ตอนที่ 1070 ปกครองแคว้นเก่ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1070 ปกครองแคว้นเก่ง

ธงเฮยฟานไป๋หมั่งของต้าโจวสะบัดไปมาท่ามกลางสายลมหนาว ด้านหลังของบุรุษที่สวมหน้ากากครึ่งหน้าคือพลทหารม้าเหล็กจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนที่ทอดยาวราวกับหางของมังกรซึ่งค่อยๆ คืบคลานมาด้านหน้าทีละนิด เป็นภาพที่ดุดันจนผู้คนไม่กล้าเฉียดใกล้

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำหมัดแน่น เขาเงยหน้ามองกลุ่มดำที่ทอดยาวไปไกลตรงเบื้องหน้า เขารู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่พร้อมเพรียงของทหารต้าโจวดังแว่วมาตามกลางหิมะ เขาไม่รู้ว่าต้าโจวกำลังต้องการทำสิ่งใด ใจของเขากระตุกวูบทันที

แม้วันนี้จะเป็นการเจรจาเชื่อมไมตรีระหว่างสี่แคว้น ทว่า ต้าโจวและต้าเยี่ยนอาจร่วมมือกันบุกทำลายพวกเขาก็ได้

พายุหิมะเช่นนี้ไม่ส่งผลดีต่อกองทัพช้างของพวกเขา ช้างกลัวอากาศหนาว พวกมันไม่เคยทำสงครามท่ามกลางหิมะมาก่อน พวกมันอาจไม่ให้ความร่วมมือกับพวกเขา

“เตรียมพร้อม!” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นตะโกนเสียงดังลั่น

ทหารที่อยู่ข้างกายซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยังไม่ทันถ่ายทอดคำสั่ง ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก็เห็นบุรุษที่ขี่ม้านำอยู่ด้านหน้าสุดยกมือขึ้น ทหารนับแสนหยุดการเคลื่อนไหวในทันที ลมหนาวพัดผ่าน บริเวณนั้นเงียบสงัด

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเรียกตัวทหารที่เตรียมไปถ่ายถอดคำสั่งไว้ก่อน เขากล่าวเสียงขรึม “ถ่ายทอดคำสั่งลงไปให้ลอบเตรียมตัวเพื่อป้องกันไว้ก่อน”

“ขอรับ!” ทหารผู้นั้นรีบวิ่งไปสั่งการทันที

ต้าโจวเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี!

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำหมัดแน่น เขาเคยอ่านตำราโบราณซึ่งบันทึกความเป็นมาของต้าเยี่ยน ต้าจิ้นและซีเหลียง เขารู้ดีว่าเมื่อมีการเจรจาเชื่อมไมตรีกันเกิดขึ้น เหล่าทหารจะหยุดพักสงครามในทันที นี่คือจรรยาบรรณพื้นฐานของพวกเขา

ทว่า บัดนี้ต้าโจวกลับพากองกำลังทหารมามากมาย ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นอดหวาดระแวงไม่ได้แม้ว่ากองทัพช้างของพวกเขาจะตั้งค่ายอยู่ไม่ไกลจากนี้ก็ตาม

ไม่นานพลทหารม้าเหล็กจำนวนมากปรากฏกายขึ้นทางทิศตะวันตกเช่นเดียวกัน ธงนกสีฟ้าประจำแคว้นต้าเยี่ยนโบกสะบัดตามแรงลม แม่ทัพเซี่ยสวินแห่งแคว้นต้าเยี่ยนนำทัพปรากฏกายขึ้น กองทัพใหญ่หยุดนิ่งอยู่ไม่ไกลออกไป

นี่คือการเจรจาเชื่อมไมตรีระหว่างสี่แคว้น ทว่า แตกต่างจากที่ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นคิดเอาไว้มาก สิ่งเหล่านี้ไม่เหมือนกับที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

ปกติผู้นำของแคว้นจะนำทัพมาในการเจรจาเชื่อมไมตรี ทว่า กองทัพไม่เคยเข้าใกล้สถานที่เจรจราเท่านี้มาก่อนดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

จู่ๆ ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก็รับรู้ถึงแรงกดดันที่ถูกส่งมา ต้าโจวและต้าเยี่ยนไม่ใช่แคว้นที่จะต่อกรได้ง่ายๆ…

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยังอยากเป็นผู้นำในการเจรจาครั้งนี้ เขาเอ่ยสั่งลูกน้องของตัวเอง “ส่งคนไปเชิญจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนและจักรพรรดินีแห่งต้าโจวมายังกระโจมใหญ่ บอกพวกเขาว่าในกระโจมอบอุ่นกว่า”

พลหทารม้าได้รับคำสั่งจึงแยกย้ายไปยังทิศเหนือและทิศตะวันตก ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นหันไปมองหน้าศิษย์คนโตของจอมเวทย์ จากนั้นกล่าวขึ้น “ดูจากเหตุการณ์ในวันนี้พวกเราคงไม่มีโอกาสครั้งที่สองแล้ว เจ้าต้องดูให้ดีว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนหรือต้าโจวกันแน่ที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้”

ลูกศิษย์คนโตของจอมเวทย์รีบทำความเคารพซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น “ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ ทว่า ถึงแม้จะมองออก ดูจากท่าทีกองทัพของต้าโจวและต้าเยี่ยนแล้ว พวกเราคงจัดการพวกนั้นไม่ได้ง่ายๆ พ่ะย่ะค่ะ”

“วันนี้ลงมือไม่ได้ก็มิเป็นอันใด สิ่งสำคัญคือดูให้รู้ว่าคือผู้ใดกันแน่ เช่นนี้พวกเราจะได้เตรียมตัวถูก” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าว

หลี่เทียนฟู่แต่งกายเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกแดงเดินออกมาจากกระโจม มุ่งหน้าไปยังกระโจมที่เตรียมไว้สำหรับการเจรจาเชื่อมไมตรี เมื่อเห็นซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยืนรอจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนและจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอยู่หน้ากระโจมใหญ่ หลี่เที่ยนฟู่จึงเดินเข้าไปในกระโจมที่ผิงไฟไว้อย่างอบอุ่นทันที

องครักษ์ข้างกายของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นแทบทนไม่ไหว จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งของพวกเขาเป็นคนสนับสนุนให้หลี่เทียนฟู่ได้ขึ้นครองบัลลังก์แท้ๆ หากไม่มีจักรพรรดิของพวกเขา หลี่เทียนฟู่คงยังถูกขังอยู่ในที่ที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน นางกล้าไร้มารยาทกับจักรพรรดิของพวกเขาถึงเพียงนี้เลยหรือ!

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวกับหัวหน้าองครักษ์ “วันนี้เจ้าคอยอยู่ข้างกายหลี่เทียนฟู่ อย่าให้นางก่อเรื่องอันใดจนทำลายการเจรจาเชื่อมไมตรีในวันนี้เด็ดขาด”

หลี่เทียนฟู่คือสตรีฟั่นเฟือนคนหนึ่งที่สามารถลากแคว้นซีเหลียงทั้งแคว้นให้ลงมาล่มจมกับนางเพียงเพื่อแก้แค้นให้บุรุษเพียงคนเดียวได้ ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นต้องการใช้ประโยชน์จากนาง ทว่า ต้องป้องกันนางเช่นเดียวกัน

ไม่นานรถม้าคันหรูของไป๋ชิงเหยียนเคลื่อนเข้ามาใกล้ท่ามกลางการอารักขาของพลทหารม้าเหล็กจำนวนหนึ่งพันนาย ไป๋ชิงอวี๋ ไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นชิงจู๋คุ้มกันขนาบซ้ายขวาของรถม้า เสิ่นคุนหยางคุ้มกันอยู่ทางด้านหลัง

รถม้าไม้คันหรูของมู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่เคลื่อนตัวมาถึงหน้ากระโจมท่ามกลางการอารักขาของทหารหนึ่งพันนายและเซี่ยสวินเช่นเดียวกัน

ศิษย์คนโตของจอมเวทย์เดินเข้าไปต้อนรับ ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยืนอยู่หน้ากระโจมใหญ่ เขามองดูรถม้าของแคว้นต้าโจวและต้าเยี่ยนที่สั่งให้ทหารยอดฝีมือห้าร้อยนายรออยู่นอกค่าย พาเพียงทหารห้าร้อยยอดฝีมือนายตรงมาทางกระโจมนิ่ง

รถม้าหยุดสนิท ทหารของต้าโจวคุ้มกันหลิ่วหรูซื่อ เสิ่นจิ้งจงและเสิ่นเทียนจือลงมาจากรถม้า

พวกเขาสวมเสื้อคลุมกันลมตัวหนา เมื่อเห็นเซี่ยอวี่จั่งนำคนยืนคุ้มกันอยู่นอกค่าย หยางอู่เช่อ ไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นจื้อยืนคุ้มกันอยู่ข้างรถม้าของไป๋ชิงเหยียน พวกเขาจึงวางใจลง

รถม้าของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวหยุดลงที่หน้ากระโจมใหญ่ เสิ่นชิงจู๋ลงจากรถม้า ไป๋จิ่นจื้อขึ้นไปบนรถม้าเพื่อประคองร่างของไป๋ชิงเหยียนลงมาจากรถม้า หญิงสาวกวาดสายตามองดูจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งด้วยแววตาเย็นชา

วันนี้อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่ได้พาชุนจือซึ่งไม่สามารถปกป้องตัวเองได้มาด้วย

ร่างสูงโปร่งของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยืนอยู่หน้ากระโจม เขามองดูจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่ลงมาจากรถม้าเป็นคนแรก ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่อบอุ่นตลอดเวลา เขาเดินเข้าไปด้านหน้าสองสามก้าว ทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดี

ทว่า วินาทีที่ไป๋ชิงเหยียนหยัดกายตรงพลางมองมาทางเขา ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นชะงักฝีเท้าลงทันที

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวมาก่อน ทว่า เขาคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือคำเยินยอของชาวบ้านที่มีต่อจักรพรรดินีของแคว้นตัวเอง คนชนะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ พวกเขาย่อมแต่งเติมบันทึกในประวัติศาสตร์ให้สวยงามเป็นธรรมดา

เขาคิดมาโดยตลอดว่าสาวงามที่แท้จริงต้องถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมอย่างเช่นภรรยาและอนุของเขาเป็นต้น พวกนางงดงามราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ไหนจะหลี่เทียนฟู่ผู้นั้นอีก ถึงแม้จะมีวรยุทธ์อยู่บ้าง ทว่า ยังคงเป็นสาวงามที่น่าทะนุถนอมอยู่ดี

ดังนั้นในสายตาของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงคราม อีกทั้งมีความสามารถในการปกครองแคว้นอาจดูดีอยู่บ้าง ทว่า ไม่ควรงดงามน่าตราตรึงถึงเพียงนี้

ทว่า เมื่อซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเห็นหน้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวครั้ง เขาตกตะลึงในความงดงามของหญิงสาว ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นลึกล้ำและมีเสน่ห์ เป็นแววตาของผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เหนือผู้ยิ่งใหญ่ ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นตั้งตัวรับมือไม่ทันขึ้นมาทันที

บัดนี้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยอมรับว่าคำว่างดงามจนถอนตัวไม่ขึ้นเหมาะสมกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวผู้นี้ยิ่งนัก

หญิงสาวงดงาม ทว่า งดงามจนผู้อื่นไม่กล้าคิดล่วงเกินหรือคิดไม่ดีต่อนาง

บุรุษทุกคนชื่นชอบความงดงาม ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก็เช่นเดียวกัน บุรุษทุกคนชื่นชอบสาวงาม ทว่า สาวงามผู้นั้นต้องไม่เป็นภัยต่อแคว้นของเขา

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นชื่นชมความงดงามของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่เขาไม่เคยพบจากสตรีผู้ใด ทว่า ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไม่ใช่คนที่ลุ่มหลงในความงามจนไม่มีสติ