ตอนที่ 1013 รู้คุณคน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1013 รู้คุณคน

ไป๋ชิงอวี๋สามารถทำร้ายเซียวหรงเหยี่ยนที่นี่ได้ ทว่า เขาไม่อาจกล่าวสิ่งใดออกมาได้ทั้งสิ้น…

อ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋หาข้ออ้างในการทำร้ายร่างกายเซียวหรงเยี่ยนได้ เขาสามารถอ้างได้ว่าตอนที่พวกเขาถกเถียงเรื่องผลประโยชน์ในวังหลวง เซียวหรงเหยี่ยนเอาเปรียบหรงตี๋โดยถือว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ทว่า พวกเขายังไม่ได้ผลสรุปเพราะจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นลมหมดสติไปเสียก่อน อ๋องหน้ากากผีโมโหจนทนไม่ไหวจึงมาหาเรื่องเซียวหรงเหยี่ยนที่โรงเตี๊ยมของชายหนุ่ม เรื่องนี้มีข้ออ้างที่สมเหตุสมผล

เมื่อคิดได้ดังนี้ไป๋ชิงอวี๋จึงจัดการเซียวหรงเหยี่ยนต่อโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย หมัดของไป๋ชิงอวี๋กระแทกลงบนต้นไม้ ใบไม้บนต้นไม้ร่วงกราวลงบนพื้น เงาของดวงจันทร์สีเงินครึ่งซีกสะท้อนลงบนผิวน้ำในบ่อน้ำ สายน้ำกระเพื่อมเล็กน้อยท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืน

เซียวหรงเหยี่ยนที่เพิ่งหลบหมัดของไป๋ชิงอวี๋ได้ยังไม่ทันตั้งหลัก เท้าของไป๋ชิงอวี๋พุ่งตรงมาทางเขาอีกครั้ง เซียวหรงเหยี่ยนเหลือบเห็นเงาคนกำลังเดินมาทางนี้จึงรีบจับขาของไป๋ชิงอวี๋ไว้แน่น จากนั้นกล่าวเสียงรัว “คืนนี้เซียวหรงเหยี่ยนจะป่วยหนัก จากนั้นจะแต่งงานกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว หากเจ้าลงมือกับข้าในเวลานี้แล้วมีคนเห็นเข้า เจ้าอยากให้หรงตี๋มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเซียวหรงเหยี่ยนอย่างนั้นหรือ”

ไป๋ชิงอวี๋ที่กำลังโมโหจนหน้าอกสั่นไหวได้ยินคำกล่าวของเซียวหรงเหยี่ยนก็รู้ทันทีว่าท่านแม่และพี่หญิงจะจัดการกับปัญหานี้เช่นไร

เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคน ไป๋ชิงอวี๋จึงลดเท้าลง จากนั้นจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย

บ่าวรับใช้ที่ถือสำรับอาหารเย็นมาทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยนและไป๋ชิงอวี๋ จากนั้นเดินข้ามสะพานไม้ไปยังอีกฝั่งทันทีโดยไม่รบกวนเวลาของทั้งสองคน

เมื่อเห็นคนเดินจากไปไกล ไป๋ชิงอวี๋จึงกล่าวขึ้น “เจ้าสมควรตาย!”

“เรื่องนี้เป็นความผิดของข้า…”

“เจ้าสมควรตาย!” ไป๋ชิงอวี๋กำหมัดแน่นจนมือสั่นเทา

พี่หญิงใหญ่เดินมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างยากลำบาก หากอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้อยากใช้ชีวิตร่วมกับพี่หญิง แต่งงานกับพี่หญิงตามธรรมเนียม ไป๋ชิงอวี๋จะไม่ว่าอันใดเลยสักคำ! ทว่า สองแคว้นต้องทำสงครามกันในวันใดวันหนึ่ง เหตุใดชายหนุ่มจึงกล้าทำเช่นนี้!

เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายคำนับไป๋ชิงอวี๋ “ข้าและอาเป่าทำสัญญากันไว้แล้ว เมื่อใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งเมื่อใด ข้าจะคอยอยู่เคียงข้างอาเป่าและลูกตลอดไป ได้โปรด…ให้พวกเราได้สมหวังด้วย”

ไป๋ชิงอวี๋กำหมัดแน่นพลางขยับเข้าไปใกล้เซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นกระซิบข้างหูของชายหนุ่ม “หลังจากเซียวหรงเหยี่ยนตายไป จงอยู่ให้ห่างจากพี่หญิงของข้า…”

กล่าวจบ ไป๋ชิงอวี๋เดินกระแทกไหล่เซียวหรงเหยี่ยนจากไปทันที

เซียวหรงเหยี่ยนมองตามแผ่นหลังของไป๋ชิงอวี๋ เขาเข้าใจความโกรธของไป๋ชิงอวี๋ ทว่า สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการจัดฉากให้เซียวหรงเหยี่ยนป่วยหนัก เขาไม่รอช้า รีบเดินไปยังเรือนพักของทูตต้าเยี่ยนทันที

“ท่านอ๋อง ข้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” ลูกน้องของเซียวหรงเหยี่ยนที่ปลอมตัวเป็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมาโดยตลอดผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจพลางจับแขนข้างที่ถือถ้วยยาของเซียวหรงเหยี่ยนแน่น จากนั้นกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยน “ท่านอ๋องจากต้าเยี่ยนไปตั้งแต่เล็ก ท่านเพิ่งจะสร้างแหล่งรวบรวมข่าวตามแคว้นต่างๆ ให้ต้าเยี่ยนได้อย่างยากลำบาก หากเซียวหรงเหยี่ยนเป็นอันใดไปในตอนนี้…”

ลูกน้องของเซียวหรงเหยี่ยนชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นกล่าวต่อ “เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนแต่งงานกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว เครือข่ายทั้งหมดที่อยู่ในต้าโจวจะไร้ประโยชน์ทันที! ที่สำคัญพวกเราเพิ่งวางรากฐานในซีเหลียง หากเซียวหรงเหยี่ยนเสียชีวิต สิ่งที่พวกเราวางแผนมานาน ทรัพยากรที่เราทุ่มไปกับแคว้นซีเหลียงจะสูญเปล่าทันที พวกเราต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง! เพราะตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดตระกูลของซีเหลียงล้วนรู้จักเซียวหรงเหยี่ยน”

เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองลูกน้องที่จับแขนของเขาไว้แน่น ชายหนุ่มสะบัดมือของลูกน้องออก จากนั้นกล่าวเสียงขรึม “ข้ากำลังออกคำสั่ง ไม่ใช่ขอคำปรึกษา!”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบจึงยกถ้วยยาดื่มหมดถ้วย

เยว่สือรีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้เซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นเหลือบมองไปทางลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมาโดยตลอดแวบหนึ่ง เยว่สือก่นด่าลูกน้องผู้นั้นอยู่ในใจว่าเขาช่างโง่ยิ่งนัก ในเมื่อเขารู้ว่าเจ้านายของตัวเองรักกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว เขาจะเดาไม่ได้เลยหรือว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวรู้ฐานะที่แท้จริงของเจ้านายตัวเองนานแล้ว หลังจากที่หญิงสาวขึ้นครองราชย์ หญิงสาวจะไม่จัดการกับกิจการของเจ้านายตนหรืออย่างไร กิจการเหล่านั้น…ไร้ประโยชน์ตั้งนานแล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนรับผ้าเช็ดหน้าจากเยว่สือมาเช็ดมุมปาก “ข้าเริ่มตั้งแหล่งข่าวในต้าโจวใหม่หมดแล้ว ส่วนซีเหลียง…หาหลานชายของเซียวหรงเหยี่ยนมารับช่วงต่อกิจการของเขาก็แล้วกัน”

“ตระกูลทั้งแปดจะยอมรับหลานชายของเซียวหรงเหยี่ยนหรือพ่ะย่ะค่ะ” ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยังไม่อยากยอมแพ้ เขารู้สึกว่าเซียวหรงเหยี่ยนทำเสียเรื่องใหญ่เพราะความรู้สึกส่วนตัว

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรกังวล…” เซียวหรงเหยี่ยนโยนผ้าเช็ดหน้าลงบนโต๊ะ “อีกอย่าง ข้าให้เจ้าปลอมตัวเป็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน เจ้าจึงคิดว่าตัวเองคือผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนจริงๆ อย่างนั้นหรือ”

ลูกน้องรีบคุกเข่าลงด้วยความตกใจ “ข้าไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวหรงเหยี่ยนมองลูกน้องของตัวเองแวบหนึ่ง จากนั้นจึงลุกขึ้นไปประคองให้ลูกน้องลุกขึ้นด้วยตัวเอง “ข้ารู้ว่าเจ้าจงรักภักดี ทว่า ข้ามีแผนการของข้า เจ้าทำตามแผนก็ถือว่าช่วยข้าได้มากแล้ว เข้าใจหรือไม่”

เมื่อลูกน้องเห็นท่าทีที่อ่อนโยนลงของเซียวหรงเหยี่ยน ขอบตาจึงแดงก่ำขึ้นมาทันที เขากำหมัดพลางกล่าวขึ้น “ข้าจะจำไว้พ่ะย่ะค่ะ!”

ขณะที่เสนาบดีกรมพิธีการหลิ่วหรูซื่อเรียกรวมตัวลูกน้องในกรมพิธีการเพื่อปรึกษาเรื่องวันอภิเษกสมรสของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวและเซียวหรงเหยี่ยน ทางโรงเตี๊ยมมีข่าวแว่วมาว่า…เซียวหรงเหยี่ยนเป็นลมหมดสติไปอย่างกะทันหันหลังจากกลับจากวังหลวง

เมื่อจักรพรรดินีแห่งต้าโจวรู้ข่าว แม้รู้ว่าหมอหลวงเดินทางไปตรวจอาการของเซียวหรงเหยี่ยนแล้วก็ยังกระวนกระวายใจอยู่ดี หญิงสาวสั่งให้หมอหงและหมอหลวงหวงเดินทางไปตรวจอาการของเซียวหรงเหยี่ยนด้วย

หมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงตรวจได้ผลสรุปเดียวกันว่าอาการของเซียวหรงเหยี่ยนไม่ค่อยสู้ดี อาการของชายหนุ่มหนักแบบที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

วันต่อมาไข้ของเซียวหรงเหยี่ยนลดลง ชายหนุ่มได้สติ ทว่า ชีพจรของเขาสับสนมาก หมอหงวินิจฉัยว่าเซียวหรงเหยี่ยนอาจอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน หมอหลวงคนอื่นในสำนักหมอหลวงพากันพยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อข่าวรู้ไปถึงหูของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว หญิงสาวมีราชโองการสั่งให้รับตัวเซียวหรงเหยี่ยนเข้ามารักษาอาการป่วยในวังหลวง จากนั้นตามหลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคง ต่งซือถู เสนาบดีกรมพิธีการหลิ่วหรูซื่อเข้ามาปรึกษาเรื่องงานแต่งงานกับเซียวหรงเหยี่ยนในวังหลวง

ต่งชิงผิงและหลิ่วหรูซื่อประหลาดใจมาก เมื่อวานไทเฮาและฝ่าบาทเพิ่งเรียกพวกเขาเข้าไปปรึกษาเรื่องนี้ในวังหลวงและให้พวกเขาเริ่มเตรียมงานอภิเษก เหตุใดวันนี้จึงเร่งวันอภิเษกให้เร็วขึ้นเช่นนี้

ไทเฮาต่งซื่ออธิบายว่าเซียวหรงเหยี่ยนป่วยหนัก หมอหงและหมอหลวงของสำนักหมอหลวงไม่มีทางรักษา พวกเขาคิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน ไป๋ชิงเหยียนอยากเลื่อนวันแต่งงานให้เร็วขึ้น ถือเป็นการแต่งงานแก้ชง ไม่แน่อาการของเซียวหรงเหยี่ยนอาจดีขึ้น

หลิ่วหรูซื่อตะลึง แต่ไรมามีแต่คนแต่งงานแก้ชงให้จักรพรรดิ นี่คือครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าจักรพรรดินีจะแต่งงานแก้ชงให้สามีของตัวเอง

ทว่า หลิ่วหรูซื่อเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกเช่นเดียวกัน เขานับถือความกล้าของไป๋ชิงเหยียนมาก ดังนั้นเขาจึงตอบรับคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนเป็นคนแรก “ทว่า ฝ่าบาท ไทเฮาตรัสว่าให้จัดงานภายในสามวันเกรงว่าคงไม่ทันพ่ะย่ะค่ะ แค่ฉลององค์ของฝ่าบาทและพระภัสดา ต่อให้คนของสำนักทอผ้าหลวงเร่งทำทั้งวันทั้งคืนก็คงไม่ทันอยู่ดีพ่ะย่ะค่ะ”

“จัดทุกอย่างอย่างเรียบง่ายที่สุด ร่างกายของหรงเหยี่ยนทนไม่ไหวแล้ว รบกวนใต้เท้าทุกท่านเตรียมการทุกอย่างให้เสร็จภายในสามวันด้วย” ไป๋ชิงเหยียนโค้งกายคำนับทุกคน “ลำบากทุกท่านแล้ว”

บรรดาหลู่ไท่เว่ยรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพกลับพลางกล่าวว่าไม่กล้ารับ

ขุนนางใหญ่ที่เมื่อวานยังเป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของจักรพรรดินี วันนี้ได้ยินว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะแต่งงานภายในสามวันจึงได้แต่ตกตะลึงจนตาค้าง เมื่อได้ยินว่าจักรพรรดินีต้องการเร่งจัดงานแต่งงานในครั้งนี้เพราะต้องการแก้ชงให้เซียวหรงเหยี่ยน พวกเขาจึงนึกถึงบุญคุณที่เซียวหรงเหยี่ยนเคยมีต่อตระกูลไป๋ ทุกคนต่างชมเชยว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนรู้คุณคน

*********************************