ตอนที่ 1015 เคารพ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1015 เคารพ

เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูเซียวหรงเหยี่ยนรีบหยิบหมอนอิงไปสอดไว้ทางด้านหลังไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มปลดสายจิ้นเสียนกวานออก วางจิ้นเสียนกวานลงบนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นคุกเข่าลงถอดรองเท้าให้ไป๋ชิงเหยียน ขยับเท้าของหญิงสาวไปวางไว้ปลายเตียง จากนั้นยกขาของหญิงสาวขึ้นมาวางบนตักของตัวเองเพื่อนวดผ่อนคลายให้ “เป็นเช่นไรบ้าง ดีขึ้นบ้างหรือไม่”

เซียวหรงเหยี่ยนจำได้ว่าตอนพี่สะใภ้ของเขาตั้งครรภ์ พี่ชายของเขาไม่เคยปล่อยให้พี่สะใภ้ยืนนานๆ เลยสักครั้ง หากยืนนานเท้าจะบวม พี่ชายจะนวดเท้าผ่อนคลายให้พี่สะใภ้ทุกคืน

ไป๋ชิงเหยียนกำหมอนอิงแน่น ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย

ฝ่ามือร้อนของเซียวหรงเหยี่ยนที่สัมผัสลงบนขาของไป๋ชิงเหยียนผ่านถุงเท้าคู่บางจนไป๋ชิงเหยียนอยากชักเท้ากลับ ใจของหญิงสาวเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ

บางทีอาจเป็นเพราะพวกนางยังไม่ได้เป็นสามีภรรยาที่อยู่กันจนแก่เฒ่า เมื่อทั้งสองทำเรื่องที่ใกล้ชิดกันเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนจึงรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก

ไป๋ชิงเหยียนทำตัวไม่ถูกที่เซียวหรงเหยี่ยนนวดฝ่าเท้าให้เช่นนี้ หญิงสาวรีบชักเท้ากลับ แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ท่านไม่ต้องนวดแล้ว ข้าจั๊กจี้…”

เมื่อเห็นฝ่าเท้าของไป๋ชิงเหยียนไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ เซียวหรงเหยี่ยนจึงวางใจ ชายหนุ่มมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่วันนี้กลายเป็นภรรยาของเขาจริงๆ แล้วนิ่ง จากนั้นกล่าวเสียงเบา “แม้ข้าแต่งในนามของเซียวหรงเหยี่ยน ทว่า ข้าดีใจมากที่พวกเราได้แต่งงานกันแล้ว อาเป่า…ต่อไปเจ้าคือภรรยาของข้าแล้วนะ”

แสงไฟสีแดงนวลกระทบลงใบหน้าด้านข้างของไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนเล็กน้อย สองมือค้ำยันอยู่ข้างกายหญิงสาว ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หวังจะจุมพิตหญิงสาว

ไป๋ชิงเหยียนมองสบตาเซียวหรงเหยี่ยน เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใจของไป๋ชิงเหยียนจึงเต้นแรงขึ้นเช่นเดียวกัน

เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเขินอายของไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนจึงควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เขาประทับจุมพิตลงบนหน้าผากของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา จากนั้นมองดูปฏิกิริยาตอบสนองของไป๋ชิงเหยียนนิ่ง สายตาของชายหนุ่มหยุดอยู่ที่มุมปากของหญิงสาว ริมฝีปากร้อนประทับลงบนมุมปากของหญิงสาว

เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกนิด เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันดังขึ้น ใบหูของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำ

“ฝ่าบาท…”

เซียวหรงเหยี่ยนยังไม่ทันจูบอย่างลึกซึ้ง เสียงของฉินหมัวมัวก็ดังขึ้นที่นอกตำหนักเสียก่อน ไป๋ชิงเหยียนรีบผลักร่างของเซียวหรงเหยี่ยนออกด้วยความตกใจ

“ฉินหมัวมัวเข้ามาได้!”

ไป๋ชิงเหยียนไม่มีเวลาสนใจเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวสวมรองเท้าพลางนั่งนิ่งอยู่บนเตียงราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ทว่า ใบหูของนางแดงก่ำ

เซียวหรงเหยี่ยนนั่งอยู่ด้านข้างอย่างเรียบร้อยเช่นเดียวกัน

ฉินหมัวมัวเดินถือน้ำแกงผ่อนคลายเข้ามาให้เซียวหรงเหยี่ยน นางเดินผ่านผ้าม่านสีแดงผืนบางหลายชั้นเข้าไปด้านใน จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยน เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายของทั้งสองคนยังเรียบร้อยดีจึงกล่าวยิ้มๆ “ฮูหยินให้บ่าวนำน้ำแกงมาให้นายท่านเขยเจ้าค่ะ”

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนได้ยินว่าต่งซื่อส่งมาให้จึงรีบลุกไปหยิบถ้วยน้ำแกงหยกบนถาดอาหารสีเหลี่ยมที่ฉินหมัวมัวถืออยู่ ชายหนุ่มเงยหน้าดื่มจนหมดถ้วย จากนั้นก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อโค้งกายคำนับฉินหมัวมัว “ฝากหมัวมัวขอบคุณมารดาแทนข้าด้วย”

เมื่อฉินหมัวมัวเห็นเซียวหรงเหยี่ยนดื่มโดยไม่ลังเลจึงพอใจมาก นางพยักหน้าพลางกล่าวเสียงเบา “บัดนี้คุณหนูใหญ่กำลังตั้งครรภ์ สามเดือนแรกต้องระวังให้มาก ฮูหยินเป็นห่วงว่าคุณหนูใหญ่และนายท่านเขยไม่มีประสบการณ์จึงไม่รู้จักขอบเขต ฮูหยินจึงให้บ่าวมาเตือนนายท่านเขยว่าให้คุณหนูใหญ่พักผ่อนให้มากเจ้าค่ะ ร่างกายของนายท่านเขยไม่แข็งแรงควรพักผ่อนให้มากเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งเข้าใจว่ามารดากังวลว่าพวกนางจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้จึงให้ฉินหมัวมัวนำยานอนหลับมาให้เซียวหรงเหยี่ยน ให้เซียวหรงเหยี่ยนรีบพักผ่อน

เมื่อเข้าใจจุดประสงค์ของท่านแม่ ใบหูของไป๋ชิงเหยียนแดงขึ้นกว่าเดิม

บัดนี้นางกลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือในสายตาของท่านแม่แล้ว

“มารดากล่าวถูกต้องแล้วขอรับ! เหยี่ยนจะคำนึงถึงความปลอดภัยของอาเป่าและเด็กในครรภ์เป็นหลัก หมัวมัวบอกให้มารดาสบายใจได้ขอรับ”

ฉินหมัวมัวพยักหน้า จากนั้นทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยน “เช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อนเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ นายท่านเขยรีบพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “หมัวมัวบอกให้ท่านแม่รีบพักผ่อนด้วย”

“เจ้าค่ะ!” เมื่อฉินหมัวมัวเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจ นางจึงรับคำอย่างดีใจ จากนั้นเดินออกจากตำหนักไป

เซียวหรงเหยี่ยนหันกลับไปมองใบหน้างดงามและสงบนิ่งของไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนเตียง แววตามีร้อยยิ้มขึ้นเช่นเดียวกัน

คืนนั้นเซียวหรงเหยี่ยนนอนหลับไปพร้อมคนรักในอ้อมกอดเป็นครั้งแรก แม้พวกเขาจะไม่ได้เข้าหอเป็นสามีภรรยากัน ทว่า ชายหนุ่มมีความสุขมากกว่าวันใดๆ ตั้งแต่มารดาของเขาจากโลกนี้ไป เขาไม่เคยหลับฝันหวานเช่นนี้มาก่อนเลย…

ไป๋ชิงเหยียนนอนหลับฝันดีเช่นเดียวกับเซียวหรงเหยี่ยน

วันต่อมา จักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่ขยันหมั่นเพียรมาโดยตลอดไม่ได้ออกว่าราชการตอนเช้า บรรดาขุนนางต่างรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาหวังให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวมีทายาทสืบทอดบัลลังก์โดยเร็วที่สุด

ทายาทของราชวงศ์คือเรื่องสำคัญของแคว้น สตรีตั้งครรภ์พร้อมกับความเสี่ยง จักรพรรดินีแห่งต้าโจวมีบุตรยาก บรรดาขุนนางจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร พวกเขาอยากให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวแต่งงานวันนี้ พรุ่งนี้มีทายาทเลยเสียด้วยซ้ำ

จักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่ออกว่าราชการสองวันติด ทุกคนต่างรับรู้ความรักที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวและพระภัสดามีให้กัน ทว่า สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ…พระภัสดาซึ่งฐานะต่ำต้อยผู้นี้จะจากโลกไปในวันที่ยี่สิบหก เดือนเดียวกัน หลังจากแต่งงานกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวได้เพียงสิบวันเท่านั้น ทุกคนในแคว้นต้าโจวแสดงความอาลัยกับการจากไปของชายหนุ่ม

จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเศร้าโศกมาก หญิงสาวเกือบหมดสติไปหลายครั้ง ไทเฮาเป็นห่วงอาการของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจึงสั่งให้หมอหงเข้าวังมาคอยดูแลจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างใกล้ชิด

‘บันทึกโจว’ บันทึกไว้ว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแต่งตั้งเซียวหรงเหยี่ยนที่ป่วยหนักเป็นพระภัสดา ทว่า ไม่อาจฝืนชะตาได้ พระภัสดาเซียวหรงเหยี่ยนจากโลกนี้ไปในวันที่ยี่สิบหก เดือนแปด รัชศกหยวนเหอปีที่หนึ่ง

เซียวหรงเหยี่ยนต้องเดินทางกลับต้าเยี่ยนพร้อมคณะทูตของต้าเยี่ยน แม้ในใจจะอาวรณ์ไม่อยากจากไป๋ชิงเหยียนและลูกไป ทว่า เขาจำเป็นต้องจากไป

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนจากไป อ๋องหน้ากากผีจึงเข้าวังมาทูลลาจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเช่นเดียวกัน

เมื่อไป๋ชิงเหยียนไล่นางกำนัลออกไปจากตำหนักจนหมด ไป๋ชิงอวี๋มองไปที่ท้องของไป๋ชิงเหยียนอย่างอดไม่ได้ เขาพยายามควบคุมสายตาของตัวเอง จากนั้นเอ่ยถามเสียงเบา “พี่หญิงรักมู่หรงเหยี่ยนผู้นี้จริงๆ หรือขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางอาอวี๋นิ่ง นางรู้ดีว่าหากนางตอบว่าใช่ อาอวี๋จะออมมือให้มู่หรงเหยี่ยนเพราะไม่อยากให้นางเสียใจแน่นอน

“ความรักของพี่กับมู่หรงเหยี่ยนคือเรื่องส่วนตัว เราจะเอาเรื่องส่วนตัวไปปนกับเรื่องส่วนรวมไม่ได้ เขาคือคนรักของพี่ ขณะเดียวกันก็เป็นคู่แข่งของต้าโจวเช่นเดียวกัน” ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนมีรอยยิ้มน้อยๆ “พวกเราคือทหาร พวกเราล้วนรู้ว่าหากเจอคู่แข่งที่น่ายกย่อง การทำอย่างเต็มที่คือการให้ความเคารพอีกฝ่ายที่ดีที่สุด”

เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ ไป๋ชิงอวี๋จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยพี่หญิงก็ไม่ได้เสียสติเพราะความรัก เขาพยักหน้า จากนั้นกล่าวเรื่องสำคัญ “อาอวี๋เข้าใจแล้วขอรับ! พี่หญิงไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ หลี่จือเจี๋ยมาขอพบข้าหลายครั้งเพื่อทำสัญญาผูกมิตรต่อต้านต้าโจวและต้าเยี่ยนที่แข็งแกร่งกว่าแล้ว ข้ารับปากหลี่จือเจี๋ยว่าจะเข้าวังมาทูลลาฝ่าบาท กลับไปปรึกษาเรื่องนี้กับอ๋องแห่งหรงตี๋ที่หรงตี๋ จากนั้นค่อยส่งทูตไปยังซีเหลียงขอรับ”

“เช่นนี้หากผลสรุปที่พี่หญิงส่งพี่ชายสามไปเจรจาที่ซีเหลียงยังไม่ส่งกลับมาเมืองหลวง หากยังไม่ได้ทำสัญญากับหรงตี๋อย่างชัดเจน หลี่จือเจี๋ยคงไม่มีทางไปจากต้าโจวแน่ขอรับ”

***************