บทที่ 1039 ได้รับใบสั่งซื้อชุดใหญ่

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1039 ได้รับใบสั่งซื้อชุดใหญ่

บทที่ 1039 ได้รับใบสั่งซื้อชุดใหญ่

“อ้อ! เสี่ยวเถียน หนูว่าพี่สามกับเสี่ยวเฉ่าเหมาะกันไหม?” ซูเหล่าต้าถามในมุมมองที่ต่างออกไป

นอกจากเรื่องพี่น้องแล้ว มีเหตุผลอื่นไหมที่จะอยู่ด้วยกันได้?

ด้วยเรื่องนิสัยดูไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า

ซูเสี่ยวเฉ่าเป็นเด็กดี เรียกได้ว่าตนเฝ้าดูมาแต่เด็กเลย

แต่เมื่อเทียบกับลูกหลานที่บ้านเหมือนว่าจะไร้ตัวตนไปหน่อย

แบบนี้ความสมดุลจะเอนเอียงไปหน่อยหรือเปล่า?

ตนอยู่มาครึ่งค่อนชีวิตย่อมเข้าใจว่าสามีภรรยาต้องเท่าเทียมกัน หากฝ่ายหนึ่งแข็งแกร่ง อีกฝ่ายอ่อนแอจะเกิดความไม่สมดุลขึ้นได้

“หนูว่าเหมาะสมนะคะ พวกเขาชอบกัน เข้าใจกัน แล้วถ้ายินดีร่วมทุกข์สุขด้วยกัน ก็ไม่น่ามีปัญหานะ!”

“ถึงพี่สามจะดูไม่ค่อยแข็งแกร่ง แต่เรื่องงานเขากระตือรือร้นเกินร้อยค่ะ แม้ว่าแต่งงานไปอาจจะไม่ได้ดูแลครอบครัวมากนัก แต่พี่เสี่ยวเฉ่าเป็นคนอ่อนโยน เขาจะต้องเข้าใจพี่สามดีที่สุดค่ะ”

ไม่อย่างนั้นคงทะเลาะไปแล้ว

ซูเหล่าต้ารู้สึกว่ามีเหตุผล

ทางฝั่งซูฉางจิ่วและภรรยาต่างก็ตัดสินใจไว้แล้วว่าพอเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์และขนเข้ายุ้งฉางเสร็จจะรีบบึ่งมาเมืองหลวงทันที

ถ้าไม่ได้มีเรื่องลูกสาว ซานกงก็คงไม่อยากมาหรอก

เวลาและเงินไม่สามารถสูญเสียไปเปล่า ๆ ได้

แต่ตอนนี้เด็กทั้งสองชื่นชอบกัน นี่แหละคือปัญหา

ถ้าไม่มาคงไม่ได้แก้ไขมันเสียที

ฝั่งซูเหล่าต้าและภรรยาเข้าเมืองมาเรื่องลูกชายนก็บังเอิญเจออีกคู่หนึ่งที่หน้าบ้าน

“ผู้ใหญ่บ้าน มาได้ยังไงกันครับ? เพราะไอ้ซานกงมันใช่ไหม? ผมมาสั่งสอนมันนี่แหละ ขอโทษพวกคุณด้วยนะ!”

เขาเอ่ยขอโทษ ล้อกันเล่นแล้ว เรื่องนี้ลูกชายบ้านเรามีส่วนเอี่ยวนะ ไม่ว่ายังไงปัญหาก็มาจากมันส่วนใหญ่เลย

“สมกับที่เราเป็นพี่น้องจริง ๆ ถึงจะดูไร้เหตุผลไปหน่อยที่พูดแบบนี้ แต่เด็ก ๆ โตกันแล้ว ไม่รู้เลยว่ามีความคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

ซูฉางจิ่วมองอีกฝ่ายด้วยความละอายใจ

“ยังไงก็เป็นความผิดของไอ้เด็กเหลือขอซานกงอยู่ดี!”

ซูเหล่าต้ารู้สึกดีขึ้นเยอะที่ซูฉางจิ่วไม่ได้ตำหนิตน เลยถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หวังเซียงฮวาคว้าแขนจูหลานฮวาภรรยาซูฉางจิ่วเอาไว้ “เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ เรื่องเด็ก ๆ ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จา เจ้าเด็กเหลือขอบ้านฉันมันทำตัวไม่มีขอบเขตขึ้นทุกวันเลย”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ซานกงเป็นเด็กที่ใช้ได้ แล้วเราก็รู้ดีด้วยว่าต่อให้การพูดคุยประสบผลสำเร็จเขาจะไม่ดูแลเสี่ยวเฉ่าแบบแย่ ๆ หรอก”

ฝ่ายคนฟังตกใจ

ทำไมผู้ใหญ่บ้านกับภรรยาดูยอมรับมากกว่าเราเสียอีกล่ะ?

“พี่สะใภ้ไม่กลัวจะโดนคนอื่นว่าลับหลังหรือคะ?” ด้วยความที่เป็นคนไม่คิดเยอะจึงถามไปตรง ๆ

จูหลานฮวายิ้มขมขื่น

กลัวสิ!

จะไม่กลัวได้ยังไงกัน?

เรายังคงใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นต่อ

ไม่รู้ว่าชาวบ้านจะพูดยังไง คิดยังไง

เด็กมันชอบกัน ทำไมต้องแยกมันออกเพราะความคิดเล็กคิดน้อยด้วย?

เราทำแบบนั้นไม่ได้

เราเลี้ยงเสี่ยวเฉ่ามาเองกับมือ จะทำลายชีวิตเธอเพื่อรักษาหน้าตาตัวเองก็ไม่ได้หรือเปล่า?

ยามทั้งสี่เข้าไปในบ้าน คุณปู่คุณย่าตกใจมาก

สี่คนนี้มารวมตัวกันได้ยังไง?

“ทำไมพวกเธอถึงมาด้วยกันเล่า?”

“เจอกันที่หน้าบ้านน่ะครับพ่อ!” ซูเหล่าต้า

ซูฉางจิ่วและภรรยารีบทักทายผู้อาวุโส

หลังจากถามไถ่กันเล็กน้อย พวกเขาก็ตรงเข้าประเด็นทันที

หลัก ๆ คือเรื่องของซานกงกับเสี่ยวเฉ่า

“เรามาด้วยเรื่องเด็กทั้งสองคนครับ อายุพวกเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วละ” ซูฉางจิ่วเอ่ยตรง ๆ

ซูเหล่าต้าตกใจมาก

มาถึงขั้นตัดสินใจแล้วหรือ?

ซูฉางจิ่วเปิดใจตั้งแต่เมื่อไร?

“พี่ฉางจิ่วคิดดีแล้วหรือครับ?”

ซูเหล่าต้ารีบร้อนจนลืมเรียกยศผู้ใหญ่บ้านไปเสียเลย เขาใช้คำว่าพี่ฉางจิ่วเหมือนตอนที่เคยเรียกสมัยเด็ก ๆ

“คิดดีแล้ว เราเองอายุก็ตั้งมาก ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็ก ๆ มันเล่า? อีกอย่างเสี่ยวเฉ่าก็ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของฉันอยู่แล้ว”

ประโยคเดียวทำให้สองสามีภรรยาอีกคู่ตกใจอยู่นาน

เสี่ยวเฉ่าจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขาได้ยังไง?

หวังเซียงฮวามองด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ

คนแม่เกิดภาวะคลอดยากจึงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในเมือง ตอนกลับมาถึงเจ้าทารกหน้าตาน่าเกลียดน่าชังยังดูดเต้านมเธอเป็นลูกแมวอยู่เลย…

เดี๋ยวก่อนนะ เด็กคนนั้นไม่ได้เกิดที่หมู่บ้านแต่แรกนี่ หรือจะถูกสับเปลี่ยนตั้งแต่แรก?

“เรื่องราวมันเป็นมายังไงครับ?” ซูเหล่าต้าถาม

แต่พ่อแม่ตนกลับสงบมาก นิ่งราวกับหิน

หรือพวกเขารู้มาตั้งนานแล้ว

จากนั้นเขาก็นึกถึงพิธีรับเป็นแม่บุญธรรมของเสี่ยวเฉ่าเมื่อนานมาแล้ว ฉับพลันที่รู้สึกเข้าใจอะไรขึ้นมา แต่ยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่ดี

“เสี่ยวเฉ่าเป็นลูกสาวอาจารย์เซี่ยหนานน่ะ เรื่องนี้พูดแล้วก็ยาว ไม่ต้องเอ่ยถึงแล้วกัน เอาเป็นว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นหากเด็กสองคนจะแต่งงานกัน” ซูฉางจิ่วสรุปให้

ทางฝั่งเสี่ยวเถียนกำลังคิดหนัก แต่เธอไม่รู้เลยว่าที่บ้านเตรียมงานแต่งไว้ให้ซูซานกงและซูเสี่ยวเฉ่าแล้ว

เธอยังคงทำงานหนักใช้เวลาทุกเมื่อเชื่อวันที่สำนักงานและห้องปฏิบัติการ

ฝ่ายจ้าวหงเหมยเป็นคนพลังล้นเหลือ ใช้เวลาแค่สิบวันก็สามารถทำใบสั่งซื้อได้เป็นกอง

ผลลัพธ์ดีเกินคาด ดีกว่าซุนเสี่ยวอวี๋เสียอีก

ความคิดในการเปิดตลาดใหม่ประสบความสำเร็จมาก

เธอในตอนนี้มีแรงจูงใจมหาศาล

พอตัดสินใจว่าจะใช้โอกาสนี้เดินทางต่อเพื่อสำรวจตลาดในเมืองถัดไป

หลังจากเสี่ยวเถียนได้รับข่าว จึงจัดประชุมกับพวกเหลยเกาเชาทันที

มีการขยายตัวของตลาดนั่นหมายความว่าเราจะต้องเพิ่มปริมาณการผลิต ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถจัดหาสินค้าได้ทันท่วงที

ไม่ได้การแล้ว

เหลยเกาเชาได้ยินว่าจ้าวหงเหมยได้รับใบสั่งซื้อเป็นกองถึงกับสูญเสียความเยือกเย็นไป

“ท่านผู้บริหารครับ จากปริมาณการสั่งซื้อเกรงว่ากำลังผลิตของเราในตอนนี้ไม่เพียงพอนะครับ!”

จากนั้นก็ได้ยินเสียงอันดังของเสี่ยวเถียน

“หงเหมยได้ขยายตลาดต่อแล้ว ผู้อำนวยการเหลยคะ เรื่องหลังจากนี้ต้องฝากคุณดูแลแล้วค่ะ”

อะไรนะ?

เหลยเกาเชาคิดว่าตัวเองคงประสาทหลอนไปแล้วแน่ ๆ ด้วยจำนวนใบสั่งซื้อที่เราได้รับในตอนนี้ทำให้เกิดอุปสงค์ส่วนเกิน แล้วจะเดินหน้าต่อทำไมล่ะ?

ถ้าได้รับเพิ่มอีก กำลังผลิตจะไม่พอมาก ๆ เลยนะ!