ตอนที่ 2,375 : ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!

เมื่อหลี่ปิงมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง คราวนี้ในแววตาของมันหาได้หลงเหลือความถือดีหยิ่งผยองอันใด กระทั่งความเย้ยหยันดูแคลนก่อนหน้าล้วนอันตรธานหายไปหมดสิ้น!

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้คือผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้ กระทั่งยังเป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ! และไม่มีใครไม่ทราบว่าผู้ครองนามหมอกพิรุณรุ่นก่อนก็คือ เซียนกระบี่ฟงชิงหยาง!

บางทีต้วนหลิงเทียนอาจไม่ร้ายกาจทัดเทียมตัวตนในตำนานอย่างเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง ที่เข่นฆ่าสังหารเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้ด้วยพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะ…

แต่ทว่ากระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกเมื่อครู่ อานุภาพของมันทัดเทียมได้กับการลงมือเต็มกำลังของเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ไม่ผิดแน่! สิ่งนี้มองออกได้ไม่ยากจากรอยแยกมิติที่เปิดกว้างออกมาอย่างน่ากลัวเบื้องหน้า!!

ถึงแม้รอยแยกมิติชวนสยองเบื้องหน้าใครมองก็รู้ได้ว่าพวกมันกำลังคืนสภาพและสมานตัว แต่ทว่าจากที่เห็นก็สมควรต้องใช้เวลาราวๆ 1 เค่อจึงจะฟื้นฟูสู่สภาพปกติ!

‘ครึ่งก้าวเซียนอมตะ…กลับลงมือได้ทรงพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์…’

ลูกตาของหลี่ปิงหดเล็กลง ใจยังเต้นระรัวสั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัวราวกับจะระเบิด…

“เจ้าโชคดี…ที่กระบี่เมื่อครู่ไม่ได้ฆ่าเจ้า”

ขณะที่หลี่ปิงกำลังเสียขวัญ ต้วนหลิงเทียนก็เหลือบมองหลี่ปิงด้วยสายตาไร้แยแส กล่าวออกเสียงเรียบ

แต่ต้นจนจบสีหน้าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบปลอดโปร่งไม่แปรเปลี่ยน สายตาที่ใช้มองหลี่ปิงก็เฉยเมยถึงที่สุด

ราวกับเทพเจ้าที่ไม่แยแสมนุษย์ปุถุชน!

“แต่คราวนี้…เจ้าไม่โชคดีเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว”

เมื่อครู่นั้นกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนยิงออกไป เขาเพียงจี้ยิงออกไปส่งๆ ไม่ได้เล็งอะไรแม้แต่น้อย เรียกว่าไม่ได้ใช้สำนึกเทวะเพ่งเล็งหลี่ปิงและกำหนดเป้าหมาย…

หาไม่แล้วหลี่ปิงคงได้ตกตายภายใต้กระบี่เมื่อครู่แต่แรก!

ฟั่ฟฟฟ!

คล้ายจะยืนยันว่าคำพูดของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่แค่วาจาผายลม กระบี่พลังมีสภาพที่พุ่งยิงออกไปจนสะบั้นแขนขวาหลี่ปิงจนขาดด้วนเสมอไหล่เมื่อครู่ ก็ได้ตีวงโค้งแหวกฟ้ากลับมาสู่มือต้วนหลิงเทียน!

กระบี่พลังมีสภาพสีขาวยาว 3 ฉื่อเล่มนี้ เป็นต้วนหลิงเทียนควบรวมสร้างขึ้นจากพลังเซียนต้นกำเนิดที่ผสานไว้ด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิด แม้หลังจากยิงพุ่งเปล่งพลังทำลายล้างฝ่ามือพลังทั้งตัดแขนหลี่ปิงไปก่อนหน้าจะทำให้มันสูญพลังจนแลดูอ่อนจางลงไปบ้าง แต่กลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมาทั่วกระบี่ยังคงความคมกล้าหาใดเปรียบ!!

อย่างไรก็ตามเมื่อมันอยู่ในมือต้วนหลิงเทียนแบบนี้ เพียงต้วนหลิงเทียนจ่ายพลังหนุนเสริมลงไป มันก็กลับมาสมบูรณ์พร้อม เปี่ยมล้นไปด้วยพลังอันน่ากลัวดังเดิม!!

“ตะ…ต้วนหลิงเทียน…จะ…เจ้าฆ่าข้าไม่ได้! เจ้าไม่อาจฆ่าข้าได้!!”

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนคอนกระบี่มองจ้องมาด้วยสายตาเฉยเมย หลี่ปิงก็ตระหนักได้ถึงวิกฤตครั้งใหญ่ สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนกลับกลายใหญ่หลวง!

ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!

……

เมื่อเสียงอันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวดังล่วงล้ำออกจากลำคอหลี่ปิงเข้าหูทุกผู้คนโดยรอบ ทั้งหมดที่อึ้งไปพักหนึ่งพอดึงสติกลับมาเข้าตัวได้แล้วก็อดสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บไม่ได้! เสียงสูดอากาศที่ว่ายังดังขึ้นระงมปานกบร้องงึมงำ…!!

และพอพวกมันมองไปยังต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างคอนกระบี่กลางหาวอีกครั้ง แววตาก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัวออกมาถึงขีดสุด!

ต้วนหลิงเทียนเพียงลงมือส่งๆ แต่ไม่ใช่แค่สามารถทำลายพลังฝ่ามือหลี่ปิงได้ง่ายดาย ยังสะบั้นแขนขวาจนขาดด้วน…

นอกจากนั้นฟังจากสิ่งที่หลี่ปิงกล่าวออกเมื่อครู่

พลังทำลายของกระบี่ต้วนหลิงเทียนก่อนหน้านี้ กลับมีพลังอานุภาพเทียบได้กับการลงมือของเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์!

“นะ…นี่ล้อกันเล่นหรือ ต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะมิใช่หรือไร…ไฉนการลงมือถึงได้รุนแรงทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ได้เล่า!?”

“ระ…เรื่องแบบนี้ ไม่เหนือสามัญสำนึกไปหน่อยหรือไร!?”

“ความแข็งแกร่งของครึ่งก้าวเซียนอมตะมิใช่ว่าสมควรทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 2 ทัณฑ์หรือไร…กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ยังเป็นตัวตนที่ร้ายกาจกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะไปแล้ว…แล้วนี่ต้องใช้ตรรกะใดอธิบายกัน!?”

“ใช่…เรื่องแบบนี้ยังจะให้ผู้คนเชื่อได้ลงคออย่างไร!”

……

เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟพากันตื่นตระหนกตกใจครั้งใหญ่ แต่พวกมันก็ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำใดมาอธิบายเรื่องราวตอนนี้ได้จริงๆ!

ไฉนต้วนหลิงเทียนที่เป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะ กลับลงมือได้ทรงพลังทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์?

กระทั่งด้านผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ของลัทธิบูชาไฟเอง แม้ทั้งหมดจะได้รับทราบเรื่องนี้จากวาจาที่ก่านหรูเยี่ยนกล่าวบอกชิงหั่วอยู่ก่อนแล้วว่าต้วนหลิงเทียนเหนือกว่าหลี่ปิงมาก…

ทว่าการได้ยินกับการได้เห็นด้วยสองตา มันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

“อาศัยด่านพลังครึ่งก้าวเซียนอมตะ…กลับลงมือได้ทรงพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์?”

พวกมันเองก็กำลังงงงวยกับเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรเหมือนคนอื่นๆ

“พี่ใหญ่ต้วน…”

ห่างออกไปไกลๆ เฟิ่งเทียนหวู่ที่ลอยร่างอยู่ข้างๆเค่อเอ๋อยามมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง หน้างดงามอดไม่ได้ที่จะเผยสีสันอันน่าทึ่ง ในแววตายังฉายชัดถึงความเหลือเชื่อออกมา

‘พี่ใหญ่ยังมิได้เข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่ที่ท่านบรรพชนฟงชิงหยางเหลือทิ้งไว้ให้ด้วยซ้ำ…แต่ไฉนกลับสามารถลงมือได้ทรงพลังทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ทั้งๆที่มีพลังฝึกปรือแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเล่า?’

ในฐานะผู้สืบทอดหงส์ฟ้าจรัสแสง อันเป็นทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 ของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ เฟิ่งเทียนหวู่ย่อมรู้เป็นธรรมดา

ว่าในยุคก่อน ตอนที่ผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณอย่างเซียนกระบี่ฟงชิงหยางปรากฏตัวขึ้นนั้น เป็นตัวตนครึ่งก้าวเซียนอมตะที่พลังฝีมือร้ายกาจถึงขั้นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่ามังกรลงได้!

หากพี่ใหญ่ต้วนของนางได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ของฟงชิงหยางแล้ว นางจะไม่แปลกใจเลยหากต้วนหลิงเทียนจะมีพลังร้ายกาจเหนือสามัญสำนึกเหมือนกับฟงชิงหยาง!

แต่ปัญหาก็คือ…

พี่ใหญ่ต้วนของนาง ยังไม่ได้เข้าไปยังแดนลับเซียนกระบี่นั่น!!

‘หรือพี่ใหญ่ต้วนจะเคยเข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่มาแล้ว?’

‘ไม่สิ! กุญแจเปิดแดนลับเซียนกระบี่ที่มีเพียงดอกเดียวยังอยู่ในมือของผู้เฒ่าพยากรณ์…’

‘แถมท่านผู้เฒ่าพยากรณ์ยังเคยบอกไว้ว่า มีเพียงพี่ใหญ้ต้วนเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ก่อนเท่านั้น ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้คนอื่นๆจึงจะสามารถเข้าสู่แดนลับนั้นเพื่อแสวงหาโชควาสนาและโอกาสของตัวเองได้เช่นกัน…’

‘ถ้าหากพี่ต้วนเข้าแดนลับเซียนกระบี่แล้วจริงๆ ไฉนท่านผู้เฒ่าพยากรณ์ถึงไม่เรียกให้พวกเรากลับไปรวมตัวเพื่อเข้าไปด้านในเพื่อแสวงโชคด้วย?’

คิดถึงจุดนี้เฟิ่งเทียนหวู่ก็สามารถสรุปเรื่องราวได้ทันที

‘นั่นหมายความได้ประการเดียวเท่านั้น พี่ใหญ่ต้วนยังมิได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่…’

‘อีกทั้งท่านผู้เฒ่าพยากรณ์เคยกล่าวไว้ว่า…ก่อนที่จะเข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่ ต่อให้พี่ใหญ่ต้วนจะบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว กระทั่งสามารถฝึกฝนบ่มเพาะเคล็ดบำเบ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุดอย่างยอดใจกระบี่อันเป็นมรดกเบื้องต้นของอาวุโสฟงชิงหยางจนบรรลุถึงขอบเขตสุดท้าย…แต่พลังฝีมือของพี่ใหญ่ต้วนอย่างดีที่สุดก็สมควรเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เท่านั้น มีเพียงได้รับสืบทอดมรดกส่วนหลักในแดนลับเซียนกระบี่แล้วเท่านั้น ถึงจักร้ายกาจเท่าอาวุโสฟงชิงหยาง!’

‘ทว่าตอนนี้ทั้งๆที่ยังมิได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่อันมีมรดกส่วนหลักที่อาวุโสเซียนกระบี่เหลือทิ้งไว้ให้แท้ๆ แต่ไฉนพี่ใหญ่ต้วนถึงมีพลังอำนาจทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์แล้วเล่า? เท่ากับว่าสิ่งที่ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวไว้กลายเป็นผิดถนัด!’

‘หรือว่า…พี่ใหญ่ต้วนได้ไปพบพานโชควาสนาโดยบังเอิญจากการเดินทางที่ผ่านมาเข้า จึงทำให้พลังฝีมือร้ายกาจขึ้นจนอยู่เหนือการคำนวณของผู้เฒ่าพยากรณ์?’

เมื่อคิดไตร่ตรองมาถึงตอนนี้ เฟิ่งเทียนหวู่ก็ได้แต่สรุปไปแบบนั้น

ยังดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่อาจล่วงรู้ความคิดในหัวของเฟิ่งเทียนหวู่ หาไม่แล้วเขาคงได้ตกใจครั้งใหญ่แน่!

ที่แท้เคล็ดบำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุดอย่าง ‘ยอดใจกระบี่’ ที่เขาได้รับมานั้น เป็นเพียงมรดกเบื้องต้นที่ผู้อาวุโสเซียนกระบี่ฟงชิงหยางเหลือไว้ให้เขาเท่านั้น!!

ทว่ามรดกส่วนหลักที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางเหลือไว้ให้เขานั้น ที่แท้กลับอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า ‘แดนลับเซียนกระบี่’ นั่น!

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อใดก็ตามที่ได้เข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่ที่ว่าแล้ว หลังกลับออกมา…เขาอาจจะกลายเป็นมีพลังอำนาจสูงล้ำทัดเทียมกับเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง! ที่สามารถเด็ดหัวเซียนอมตะเสเพล 8ทัณฑ์ได้ทั้งๆที่เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ!!

“ไม่อาจฆ่าเจ้าได้งั้นเหรอ?”

ได้ยินคำของหลี่ปิงต้วนหลิงเทียนรู้สึกขบขันนัก รอยยิ้มยิ้มแดกดันเย้ยหยันพลันคลี่กางขึ้นมาบนหน้าทันที

“ทำไมข้าถึงไม่อาจฆ่าเจ้าได้เล่า? เพราะเจ้าเป็นอดีตผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟงั้นหรอ? มีลำดับอาวุโสเป็นบรรพบุรุษเช่นนั้นเหรอ?”

“แต่เจ้าอย่าได้ลืมไปเล่า…ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่คนในลัทธิบูชาไฟของเจ้าแล้ว เช่นนั้นฐานะบรรพบุรุษอะไรของเจ้า ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดสำหรับข้าเลย”

ยิ่งมาวาจาถากถางของต้วนหลิงเทียนยิ่งจี้ใจหลี่ปิงจนทีท่าของมันย่ำแย่หนักข้อ

“ข้าเป็นคนของเผ่ามังกร…เหล่ายอดฝีมือที่อยู่เบื้องหลังข้าในเผ่ามังกรเป็นอะไรที่เจ้ามิอาจล่วงเกินได้!!”

ขณะกล่าวถึงเผ่ามังกร อาการของหลี่ปิงเสมือนคนกำลังคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย…

“เผ่ามังกร?”

ได้ยินคำพูดของหลี่ปิง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมาอีกครั้ง “ฮ่าๆๆ! ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าบรรพบุรุษของลัทธิบูชาไฟ ตัวตนที่น่านับถือสำหรับคนในลัทธิบูชาไฟเช่นเจ้า…จะกล้าพูดได้ไม่อายปากว่าตัวเองเป็นคนของเผ่ามังกรเพราะกลัวตาย! เจ้าทรยศลัทธิบูชาไฟไปเข้าร่วมกับเผ่ามังกรแล้วแท้ๆ แต่ยังกล้ามีหน้ามาอวดอ้างอำนาจในลัทธิบูชาไฟอีกหรือ?”

ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ!

……

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาประโยคนี้ออกมา ทุกผู้คนในที่นี้ล้วนหันขวับไปจับจ้องร่างหลี่ปิงเป็นสายตาเดียวกัน

แววตาที่ทุกคนมองจ้องไป ฉายชัดถึงความสบสันงุนงงระคนตกใจทั้งไม่อยากจะเชื่อ!

พวกมันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย…

ว่าคนที่พวกมันเรียกหาด้วยเคารพนับถือว่าเป็นบรรพบุรุษของลัทธิบูชาไฟ เมื่ออยู่ต่อหน้าความตายกลับประกาศออกมาได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นคนของ ‘เผ่ามังกร’!

มิใช่ว่าอีกฝ่ายเป็นบรรพบุรุษลัทธิบูชาไฟของพวกมันหรอกหรือไร?

ไฉนอยู่ๆกลายไปเป็นคนของเผ่ามังกรได้เล่า?

“ต้วนหลิงเทียน!!”

เมื่อสัมผัสได้ทุกสายตาที่มองจ้องมาของทุกคน สีหน้าหลี่ปิงยิ่งมายิ่งกลับกลายเป็นอัปลักษณ์ปั้นยาก “เจ้าในฐานะผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้สมควรรู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องราวนี้ดีอยู่แล้ว…ไฉนต้องมาแกล้งโง่ตอนนี้ด้วย!?”

“แกล้งโง่รึ?”

ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มบางๆ “ขอโทษที…แต่ข้าไม่รู้จริงๆว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร เช่นนั้นมิสู้เจ้าช่วยอธิบายให้เหล่าศิษย์สาวกของลัทธิบูชาไฟเจ้าฟังหน่อยเล่า? ว่าไฉนเจ้าถึงได้กล่าวออกมาว่าตัวเองเป็นคนของเผ่ามังกรได้ไม่อายปาก…”

“แล้วก็เรื่องที่ไฉนเจ้าถึงได้ยก ‘ผู้ที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลังเจ้าในเผ่ามังกร’ เพื่อเอามาข่มขู่ข้าหมายเอาตัวรอดด้วย…ใจคอเจ้าไม่คิดจะไขความสงสัยให้เหล่าศิษย์สาวกที่เรียกหาเจ้าด้วยความเคารพนับถือว่าท่านบรรพบุรุษเลยหรือไร?”

บัดนี้หลี่ปิงโมโหจนแทบกระอักเลือดตายเพราะคำพูดของต้วนหลิงเทียนแล้ว!

หากกมันพูดได้ ไหนเลยมันจะไม่พูด!!

ต้องทราบด้วยว่าหากมันกล่าวเรื่องนี้ออกมา เท่ากับมันได้เปิดเผยความลับของเผ่ามังกรที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดและคอยชักใย 3 ลัทธิอยู่ในเงามืดออกมา!!

ทว่าเผ่ามังกรได้ตรากฏที่เป็นดั่งประกาศิตฟ้ามิอาจขัดขืนไว้แล้ว ว่าหากผู้ใดก็ตามใน 3 ลัทธิใหญ่หาญกล้าเปิดเผยเรื่องราวออกไป พวกมันจะต้องถูกทัณฑ์ทรมาณ ‘กลั่นเกลาวิญญาณ’ เป็นเวลาเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดวันถึงจะถูกประหาร!!

เช่นนั้นต่อให้มีความกล้ามากกว่านี้อีก 100 เท่า แต่มันก็ไม่กล้าพูดออกมา!

“เนื่องจากเจ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เช่นนั้นก็ให้ข้าส่งเจ้าไปตามทางเถอะ…”

เมื่อเห็นหลี่ปิงหน้าเสียเงียบไปไร้คำใดจะกล่าวอยู่นานสองนาน สองตาต้วนหลิงเทียนก็ทอประกายเยียบเย็น สำนึกเทวะแผ่พุ่งออกไปเล็งกักยังร่างหลี่ปิงทันที ยังผนึกกักไว้อย่างยากจะหลีกหนี!

“ไม่!!!”

แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ถูกสำนึกเทวะต้วนหลิงเทียนเพ่งเล็งสะกดกัก สีหน้าหลี่ปิงเปลี่ยนไปใหญ่หลวง สองตายังเบิกกว้างแทบถลน!

เพราะมันรู้ดีว่าการถูกสำนึกเทวะต้วนหลิงเทียนเพ่งเล็งหมายความว่าอะไร…!!

ฟั่ฟฟฟฟ!!

เสียงกระบี่หอนกรีดอากาศแว่วดังขึ้นสั้นๆอีกครา ในสายตาของทุกคน เห็นเพียงประกายแสงหนึ่งวาบขึ้นกลางฟ้าผ่านร่างหลี่ปิงไปในชั่วพริบตา!

ครู่ต่อมาร่าของหลี่ปิงก็แน่นิ่งไปไม่ไหวติง…ราวสติดับวูบ!

แต่ต้นจนจบผู้ที่เป็นดั่งบรรพบุรุษของลัทธิบูชาไฟ ไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนองใดๆด้วยซ้ำยังจะนับประสาอะไรกับการต่อต้าน!!

ท่านบรรพบุรุษ…สิ้นแล้วหรือ?”

“นิ…นี่…”

……

เหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟ ไม่เว้นผู้พิทักษ์ทั้ง 4 และรองจ้าวลัทธิได้แต่ตกตะลึง!

‘สังหารเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้ง่ายดายราวกับหายใจ…ต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ทั่วไปก็มิใช่ว่าจะทรงพลังมากพอกระทำแบบนี้หรือไร?’

เฟิ่งเทียนหวู่ได้แต่คิดในใจด้วยความตื่นตระหนก

ต้วนหลิงเทียนผู้สืบทอดนาม ‘หมอกพิรุณ’ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 ผู้เป็นดั่งผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ได้สังหารอดีตผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟเมื่อ 4,000กว่าปีก่อน ‘หลี่ปิง’ ผู้ที่มีพลังขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ลง ณ น่านฟ้าเหนือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟ…

ทันทีที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกมาไม่เพียงแต่คนของลัทธิบูชาไฟจะตื่นตระหนกครั้งใหญ่ กระทั่งทั่วทั้งเขตตะวันตกจำต้องสะท้าน! ยังสะเทือนไปทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!!