ตอนที่ 998 สมเหตุสมผล

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 998 สมเหตุสมผล

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงสวมมุงกุฎจักรพรรดินั่งมองดูทหารยอดฝีมือของซีเหลียงสังหารผู้นำของตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดอยู่ในตำหนักของไทเฮา เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากตำหนักไม่หยุดหย่อน

สีหน้าของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงยังคงเรียบเฉยราวกับสายน้ำ เลือดสดกระเด็นโดนรองเท้าหนังประดับมุกของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง หญิงสามก้มหน้ามองเล็กน้อย รู้สึกแค่ว่าเลือดสีสดบาดตาเกินไปเท่านั้น

ประมุขและบุรุษของแปดตระกูลที่คัดค้านจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงถูกสังหารจนสิ้น ภายในตำหนักเหลือเพียงสตรีหม้ายและเด็กๆ ที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่ท่ามกลางซากศพมากมาย

“หลี่เทียนเจียว! เหตุใดเจ้าจึงสังหารประมุขของตระกูลทั้งแปดเช่นนี้!” ภรรยาของประมุขตระกูลอวิ๋นกอดบุตรชายคนเล็กไว้ในอ้อมกอดในด้วยร่างที่สั่นเทา จากนั้นตะโกนถามเสียงสะอื้น

“ประมุขมาจากการคัดเลือกของตระกูลทั้งแปด เจ้าคิดว่าสังหารประมุขและครอบครัวของประมุขจนสิ้นแล้ว ตระกูลทั้งแปดจะล่มสลายอย่างนั้นหรือ! ไม่มีทาง!”

“ดังนั้น…” จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงหลี่เทียนเจียวมองไปทางภรรยาของประมุขของตระกูลอวิ๋น

“ข้าจะสนับสนุนให้บุตรชายคนโตของเจ้าขึ้นเป็นประมุขคนใหม่ เจ้ามีความเห็นเช่นไร”

“ว่าอย่างไรนะ” ภรรยาประมุขอวิ๋นนึกไม่ถึงว่าหลี่เทียนเจียวจะกล่าวออกมาเช่นนี้ สีหน้าของนางตะลึงเล็กน้อย

หลี่เทียนเจียวหันไปส่งสัญญาณให้หัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์ หัวหน้าองครักษ์ผู้นั้นเดินนำขันทีซึ่งถือน้ำผึ้งสองถ้วยไว้ในถาดไปด้านหน้า เขาบีบปากภรรยาประมุขอวิ๋นแล้วกรอกน้ำผึ้งเข้าไปในปากของนางทันที จากนั้นสั่งให้ทหารรักษาพระองค์กระชากร่างของภรรยาประมุขอวิ๋นหลบไป เขาหันไปจับใบหน้าของเด็กชายที่เอาแต่ร้องไห้แน่นพลางกรอกน้ำผึ้งลงไปในปากของเด็กชาย

“แอ๊ แอ๊…” ภรรยาประมุขอวิ๋นเห็นบุตรชายคนเล็กของตัวเองใช้มือและเท้าทุบตีแขนของทหารรักษาพระองค์ ทว่า สุดท้ายก็โดนกรอกน้ำผึ้งเข้าปากอยู่ดีจึงกรีดร้องออกมาอย่างดัง นางผลักร่างของทหารรักษาพระองค์ที่จับตัวเองออกอย่างแรงโดยไม่รู้เอากำลังมาจากที่ใด จากนั้นถลาเข้าไปรวบตัวบุตรชายมากอดไว้ในอ้อมแขน นางล้วงมือเข้าไปในลำคอของบุตรชายหวังให้เขาอาเจียนออกมาโดยไม่สนว่าตัวเองโดนกรอกยาเข้าไปเช่นเดียวกัน

“อาเจียนออกมาเร็ว! เร็วเข้า!”

เด็กน้อยร้องไห้ขัดขืน

“ไม่ต้องห่วง…สิ่งนี้ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเจ้าในตอนนี้”

หลี่เทียนเจียวกล่าวเสียงราบเรียบ

“เจ้าบังคับให้เขาอาเจียนออกมาก็ต้องถูกกรอกกลับเข้าไปใหม่อยู่ดี เหตุใดต้องทรมานเขาด้วย”

“หลี่เทียนเจียว เจ้าไม่ตายดีแน่!” ภรรยาของประมุขอวิ๋นร้องไห้พลางด่าทออย่างสิ้นหวัง

“ดื่มให้หมดเสีย ต่อไปหากเจ้าเชื่อฟังคำสั่ง ข้าจะส่งยาถอนพิษไปให้ทุกเดือน หากไม่…เจ้าก็นอนรอความตายได้เลย”

หลี่เทียนเจียวนำยาลับที่ราชวงศ์ใช้กับทหารหน่วยกล้าตายมาใช้กับตระกูลทั้งแปด

“มีเพียงไทเฮาที่รู้สูตรยาลับนี้ หากพวกเจ้ามั่นใจว่าสามารถโน้มน้าวให้ไทเฮาสังหารเราได้ พวกเจ้าจะลองไม่เชื่อฟังเราดูก็ได้! คนในตระกูลทั้งแปดมีมากมาย เราสนับสนุนให้ผู้ใดรับตำแหน่งประมุขก็เหมือนกันทั้งสิ้น” หลี่เทียนเจียวกล่าวเสียงเยือกเย็น

“หลี่เทียนเจียว! เจ้าสังหารคนด้วยวิธีโหดร้ายเช่นนี้ เจ้าไม่ตายดีแน่!”

สตรีคนหนึ่งตะโกนด่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง

หลี่เทียนเจียวก้มหน้านิ่ง ไม่นานเลือดสดกระจายเต็มพื้น…ร่างของสตรีผู้นั้นล้มลงบนพื้น

เชือดไก่ให้ลิงดู ภายในตำหนักเงียบกริบลงทันที

นึกไม่ถึงเลยว่าคนในตระกูลทั้งแปดจะไร้ความเคารพยำเกรงต่อนางถึงเพียงนี้ โชคดีที่นางตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในวันนี้ หากปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่รู้จะเกิดปัญหาใหญ่หลวงเพียงใด

“หากผู้ใดในตระกูลทั้งแปดยอมมอบเสบียงอาหารให้ข้าแต่โดยดี วันหน้าพวกเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างสงบ หากผู้ใดไม่ยอม…ส่งพวกเขาทั้งครอบครัวไปปรโลกได้เลย”

หลี่เทียนเจียวกล่าวจบจึงเดินออกไปจากตำหนัก

คนที่เหลือยอมสวามิภักดิ์อย่างรวดเร็ว คนที่รู้ว่าเสบียงอาหารถูกซ่อนอยู่ที่ใดต่างสารภาพตามความจริง ผู้ที่ไม่รู้รีบกล่าวว่าจะกลับไปสืบมาให้

ทว่า พวกเขายังเร็วไม่เท่าเซียวรั่วไห่ เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงที่ไม่ได้นอนหลับทั้งคืนได้รับรายงานว่าเสบียงอาหารของทั้งแปดตระกูลถูกเผาไหม้หมดแล้ว

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ “เจ้าว่าอันใดนะ!”

หัวหน้าทหารที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเขม่าควันเงยหน้าขึ้น “คลังเสบียงอาหารของตระกูลทั้งแปดถูกคนชิงตัดหน้าจุดไฟเผาก่อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ เดิมทีพวกกระหม่อมจะเดินทางไปรับช่วงต่อเสบียงเหล่านั้นต่อจากตระกูลทั้งแปด ทว่า พวกกระหม่อมช่วยกันดับไฟทั้งคืน เสบียง…น่าจะไม่เหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เทียนเจียวกำหมัดแน่น “เสบียงของทั้งแปดตระกูลถูกเผาไหม้หมดเลยอย่างนั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ! ไหม้หมดเลยพ่ะย่ะค่ะ คนของตระกูลทั้งแปดเดินทางไปช่วยดับไฟเช่นกัน ทว่า สายเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”

ลงมือรวดเร็วเช่นนี้ นอกจากชุยเฟิ่งเหนียนแล้ว จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงนึกถึงคนอื่นไม่ออกจริงๆ

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรู้สึกตั้งแต่แรกว่าชุยเฟิ่งเหนียนร่วมมือกับตระกูลทั้งแปดก่อความวุ่นวายในซีเหลียง นางเป็นคนเสนอให้ตระกูลทั้งแปดยุยงให้ชาวบ้านเลิกทำนา หันไปทอผ้า หาหนังสัตว์ไปขายและผลิตกระดาษ อีกทั้งเป็นคนเสนอให้ตระกูลทั้งแปดใช้เสบียงที่มีความจำเป็นต่อชาวบ้านหากำไรจากชาวบ้านอีกที

ดังนั้นหากมีผู้อื่นที่รู้ตำแหน่งที่ตั้งของเสบียงอาหารนอกจากตระกูลทั้งแปดแล้ว คนๆ นั้นต้องเป็นชุยเฟิ่งเหนียนอย่างแน่นอน

ผู้ที่จะจุดไฟเผาเสบียงอาหารของตระกูลทั้งแปดในช่วงที่ซีเหลียงกำลังวุ่นวายก็มีเพียงสายลับของแคว้นอื่นอย่างชุยเฟิ่งเหนียนเท่านั้น!

หลี่เทียนเจียวกำหมัดแน่น จากนั้นตะโกนลั่น

“ไปจับตัวชุยเฟิ่งเหนียนมาให้เรา หากขัดขืนจงสังหารทิ้งทันที!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์นำทหารห้าร้อยนายมุ่งหน้าไปล้อมจวนชุยเอาไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นบุกเข้าไปจับตัวชุยเฟิ่งเหนียนในจวน

บ่าวรับใช้ในตระกูลชุยสะดุ้งตื่นกลางดึก พวกเขายังไม่ทันแต่งกายเรียบร้อยก็เห็นทหารรักษาพระองค์ชูคบเพลิงบุกเข้ามาในจวนอย่างรวดเร็ว ทุกคนยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความตกใจ

“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้จับตัวสายลับชุยเฟิ่งเหนียน ชุยเฟิ่งเหนียนอยู่ที่ใด รีบส่งตัวชุยเฟิ่งเหนียนให้พวกเราเดี๋ยวนี้” หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์ตะโกนลั่น

บ่าวรับใช้คนหนึ่งของตระกูลชุยก้าวไปด้านหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ จากนั้นกล่าวขึ้น “ใต้เท้า…คุณชายไปร่วมงานเลี้ยงของทูตต้าโจวตั้งแต่เมื่อคืน บัดนี้ยังไม่กลับมาเลยขอรับ”

หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์ได้ยินจึงชะงักไปทันที ทหารรักษาพระองค์ไม่กล้าไปจับตัวคนยังที่พักของทูตต้าโจว เขาจึงทำได้เพียงส่งคนกลับไปรายงานให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทราบและตัดสินใจว่าจะจัดการเช่นไรต่อไป

เมื่อหลี่เทียนเจียวได้รับรายงานจึงนั่งหลับตาครุ่นคิดอยู่บนเก้าอี้พักใหญ่ ในที่สุดนางก็เข้าใจเรื่องที่นางคิดไม่ตกก่อนหน้านี้แล้ว

บางทีชุยเฟิ่งเหนียนอาจเป็นสายลับของต้าจิ้น นางปลอมตัวเป็นสายลับในซีเหลียง หลอกใช้ตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปด ทว่า นางนึกไม่ถึงว่าต้าจิ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นต้าโจว เมื่อชุยเฟิ่งเหยียนสร้างผลงานในการเผาเสบียงอาหารของซีเหลียงได้แล้ว นางจึงมุ่งหน้าไปสวามิภักดิ์กับต้าโจว

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงหัวเราะออกมาเบาๆ ความอ่อนล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายจนนางแทบทนไม่ไหว นางไม่รู้ว่าตอนนี้นางควรทำเช่นไรดี หากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะจัดการกับเรื่องนี้เช่นไรนะ

ครู่ใหญ่ จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรวบรวมสติพลางกล่าวขึ้น “เตรียมรถม้า เราจะไปพบทูตของต้าโจว”

หลี่เทียนเจียวเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นลอบออกจากวังไปพบคนทั้งสองด้วยตัวเองอย่างลับๆ

เมื่อคืนได้ยินข่าวเรื่องไทเฮาประชวรหนัก จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงมีราชโองการเรียกตัวคนตระกูลตี๋เข้าไปสั่งเสีย ตระกูลทั้งแปดได้ยินข่าวจึงพากันเข้าไปในวังหลวงบ้าง ไป๋ชิงฉีและไป๋จิ่นถงต่างรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล

ไป๋ชิงฉีคิดอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นตัดสินใจให้ไป๋จิ่นถงเดินทางมาหาเขายังที่พักอย่างเปิดเผย บัดนี้เขาคือทูตของต้าโจว ชุยเฟิ่งเหยียนเคยเป็นชาวบ้านแคว้นต้าจิ้น บัดนี้นางคือชาวบ้านแคว้นต้าโจว ไป๋ชิงฉีปกป้องนางถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว

************************************