War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2360
ตอนที่ 2,360 : ความว่างพังทลายยาวนับพันหมี่!
“ต้วนหลิงเทียนข้ายอมแพ้…”
เสียงคำยอมจำนนของถังซวน เมื่อดังเข้าหูเหล่าคนของลัทธิบูชาไฟ ก็ทำให้พวกมันบังเกิดความรู้สึกประหนึ่งกระต่ายขาหักสุนัขป่วย…
ต้องทราบด้วยว่านั่นคือจ้าวลัทธิบูชาไฟของพวกมัน!
หากทว่ายามนี้นายเหนือหัวของพวกมันไม่เพียงแต่ถูกบีบคั้นให้คุกเข่าก้มหัวต่อหน้าต้วนหลิงเทียน ยังถึงกับเอ่ยปากยอมจำนนออกมา!
เรียกว่าเหล่าคนของลัทธิบูชาไฟทั้งหลาย เมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนแอนี้ของถังซวน พวกมันย่อมรับทราบถึงความอับจนสิ้นหวังทั้งคับแค้นหากทว่ามิอาจทำอะไรได้ชัดเจน ทำให้พวกมันตระหนักดีว่าตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกของถังซวนมันดิ่งลงเหวขนาดไหน!
“เจ้ายอมแพ้แล้ว?”
ได้ยินคำถังซวน ต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวถามออกเสียงเย็นเบาๆ “ในเมื่อยอมแพ้แล้ว เช่นนั้นก็ตายซะ!”
กล่าวจบคำ ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็ปะทุออกด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันน่าสะพรึงกลัว มวลพลังกู่ร้องประหนึ่งมังกรพิโรธ!
ด้วยพลังฝึกปรือในปัจจุบันของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ที่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้ปฐมเวทย์กลืนกิน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะฆ่าถังซวน!
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
……
ฝ่ามือต้วนหลิงเทียนผนึกควบไปด้วยมวลพลังเซียนอมตะอันมหาศาลขุมหนึ่ง คล้ายมังกรพิโรธถูกสะกดกัก ทันทีที่ปลดปล่อยให้มันได้รับอิสระภาพล่ะก็…มันย่อมปะทุพลังสังหารฆ่าถังซวนเพื่อล้างแค้นให้ผู้เฒ่าหั่วทันที!
“ช้าก่อน!”
ในห้วงแห่งความเป็นตาย ถังซวนคล้ายตระหนักดีว่าวาระสุดท้ายของมันมาถึงแล้ว มันจึงเร่งกล่าวออกมาว่า “ต้วนหลิงเทียนเจ้ามิอาจฆ่าข้าได้! หาไม่แล้วเจ้ามิมีวันรู้ชาติกำเนิดของธิดาเทพ กระทั่งวิกฤตที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังความเป็นมาของธิดาเทพได้เลย!”
“หืม?”
ได้ยินคำของถังซวนคิ้วต้วนหลิงเทียนขดย่นเป็นปมทันใด พลังอันมหาศาลปานมังกรพิโรธคำรามในมือก็ค่อยๆสิ้นสูญสภาวะ
เขาย่อมรู้เป็นธรรมดาว่า ‘ธิดาเทพ’ ที่ถังซวนพูดออกมาเป็นใคร
“ปล่อยมัน”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยคำกับอากาศธาตุเสียงเบา
หากแต่ด้านเฉินอี้หรูที่ได้ยินคำนี้ มันก็เร่งคลายพลังสะกดร่างถังซวนออกทันที ขณะเดียวกันยังไม่ลืมส่งเสียงผ่านพลังถึงหูถังซวน “อย่าได้คิดเล่นลูกไม้ปาหี่อันใด หาไม่แล้วข้าจักให้เจ้าได้พบพานความทรมานยิ่งกว่าตาย!”
ตอนนี้ถังซวนย่อมตระหนักได้แล้วว่าเฉินอี้หรูคือเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ เช่นนั้นหลังได้ยินคำขู่ของเฉินอี้หรูร่างมันถึงกับสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวยากระงับ
ตอนนี้มันหาได้มีความสุขที่ได้รับอิสรภาพกลับคืนไม่!
เพราะมันรู้ดีแก่ใจ ว่าด้วยมีเฉินอี้หรูอยู่ตรงนี้สักคน…มันจะได้รับอิสระหรือไม่สถานการณ์ของมันก็ยังคงอีหร็อบเดิม…
“คะ…ครึ่งก้าวเซียนอมตะ!?”
อย่างไรก็ตามหลังถังซวนลุกขึ้นมาและมองไปยังต้วนหลิงเทียน สองตามันก็หดหยีลงด้วยความตื่นตระหนก คนอุทานกล่าวออกอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังทั่วกายต้วนหลิงเทียนชัดเจน!
แต่มันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนจริงๆ…
อาศัยเวลาแค่ไม่กี่ปี ชายหนุ่มชุดม่วงที่ไม่ต่างใดจากมดตัวน้อยตัวนิดในสายตามันเมื่อไม่กี่ปีก่อน จะสามารถข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ กลับกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะไปเสียแล้ว!
‘ระ…เรื่องแบบนี้ ปะ…เป็นไปได้ยังไงกัน?!’
ถึงแม้จะยืนยันได้ชัดถนัดตาว่าต้วนหลิงเทียนบรรลุครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว แต่ถังซวนก็ไม่ยังอยากจะเชื่อสายตาตัวเอง!
เพราะมันคิดว่านี่อยู่เหนือสามัญสำนึกเกินไป!
ในช่วงเวลาแค่สั้นๆไม่กี่ปี พลังฝึกปรือต้วนหลิงเทียนกลับทะลวงถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว? มันไม่อาจสรรหาตรรกะใดๆมาอธิบายเรื่องนี้ได้จริงๆ!
“ครึ่งก้าวเซียนอมตะ!?”
“ทะ…ท่านจ้าวลัทธิว่าอะไรนะ…ท่านบอกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะงั้นรึ!? นี่ข้าใช่ได้ยินผิดไปหรือไม่!?”
“บะ…บ้าไปแล้ว นี่ยังพึ่งผ่านไปเท่าไหร่เชียว…ไฉนถึงกลับกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะไปได้แล้วเล่า!?”
“แล้วเจ้าคิดว่าเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้วท่านจ้าวลัทธิยังมีกะใจล้อเล่นหรือไม่?”
…..
หลังได้รับทราบว่าต้วนหลิงเทียนบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะจากเสียงอุทานของถังซวน เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟที่อยู่ ณ ที่นี้ตั้งแต่ต่ำยันสูงล้วนอื้ออึงถึงขั้นไม่รู้เหนือรู้ใต้!
อาศัยแค่ในเวลาไม่กี่ปี ทว่าการหวนกลับมาคราวนี้ต้วนหลิงเทียน กลับมีข้ารับใช้ขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ติดตามอยู่ข้างกาย! พวกมันก็จนด้วยคำพูดเพราะไม่อาจสรรหาคำใดมาอธิบายได้จริงๆ!!
มาตอนนี้ยังได้รับทราบว่าต้วนหลิงเทียนได้บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว ใจของพวกมันก็ยิ่งสะท้านไปหนักหนา ด้วยไม่เพียงแต่ข้ารับใช้ข้างกายต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจถึงขั้นสะเทือนฟ้า กระทั่งตัวต้วนหลิงเทียนเองยังร้ายกาจจนพวกมันผวา…
ครึ่งก้าวเซียนอมตะ!!
นั่นคือตัวตนที่เคยดำรงอยู่ ณ จุดสูงสุดของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าในสายตาพวกมันตั้งแต่อดีตจนถึงเมื่อครู่…
ถึงแม้พวกมันจะตระหนักได้ว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะยังเป็นอะไรที่อ่อนแอกว่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อย่างเฉินอี้หรู
แต่เฉินอี้หรูคือผู้ใดกันเล่า?
เฉินอี้หรูนั่นคือสุดยอดฝีมือในอดีตเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว กระทั่งยังร้ายกาจถึงขั้นติดอันดับที่ 2 ในรายนามยอดเซียน กระทั่งล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ จนกลับกลายเป็นเซียนอมตะเสเพลไปเมื่อ 4,000 ปีก่อน
แต่ทว่าต้วนหลิงเทียนเล่า? ต้วนหลิงเทียนคืออัจฉริยะรุ่นเยาว์คนหนึ่ง กระทั่งยังเป็นอัจฉริยะที่พึ่งก้าวขึ้นมาจากภูมิภาคเบื้องล่างไม่ทันถึง 10 ปีด้วยซ้ำ ที่สำคัญคือยังถือกำเนิดมาได้ไม่ถึง 100 ปี!
หากแต่คนที่ยังเกิดมาไม่ถึง 100 ปี…กลับข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์กลับกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะได้สำเร็จ!
จะไม่ให้พวกมันตกใจได้อย่างไรไหว!?
“ครึ่งก้าวเซียนอมตะ?”
ได้ยินเสียงอุทานของเหล่าลัทธิบูชาไฟ เฉินอี้หรูอดไม่ได้ที่จะแค่นคำเสียงเย็น มุมปากยกยิ้มแสยะออกมาอย่างดูแคลน
นายท่านของมัน ไหนเลยจะเอาไปเทียบกับครึ่งก้าวเซียนอมตะทั่วไปได้?
พลังรบของนายท่านมันผู้นี้ถึงขั้นเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์! กระทั่งตัวมันยังห่างไกลเกินจะสู้!!
“พูดมา”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองถังซวนด้วยสายตาเยียบเย็นกล่าวสั่ง
ตอนนี้ถังซวนเองก็ฟื้นตัวเรียบร้อยแล้ว ยามมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้งนอกจากความยำเกรงแล้วยังมากล้นไปด้วยความอิจฉา
ตอนแรกมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนเพียงถือดีว่ามีเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อย่างเฉินอี้หรูเป็นข้ารับใช้เท่านั้น ถึงได้หาญกล้าผยองต่อหน้ามัน!
แต่มันไม่อาจคิด กระทั่งหลับยังไม่เคยฝันถึง! ว่าในเวลาแค่ไม่กี่ปีพลังบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนไม่เพียงทัดเทียมกระทั่งยังก้าวข้ามมันไปเรียบร้อยแล้ว!
ครึ่งก้าวเซียนอมตะนั้น เป็นตัวตนทรงพลังสุดที่มันจะปะทะด้วยได้!
ถึงแม้มันจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถหลบหนีจากครึ่งก้าวเซียนอมตะได้พ้นด้วยอาศัยเวทย์พลังเสริมท่าร่าง แต่ให้มันปะทะกับอีกฝ่ายซึ่งหน้า มันรู้ดีแก่ใจว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง!
เรื่องนี้มันย่อมสำเหนียกตัวเองดี!
“หากข้าบอกเจ้าไป…เจ้าจะไว้ชีวิตข้าหรือไม่?”
ถังซวนมองต้วนหลิงเทียน ค่อยเอ่ยถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เจ้าคิดว่า…ตอนนี้เจ้ายังมีปัญญาต่อรองอะไรกับข้าได้งั้นเหรอ?”
ได้ยินคำถังซวน ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็เผยประกายเยียบเย็นออกมาทันใด กระทั่งยังเยียบเย็นปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน!
ทันใดนั้นถังซวนก็รู้สึกหนาวสะท้านปานมีไอเย็นแล่นวาบไปทั่วสรรพางค์กาย ราวกับร่วงตกลงบ่อน้ำแข็งก็ไม่ปาน
หากแต่สุดท้ายแล้วมันก็เลือกที่จะยอมจำนน…
“เรื่องที่ธิดาเทพคือเทพธิดากลับชาติมาเกิด…เรื่องนี้มิใช่ความลับอันใดสำหรับระดับสูงของลัทธิบูชาไฟ”
เมื่อเผชิญกับสายตาไม่แยแสราวกับชีวิตของมันไร้ราคาค่างวด ถังซวนได้แต่กล่าวออกมาช้าๆอย่างสิ้นหวัง “แต่ตัวข้ารู้ดี…ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อถือเรื่องนี้ กระทั่งเหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายยังคิดว่าเรื่องที่ข้ากล่าวล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล และเรื่องที่ธิดาเทพเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดเป็นเพียงเรื่องที่ข้าเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาเอง!”
ถังซวนกล่าวถึงท้ายประโยคกก็หันไปกวาดตามองสื่อเฟิง หงอวิ๋น ชิงหั่ว และเหลิ่งอิงอันเป็นชนชั้นผู้พิทักษ์
ทั้ง 4 ก็เงียบไปชั่วขณะ
เพราะพวกมันก็เชื่อว่าเรื่องธิดาเทพเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดนั้น เป็นเรื่องที่จ้าวลัทธิบูชาไฟอย่างถังซวนกล่าวแต่งขึ้นมาเองจริงๆ
นั่นเพราะในบันทึกประวัติศาสตร์ของลัทธิบูชาไฟ ไม่เคยมีเรื่องราวทำนองนี้ปรากฏมาก่อนเลยสักครั้ง!
คำพูดที่ว่าธิดาเทพก็คือเทพธิดากลับชาติมาเกิดนั้น เป็นถังซวนกล่าวออกคนเดียว!
เรื่องนี้ทำให้พวกมันอาจเชื่อได้ลงคอ
“ถึงแม้ข้าจะรู้ดีพวกมันมิได้เชื่อคำข้า แต่ตัวข้าก็มิเคยบังคับให้พวกมันเชื่อ…เพราะตัวข้ารู้ดีแก่ใจว่าธิดาเทพคือเทพธิดากลับชาติมาเกิดจริงๆ!!”
ไม่นานสายตาถังซวนก็ค่อยๆเบนไปตกยังร่างเค่อเอ๋อข้างกายต้วนหลิงเทียน
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ เสียงถังซวนยังคงดังสืบต่อ “ในตอนนั้นมีชายผู้หนึ่งที่ไม่ได้มาจากระนาบโลกียะของเราปรากฏตัวขึ้นปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าข้าด้วยพลังอำนาจดุจทวยเทพ! เรียกได้ว่าพลังอำนาจของชายผู้นั้นร้ายกาจถึงขั้นสุดที่ข้าจะจินตนาการได้ถึง!!”
“เพียงแค่ยกมือสะบัดออกไปส่งๆ หากแต่สามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าได้ยาวนับพันหมี่!”
กล่าวถึงจุดนี้ลูกตาของถังซวนก็หดหยีลง แววตายังฉายชัดถึงความประหวั่นพรั่นพรึง ราวกับได้เห็นฉากดังกล่าวปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง
“เจ้าว่าอะไร?”
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ถังซวนกล่าวจบ เสียงเฉินอี้หรูก็โพล่งดังออกมาทันที “เจ้ากล่าวว่าชายผู้นั้นอาศัยเพียงการลงมือส่งๆ กลับสามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าได้…กระทั่งรอยแยกมิติยังยาวกว่าพันหมี่?”
เฉินอี้หรูชักสีหน้าเคร่งขรึมออกมาทันที
เหตุผลที่ไฉนสีหน้ามันกลายเป็นจริงจังถึงขนาดนี้ เพราะมันตระหนักได้ถึงความหมายของวาจาดังกล่าว…
เท่าที่มันทราบ…
กระทั่งตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ผู้เป็นตัวตนสูงสุดในระนาบโลกียะแห่งนี้ ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดลงมือทำลายออก อย่างดีก็ทำได้แค่ฉีกเปิดความว่างเปล่าให้ยาวได้แค่ราวๆ ร้อยหมี่เท่านั้น!
แต่ตอนนี้ถังซวนกลับบอกว่า…
ชายที่ร้ายกาจดุจทวยเทพนั่น อาศัยการลงมือส่งๆกลับฉีกเปิดความว่างเปล่าได้ยืดยาวนับพันหมี่!!
จะไม่ให้อารมณ์ของมันพุ่งพล่านขึ้นมาได้อย่างไรไหว!!
“ฉีกเปิดความว่างเปล่าได้ยาวนับพันหมี่…”
สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็เคร่งขรึมจริงจังขึ้นมาทันทีหลังได้ยินคำนี้ของถังซวน
ถึงแม้เขาเองจะยังไม่รู้ว่าตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ลงมือเต็มกำลังจะฉีกเปิดความว่างเปล่าได้ยาวที่สุดเท่าไหร่ แต่ชายที่ถังซวนกล่าวว่าสามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าได้ยาวนับพันหมี่นั้นสมควรไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาแน่นอน!
อย่างน้อยๆเขาก็พอตระหนักได้ว่า การฉีกเปิดความว่างให้มหึมาขนาดนั้น น่ากลัวว่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ยังไม่อาจกระทำได้!
“ฉีกเปิดความว่างได้ยาวนับพันหมี่?”
“นะ…นั่นต้องทรงพลังถึงเพียงใด?”
“เท่าที่ข้ารู้มา…มีเพียงตัวตนที่มีระดับพลังตั้งแต่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ขึ้นไปเท่านั้นที่มีพลังอำนาจฉีกเปิดความว่างเปล่า หากแต่ตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ อย่างดีก็ฉีกเปิดความว่างได้ยาวราวๆชุ่นเดียวเท่านั้น…”
“ฉีกความว่างเปล่าได้นับพันหมี่…นั่นเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนกัน! ข้าเกรงว่าต่อให้ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในระนาบโลกียะอย่างเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ก็มิมีพลังอำนาจสูงถึงเพียงนั้น?”
……
ขณะเดียวกันทางด้านคนของลัทธิบูชาไฟ โดยเฉพาะผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ก็อดตื่นตระหนกไปไม่ได้
“ชายผู้ร้ายกาจดุจทวยเทพที่ท่านจ้าวลัทธิว่า…มีตัวตนอยู่จริงหรือ?”
“ไฉนข้ารู้สึกว่า…เสมือนข้ากำลังฟังนิทานปรัมปราอยู่เลยเล่า?”
“นี่มิใช่ว่าท่านจ้าวลัทธิกำลังคิดหลอกลวงผู้พิทักษ์หลิงเทียนอยู่หรอกนะ?”
“อาจเป็นได้!”
……
เหล่าศิษย์ของลัทธิบูชาไฟที่ยากจะยอมรับเรื่องนี้ อดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบคุยกัน
ถึงแม้เสียงกระซิบของพวกมันจะแผ่วเบา แต่ถังซวนยังได้ยินชัดถนัดหู มันยังโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมาใจอยากจะพุ่งไปตบศิษย์บัดซบเหล่านี้ให้ตัวแตกตายไปเสียให้หมด!
“วันนี้ ข้า ถังซวน ขอสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า…เพื่อพิสูจน์ว่าวาจาของข้าล้วนเป็นความจริง…หากข้ากล่าวเท็จขอให้อัสนีฟ้าพิฆาตร่างตายตก!!”
ด้วยมีคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า นั่นก็หมายความว่าทุกถ้อยคำของถังซวนล้วนเป็นความจริง!