดูถูกกู้ซินถาว่าไร้ยางอายและไร้การสั่งสอนอยู่ตลอด นางก็พลันตื่นตระหนก

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบเจอกับสถานการณ์นี้

ดูเหมือนว่าเหยื่อทั้งสองกลับกลายเป็นเป้าหมายของข้อกล่าวหานี้

แต่คนที่ผิดอย่างเห็นได้ชัดในครั้งนี้คือตระกูลเจียง

นอกเหนือจากการกระตุ้นความโกรธของฮูหยินเจียงได้สำเร็จแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็ยืนกอดอกและมองพวกเขาด้วยแววตาเย็นชา

ในครั้งนี้ฮูหยินเจียงประสบพบเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่

เดิมทีนางคิดจะเอาเปรียบ แต่ไม่คิดว่าจะเสียชื่อเสียงเสียเอง

เดิมทีนางคิดว่าหากคนผู้นี้คือกู้เสี่ยวหวาน นับประสาอะไรกับชื่อเสียง

การเรียกลวี่เทามาที่นี่ก็เป็นการสร้างแรงกดดันให้กับกู้เสี่ยวหวาน เกรงว่าคนแบบนี้จะไม่ก้มหัวแม้ว่าจะหุงข้าวสารเป็นข้าวสุกแล้วก็ตาม

แต่คราวนี้มันจะอะไรขนาดนั้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่

ยิ่งนางคิดกับเรื่องนี้มากเท่าไร ความคุกรุ่นในจิตใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นและไม่พอใจกู้ซินเถามากยิ่งขึ้น “กู้ซินเถา อย่าคิดว่าฮูหยินของข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอะไร อยากจะแต่งเข้าตระกูลเจียงอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก”

แม้ว่าจะตายตกไปก็อย่าหวังว่าจะได้แต่งเข้าตระกูลเจียง

หลังจากที่ซุนซื่อได้ยิน โทสะที่กัดกร่อนจิตใจพลันปะทุขึ้น

หากกู้ซินเถาไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งงานเข้าตระกูลเจียง แล้วเหตุใดเจียงหย่วนจึงมาเกี้ยวลูกสาวของนางกัน ตอนนี้นางไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว นี่มันคือการฆ่ากู้ซินเถาทางอ้อมใช่หรือไม่?

“ฮูหยินเจียง พื้นเพตระกูลกู้ของข้าค่อนข้างอ่อนแอ ตอนนี้ลูกชายของข้าเป็นซิ่วไฉ หลังจากนี้เขาจะต้องสอบจวี่เหรินและได้เป็นขุนนาง ตระกูลกู้ของข้าจะเป็นครอบครัวขุนนาง ตระกูลกู้ของข้าจะด้อยกว่าตระกูลเจียงของท่านได้อย่างไร?” ฝีปากของซุนซื่อนับว่าไม่เลว แต่ถ้อยคำเหล่านั้นฟังดูแล้วค่อนข้างแปลกประหลาดไปเสียหน่อย

กู้เสี่ยวหวานแสยะยิ้มเย็นชา ซิ่วไฉอย่างนั้นหรือ?

คนที่แม้แต่คะแนนสอบซิ่วไฉยังเป็นของปลอม ในอนาคตจะกลายเป็นขุนนางได้อย่างไร

แน่นอนว่าทุกคนในตระกูลเจียงต่างปิดปากกลั้นหัวเราะกับคำพูดของซุนซื่อ

มามาเหลิ่งตวัดฝ่ามือลงแก้มของซุนซื่ออย่างเต็มแรง “ซุนซื่อ ตอนนี้ยังกลางวันอยู่เลย เจ้าเริ่มฝันแล้วหรือ หรือนี่จะเรียกว่าฝันกลางวัน?”

สิ้นเสียงของมามาเหลิ่ง สาวรับใช้ทั้งหมดก็ยกมือปิดปากลอบยิ้ม ดวงตาของพวกนางเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

ตอนนี้เสื้อผ้าของกู้ซินเถายุ่งเหยิง และถูกคลุมด้วยผ้านวมบาง ๆ ผมด้านหลังศีรษะของนางกระเซอะกระเซิง ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา กู้ซินเถาก็มีเสน่ห์ราวกับแจกันประดับบ้าน สวยแต่ไร้ประโยชน์

ไม่สิ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง แจกันที่บ้านยังดีต่อสายตาเพราะยังสามารถใช้บรรจุดอกไม้ได้ แต่กู้ซินเถาผู้นี้นอกจากแสร้งทำเป็นน่าสงสาร ประโยชน์ก็ไม่มีแล้ว

สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อกู้ซินเถาและซุนซื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ

ฮูหยินเจียงกัดฟันและปฏิเสธที่จะให้กู้ซินเถาแต่งเข้าตระกูลเจียง ตราบใดที่กู้ซินเถาก้าวออกจากร้านจิ่นฝู นางจะกลายเป็นตัวตลกของเมืองหลิวเจียทันที

ลวี่เทาที่ยืนดูอยู่ด้านข้างพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

คราวนี้เขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

เป็นเพราะกู้ซินเถาต้องการแต่งงานกับตระกูลเจียง ดังนั้นนางจึงใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมในการหุงข้าวสารเป็นข้าวสุก

หญิงสาวไปมาหาสู่กับเจียงหย่วนมานานแล้ว การที่นางดื่มเหล้าจนเมาเมายเช่นนี้ ใครก็ตามที่พบเห็นก็จะกล่าวว่า ระหว่างกู้ซินเถากับเจียงหย่วนมีความสัมพันธ์กันเช่นไร และเจตนาของทั้งสองคืออะไร

ลวี่เทาเองก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างกู้ซินเถาและเจียงหย่วน ครั้นเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันทุกคนย่อมเดาได้ว่า กู้ซินเถาคนนี้จะได้แต่งงานเข้าตระกูลเจียงในสักวันหนึ่ง

ลวี่เทายังดูแลตระกูลกู้เป็นอย่างดี

ลวี่เทารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเป็นครั้งแรกว่า เจียงหย่วนไม่เห็นด้วยกับการที่จะแต่งกู้ซินเถาเข้ามา

ตอนนี้ตัวตนของกู้ซินเถาแตกต่างจากเมื่อก่อน นางคือน้องสาวของบัณฑิต หากกู้จือเหวินมีชื่อเสียงในอนาคต สถานะของกู้ซินเถาก็จะไม่ธรรมดาเช่นกัน

ลวี่เทายังมีความกังวลเกี่ยวกับตระกูลกู้

เมื่อเห็นฮูหยินเจียงกระทำการอย่างไร้ความชอบธรรม เขาก็เกิดความไม่พอใจเล็กน้อย และอดไม่ได้จะพูดแทนกู้ซินเถา

“ฮูหยินเจียง ไหน ๆ เรื่องก็กลายเป็นเช่นนี้แล้ว หากท่านยังไม่ยอมรับ แม่นางกู้อาจจะไม่รอด”

“นั่นเป็นเพราะนางไร้ความรู้สึกละอายใจ อีกอย่างนางก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเจียง เตียงของตระกูลเจียงปีนขึ้นได้อย่างง่ายดาย แต่ประตูของตระกูลเจียงนั้นไม่ง่ายที่จะเข้ามา” ฮูหยินเจียงยังไม่ยินยอม และมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะบีบบังคับให้กู้ซินเถาตายทั้งเป็น

“ฮูหยินเจียง เรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว เหตุใดจึงต้องปล่อยให้ทั้งคู่ทนทุกข์ ท่านลองตรองดูสิ ชื่อเสียงของแม่นางกู้ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว และเรื่องนี้มันก็เกี่ยวข้องกับตระกูลเจียงเช่นกัน หากท่านไม่ยินยอม แม่นางกู้อาจจะต้องแสวงหาความตาย ในเวลานั้น หากข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า ตระกูลเจียงทำลายความบริสุทธิ์ของหญิงสาวและปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ ทั้งยังบีบบังคับจนเด็กสาวทนไม่ไหว หากสิ่งนี้แพร่ออกไปก็จะเป็นภัยร้ายแรงต่อตระกูลเจียง” สิ่งที่ลวี่เทาพูดล้วนมีเหตุผล หากมองผิวเผิน ตอนนี้เหมือนเขากำลังช่วยเหลือกู้ซินเถา แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เขาพูดนั้นกำลังคิดถึงตระกูลเจียง

“ตระกูลเจียงเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา หากเรื่องนี้ขจรขจายออกไป อนาคตมันจะยากที่จะโน้มน้าวทุกคนในเมืองหลิวเจีย” ลวี่เทาถอนหายใจและพูดต่อ “นอกจากนี้ หากตัวตนของแม่นางกู้ไม่คู่ควรกับนายน้อยเจียง เช่นนั้นก็ให้นางเป็นอนุภรรยาเสียสิ ไม่เพียงแต่จะทำให้ตระกูลเจียงและนายน้อยเจียงไม่อับอายเท่านั้น แต่ยังเติมเต็มความรักของแม่นางกู้ ซึ่งนี่จะตอบสนองความต้องการของทุกคน”

ฮูหยินเจียงรู้สึกประทับใจเช่นกันหลังจากได้ยินคำพูดของลวี่เทา

ไม่ใช่ว่านางไม่ได้คิดเกี่ยวกับสิ่งที่ลวี่เทาพูด นางคิดทุกอย่างไว้เรียบน้อยแล้ว แต่กู้ซินเถาคนนี้ห่างไกลจากคุณสมบัติของอนุภรรยาในใจของนางมาก

กู้ซินเถาซึ่งนั่งอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่านางมีแซ่กู้ แต่เมื่อเทียบกับกู้เสี่ยวหวาน คนหนึ่งราวกับอยู่บนท้องฟ้า และอีกคนราวกับอยู่ที่ก้นเหวลึก

ฮูหยินเจียงกำลังโกรธขึ้นมาแล้วจริง ๆ

นางเงยหน้าขึ้นและมองไปทีกู้เสี่ยวหวานซึ่งกำลังยืนมองความสนุกอยู่ด้านหลัง นางทั้งรู้สึกเสียใจและโกรธเคือง

สิ่งที่หลิวเทียนฉือทำนั้นเชื่อถือไม่ได้จริง ๆ

————————————-