บทที่ 1015 สับสน

บทที่ 1015 สับสน

จนถึงตอนนี้เสี่ยวเถียนก็ยังมีความเข้าใจผิดเรื่องตัวเองอย่างหนึ่ง

แม้ฉืออี้หย่วนจะเป็นเจ้าคนนายคนในภายภาคหน้า แต่ผลงานที่เสี่ยวเถียนได้ทำไว้ในตอนนี้ทำให้เป้าหมายของใครหลาย ๆ คนเริ่มเปลี่ยนเป็นการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในสังคมที่กำลังพัฒนาไป

และถึงอยากจะทำให้บรรลุความสำเร็จเหมือนเสี่ยวเถียน แต่ก็ต้องใช้เวลานานอยู่ดี

โรงงานของเสี่ยวเถียนในตอนนี้กำลังเฟื่องฟู แม้แต่ร้านสินค้าเฟิงชางเปิดมาหนึ่งปีแล้วยังขายดิบขายดี

สิ่งเหล่านี้เลยทำให้เสี่ยวเถียนกลายเป็นเศรษฐินีตัวน้อย

อีกอย่างเธอทำผลงานดีไว้หลายด้านด้วย จึงเป็นที่สนใจของใครหลาย ๆ คน

การพัฒนาของตระกูลซูไม่ได้ช้า ถึงจะเทียบกับตระกูลใหญ่ ๆ ในเมืองหลวงไม่ได้แต่ถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งที่แท้จริง

ด้วยภูมิหลัง นิสัย ความสามารถ รูปร่างหน้าตาของซูเสี่ยวเถียนดีกว่าฉืออี้หย่วนอีก และเป็นคนที่คู่ควรกับเขาด้วย

คริสติน่าเลยคิดว่าสองคนนี้เหมาะสมกัน

“ฉันไม่ได้โกหกเลยนะ เรื่องจริงเลย” หญิงสาวเอ่ยด้วยความมั่นใจ

เสี่ยวเถียนกะพริบตาปริบ ๆ ราวกับว่าไม่เชื่อ

คริสติน่าเดินเข้ามากระซิบ “เธอคงไม่รู้ แต่พ่อแม่เขาอยากให้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่ำรวยมากเลยนะ เพื่อเป็นการมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่เขาน่ะ”

สิ้นประโยคนี้ เสี่ยวเถียนกลับรู้สึกไม่ดีสักนิด

หรือนี่คือสาเหตุที่พี่อี้หย่วนไปต่างประเทศ?

พ่อแม่เขาหาคนที่เหมาะสมมาให้แล้วหรือ?

เด็กสาวรู้สึกหดหู่ใจ ราวกับสูญเสียคนสำคัญที่สุด

“แต่เขาปฏิเสธเด็ดขาด เพราะงั้นพ่อแม่ก็เลยใช้เส้นสายไม่ให้บริษัทหลาย ๆ แห่งจ้างเขาทำงานน่ะ”

เสี่ยวเถียนอ้าปากค้าง แทบไม่อยากเชื่อ

ความรู้สึกหดหู่พลันหายไปแล้วเปลี่ยนเป็นความทุกข์ใจแทน

“ฉันเคยถามเขานะ ว่าทำไมถึงไม่ทำตามที่พ่อแม่แนะนำ ถ้าใช้คำพูดของประเทศเธอว่าก็คงเป็น ‘ประหยัดเวลาทำงานไปหลายสิบปี’”

“ตอนนั้นเขายิ้มแล้วก็บอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เป็นผู้หญิงชาวจีน น่ารักมากและสวยมากด้วย!”

คริสติน่าชี้ไปยังเพื่อนสนิท “ฉันว่าเขาหมายถึงเธอนะ”

ด้วยความที่โตกว่าและเคยมีความรักมาหลายครั้ง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มองเห็นความรู้สึกอันลึกซึ้งในแววตาของฉืออี้หย่วน

ที่เสี่ยวเถียนไม่เข้าใจเพราะไม่มีประสบการณ์

เพื่อนตัวเล็กอายุน้อยเป็นทุนเดิม แถมคนฝั่งตะวันออกก็ไม่ทำตัวเปิดเผยกันอยู่แล้ว ชายหนุ่มหญิงสาวไม่เคยคบกัน ไม่แปลกที่จะไม่เข้าใจ

ที่จริง คริสติน่าคิดว่าเสี่ยวเถียนไม่ได้เข้าใจ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าตัวไม่กล้าคิดไปในทางนั้นต่างหาก

ภาพลักษณ์อันสูงส่งของฉืออี้หย่วนในชาติก่อนยังตราตรึงเสมอ

เขาคือคนที่ควรค่าแก่การยกย่อง

และไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะตกหลุมรักตน

พอเพื่อนชาวเยอรมันว่า จึงต้องหยิบเรื่องนี้มาขบคิด

บางทีเขาอาจชอบเธอจริง ๆ ก็ได้

ถ้าไม่ชอบก็คงไม่อดทนต่อกันหรอก

คิดดูมันก็เป็นความรู้สึกที่เรียบง่ายนี่นา

เด็กสาวรู้สึกสับสนจนไม่กล้าแม้แต่จะมองฉืออี้หย่วน

“งั้นวันนี้เราไปเที่ยวที่ไหนดีล่ะ? ตอนเย็นติดงานใช่ไหม?”

เธอเปลี่ยนเรื่อง

คริสติน่ามาจากแดนไกล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เสี่ยวเถียนก็พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีเสมอ

วันนี้คงไม่ได้ไปเที่ยวกับฉืออี้หย่วนแล้วละ

ส่วนหนึ่งคือหลบหน้า เธอกลัวต้องเผชิญกับความรู้สึกที่เพิ่งค้นพบกะทันหันน่ะ

เรื่องความรักในชาติก่อนไม่ได้ราบรื่น

บอกว่าหวาดกลัวก็ยังได้

“เสี่ยวเถียน เราพาคุณฉือไปด้วยได้นะ”

คริสติน่าเสนออย่างกระตือรือร้น

เพราะรู้สึกว่าสองคนนี้เหมาะกันมาก คงจะดีถ้าได้อยู่ด้วยกัน

เสี่ยวเถียนหัวช้า เรื่องความรักก็ยังไม่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนสนิทแล้วต้องส่งเสริมสิ

เด็กสาวตกใจ

ถึงจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่อีกฝ่ายจะเต็มใจหรือเปล่า?

“พี่อี้หย่วน วันนี้หนูไปเดินซื้อของกับคริสติน่า พี่อยากไปด้วยหรือเปล่า?”

สาวน้อยผู้กล้าหาญเอ่ยด้วยความรู้สึกขวยเขินราวกับไฟลุกท่วม

ไม่รู้ทำไมถึงเขินทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ฉืออี้หย่วนผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็เดาไว้ได้อยู่แล้วละ

“งั้นก็ไปด้วยกันเถอะ ได้รับใช้คุณผู้หญิงทั้งสองท่านถือเป็นเกียรติสำหรับผมแล้วครับ” ใบหน้าหล่อเหลาทำคนมองถึงกับมึน

เสี่ยวเถียนพลันรู้สึกล่องลอย จนแทบเรียกคืนสติไม่ได้

“งั้นไปกัน รถรออยู่ด้านนอกแล้วละ วันนี้ฉันอยากไปพระราชวังฤดูร้อน ได้ยินว่าที่นั่นสวยมากเลย” คริสติน่าไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วเสนอความเห็นทันที

เสี่ยวเถียนตอบรับ

ก่อนออกไปเธอเพิ่งนึกได้ว่านัดกับเพื่อนเอาไว้ว่าจะไปโรงงานด้วยกัน แต่แผนเปลี่ยนแล้วก็เป็นอันต้องแจ้งให้ย้ายมาอีกวันแทน

โชคดีที่เป็นทางผ่าน เลยไปหาพวกจ้าวหงเหมยได้

ฝ่ายเพื่อน ๆ จึงได้รู้ว่าฉืออี้หย่วนกลับมาก็เข้าใจ

พวกเธอบอกช่วงนี้จะพักผ่อนก่อนแล้วกัน ปล่อยให้เสี่ยวเถียนกับพี่อี้หย่วนเที่ยวกันไป

สิ่งที่เพื่อนพูดดูมีนัยบางอย่าง

หรือรู้แล้วว่าพี่อี้หย่วนคิดอะไรอยู่?

เธอคงไม่ทำขายขี้หน้าเขาใช่ไหมนะ?

ฉืออี้หย่วนไม่รู้ว่าคริสติน่าพูดอะไรกับน้อง แต่สัมผัสได้ว่าเจ้าตัวดูทำตัวแปลก ๆ

เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่กล้ามองอย่างไรอย่างนั้น คนพี่ได้แต่จับ ๆ หน้าตัวเอง หรือมีอะไรอยู่บนหน้าเลยทำให้เธอกลัวหรือเปล่านะ?