ตอนที่ 1017 ขอแสดงความเสียใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1017 ขอแสดงความเสียใจ

ไป๋จิ่นถงมองดูไป๋ชิงเหยียนด้วยดวงตาที่แดงฉานนิ่ง “ข้าได้ยินชาวบ้านแคว้นเทียนเฟิ่งเล่าให้ฟังว่าเคยมีกองทัพสองหมื่นนายบุกไปโจมตีแคว้นเทียนเฟิ่ง แค่กองทัพช้างออกโรงก็สามารถถล่มกองทัพเหล่านั้นจนราบเป็นหน้ากองแล้วเจ้าค่ะ ดังนั้นห้าสิบปีมานี้จึงไม่มีผู้ใดกล้าไปวุ่นวายกับแคว้นเทียนเฟิ่งเจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นถงรีบร้อนเดินทางกลับมาเมืองหลวงเพราะเรื่องนี้ หญิงสาวกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา “แม้ข้าจะคิดว่าแคว้นเทียนเฟิ่งไม่ใช่แคว้นที่ชอบทำสงคราม พวกเขาอาจไม่ช่วยเหลือซีเหลียงทำสงคราม ทว่า หากซีเหลียงให้ผลประโยชน์ที่มากเพียงพอ ผู้นำแคว้นของเทียนเฟิ่งอาจยอมตกลงเจ้าค่ะ ทว่า ข้าคิดทบทวนดูแล้วก็ยังนึกไม่ออกว่าซีเหลียงจะเสนอผลประโยชน์ใดให้เทียนเฟิ่งได้ เทียนเฟิ่งได้เปรียบเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง หากซีเหลียงไม่ให้ผลประโยชน์ที่น่าดึงดูดใจมากเพียงพอ เทียนเฟิ่งย่อมไม่มีทางเสียแรงช่วยเหลือซีเหลียงแน่เจ้าค่ะ”

“ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้พวกเราก็ต้องป้องกันไว้ก่อนอยู่ดี พี่ชายสามจะอยู่ที่หนานเจียงต่อเพื่อเตรียมรับมือกับเรื่องนี้เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นถงกล่าว

ไป๋ชิงเหยียนเคยเห็นสัตว์ใหญ่อย่างช้างมาก่อน รูปร่างของมันใหญ่โต หากช้างเข้าร่วมกองทัพจริงๆ หากมันมีปริมาณที่มากเพียงพอ อำนาจทำลายล้างของมันต้องมหาศาลจนพวกนางคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน

“กองทัพช้างของแคว้นเทียนเฟิ่งมีจำนวนเท่าใด เจ้ารู้จำนวนที่แน่ชัดหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถาม

ไป๋จิ่นถงส่ายหน้า “ข้าไม่ทราบแน่ชัดเจ้าค่ะ ทว่า เฉินชิ่งเซิงและเซียวรั่วไห่เดินทางไปสืบเรื่องกองทัพช้างของเทียนเฟิ่ง อีกทั้งสืบว่าเทียนเฟิ่งจะร่วมมือกับซีเหลียงหรือไม่ตามคำสั่งของพี่ชายสามแล้วเจ้าค่ะ”

“พี่ชายสามของเจ้ามอบตราประทับให้เซียวรั่วไห่และเฉินชิ่งเซิงไปด้วยหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ

ไป๋จิ่นถงพยักหน้ารัว “พี่ชายสามมอบตราประทับที่พี่หญิงใหญ่มอบให้เขาให้เฉินชิ่งเซิงและเซียวรั่วไห่ไปแล้วเจ้าค่ะ พี่ชายสามกล่าวว่าหากจำเป็นจริงๆ พวกเราสามารถเสนอการแลกเปลี่ยนทางการค้า ทำสัญญาทางการค้ากับเทียนเฟิ่งได้เจ้าค่ะ หากเราแสดงความเป็นมิตรกับเทียนเฟิ่ง ไม่ว่าอย่างไรเทียนเฟิ่งก็ต้องทบทวนให้ดีเจ้าค่ะ”

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นถงเอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา “แม้ข่าวจะไม่น่าฟังนัก แม้เราจะไม่รู้จำนวนกองทัพช้างที่แน่นอน ทว่า แคว้นเทียนเฟิ่งเต็มไปด้วยครูฝึกช้าง ถึงแม้จะรวบรวมเพียงช้างใหญ่ที่ชาวบ้านใช้เป็นพาหนะบรรทุกของประจำวัน จำนวนของมันก็มากเพียงพอที่จะสร้างกองทัพใหญ่ได้แล้วเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนขยับกายนั่งตัวตรง หญิงสาวลูบนิ้วมืออย่างใช้ความคิด ไม่นานจึงกล่าวขึ้น “พี่จำได้ว่าเจ้าบอกพี่ในจดหมายว่าเจ้าเดินทางทางทะเลจึงพบกับแคว้นเทียนเฟิ่งโดยบังเอิญ เจ้าเดินทางไปยังทิศใดกัน”

ไป๋จิ่นถงใช้น้ำชาวาดเส้นทางลงบนโต๊ะทับภาพภูเขาหิมะเดิมที่วาดไว้ จากนั้นวาดภาพอดีตแคว้นต้าเหลียงและแคว้นบนเกาะที่อยู่ห่างออกไปจากแคว้นต้าเหลียง ไป๋จิ่นถงชี้ไปที่แคว้นบนเกาะนั้น “ข้าบรรทุกของออกเดินทางจากแคว้นนี้ จากนั้นล่องตามน้ำไปเรื่อยๆ จนพบที่ตรงนี้เจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นถงชี้ไปยังสถานที่ที่อยู่ด้านหลังภูเขาหิมะที่นางวาดไว้อย่างคร่าวๆ “ต่อมาหลังจากข้าส่งคนไปสำรวจ ข้าจึงรู้ว่าสถานที่แห่งนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่หลังภูเขาหิมะที่ซีเหลียงและหรงตี๋เคยกล่าวไว้ เมื่อคำนวณดูจากระยะทางแล้วพบว่าข้าเข้าใกล้เขตชายแดนของซีเหลียงและหรงตี๋แล้ว พวกข้าจึงล่องเรือผ่านถ้ำตามน้ำไป ข้าแล่นผ่านทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ จากนั้นจึงพบกับแคว้นเทียนเฟิ่งเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนก้มมองแผนที่ที่ไป๋จิ่นถงวาดขึ้นด้วยน้ำชา “แสดงว่าแคว้นเทียนเฟิ่งอยู่ใกล้แคว้นซีเหลียงมากที่สุด”

“น่าจะใช่เจ้าค่ะ ทว่า ข้าบอกได้เพียงตำแหน่งคร่าวๆ หากต้องการรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดคงต้องให้หรู่ซยงเซียวรั่วไห่ของพี่หญิงใหญ่ไปสำรวจพื้นที่ก่อน เขาจึงจะสามารถวาดแผนที่ระบุตำแหน่งที่แน่ชัดได้เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นถงกล่าว

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“อีกเรื่องคือสถานการณ์ในซีเหลียง…”

ไป๋จิ่นถงเล่าความวุ่นวายของตระกูลทั้งแปดในซีเหลียงและวิธีการจัดการกับตระกูลทั้งแปดขั้นเด็ดขาดของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงให้ไป๋ชิงเหยียนฟัง ไป๋จิ่นถงยังเล่าเรื่องที่เซียวรั่วไห่พาคนไปเผาเสบียงอาหารของตระกูลทั้งแปดแห่งซีเหลียงจนเกลี้ยง เรื่องซีเหลียงขาดแคลนเสบียงอาหารและแผนการของไป๋ชิงฉีให้ไป๋ชิงเหยียนฟังด้วย

ทว่า หากซีเหลียงหันไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นเทียนเฟิ่งแทนแคว้นต้าเยี่ยน ไม่รู้ว่าแผนการที่ไป๋ชิงฉีวางไว้จะสำเร็จหรือไม่

“ได้ พี่รับรู้แล้ว” ไป๋ชิงเหยียนเห็นท่าทีอ่อนล้าของไป๋จิ่นถงจึงรู้สึกสงสารมาก หญิงสาวดันถ้วยน้ำชาของตัวเองที่ไม่ได้แตะต้องไปตรงหน้าไป๋จิ่นถง “ทานของว่างสักนิดเถิด ไปพบท่านอาสะใภ้สาม จากนั้นพักผ่อนให้เพียงพอ พอเจ้าตื่นขึ้นมาเราค่อยมาปรึกษากันต่อ…”

เมื่อไป๋จิ่นถงที่อ่อนล้าเต็มทนเล่าเรื่องสำคัญให้ไป๋ชิงเหยียนฟังจบ หญิงสาวก็แทบฝืนร่างกายไม่ไหวแล้วจริงๆ นางลุกขึ้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ได้ยินเว่ยจงกล่าวว่าพี่หญิงใหญ่กำลังปรึกษาเรื่องในราชสำนักอยู่กับบรรดาหลู่ไท่เว่ย พี่หญิงใหญ่ไปทำงานต่อเถิดเจ้าค่ะ เมื่อพี่หญิงใหญ่มีเวลาข้าค่อยมาสนทนากับพี่หญิงใหญ่ต่อ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“พี่หญิงใหญ่เจ้าคะ พวกเราพบแม่ทัพกวนแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นถงเกือบลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

“กวนจางหนิง แม่ทัพกวนอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนกำขอบโต๊ะแน่น จากนั้นเอ่ยถาม “แม่ทัพกวนข้างกายของท่านอาห้าอย่างนั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นถงพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าเขียนจดหมายมารายงานพี่หญิงใหญ่ว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกำลังสร้างกองทัพเลียนแบบทหารค่ายหู่อิงของกองทัพไป๋ กองทัพนี้มีนามว่ากองทัพหั่วอวิ๋น แม่ทัพกวนเป็นคนฝึกฝนพวกเขาด้วยตัวเองเจ้าค่ะ แม่ทัพกวนได้รับบาดเจ็บจนความจำเสื่อมในสงครามหนานเจียง เขาถูกอวิ๋นพั่วสิงหลอกว่าคือคนตระกูลอวิ๋น ดังนั้นหลายปีที่ผ่านมาเขาจึงอาศัยอยู่ในซีเหลียงเจ้าค่ะ”

“นอกจากความจำเสื่อมแล้ว เขาได้รับบาดเจ็บตรงที่ใดอีกหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามอย่างเป็นห่วง

ไป๋จิ่นถงส่ายหน้า “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บาดแผลของแม่ทัพกวนหายดีแล้วเจ้าค่ะ ร่างกายไม่มีบาดแผลสาหัสอันใด เขาสบายดี พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ทว่า เมื่อแม่ทัพกวนกลับมา เขาเอาแต่คิดอยากกลับไปยังซีเหลียง พาทหารค่ายหั่วอวิ๋นกลับมาเจ้าค่ะ…”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ขอแค่คนไม่เป็นอันใดก็พอแล้ว”

ตอนนี้ไป๋จิ่นถงจึงมีเวลาสำรวจเครื่องแต่งกายของไป๋ชิงเหยียนอย่างจริงจัง หญิงสาวโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับพี่หญิงใหญ่ที่ทำให้ฝันเป็นจริงได้แล้วเลยเจ้าค่ะ”

แม้ไป๋จิ่นถงจะไม่ได้กลับมาร่วมงานพิธีราชาภิเษกของไป๋ชิงเหยียน ทว่า ใจของไป๋จิ่นถงอยู่กับตระกูลไป๋ตลอดเวลา

ตั้งแต่ตอนที่พี่หญิงใหญ่บอกกับนางว่าพี่หญิงใหญ่จะหาทางรอดให้ตระกูลไป๋ นางก็รู้ได้ทันทีว่าพี่หญิงใหญ่จะกบฏ ทว่า นางไม่คิดเลยว่าพี่หญิงใหญ่จะโค่นล้มราชวงศ์หลินและขึ้นเป็นจักรพรรดินีได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้

ไป๋จิ่นถงเป็นคนฉลาดและมีความคิดลึกซึ้ง ไป๋ชิงเหยียนเลือกที่จะบอกแผนการของตัวเองกับไป๋จิ่นถงเป็นคนแรกเพราะรู้ว่าไป๋จิ่นถงจะเข้าใจตน ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “รีบไปเถิด หากท่านอาสะใภ้สามเห็นเจ้าต้องดีใจมากแน่!”

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นถงเอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง จากนั้นกล่าวเสียงเบา “ข้าเสียใจเรื่องพี่เขยเซียวหรงเหยี่ยนด้วยนะเจ้าคะ”

ไป๋จิ่นถงได้ข่าวเรื่องที่พี่หญิงใหญ่แต่งงานกับเซียวหรงเหยี่ยนเพราะชายหนุ่มป่วยหนักขณะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวง จากนั้นได้ยินว่าเซียวหรงเหยี่ยนจากโลกนี้ไปแล้ว ไป๋จิ่นถงกลัวว่าพี่หญิงใหญ่จะเก็บเรื่องทุกอย่างไว้ในใจไม่ระบายออกมา นานวันเข้าจะกลายเป็นโรคทางใจได้

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นถงยิ้มๆ “เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง…”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

มองดูแผ่นหลังของไป๋จิ่นถงเดินจากไป ไป๋ชิงเหยียนหันไปกล่าวกับชุนเถา “ให้คนเตรียมน้ำให้จิ่นถงอาบ เตรียมน้ำแกงไก่ให้นางด้วย เมื่อจิ่นถงอาบน้ำเสร็จ ให้นางทานรองท้องสักหน่อยค่อยนอนพักผ่อน”

“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” ชุนเถาทำความเคารพแล้วเดินจากไปอย่างรีบร้อน

***********************