บทที่ 1067 หลิวฉงหร่านรู้แล้ว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1067 หลิวฉงหร่านรู้แล้ว

บทที่ 1067 หลิวฉงหร่านรู้แล้ว

“คุณหนู ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่เป็นเพราะท่านจะไม่ให้ตระกูลหลิวมีชีวิตอยู่ต่างหาก” เสี่ยวเถาร้องไห้ฟูมฟาย “นายท่านคือขุนนางฝ่ายเกลือและโลหะ นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้นำเกลือเข้ามาเป็นของราชสำนัก นายท่านช่วยฮ่องเต้จัดการเรื่องเกลือมาโดยตลอด คราวนี้ถ้าท่านเปิดเผยว่าตระกูลเจียงลักลอบขายเกลือ ถ้าฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ ตระกูลเจียงจะถูกลงโทษจนถึงแก่ความตาย และนายท่านจะต้องถึงวาระด้วยเพราะละทิ้งหน้าที่เช่นกัน”

เสี่ยวเถาเข้าใจความจริงในเรื่องนี้

เหตุใดหลิวฉงหร่านจึงส่งหลิวเทียนฉือไปยังตระกูลเจียง จุดประสงค์คือเพื่อควบคุมตระกูลเจียง เหตุใดตระกูลเจียงจึงเชื่อฟังตระกูลหลิวมาก นั่นก็เพื่อทำให้ตระกูลหลิวพึงพอใจ

ทั้งคู่เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไร หากแต่พูดออกมาไม่ได้ ได้แต่ทำให้สิ่งต่าง ๆ ให้อีกฝ่ายพอใจ

และหลิวเทียนฉือได้เขียนหลักฐานเปิดโปงตระกูลเจียงไปแล้วจริง ๆ อาจเป็นเพราะท่าทีของฮูหยินเจียงที่แสดงออกว่าเกลียดนางในครั้งนั้น

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลเจียงเป็นเพราะกิจการของตระกูลเจียง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิว” หลิวเทียนฉือเกิดความกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นนิ่งสงบและผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่ผู้อื่น “เจ้ากำลังใส่ร้ายข้า อย่าคิดว่าการที่เจ้าเคยเป็นสาวใช้ส่วนตัวของข้า แล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้านะ! พวกเจ้า! จับนางไว้และเฆี่ยนนางเสีย”

หลิวเทียนฉือโบกมือ ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาจากข้างนอก ดึงเสี่ยวเถาและลากนางออกไปทันที

เสี่ยวเถารู้ว่าหลิวเทียนฉือโหดร้ายและไร้ความปรานี ดังนั้นนางจึงได้แต่คร่ำครวญ “คุณหนู ท่านต้องไม่ทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลเจียง ตระกูลหลิวจะไม่สามารถหลีกหนีความผิดได้”

คำพูดของเสี่ยวเถาลอยเข้าหูของหลิวเทียนฉือ และมันแทงลึกเข้าไปในหัวใจ “พวกเจ้า ปิดปากนางให้ข้าเสีย”

เสี่ยวเถาถูกปิดปากและถูกลากออกไปอย่างน่าอนาถ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของนางทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นมีท่าทีเดียวกัน

ทุกคนได้ยินสิ่งที่เสี่ยวเถาตะโกนเมื่อครู่นี้

เรื่องนี้มีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลิวและตระกูลเจียง

ในสวนของหลิวเทียนฉือมีคนของฮูหยินหลิวสอดแนมอยู่ที่นี่ และทันทีที่ได้รับข่าวก็รีบไปหาฮูหยินหลิวทันทีเพื่อแจ้งให้นางทราบ

เพราะได้ยินไม่ชัดเจนเท่าไรนัก คนรายงานจึงรายงานออกมาได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร และกล่าวว่าเสี่ยวเถาบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลเจียง และตระกูลหลิวจะถูกหางเลขได้ด้วย

ฮูหยินหลิวคิดมากกว่าหลิวเทียนฉือโดยธรรมชาติ

หลังจากได้ยินประโยคนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง นางรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ดังนั้นจึงส่งคนไปนำตัวเสี่ยวเถากลับมาอย่างรวดเร็ว และส่งคนไปรายงานหลิวฉงหร่าน

หลิวฉงหร่านกำลังสังสรรค์กับพรรคพวก หลังจากได้ยินสิ่งที่คนของฮูหยินหลิวมาบอก สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป เขาไม่สนใจการสังสรรค์อีกต่อไปและรีบกลับบ้านทันที

เมื่อกลับมาก็รีบไปที่เรือนของฮูหยินหลิว และได้ยินฮูหยินหลิวตะโกนสาปแช่งจากข้างใน “เจ้าตัวซวย เจ้ากำลังพยายามจะฆ่าตระกูลหลิวของเรา!”

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ “ฮูหยิน ข้าน้อยไม่รู้จริง ๆ ข้าน้อยได้ยินสิ่งที่เสี่ยวเหอพูดโดยบังเอิญ นางได้แสดงจดหมายในมือให้ข้าดู โดยบอกว่ามันมีหลักฐานทั้งหมดของตระกูลเจียงและยังบอกด้วยว่าคุณหนูไว้วางใจนาง และขอให้นางไปส่งจดหมายสำคัญให้ใครสักคน”

เมื่อได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลิวเทียนฉือ หลิวฉงหร่านก็โกรธเป็นอย่างมาก “ลากตัวนังลูกอกตัญญูคนนั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”

หลิวเทียนฉืออยู่ในห้องของนาง เดินไปมาอย่างกระวนกระวาย สิ่งที่เสี่ยวเถาพูดเมื่อครู่ทำให้นางหวาดกลัวจริง ๆ

นางมีความเกลียดชังต่อตระกูลเจียง และเอาแต่คิดว่าจะสร้างความวุ่นวายให้กับตระกูลเจียงได้อย่างไร แต่นางไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิวด้วย

หลิวเทียนฉือเข้าใจคำพูดของเสี่ยวเถาแล้ว หากแต่ตอนนี้นางแก้ไขสิ่งใดไม่ได้แล้ว

ในลานนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไว้ใจได้

เสี่ยวเหอออกไปส่งจดหมาย

เสี่ยวเถาถูกนางมัดไว้แล้ว

คนอื่น ๆ ล้วนเป็นคนที่ฮูหยินหลิวและหลิวฉงหร่านส่งมาไม่มากก็น้อยเพื่อติดตามนาง หลิวเทียนฉือไม่กล้าปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ หากเรื่องนี้ไปถึงหูของหลิวฉงหร่าน และถ้ามันเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิวจริง ๆ ตามที่เสี่ยวเถาพูด ชีวิตนางก็คงจะหายไป

หลิวเทียนฉือเดินไปมาในห้องด้วยความตื่นตระหนก ปากก็พึมพำว่าทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี

ตามความเร็วของเสี่ยวเหอ ในเวลานี้ เกรงว่านางน่าจะเกือบไปถึงกรมคลังแล้ว

ในขณะที่นางกำลังคิดอยู่นั้น ทันใดนั้นก็มีพี่เลี้ยงสองสามคนวิ่งเข้ามาจากข้างนอก และไล่นางออกไปโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ

หลิวเทียนฉือไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกรังแกถึงในห้องเช่นนี้ ดังนั้นนางจึงโกรธจัดทันที “พวกเจ้าทำอะไร พวกเจ้ากำลังทำอะไร ข้าเป็นคุณหนูใหญ่นะ”

“คุณหนูใหญ่ พวกเรารู้ว่าท่านคือคุณหนูใหญ่ ตอนนี้นายท่านต้องการพบท่านและขอให้เราพาท่านไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด เพียงแค่คับค้องใจเล็กน้อย”

หลังจากพูดจบโดยไม่รอให้หลิวเทียนฉือพูด พวกนางก็ขับไล่หลิวเทียนฉือออกไปทันที

หลิวเทียนฉือตะโกนและสาปแช่งไปตลอดทาง และพี่เลี้ยงเหล่านั้นพานางเข้าไปในลานของฮูหยินหลิว

“ท่านแม่เรียกหาข้าทำไมหรือ?” หลิวเทียนฉือยังคงมีความหวังอันเล็กน้อย

หลังจากเข้าไปในห้อง เมื่อนางเห็นเสี่ยวเถานอนจมกองเลือดและใบหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น หลิวเทียนฉือก็รู้ว่าหลิวฉงหร่านรู้ทุกอย่างแล้ว

ปึ้ง!

ทันใดนั้น โต๊ะก็ถูกกระแทกเสียงดัง ใครจะรู้ว่าหลิวฉงหร่านโกรธแค่ไหน “เจ้าคนอกตัญญู ทำไมเจ้ายังไม่คุกเข่าลงอีก”

หลิวเทียนฉือคุกเข่าลงและเห็นหลิวฉงหร่านเดินลงมาจากด้านบนด้วยใบหน้าที่ดุร้าย

ในขณะที่หลิวเทียนฉือกำลังคิดว่าเขาจะทำอะไร ทันใดนั้น นางก็มีอาการเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง หลิวฉงหร่านกำลังกระชากผมนางอย่างแรง “เจ้าเขียนอะไรลงไปในจดหมาย”

“ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ข้าไม่เข้าใจ” หลิวเทียนฉือรู้สึกถึงความโกรธของหลิวฉงหร่าน คราวนี้นางเข้าใจแล้วว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นภัยจริง ๆ

เมื่อเห็นท่าทางที่ดุร้ายของหลิวฉงหร่าน หลิวเทียนฉือก็ตัวสั่นด้วยความกลัว “ท่านพ่อ อย่าฟังเรื่องไร้สาระของสาวใช้คนนั้น ข้าไม่ได้ทำอะไร ข้าไม่ได้ทำอะไร!”

เสี่ยวเถาตัวโชกไปด้วยเลือดจากการถูกเฆี่ยนตี นางนอนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้ชีวิตชีวาเหมือนตุ๊กตาที่พังแล้ว

ฮูหยินหลิวมองเสี่ยวเถาที่เคยเป็นสาวรับใช้ส่วนตัวของหลิวเทียนฉือ และตอนนี้เพียงเพราะนางทำผิดพลาด นางจึงถูกทุบตีเช่นนี้ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

——————————————————————–