ตอนที่ 1048 ตกเป็นของต้าโจว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1048 ตกเป็นของต้าโจว

ปกติการช่วยเหลือแคว้นอื่นมักทำเท่าที่แคว้นตัวเองทำได้เท่านั้น ไม่มีแคว้นใดทุ่มเทกำลังทั้งแคว้นเช่นนี้หรอก

โชคดีที่ระหว่างเดินทางกลับมาเมืองหลวง เซียวรั่วไห่เห็นคุณหนูใหญ่เคลื่อนย้ายกำลังทหารไปยังหนานเจียงเพื่อเตรียมพร้อมแล้ว ชายหนุ่มจึงโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

“ข้าได้รับคำสั่งจากคุณหนูใหญ่ให้เดินทางไปยังหนานเจียงและลอบเข้าไปในแคว้นซีเหลียง ชาวบ้านซีเหลียงเห็นคนแคว้นเทียนเฟิ่งเป็นดั่งแขกคนสำคัญของแคว้น ทว่า ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองชักศึกเข้าบ้าน ทว่า เชิญเทพมาง่าย ส่งเทพกลับยาก บัดนี้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงไม่สามารถขับไล่แคว้นเทียนเฟิ่งออกไปจากซีเหลียงได้ ทว่า ไม่กล้าบอกความจริงให้ชาวบ้านรับรู้ ตอนนี้นางกำลังตกที่นั่งลำบากเจ้าค่ะ” เสิ่นชิงจู๋รายงานขึ้นบ้าง

ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้เสิ่นชิงจู๋ไปสืบอีกเรื่อง ทว่า บัดนี้ทุกคนอยู่ที่นี่กันหมด เสิ่นชิงจู๋จึงยังไม่กล้ารายงาน

“คุณหนูใหญ่ บัดนี้แคว้นเทียนเฟิ่งเดินทางเข้าไปในซีเหลียงแล้ว พวกเขาสำรวจบริเวณชายแดนต้าโจวอยู่หลายครั้ง ทว่า ไม่ได้รุกล้ำเข้ามา ดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงของต้าโจวจึงยังไม่กล้าลงมือ ข้าคิดว่าไม่นานเขาต้องลงมือกับหรงตี๋หรือต้าเยี่ยนกอ่นเพื่อลองเชิงแน่ขอรับ” เซียวรั่วไห่กล่าว

“อาฉีรู้ข่าวที่พวกเจ้าสืบมาได้ทั้งหมดหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

“พวกเรารายงานคุณชายสามก่ทราบอนเดินทางกลับมาแล้วขอรับ…” เซียวรั่วไห่พยักหน้า

เสียงเว่ยจงดังขึ้นที่นอกตำหนัก “ฝ่าบาท ไทเฮาส่งคนมาเชิญฝ่าบาทไปเสวยอาหารเช้าพ่ะย่ะค่ะ!”

วันนี้คือวันเกิดของไป๋ชิงเหยียน เดิมทีกรมพิธีการอยากจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับบอกว่าให้นำเงินไปสนับสนุนกองทัพแทน นางรับประทารอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวนวันเกิดก็พอแล้ว

ดังนั้นปีนี้ต่งซื่อจึงเป็นคนรับผิดชอบเรื่องงานวันเกิดของไป๋ชิงเหยียน

“หรู่ซยง ชิงจู๋และชิ่งเซิงเพิ่งกลับมา พวกเจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด! อีกสักครู่ค่อยไปที่ตำหนักของไทเฮา วันนี้คืองานเลี้ยงในครอบครัว ล้วนเป็นคนกันเอง พวกเรามาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันสักมื้อ…” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางชุนเถา “ชิ่งเซิงกลับมาครั้งนี้ ข้าจะถือโอกาสจัดงานแต่งงานให้เจ้าและชุนเถาด้วยเลย!”

ใบหน้าของชุนเถาแดงก่ำขึ้นมาทันที หญิงสาวได้แต่คุกเข่านิ่งอยู่ด้านข้าง ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น

เฉินชิ่งเซิ่งรีบก้าวไปด้านหน้าพลางโค้งกายคำนับขอบคุณไป๋ชิงเหยียน “ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่มากขอรับ!”

เป็นดั่งที่เซียวรั่วไห่กล่าวว บัดนี้กองทัพช้างซึ่งสวมเกราะเหล็กหนาแน่นของแคว้นเทียนเฟิ่งเดินทางอ้อมชายแดนของต้าโจวและซีเหลียง อ้อมหุบเขาชวนมุ่งหน้าไปยังเขตชายแดนระหว่างหรงตี๋และซีเหลียง

เมื่อต่งฉางหลานที่ตั้งค่ายทหารอยู่แถวเขตชายแดนของหรงตี๋ ต้าโจวและซีเหลียงมาโดยตลอดรับรู้ข่าวจึงรีบให้คนส่งข่าวกลับไปยังเติงโจว

ตอนที่ต่งฉางหลานได้รับข่าว หลูผิงเพิ่งเดินทางไปถึงเติงโจวเช่นเดียวกัน หลูผิงพาคนขี่ม้าเร่งเดินทางโดยไม่หยุดพักไปยังเติงโจว เดิมทีเขากำลังจะเปลี่ยนม้าและเสื้อผ้าเพื่อเดินทางไปยังหรงตี๋ต่อ นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้รับข่าวว่ากองทัพช้างของเทียนเฟิ่งบุกประชิดชายแดนของหรงตี๋แล้ว

ที่คุณหนูใหญ่ฝากให้เขามาบอกคุณชายห้าว่าถึงเวลากลับบ้านแล้วเป็นเพราะคุณหนูใหญ่อยากให้หรงตี๋รวมแคว้นกับต้าโจวเพื่อข่มขวัญซีเหลียง เทียนเฟิ่งจะได้ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ

หรงตี๋คือสนามม้าที่สำคัญที่สุดของต้าโจว ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดมารุกรานทิ้งสิ้น!

หากสูญเสียหรงตี๋ไปจริงๆ ต้าโจวจะถูกศัตรูล้อมทั้งสองด้าน ดังนั้นต้าโจวจะสูญเสียหรงตี๋ไปไม่ได้เด็ดขาด

หลูผิงกล่าวกับผู้ตรวจการเมืองเติงโจวต่งชิงเยว่อย่างไม่ปิดบัง “ไม่ปิดบังท่านผู้ตรวจการ ครั้งนี้ข้าได้รับคำสั่งจากคุณหนูใหญ่ให้เดินทางไปบอกคุณชายห้าซึ่งอยู่ในหรงตี๋กลับบ้านขอรับ”

ต่งชิงเยว่ได้ยินคำกล่าวนี้จึงกำหมัดแน่นทันที ต่งชิงเยว่เคยอยู่ในกองทัพมาก่อน เขาเข้าใจจุดประสงค์ของไป๋ชิงเหยียนดี

ต่งชิงเยว่กล่าวอย่างไม่รอช้า “ข้าจะให้คนไปส่งเจ้า เจ้ารีบออกเดินทางนำข่าวนี้ไปบอกให้อาอวี๋ทราบโดยเร็วที่สุด! บอกเขาว่า…มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ปล่อยให้กองทัพช้างบุกเข้าไปในหรงตี๋แม้แต่ก้าวเดียว ให้เขายึดครองหรงตี๋ให้ได้”

“ขอรับ!” หลูผิงรับคำ ต่งชิงเยว่ส่งคนพาเขาเดินทางไปยังหรงตี๋ทันที

“ต่งฉางเม่า! รีบไปตีกลองระดมพลทั้งหมดที่ค่ายทหารเดี๋ยวนี้! เตรียมออกรบ!” ต่งชิงเยว่ตะโกนเสียงดัง

“ขอรับ!” ต่งฉางเม่ารับคำแล้วรีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

ต่งชิงเยว่เตรียมเดินไปเปลี่ยนชุดออกรบ ทว่า เขานึกสิ่งใดขึ้นมาได้จึงวิ่งตามออกไปพลางตะโกนลั่น “นำธงประจำของทัพเติงโจวและธงสัญลักษณ์แคว้นต้าโจวไปด้วย!”

ไม่นานเสียงแตรและกลองดั่งสนั่นทั่วค่ายทหาร

ต่งฉางเม่าสั่งให้คนนำธงประจำกองทัพเติงโจวและธงประจำแคว้นต้าโจวติดตัวไปด้วยทั้งหมดตามคำสั่งของต่วชิงเยว่

ชาวบ้านทั้งหมดของเมืองเติงโจวออกไปมุงดูที่นอกเมือง เมื่อเห็นคนเดินทางจึงถามว่าหรงตี๋บุกมารุกรานเติงโจวอีกแล้วใช่หรือไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพเติงโจวเตรียมออกรบอย่างเอิกเกริกถึงเพียงนี้ ที่สำคัญผู้ตรวจการต่งชิงเยว่ถือดาบนำทัพด้วยตัวเองอีกด้วย

ช่วงพลบค่ำ

แสงอาทิตย์ยามอัสดงส่งกระทบลงหิมะที่ไม่เคยละลายนับพันปีบนยอดเขาของภูเขาลูกหนึ่งที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลหมอกที่ห่างไกลออกไปจนกลางเป็นสีทองเรืองรอง ช่างดูศักดิสิทธิ์และทรงพลังยิ่งนัก

ดินแดนร้างอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาทอดยาวนับพันลี้ สุดขอบของสายตาคือท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุด

แสงอัสดงค่อยๆ มืดลง เมฆดำลอยไปทางฝั่งตะวันตกช้าๆ ความมืดและและดวงดาวปกคลุมทุ่งหญ้าทั้งหมด

ธงของกองทัพเติงโจวและธงสัญลักษณ์แคว้นต้าโจวมากทายโบกสะบัดท่ามกลางสายลมที่พัดอยู่บนท้องฟ้า ธงเรียงรายถอดยาวต่อกันจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดเช่นเดียวกันทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่

ต่งชิงเยว่ในชุดนักรบถือหอกยาวขี่ม้าศึกนำอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน ด้านหลังคือพลทหารโล่สีหน้าเคร่งขรึมที่เดินอยู่ใต้ธงประจำกองทัพเติงโจวและธงสัญลักษณ์แคว้นต้าโจว พลธนูเตรียมตัวพร้อมแล้วเช่นเดียวกัน ด้านหลังคือพลทหารม้าเหล็กจำนวนมากของกองทัพเติงโจวที่พร้อมรบเต็มที่

ห่างออกไปครึ่งลี้คือกองทัพช้างขนาดใหญ่ที่ติดอาวุธพร้อมของแคว้นเทียนเฟิ่ง เป็นภาพที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนัก

ทหารม้าของกองทัพเติงโจวที่ไม่เคยเห็นสัตว์ใหญ่อย่างช้างมาก่อน พวกเขากำดาบที่เอวของตัวเองแน่น ใจของพวกเขาหนักอึ้ง ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อ

ลมแรงพัดก่อตัวขึ้นกลางอากาศเหนือทุ่งหญ้า นกแร้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายส่งเสียงร้องบาดแก้วหู

อาเค่อเซี่ยแม่ทัพใหญ่ของกองทัพช้างนั่งอยู่บนหลังช้างซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด เขาเอนกายพิงเสลี่ยงช้างมองดูธงประจำกองทัพเติงโจวและธงสัญลักษณ์ของแคว้นต้าโจวนิ่ง เขานึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นธงสัญลักษณ์นี้ที่ชายแดนซีเหลียงและต้าโจว

ทหารสอดแนมขี่ม้าเร็วกลับมาหาอาเค่อเซี่ย จากนั้นรายงานเสียงดัง “ท่านแม่ทัพ คือกองทัพของต้าโจวขอรับ!”

เหตุใดกองทัพของต้าโจวถึงมาอยู่ที่หรงตี๋ได้…

เสื้อคลุมกันลมสีแดงของต่งชิงเยว่ปลิวสยายตามแรงลม เขาชูแขนขึ้น ชี้หอกยาวไปทางกองทัพช้างของเทียนเฟิ่ง จากนั้นตะโกนขึ้นเสียงดัง “คนซีเหลียงและเทียนเฟิ่งจงฟังไว้ให้ดี หรงตี๋คือดินแดนส่วนหนึ่งของต้าโจว หากผู้ใดกล้าเข้ามารุกรานเท่ากับต้องการเป็นศัตรูกับต้าโจว!”

สิ้นเสียงแหบกร้าวของต่งชิงเยว่ ทหารกองทัพเติงโจวพากันชักดาบออกมา พลธนูก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ง้างสายธนูเตรียมพร้อม ลูกธนูไฟเล็งนิ่งไปทางกองทัพช้าง ขอเพียงต่งชิงเยว่มือคำสั่ง ลูกธนูนับพันจะลอยออกไปทันที

อาเค่อเซี่ยกำหมัดแน่น เมื่อได้ยินเสียงของต่งชิงเยว่ มองเห็นคบเพลิงนับพัน เขาแทบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ ทว่า เมื่อนึกถึงคำสั่งของเจ้านาย เขาจึงค่อยๆ คลายหมัดที่กำแน่นออก

“ไปบอกแม่ทัพของแคว้นต้าโจวว่าแคว้นเทียนเฟิ่งไม่มีเจตนาเป็นศัตรูกับต้าโจว หรงตี๋ต้องการโจมตีซีเหลียง จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับเทียนเฟิ่ง ขอให้พวกเราออกมาช่วยข่มขู่หรงตี๋เท่านั้น…”