บทที่ 1017 ความผิดหวังของฉืออี้หย่วน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1017 ความผิดหวังของฉืออี้หย่วน

บทที่ 1017 ความผิดหวังของฉืออี้หย่วน

ยังไม่ทันได้ตอบ ถั่วแดงในมือก็หายไปเสียแล้ว

เขามองไปยังต้นเหตุก่อนจะเจอกับซูเสี่ยวซื่อ

หลายปีที่ผ่านมาเจ้าตัวง่วนอยู่กับการหาเงิน บ้านช่องไม่กลับเพราะยุ่งมาก

แล้วนึกยังไงถึงมาโผล่ที่พระราชวังฤดูร้อนล่ะเนี่ย?

“พี่สี่? มาได้ยังไงคะ?”

เสี่ยวเถียนเองก็ตกใจไม่ต่างกัน

ปกติวัน ๆ พี่คนนี้คิดแต่เรื่องหาเงินหาทอง

หายากมากที่จะออกมาเที่ยว

“พี่เห็นเธอจากไกล ๆ ก็นึกว่าตาฝาด ที่ไหนได้เป็นเธอจริง ๆ ด้วย”

ซูเสี่ยวซื่อกินไอศกรีมเย็น ๆ แล้วรู้สึกสดชื่นมาก!

แต่ความรู้สึกของฉืออี้หย่วนไม่ได้สดชื่นตามเลย

อุตส่าห์วิ่งไปซื้อมาแท้ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กิน ต่อให้ไปซื้ออีกรอบได้ แต่ไม่เอาด้วยหรอกอากาศร้อนจะตาย

“อี้หย่วน แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย? ฉันไม่เห็นได้ยินข่าวคราวเลย”

ชายหนุ่มนึกเรื่องนี้ขึ้นได้

เขาไปต่างประเทศเกือบปีแล้วไม่ใช่หรือ?

ขนาดกิจการของเจ้าตัวก็ยังยกหน้าที่ให้เขาทำเลย

“เพิ่งกลับมาถึงเมื่อเย็นเองครับ”

“พี่สี่ คนนี้คริสติน่านะ จำได้หรือเปล่า?”

ซูเสี่ยวซื่อเห็นเธอแล้วนึกไม่ออก

ถ้ามองในสายตาชาวต่างชาติ คนจีนก็หน้าเหมือน ๆ กันทั้งนั้น และในสายตาซูเสี่ยวซื่อเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน

แต่พอได้ยินชื่อก็จำได้ทันที

ผู้หญิงชาวเยอรมันที่สนิทกับน้องเล็กไม่ใช่เรอะ?

เขาได้ยินว่าตระกูลเธอมีอำนาจมาก บริษัทที่บริหารก็ใหญ่โตด้วย

ถ้าได้ร่วมมือกับบริษัทเจ้าตัว หนทางร่ำรวยคงอยู่ไม่ไกลสินะ?

ชายหนุ่มรู้สึกได้ทันทีว่าโอกาสสร้างโชคลาภมาถึงแล้ว

“สวัสดีครับคุณคริสติน่า ผมชื่อซูซื่อเจี่ยนเป็นพี่สี่ของเสี่ยวเถียนครับ ตัวเจี่ยนที่หมายถึงขยันอดออม*[1]ครับ” ชายหนุ่มยื่นมือออกมาด้วยท่วงท่าสง่างาม

เจ้าตัวไม่รู้ว่าเวลาทั้งสามสื่อสารจะใช้ภาษาเยอรมันตลอด แถมระดับภาษาเยอรมันของเขาก็ย่ำแย่มาก

เสี่ยวเถียนจำต้องทำหน้าที่เป็นล่ามให้

โดยไม่ลืมหยอกพี่ชายตัวเองด้วย

“พี่สี่ หนูบอกให้เรียนภาษาต่างประเทศตั้งนานแล้วนะ พี่เอาแต่บอกไม่สำคัญ ๆ แล้วดูตอนนี้สิ หนูต้องมาแปลให้พี่เนี่ย เสียใจแล้วหรือยัง?”

ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจนิดหน่อย

ถ้ารู้ว่าจะมีโอกาสดี ๆ แบบนี้คงตั้งใจเรียนไปตั้งนานแล้ว เริ่มตอนนี้จะทันไหมนะ?

เสี่ยวเถียนรีบแปลให้เพื่อนฟังด้วยความว่องไว

คริสติน่าเคยมาประเทศจีนสองครั้งแล้ว แต่เธอยังไม่ค่อยเข้าใจกับมารยาทการจับมือทักทายของคนในประเทศนี้สักเท่าไร เพราะชายที่บอกว่าเป็นพี่สี่ของเสี่ยวเถียนก็ดูท่าทางแปลก ๆ ด้วย

“สวัสดีค่ะคุณซู!”

หญิงสาวทักทายด้วยความเป็นมิตร

แม้จะไม่รู้ว่าขยันอดออมคืออะไร แต่ฟังดูแปลกมากเลย

แต่ถึงยังไงชื่อของคนที่นี่ก็ดูแปลกสำหรับเธออยู่แล้วละ

เสี่ยวเถียนทำหน้าที่เป็นล่ามให้คนทั้งสอง

ถึงจะพูดต่างภาษา แต่สื่อสารหัวข้อเดียวกันได้

ด้วยทักษะการแปลมืออาชีพทำให้ทั้งสองจูนติดเข้าหากันได้

ยิ่งคุยเท่าไรก็ยิ่งรสนิยมก็ยิ่งเข้ากันได้ เสี่ยวเถียนรู้สึกแล้วว่าอีกไม่นานพวกเขาคงสาบานเป็นพี่น้องกันแล้วสินะ?

ตอนนี้เธอดูเหมือนเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นล่ามให้คนทั้งสองเลย

ไม่รู้จะได้รับค่าแปลหรือเปล่า

แต่เธออายเกินกว่าจะขอคริสติน่า เลยกะว่ากลับไปค่อยไปขอพี่สี่แทน

ซูเสี่ยวซื่อสนทนากับหญิงสาวอย่างสนุกสนาน ตอนนี้คิดแล้วว่าจะเรียนเยอรมันด้วยซ้ำ

พี่ใหญ่พูดได้ น้องเล็กก็พูดได้ มีครูสองคนคอยสอนคงไม่น่ายากหรอกเนอะ?

ถ้าเขาเรียนได้บ้างจะขอความร่วมมือกับเธอได้หรือเปล่านะ?

ฟังจากที่เธอพูดคือ ครอบครัวเจ้าตัวก็มีความเข้าใจในเรื่องของการทำห้างสรรพสินค้าเหมือนกัน

ในยุคนี้มีหลายคนที่ชื่นชอบของแปลก ๆ

ถ้าสามารถนำเข้าสินค้าจากเยอรมนีได้ ห้างหรงฟาจะก้าวขึ้นไปอีกชั้นแน่นอน

เขารู้สึกว่าหรงฟาควรขยายธุรกิจต่อ

นี่ไม่ใช่โอกาสที่ดีหรอกหรือ?

เสี่ยวเถียนแปลกใจที่พี่สี่มีหัวข้อให้คุยกับคริสติน่าเพียบเลย

ทีแรกก็นึกว่าพวกเขาคงแค่ทักทายไม่กี่คำแล้วก็แยกย้าย

กลายเป็นว่าคุยยาวเป็นครึ่งชั่วโมง แถมยังกระตือรือร้นดังเดิมเลยด้วย

เสี่ยวเถียนเข้าใจได้

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

พี่สี่คงพบหนทางการทำธุรกิจ จึงทุ่มเทเพื่อหาวิธีบรรลุความร่วมมือมาให้ได้สินะ

ไม่รู้คริสติน่าคิดยังไง

แต่จากท่าทางสนใจ เธอรู้สึกว่าการเจรจานี้ราบรื่นแน่นอน

นักธุรกิจสองคนที่ขับเคลื่อนด้วยความสนใจร่วมกันอาจสร้างผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดก็ได้นะ

ฉืออี้หย่วนมองคนทั้งสามด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย

นึกเสียใจว่าวันนี้มาด้วยทำไมนะ?

ทีแรกชวนน้องมาตามลำพังเพราะอยากให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นดังเดิมน่ะ และเราก็ไม่ได้เจอกันเกือบปีแล้ว

แต่จู่ ๆ ก็มีก็มีก้างขวางคอเข้ามา ซึ่งทำให้เขาอารมณ์เสียมาก

เดี๋ยวนะ เหมือนมีอะไรแปลก ๆ?

เขามาเป็นล่ามคุณคริสติน่าไม่ใช่หรือ?

แต่โดนคนแย่งงานไปนี่นา?

ฉืออี้หย่วนยิ้มตอนมองเด็กสาวที่แย่งหน้าที่ไปเสียแล้ว หัวหมุนกว่าคนคุยเสียอีก

สาวน้อยเป็นล่ามมืออาชีพ

และไม่มีใครเทียบเทียมได้เลย

ช่างเถอะ ยังไงก็ต้องมีใครสักคนรับหน้าที่นี้อยู่ดี

“เสี่ยวเถียน มาช่วยกันแปลกัน” ชายหนุ่มเสนอ

ทั้งสี่สนทนาพาที บางก็เรื่องห้างสรรพสินค้า บางก็เรื่องทิวทัศน์ของพระราชวังฤดูร้อน

สิ่งนี้ทำให้ฉืออี้หย่วนรู้สึกว่าคงจะดีถ้านั่งคุยกันในหออีหมิงนะ

[1] ตัวเจี่ยน(俭) ในชื่อของเสี่ยวซื่อ เป็นตัวเดียวกับในสำนวนที่ว่า 勤俭节约 ซึ่งหมายถึงขยันทำงานและประหยัดมัธยัสถ์

———————