War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2355
ตอนที่ 2,355 : ออกจากลัทธิบูชาไฟ!
ถังซวน!
ไสหัวออกมา!!
เสียงที่สะท้อนดังก้องไปทั่วลัทธิบูชาไฟ จนทำให้คนของลัทธิบูชาไฟทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะหนาวสะท้านจับไขสันหลังนั้น แน่นอนว่ามันย่อมทำให้ทั้งลัทธิบูชาไฟถึงกับตื่นตัวขึ้นมาครั้งใหญ่!
ถังซวนเป็นใคร?
นั่นคือนามของ ‘จ้าวลัทธิบูชาไฟ’ ผู้ที่ด่านพลังบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน! พลังฝีมือติดอยู่ใน 4 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน!!
ทว่าวันนี้ไม่ทราบเป็นผู้ใดกันแน่ ไม่เพียงแต่จะหาญกล้าบุกเข้ามาในลัทธิบูชาไฟอย่างอุกอาจเท่านั้น ยังถึงขั้นตะโกนสั่งให้จ้าวลัทธิของพวกมันไสหัวออกมา!!
นี่มันต้องโอหังถึงขั้นไหน!
“เจ้าบ้านั่นมันเป็นผู้ใดกันแน่!? มันเบื่อชีวิตแล้วรึไร! ถึงได้หาญกล้าท้าทายท่านจ้าวลัทธิเราแบบนี้!?”
ไม่นานวาจาทำนองดังกล่าวก็ดังระงมไปทั่วลัทธิบูชาไฟ
“ด้วยพลังฝีมือของท่านจ้าวลัทธิยามนี้ เว้นก็แต่อันดับ 1 ในรายนามยอดเซียนอย่าง เนี่ยหวู่เทียนมาเอง…ต่อให้เป็นมหาปุโรหิตของลัทธิชะตาฟ้า หรืออาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬ ก็ไม่กล้ามาวางท่าโอหังเช่นนี้ในลัทธิบูชาไฟเรา!!”
หลายคนรู้สึกว่าเรื่องราวมันน่าเหลือเชื่อนัก!
“ไม่รู้ว่ามันเป็นผู้ใด แต่ท่าทางคงอยากตายแล้วจริงๆ!”
หลายคนยังพากันคิดไปว่า ผู้ที่มาตะโกนเสียงดัง…ไม่พ้นต้องมีปัญหาชีวิตจนคิดอยากตายแน่แท้!
เพียงแค่ว่าหลังเสียงตะโกนด้วยความถือดีดังกล่าวดังก้องไปสักพัก ไม่นานก็มีบางคนเอะใจ
“นี่…ว่าแต่พวกเจ้าไม่คิดว่าน้ำเสียงนี้มันฟังคุ้นๆหูกันหรือไร? ไฉนข้าฟังแล้วมันคุ้นหูนักเล่า?”
และผู้ที่เอะใจนั้นก็เป็นอดีตคนของแท่นบูชาเต่าทมิฬ 1 ใน 4 แท่นบูชาจตุรลักษณ์ของลัทธิบูชาไฟ ทว่าบัดนี้ได้เลื่อนชั้นเป็นศิษย์ฝ่ายในเรียบร้อย จนได้เข้ามาอยู่ในเกาะศักดิ์สิทธิ์!
หลายคนพอได้ยินคำแนะ ก็เริ่มรู้สึกไปในทำนองเดียวกัน
ว่าน้ำเสียงเย่อหยิ่งอหังการเมื่อครู่นั่น มันช่างคุ้นหูดีแท้! ราวกับพวกมันเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน!!
“มารดามัน! ข้านึกออกแล้ว!!”
ทว่าทันใดนั้นเอง ปรากฏร่างศิษย์คนนึงตบหน้าขาตัวเองดังฉาด โพล่งคำอุทานออกมาเสียงดังลั่นจตุรัสกลางของเกาะศักดิ์สิทธิ์ “เสียงนี้ ไม่ใช่เสียงของท่านผู้พิทักษ์หลิงเทียนหรอกเรอะ!?”
“อะไรนะเสียงผู้พิทักษ์หลิงเทียนเรอะ!? จริงด้วย! ข้าว่าแล้วว่าเคยได้ยินที่ไหน!!”
หลายคนเริ่มจดจำได้
“ไฉนเป็นผู้พิทักษ์หลิงเทียนไปได้เล่า? ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ผู้พิทักษ์หลิงเทียนไม่ควรตะโกนด้วยน้ำเสียงแบบนี้…ต่อให้มีปัญหาอะไรกับท่านจ้าวลัทธิจริง แต่จะกล้าหยิ่งยโสกับท่านจ้าวแบบนั้นเหรอ?”
“นั่นสิ ข้าว่าเพียงแค่เสียงฟังคล้ายๆกันเท่านั้น…มิน่าใช่ผู้พิทักษ์หลิงเทียนหรอก…”
“ใต้หล้ามากพิสดารไม่รู้จบ ผู้คนหน้าเหมือนยังมี ไหนเลยยังมีเสียงคล้ายมิได้…”
……
ถึงแม้หลายๆคนในลัทธิบูชาไฟจะฟังได้ว่าเสียงตะโกนอย่างโอหังนั่นเหมือนเสียงต้วนหลิงเทียน หากแต่ทั้งหมดคิดว่าคงละม้ายคล้ายกันเพียงเสียงเท่านั้น
อีกทั้งพวกมันยังฟังออกชัดเจน
ว่าเสียงหยิ่งยโสโอหังที่ตะโกนลั่นนั่น เสมือนคนที่มีความแค้นกับจ้าวลัทธิของพวกมัน!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
หลังจากต้วนหลิงเทียนตะโกนออกไปได้ไม่ทันไร เหนือฟ้าพลันบังเกิดเสียงแหวกฝ่าสายลมสี่สำเนียงดังขึ้น ร่างผู้คนกลุ่มหนึ่งเหินออกมาจากเกาะอื่นๆด้านล่างภายใต้เกาะที่ลอยเด่นสูงสุดประหนึ่งจักรพรรดิ
“ท่านอาจารย์!”
หลังจากที่มีผู้คนกลุ่มดังกล่าวปรากฏขึ้น ก่านหรูเยี่ยนที่อยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียนก็อดร้องทักร่างหนึ่งในบรรดาผู้มาใหม่อย่างตื่นเต้นไม่ได้
เป็นอาจารย์ของก่านหรูเยี่ยน ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟ ชิงหั่ว!
ชายชราในชุดจอมยุทธ์เรียบง่ายสีเขียวพึ่งปรากฏตัวได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงศิษย์ส่วนตัวอย่างก่านหรูเยี่ยน! ทำให้ใบหน้าชราสะท้านทันใด ยังเผยความตื่นเต้นออกมาให้เห็นเด่นชัด!
อย่างไรก็ตามใบหน้าตื่นเต้นยินดีเพียงคงอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งลมหายใจ มันก็เร่งปรับสีหน้าให้แลดูจริงจัง ยังส่งเสียงผ่านพลังถึงก่านหรูเยี่ยนโดยตรง “เยี่ยนเอ๋อเจ้าหนีไปก็ดีแล้ว…เจ้าจะกลับมาทำอะไรกัน! มิรู้หรือไรว่ามันอันตรายเพียงใดที่เจ้าจักย้อนกลับมาแบบนี้! ศิษย์ที่โง่เขลานัก!!”
เสียงผ่านพลังของชิงหั่วมากตำหนิ หากแต่ก็ไม่อาจปิดซ่อนความกังวลเป็นที่สุดเอาไว้ได้
หลายปีที่รับก่านหรูเยี่ยนมาเป็นศิษย์ มันย่อมไม่ได้เห็นก่านหรูเยี่ยนเป็นเพียงแค่ศิษย์เท่านั้น ยังรักและเอ็นดูไม่ต่างอะไรจากลูกสาวแท้ๆ
เช่นนั้นพอเห็นก่านหรูเยี่ยนกลับมา ถึงแม้มันจะยินดีและมีความสุขที่ได้พบหน้าศิษย์ผู้เป็นดั่งลูกสาวแท้ๆอีกครั้ง แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะร้อนรนด้วยความกังวลในใจ
ครั้งที่แล้วจ้าวลัทธิบูชาไฟ ได้บีบคั้นให้ผู้พิทักษ์หลิงเทียนจากไปเพราะเรื่องธิดาเทพ…
อันที่จริงมันกับผู้พิทักษ์อีก 3 คนก็เห็นต่างเรื่องนี้ ด้วยคิดว่าจ้าวลัทธิทำเกินไป!
เพราะพวกมันล้วนเชื่อมั่นกันว่า
ต่อให้ธิดาเทพจะมีความสำคัญกับลัทธิบูชาไฟอย่างไร แต่นั่นก็เป็นแค่คุณค่าเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น ไหนเลยจะเทียบกับผู้พิทักษ์ต้วนหลิงเทียนที่เป็นดั่งคบไฟที่จะส่องแสงสว่างไสวให้อนาคตของลัทธิบูชาไฟได้…
อย่างไรก็ตามพวกมันสัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นอันแรงกล้าต่อชาติกำเนิดของธิดาเทพ จากตัวจ้าวลัทธิอย่างถังซวนได้ชัดเจน…
จ้าวลัทธิบูชาไฟของพวกมันถังซวนนั้น…เชื่อสนิทใจว่าธิดาเทพก็คือ เทพธิดากลับชาติมาเกิด! ทำให้ไม่อาจยอมรับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีสัมพันธ์กับธิดาเทพได้!!
หาไม่แล้ววันนั้นไหนเลยพวกต้วนหลิงเทียนจะถูกบีบคั้นให้หลบหนีไปแบบนั้น!
ด้วยเหตุนี้พอได้เห็นศิษย์ของมันอย่างก่านหรูเยี่ยนกลับมาพร้อมต้วนหลิงเทียน ผู้พิทักษ์ชิงหั่วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวิตกกังวลอย่างหนัก
“ท่านอาจารย์ ขอท่านอย่าได้ห่วงไป…ด้วยมีมันอยู่ทั้งคนข้ามิเป็นอันตรายใดๆแน่!”
อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินเสียงผ่านพลังทั้งตำหนิทั้งห่วงใย ก่านหรูเยี่ยนก็ส่ายหัวไปมาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน น้ำเสียงยังอ่อนลงราวปลอบประโลม
ปลอบใจผู้พิทักษ์ชิงหั่วให้ไม่ต้องห่วง!
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน?!”
ขณะเดียวกันสายตาของผู้พิทักษ์อีก 3 คนที่เหินร่างออกมาพร้อมชิงหัวอย่าง สื่อเฟิง หงอวิ๋น และเหลิ่งอิงก็หันไปจับจ้องมองต้วนหลิงเทียนเขม็ง
ดูจากสีหน้าแววตาของพวกมัน คล้ายไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่!
ผู้พิทักษ์หลิงเทียน ต่อให้พลังฝีมือเจ้ากล้าแข็งจนเป็นรองก็แต่จ้าวลัทธิเพียงหนึ่งเดียว แต่ดูเหมือนว่ายังมิมีคุณสมบัติใช้น้ำเสียงหยิ่งทะนงเช่นนั้นออกมาต่อหน้าเจ้าลัทธิมิใช่หรือ?
ไม่เพียงเรียกชื่อจ้าวลัทธิห้วนๆ ยังบอกให้ไสหัวออกมาเนี่ยนะ!?
ต่อให้ยังมีฐานะเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟจนสามารถเพิกเฉยกฏเกณฑ์ต่างๆได้ แต่ก็มิได้หมายความว่าอนุญาตให้ท่านมาอาละวาดเอาแต่ใจ!
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว…”
สุดท้ายก็เป็นชิงหั่วที่กล่าวทักทายออกมา ทำลายบรรยากาศเงียบสงัดแสนอึดอัด
“อ่า”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าเบาๆ
เขายังคงมีความประทับใจในตัวผู้พิทักษ์ชิงหั่วไม่น้อย อีกทั้งอีกฝ่ายยังเป็นอาจารย์ของพี่สาววฝาแฝดภรรยาเขา ในเมื่ออีกฝ่ายกล่าวทักเช่นนี้ เขาย่อมไม่อาจเพิกเฉยเป็นธรรมดา
ถึงแม้ว่าด้วยพลังฝีมือของเขาตอนนี้ ไมต้องขยับแม้แต่ปลายนิ้วก็จัดการชิงหั่วได้ง่ายๆก็ตามที
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน!”
ตอนนี้เองเป็นผู้พิทักษ์เหลิ่งอิงก้าวออกมากล่าวคำกับต้วนหลิงเทียน
“ถึงแม้ฐานะของเจ้ายังคงเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟเรา จนทำให้เพิกเฉยต่อกกฏเกณฑ์ปฏิบัติต่างๆได้มากมาย…แต่หากเจ้าถึงขั้นก้าวร้าวกับท่านจ้าวลัทธิและมิให้ความเคารพ เจ้าก็ยังต้องถูกลงโทษตามกฏลัทธิบูชาไฟ!!”
เหลิ่งอิงนั้นเป็นอดีตหัวหน้าของหอคุมกฏ ถึงแม้ตอนนี้มันจะไม่ค่อยได้ทำหน้าที่หัวหน้าหอคุมกฏแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ยอมให้ต้วนหลิงเทียนมาก้าวร้าวลามปามจ้าวลัทธิบูชาไฟของมันง่ายๆ!
ถึงแม้ว่าสื่อเฟิงกับหงอวิ๋นจะไม่ได้กล่าวคำอะไรออกมา แต่ดูจากสีหน้าแววตาทั้งท่าทางแล้ว ก็เห็นชัดว่าไม่ค่อยพอใจกับการกระทำของต้วนหลิงเทียนเหมือนกัน!
“ถูกลงโทษตามกฏลัทธิบูชาไฟ? ฮ่าๆๆ!!”
อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินคำของเหลิ่งอิง
ในขณะที่ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟกำลังสงสัย ว่าไฉนอยู่ๆต้วนหลิงเทียนถึงหัวเราะออกมาแบบนี้
ทันใดนั้นสายตาต้วนหลิงเทียนก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเยียบเย็น
ครู่ต่อมา
“วันนี้ข้า ต้วนหลิงเทียนขอประกาศไว้ ณ ที่นี้อย่างเป็นทางการ! ว่าตัวข้าได้ออกจากลัทธิบูชาไฟ และไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป!!”
เสียงกล่าวครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียน ดังสนั่นไม่ต่างใดจากเสียงตะโกนก่อนหน้า ยังแฝงเร้นไปด้วยพลังอันสุดไพศาลจนน้ำเสียงกึกก้องกังวานดังไปทั่วทั้งลัทธิบูชาไฟ ยังดังไม่ต่างอะไรจากฟ้าร้องในหูของเหล่าศิษย์ลัทธิบูชาไฟทุกคน!
“วันนี้ข้า ต้วนหลิงเทียนขอประกาศไว้ ณ ที่นี้อย่างเป็นทางการ ว่าตัวข้าได้ออกจากลัทธิบูชาไฟ และไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป!!”
“วันนี้ข้า ต้วนหลิงเทียนขอประกาศไว้ ณ ที่นี้อย่างเป็นทางการ ว่าตัวข้าได้ออกจากลัทธิบูชาไฟ และไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป!!”
…
พริบตาทั่วทั้งลัทธิบูชาไฟก็เสมือนมีระเบิดลง! เพราะฟังจากเสียงที่สนั่นกึกก้องสะท้อนมาคราวนี้ ทุกผู้คนก็สามารถยืนยันได้แทบจะทันที…
ว่าผู้ที่ออกประกาศดังสนั่นนั่น เป็นคนเดียวกับคนที่ตะโกนเรียกหาจ้าวลัทธิบูชาไฟของพวกมันก่อนหน้า!
ยังเป็นผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟของพวกมัน ต้วนหลิงเทียน!!
“นิ..นี่…”
“บ้าน่า! เป็นเสียงของผู้พิทักษ์หลิงเทียนจริงๆหรือเนี่ย!?”
…
เรียกว่าเหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟมากมายหลายคน อดไม่ได้ที่จะสับสนงุนงง
มิคาดไม่ใช่แค่คล้ายเหมือน หากเจ้าของเสียงโอหังตอนแรก กลับเป็นผู้พิทักษ์หลิงเทียนของพวกมันจริงๆ!!
“ผู้ใดสามารถบอกข้าได้บ้าง ว่าที่แท้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!?”
“นั่นสิ มีผู้ใดรู้บ้างว่าที่แท้มีเรื่องอะไรกันแน่ ไฉนผู้พิทักษ์หลิงเทียนถึงเรียกหาท่าน้จาวลัทธิด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวเช่นนั้น…กระทั่งยังประกาศว่าจะออกจากลัทธิบูชาไฟเรา และมิเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟเราอีกต่อไป!?”
“ข้าไม่ได้ยินข่าวคราวของผู้พิทักษ์หลิงเทียนมาหลายปีแล้ว…มิคาดจริงๆว่าการปรากฏตัวออกมาอีกครั้งกลับทำให้ทั้งลัทธิบูชาไฟเราต้องตกใจครั้งใหญ่…คำ ‘ไม่มีเสียงก็แล้วไป ร้องเพียงครั้งพาลให้ผู้คนตกตะลึง’ กล่าวไม่ผิดจริงๆ!”
(ไม่มีเสียงก็แล้วไป ร้องเพียงครั้งพาลให้ผู้คนตกตะลึง = สำหรับคนเก่งๆที่ปกติไม่ค่อยทำอะไร แต่พอทำอะไรขึ้นมาสักครั้งก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต)
…
เรียกว่าตอนนี้เหล่าศิษย์ทั้งอาวุโสหลายต่อหลายคนในลัทธิบูชาไฟขบคิดกันจนหัวแทบแตก แต่พวกมันก็ไม่อาจคิดออกได้ว่าไฉนผู้พิทักษ์หลิงเทียนของพวกมันถึงกระทำแบบนี้!
อย่างไรก็ตามพวกมันมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง…
ว่าต้องมีเหตุผลอันใดสักอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่!
ยิ่งไปกว่านั้น 9 ใน 10 ส่วนสมควรเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟของพวกมันไปทำอะไรให้ผู้พิทักษ์หลิงเทียนไม่พอใจแน่นอน!
หาไม่แล้วคนไหนเลยจะกลายเป็นดุร้ายเกรี้ยวกราด กล่าวเรียกหาด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวให้ไสหัวออกมาแบบนั้น ซ้ำยังประกาศแยกตัวออกจากลัทธิบูชาไฟ ไม่ปงไม่เป็นผู้พิทักษ์อันใดแล้ว!!
“เกิดอันใดขึ้นกับน้องต้วนกันแน่!?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
…
ภายในลัทธิบูชาไฟ ด้าน หลิวอวิ๋น กับหลิวมู่ และคนอื่นๆที่เคยมีสัมพันธ์อันดีกับต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะงุนงงหลังได้ยินวาจารุนแรงดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน
พวกมันไม่อาจล่วงรู้ได้จริงๆว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม…ลองตะโกนเรียกหาท่านจ้าวลัทธิด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวเช่นนั้น แถมยังประกาศแยกตัวออกจากลัทธิบูชาไฟเราอีก เกรงว่าคงทำให้ท่านจ้าวลัทธิขุ่นเคืองหนัก!”
หลิวมู่ หลิวอวิ๋นและอีกหลายๆคนอดไม่ได้ที่จะสับสน แน่นอนว่าพวกมันยังเป็นกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปของต้วนหลิงเทียนไม่น้อย
เป็นธรรมดาว่าในเวลาแบบนี้คนที่มีสัมพันธ์อันดีกับต้วนหลิงเทียน ย่อมเป็นกังวลแทนต้วนหลิงเทียน
หากแต่ผู้ที่มีสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีกับต้วนหลิงเทียนหรือจะกล่าวว่า ‘เลวร้าย’ ตอนนี้สีหน้าพวกมันแลดูลิงโลดเต็มไปด้วยความยินดีนัก หลังได้ยินวาจาโอหังทั้ง 2 รอบของต้วนหลิงเทียน!
“ต้วนหลิงเทียนนั่นมันกล้าใช้วาจาน้ำเสียงเช่นนั้นเรียกหาท่านจ้าวลัทธิไม่พอ…แต่มันกล้าประกาศแยกตัวและไม่เป็นผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟของเราอีกต่อไป?”
“หากมันยังเป็นผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟของเรา แม้ท่านจ้าวลัทธิจะโกรธ แต่ด้วยใจรักถนอมอัจฉริยะ ท่านยังสามารถให้อภัยมันได้เพราะอย่างไรมันก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านจ้าว…แต่ตอนนี้รึ หึๆ!!”
“ต้วนหลิงเทียน ข้าเกรงว่าวันนี้เจ้าจะดวงกุดแล้ว!!”
…
คนเหล่านี้ย่อมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าต้วนหลิงเทียนจะประสบเคราะห์! กระทั่งตายๆไปได้ก็ยิ่งดี!!