War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2362
ตอนที่ 2,362 : จ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่!
เมื่อได้เห็นจ้าวลัทธิบูชาไฟอย่างถังซวนตกตายลงด้วยน้ำมือของต้วนหลิงเทียน เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟทั้งผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ก็ได้แต่หันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าเปี่ยมกังวล!
ตอนนี้พวกมันได้แต่ภาวนาว่าขอให้ต้วนหลิงเทียนอย่าได้เป็นผู้สืบทอดนาม หมอกพิรุณ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 อันเป็นผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริงๆเลย…
หาไม่แล้วด้วยความแค้นทั้งความเกลียดชังระหว่าง 2 ขุมพลังที่มีมายาวนานนับหมื่นปี เกรงว่าลัทธิบูชาไฟของพวกมันคงไม่รอดพ้นน้ำมือผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ไปง่ายๆแน่…!
บรรยากาศเหนือฟ้าเงียบงันไปพักใหญ่
ลองต้วนหลิงเทียนไม่พูดสักคน ก็ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะผายลม!
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่านหรูเยี่ยน จะเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่…”
ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ปริปากกล่าวคำออกมาอีกครั้ง และวาจาแรกที่กล่าวออกก็คือการแต่งตั้งจ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่!
ยังแต่งตั้งให้ ก่านหรูเยี่ยน พี่สาวฝาแฝดของภรรยาเขา เป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่!
“ห๊ะ! ข้าเหรอ? ข้าเนี่ยนะ?”
ก่านหรูเยี่ยนตะลึงค้างตาโต ยกมือชี้ตัวเองอย่างงงๆ
ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ!
…
ทันใดนั้นเหล่าคนของลัทธิบูชาไฟทั้งหลาย ก็หันขวับไปจับจ้องก่านหรูเยี่ยนเป็นสายตาเดียวกัน เรียกว่านางกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันที!
“หากพวกเจ้ามีใครไม่พอใจหรือไม่เต็มใจอะไร…ก็พูดออกมาได้เลย”
เสียงต้วนหลิงเทียนยังคงดังสืบต่อ
ไม่เต็มใจ?
ไม่พอใจ?
ได้ยินคำถามนี้ของต้วนหลิงเทียน เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟก็ได้แต่เผยยิ้มขื่นขมออกมา
ได้เห็นพลังฝีมืออันร้ายกาจขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะของต้วนหลิงเทียน อีกทั้งยังมีเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่อยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียน ตอนนี้ต่อให้พวกมันไม่พอใจคำตัดสินของต้วนหลิงเทียนมากแค่ไหน แต่จะให้พวกมันกล้าพูดออกมาได้อย่างไร?
“เอาล่ะ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครไม่พอใจหรือไม่เต็มใจอะไร ถ้างั้นก็เอาตามนี้…”
หลังจากนั้นไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรออกมา ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวสรุปออกมาเอง “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่านหรูเยี่ยนจะเข้ามานั่งเก้าอี้จ้าวลัทธิบูชาไฟแทนถังซวนที่ตกตายไป…”
“นี่! ข้า…ข้าไม่ไหวหรอก!”
ตอนนี้เองก่านหรูเยี่ยนก็พึ่งจะดึงสติกลับมาได้สำเร็จ
ตอนนี้สีหน้าท่าทีนางไม่เหลือความเย็นชาปานถือดีอะไรสืบไป มองแล้วยังไม่ต่างอะไรจากสาวน้อยขลาดกลัวเสียขวัญ ไม่มั่นใจในตัวเองนางหนึ่ง เห็นชัดว่านางถูกคำตัดสินอย่างกะทันหันของต้วนหลิงเทียนทำให้ขวัญหนีดีฝ่อแล้วจริงๆ…
จะให้นางเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟเนี่ยนะ?
นางจะไปเป็นไหวได้ยังไงเล่า!?
“ไม่ต้องห่วงหน่า ยังไงก็มีผู้พิทักษ์ทั้ง 4 คอยช่วยเหลือเจ้าอยู่ดี แค่นี้ก็มากพอให้เจ้านั่งเก้าอี้จ้าวลัทธิบูชาไฟได้สบายๆแล้ว…”
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองก่านหรูเยี่ยนพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงธรรมดาราวพูดถึงดินฟ้าอากาศ
และไม่รอให้ก่านหรูเยี่ยนโต้แย้งอะไร ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองถามผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ของลัทธิบูชาไฟทันที “ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 เองก็ไม่มีอะไรขัดข้องสินะ?”
“ใช่!”
“ไม่มี!!”
…
สื่อเฟิง หงอวิ๋น และเหลิ่งอิง แม้ในแววตาทั้ง 3 จะฉายแววซับซ้อนแต่ก็เร่งพยักหน้ารับคำต้วนหลิงเทียนออกมาทันที กระทั่งเหลิ่งอิงที่เคยอคติที่สุด แต่หลังจากที่ได้เห็นพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน มันก็แลดูว่านอนสอนง่ายไม่ต่างใดจากลูกแมวเหมียวแสนเชื่อง…
สำหรับชิงหั่วนั้น เป็นธรรมดาที่ไม่มีอะไรขัดข้อง
เดิมทีมันก็เป็นอาจารย์ของก่านหรูเยี่ยนอยู่แล้ว ที่สำคัญยังเห็นก่านหรูเยี่ยนไม่ต่างอะไรจากลูกสาวแท้ๆ ต่อให้ไม่มีคำขู่ของต้วนหลิงเทียน มันก็ยินดีช่วยสนับสนุนก่านหรูเยี่ยนอย่างเต็มกำลัง
‘เยี่ยนเอ๋อ…เจ้านับว่ามีน้องสาวอันประเสริฐนัก’
ชิงหั่วไม่ใช่คนเขลา มันย่อมรู้เป็นธรรมดาว่าไฉนบุญถึงหล่นทับก่านหรูเยี่ยนแบบนี้ได้ ทั้งหมดเพราะต้วนหลิงเทียนเห็นแก่หน้าภรรยา จึงพยายามส่งเสริมพี่สาวฝาแฝดของภรรยาให้ได้ดี…พอคิดถึงตรงนี้ชิงหั่วก็ได้แต่ลอบทอดถอนในใจเบาๆ แต่แน่นอนว่ามันย่อมมีความสุขกับก่านหรูเยี่ยนจากใจ
เพราะมันรู้ดี
ในเมื่อต้วนหลิงเทียนพูดออกมาแล้ว คำไหนก็ต้องเป็นคำนั้นแน่นอน
ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะพึ่งประกาศถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟก็ตามที…
เพราะต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยววข้องอะไรกับลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป แต่อาศัยพลังฝีมือส่วนตัวกับพลังอันน่ากลัวของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ข้างกาย อยากจะยึดครองลัทธิบูชาไฟตอนไหนก็ได้!
ในโลกนี้ต้องเป็นผู้เข้มแข็งจึงจะได้รับการเคารพ แต่หมัดใครใหญ่กว่าคือคำพูดสุดท้าย!
“ข้า…”
ในขณะที่ก่านหรูเยี่ยนอ้าปากคิดกล่าวอะไรบางอย่าง ต้วนหลิงเทียนก็พูดแทรกขัดคำนางออกมาก่อน “ตำแหน่งจ้าวลัทธิบูชาไฟเจ้าก็เพียงรับเอาไว้ก่อน…หลังจากนี้หากเจ้าไม่อยากเป็นจริงๆ เจ้าก็แค่ส่งมอบมันให้คนที่เหมาะสมเท่านั้น”
“นอกจากนี้ในลัทธิบูชาไฟก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ที่จะคอยสนับสนุนเจ้า…ข้าจะให้ข้ารับใช้ทั้ง 2ของก่านหรูเยี่ยนคอยดูแลคุ้มครองและช่วยเหลือเจ้าอีกแรง”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงตรงนี้ก็หันไปมองเฉินอี้หรู ค่อยเอ่ยถามออกมาเสียงเบา “ซานเตา ข้าให้คนของเจ้าทั้ง 2 มาคอยติดตามดูแลพี่สาวฝาแฝดของภรรยาแบบนี้…เจ้าขัดข้องอะไรหรือไม่?”
“นายท่านล้อซานเตาเล่นแล้ว ไหนเลยซานเตาจะมีใดขัดข้องได้”
เฉินอี้หรูเร่งส่ายหัวไปมาเร็วรี่ ก่อนที่จะหันไปมองชายวัยกลางคนทั้ง 2 ด้านหลัง เอ่ยออกเสียงเข้ม “พวกเจ้าทั้ง 2 กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเสีย…ว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจักยึดถือแม่นางหรูเยี่ยนเป็นเจ้านาย!”
เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกฐานะก่านหรูเยี่ยนว่าเป็นพี่สาวฝาแฝดภรรยาออกมา เฉินอี้หรูจึงตระหนักได้ทันทีว่าก่อนหน้าเป็นมันเข้าใจผิดไป อีกฝ่ายไม่ใช่ ‘นายหญิง’ อันเป็นสตรีของนายท่าน มันจึงเปลี่ยนคำเรียกหาก่านหรูเยี่ยนให้เหมาะสม
“ขอรับนายท่าน!”
ต่อหน้าคำสั่งของเฉินอี้หรู ไม่ว่าจะเป็นชายวัยกลางคนร่างกำยำบึกบึน หรือชายวัยกลางคนผอมสูงปานลำไผ่ย่อมไม่กล้าละเลย เร่งรับคำและกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเรื่องยอมรับก่านหรูเยี่ยนเป็นเจ้านายทันที
“แม่นางหรูเยี่ยน”
ตอนนี้เองเฉินอี้หรูก็หันไปมองก่านหรูเยี่ยนด้วยรอยยิ้มพลางกล่าวเสียงสุภาพ “ข้ารับใช้ทั้ง 2 ของข้าหนึ่งในนั้นแม่นางเคยเห็นมันลงมือแล้ว…พลังฝึกปรือของมันคือเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนและห่างจากการบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนอีกแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น อีกมิกี่ปีย่อมสามารถทะลวงผ่าน! ส่วนอีกคนนั้นเป็นเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนอยู่แล้ว”
คำของเฉินอี้หรูย่อมเป็นการแนะนำพลังฝีมือของชายวัยกลางคนทั้ง 2 ให้ก่านหรูเยี่ยนรับทราบ สุดท้ายยังกล่าวออกมาอีกว่า “ด้วยพลังฝีมือของพวกมันน่าจะพอช่วยเหลือแม่นางก่านหรูเยี่ยนได้บ้าง…”
เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน?
เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน?
วาจาที่เฉินอี้หรูกล่าวออกมาอย่างไร้เรื่องราวนั้น มันดังประหนึ่งฟ้าร้องในหูของคนลัทธิบูชาไฟที่อยู่ ณ ที่นี้ทุกคน+ ทั้งหมดยังอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปพักใหญ่!!
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนกับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนกลายเป็นข้ารับใช้ที่หยิบยื่นให้กันง่ายๆ? นี่พวกมันไร้ค่าขนาดนั้นเชียวหรือ?
ต้องทราบด้วยว่ากระทั่งผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างสื่อเฟิง พลังฝึกปรือยังมีแค่เซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนเท่านั้น…
ส่วนตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนนั้น หลังจากที่จ้าวลัทธิอย่างถังซวนตกตายไป ในลัทธิบูชาไฟก็ไม่เหลือตัวตนระดับนี้อีกแล้ว…
ทว่าตอนนี้ก่านหรูเยี่ยนที่อยู่ๆก็กลายมาเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่อย่างที่ไม่มีใครทันตั้งตัว กลับได้ข้ารับใช้ที่มีพลังฝึกปรือเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยนกับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนมาอยู่ในปกครอง!ทั้งคู่ไม่ว่าใครก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้พิทักษ์สื่อเฟิงเลย!!
“ที่ผ่านมาไฉนข้าไม่เคยได้ยินเรื่องราวของคนทั้ง 2นั่นเลย…ดูเหมือนว่าทั้งคู่จักมิเคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนมาก่อน!”
คนของลัทธิบูชาไฟหลายคนได้แต่กล่าวกระซิบคุยกัน ขณะมองไปยังชายวัยกลางคนทั้ง 2 ด้านหลังเฉินอี้หรู
ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน กับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนนั้น ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนก็แล้วไป แต่ถ้าหากเปิดตัวออกมาแน่นอนว่าย่อมมีชื่อติดอันดับต้นๆในรายนามยอดเซียนทันที!
“ก่อนหน้าตัวตนที่ร้ายกาจที่สุด 4 อันดับแรกในรายนามยอดเซียน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั้งสิ้น…ไม่มีเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนคนที่ 5 ด้วยซ้ำ”
“วันนี้ข้ารู้สึกเสมือนรายนามยอดเซียนมันไม่ได้เรื่องอย่างไรไม่รู้ แถมไม่มีความน่าเชื่อถือเอาซะเลย…ไม่นับเป็นอะไรหากไม่รวมตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพลไว้ในนั้นเพราะในแดนดินผู้ที่รู้เรื่องนี้สมควรมีน้อยคน แต่นี่กระทั่งเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนกับ 9 เปลี่ยนบางคนยังไม่ปรากฏชื่อในรายนาม…”
“นั่นสิตอนนี้ยอดฝีมือมากมายกำลังยืนอยู่ต่อหน้าเราแท้ๆ กระทั่งเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน กับ 9 เปลี่ยนอย่างทั้งสองยังมิมีผู้ใดรู้จัก เช่นนั้นไม่รู้ยังมียอดฝีมือระดับนี้ที่เร้นกายอยู่อีกมากมายเท่าไหร่…”
“รายนามยอดเซียน…มันก็เท่านั้น”
…
ในขณะที่เหล่าสมาชิกของลัทธิบูชาไฟกำลังสนทนากันถึงเรื่องนี้ พวกมันก็ตัดสินใจกันแล้วว่าต่อไปจะไม่อุดหนุนรายนามยอดเซียนอีก เพราะพวกมันรู้สึกว่ารายนามยอดเซียนนั้นไม่อาจบอกอะไรได้เลย!
แต่พวกมันก็ไม่เคยลองคิดอีกมุม
หากยอดฝีมือคิดเร้นกายอย่างฤๅษี คนทำรายนามยอดเซียนจะมีปัญญาหาพบหรือไม่?
ในเมื่อผู้จัดทำรายนามยอดเซียนไม่อาจหาข่าวคราวตัวตนเหล่านั้นได้เพราะอีกฝ่ายไม่เคยปรากฏตัวลงมือทำอะไร แล้วพวกมันจะจัดอันดับพลังฝีมือได้อย่างไร?
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน”
ตอนนี้เองผู้พิทักษ์ชิงหั่วก็ถูกผู้พิทักษ์อีก 3 คนรวมหัวกันผลักไสออกมาให้เป็นคนกล่าวถามต้วนหลิงเทียน “เมื่อครู่ท่านบอกว่าท่านเป็นผู้สืบทอด หมอกพิรุณ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 ของ 7 ทวาราเที่ยงแท้…นั่น…ล้อกันเล่นใช่หรือไม่?”
คำถามนี้ไม่ใช่คำถามในใจของผู้พิทักษ์อีก 3 คนเท่านั้น ยังเป็นคำถามในใจของมันอีกด้วย
อย่างไรก็ตามผู้พิทักษ์อีก 3 คนย่อมไม่สะดวกกล่าวถามต้วนหลิงเทียนด้วยตัวเอง จึงได้แต่โยนหม้อก้นดำใบนี้มาให้ชิงหั่วแบก เพราะอย่างไรชิงหั่วก็มีฐานะเป็นอาจารย์ของพี่สาวฝาแฝดภรรยาต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ละเลยคำถามของชิงหั่วแน่!
ขวับ! ขวับ! ขวับ!
…
พอคำถามนี้ดังออกจากปากชิงหั่ว ทุกสายตาของคนลัทธิบูชาไฟที่ลอยล่องบนฟ้าก็หันขัวบไปจับจ้องต้วนหลิงเทียนทันที
เพราะพวกมันเองก็สงสัยในเรื่องนี้กันอยู่ไม่น้อย
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียนสมควรกล่าวล้อเล่นใช่หรือไม่?หากเป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณจริง ย่อมหมายความว่าเป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้…ด้วยความเคียดแค้นชิงชังระหว่าง 7 ทวาราเที่ยงแท้กับลัทธิบูชาไฟ หากผู้พิทักษ์หลิงเทียนเป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริง ย่อมคิดทำลายล้างลัทธิบูชาไฟเราให้สิ้นซากแน่…”
“ข้าเองก็คิดว่าผู้พิทักษ์หลิงเทียนสมควรล้อเล่นมากกว่า…เพราะยังแต่งตั้งแม่นางก่านหรูเยี่ยนให้เป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่อยู่เลย นั่นหมายความว่าในใจย่อมไม่คิดทำลายล้างลัทธิบูชาไฟเรา แล้วไหนเลยจะเป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ไปได้?”
“ใช่…หากเป็นคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริง อาศัยพลังฝีมือร้ายกาจนั่นกับพลังอันน่ากลัวของอาวุโสเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ด้านหลัง ย่อมเป็นเรื่องง่ายที่จะลบลัทธิบูชาไฟเราให้หายไปจากแดนดิน…”
……
ฟังจากเสียงกระซิบคุยกันของเหล่าศิษย์อาวุโสของลัทธิบูชาไฟแล้ว เห็นชัดว่าพวกมันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะเป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริงๆ!
“ล้อเล่นหรือ?”
ได้ยินคำถามของชิงหั่ว ต้วนหลิงเทียนได้แต่ส่ายหัวไปมาเบาๆ ค่อยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้า ต้วนหลิงเทียน คือผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 ผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้”
“สำหรับเรื่องที่ไฉนข้าถึงละเว้นลัทธิบูชาไฟนั้น ข้าย่อมมีเหตุผลส่วนตัวของข้า…”
“อีกทั้งวาจาก่อนหน้านี้ของข้าก็ยังมีผล…ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าต้วนหลิงเทียนได้ถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟ และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับลัทธิบูชาไฟอีก!”
วาจาไม่กี่คำของต้วนหลิงเทียนไม่เพียงยืนยันฐานะผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ แต่ยังประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน!
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาไม่ถือว่าเป็นคนของลัทธิบูชาไฟอีกแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับลัทธิบูชาไฟอีก!
สิ้นคำประกกาศของต้วนหลิงเทียน หลายคนอดตกใจไม่ได้!
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน…เป็นคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้จริงๆหรือ?”
“ไม่ใช่แค่คนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ในเมื่อสืบทอดนามหมอกพิรุณ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 ของ 7ทวาราเที่ยงแท้มา ย่อมหมายความว่าเป็นผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกด้วย!”
“หากข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป…ข้าเกรงว่าทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าต้องถึงการสะท้านครั้งใหญ่อีกแล้วใช่หรือไม่?”
…
ในขณะที่เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟได้แต่สูดลมหายใจเข้าด้วยความตื่นตระหนก พวกมันก็พากันจินตนาการถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ว่าทันทีที่เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปล่ะก็ ผู้คนทั้งภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าคงต้องแตกตื่นกันยกใหญ่แน่!