ตอนที่ 1073 พบหน้าแต่ไม่ทำสัญญา
“ท่านกลัวว่าต้าโจวและต้าเยี่ยนจะยกทัพเดินทางไกลบุกไปรุกรานแคว้นเทียนเฟิ่งอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยน้ำชาขึ้นพลางกล่าวยิ้มๆ “หากต้องการยกทัพบุกไปยังเทียนเฟิ่ง พวกเราต้องเคลื่อนทัพผ่านซีเหลียง หนทางไกลถึงเพียงนั้นไม่คุ้มค่าเลยสักนิด เทียนเฟิ่งทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับซีเหลียงแล้ว ซีเหลียงคงไม่ให้ต้าโจวและต้าเยี่ยนยืมเส้นทางแน่นอน”
มู่หรงเหยี่ยนกล่าวต่อ “ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องหนทางที่ไกลห่าง แคว้นเทียนเฟิ่งมีแต่ทะเลทรายที่ตอนนี้กำลังกลืนกินแคว้นเทียนเฟิ่งทีละนิด ต้าโจวไม่สนใจเทียนเฟิ่ง ต้าเยี่ยนก็เช่นเดียวกัน จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งไม่ต้องเป็นกังวล”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นได้ยินคำกล่าวนี้จึงตกตะลึงขึ้นมาทันที เขานึกไม่ถึงว่าต้าโจวและต้าเยี่ยนจะรู้เรื่องในเทียนเฟิ่งละเอียดถึงเพียงนี้ เขานึกถึงพ่อค้านามชุยเฟิ่งเหนียนผู้นั้นขึ้นมาทันที ชุยเฟิ่งเหนียนเป็นคนสืบรู้เรื่องเหล่านี้อย่างนั้นหรือ
หากชุยเฟิ่งเหนียนเป็นคนสืบรู้ เหตุใดต้าเยี่ยนจึงรับรู้เรื่องนี้ด้วย จักรพรรดินีแห่งต้าโจวบอกต้าเยี่ยนอย่างนั้นหรือ
ทว่า ข่าวนี้ไม่ใช่ความลับที่ผู้อื่นล่วงรู้ไม่ได้ นี่จึงไม่ใช่สิ่งสำคัญอันใด
ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่เสิ่นจิ้งจงลงนามในสัญญาเสร็จเรียบร้อย หลิ่วหรูซื่อนำสัญญาไปวางไว้ตรงหน้ามู่หรงลี่และมู่หรงเหยี่ยน มู่หรงเหยี่ยนมองคร่าวๆ จากนั้นส่งให้ขุนนางของตัวเองประทับตราในสัญญา
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไม่อยากเป็นสะพานให้ต้าโจวและต้าเยี่ยนทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันเท่านั้น เขากำหมัดแน่น จากนั้นกล่าวออกมาเสียงต่ำ “ในเมื่อต้าเยี่ยนและต้าโจวรู้สถานการณ์ของเทียนเฟิ่งในตอนนี้แล้ว ข้าก็จะขอกล่าวตามตรง…”
“ดินแดนอุดมสมบูรณ์ของเทียนเฟิ่งกำลังถูกทะเลทรายกลืนกินทีละนิด หากเป็นเช่นนี้ต่อไปวันหน้าเทียนเฟิ่งอาจมีพื้นที่เพาะปลูกไม่เพียงพอจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเช่นนี้เทียนเฟิ่งยินดีซื้อดินแดนบางส่วนของซีเหลียง ต้าเยี่ยนและต้าโจวต่อจากพวกท่านในราคาที่สูง ข้ายินดีจ่ายค่าเช่ารวดเดียวเป็นระยะเวลาสิบปี อีกทั้งแบ่งเสบียงที่เก็บได้จากดินแดนตรงนั้นให้ซีเหลียง ต้าเยี่ยนและต้าโจวสองส่วน” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวยิ้มๆ “นี่คือสาเหตุที่เทียนเฟิ่งอยากทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับทุกแคว้น”
ช่างเป็นแผนการที่ฉลาดจริงๆ …
ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยชาขึ้นพลางมองไปทางมู่หรงเหยี่ยนแวบหนึ่ง รอยยิ้มของหญิงสาวกว้างขึ้นกว่าเดิม
จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งคิดใช้ข้ออ้างเช่นนี้ยึดดินแดนของต้าโจวและต้าเยี่ยนอย่างซึ่งๆ หน้าอย่างนั้นหรือ
“ดินแดนที่เทียนเฟิ่งต้องการเช่าจะอยู่ศูนย์กลางระหว่างซีเหลียง ต้าเยี่ยนและต้าโจว พวกเราแค่ขออาศัยพื้นที่เพาะปลูกเสบียงเพื่อเลี้ยงชาวบ้านในแคว้นเทียนเฟิ่งเท่านั้น” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน มู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่ “ข้าคือจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่ง ข้าแค่อยากหาทางรอดให้ชาวบ้านในแคว้นของตัวเองเท่านั้น มิเช่นนั้นคงไม่กล้าจัดงานเจรจาเชื่อมไมตรีระหว่างสี่แคว้นขึ้นเช่นนี้ ทุกท่านได้โปรดอ่านเนื้อหาในสัญญาก่อนเถิด หากไม่พอใจเรื่องเงิน พวกเราสามารถตกลงกันใหม่ได้!”
ขุนนางต้าเยี่ยนที่เดินทางติดตามมู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่มาต่างหันไปปรึกษากัน เสิ่นซือคง เสิ่นเทียนจือและหลิ่วหรูซื่อของต้าโจวหันไปปรึกษากันเช่นเดียวกัน
เห็นดังนั้นซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจึงโค้งกายคำนับอีกครั้ง “บัดนี้เทียนเฟิ่งตกลงกับซีเหลียงเรียบร้อยแล้ว หวังว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจะให้ความช่วยเหลือเทียนเฟิ่ง อย่าให้การเจรจาครั้งนี้ต้องเสียเปล่า มิเช่นนั้นข้าคงไม่มีหน้ากลับไปพบชาวบ้านแคว้นเทียนเฟิ่งอีก!”
“เทียนเฟิ่งอยากเช่าดินแดนของต้าเยี่ยนและต้าโจว ต้องการให้พวกเราขับไล่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในดินแดนนั้นออกไปด้วยหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม
“ต้องการตั้งค่ายทหารในเมืองนั้นด้วยหรือไม่” มู่หรงเหยี่ยนถามต่อ
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นนั่งลงพลางกล่าวตอบ “เมื่อเช่าดินแดนเรียบร้อยแล้ว ข้าก็ต้องพาชาวบ้านเทียนเฟิ่งอพยพมาอยู่ยังดินแดนใหม่เพื่อเพาะปลูก หากค่าเช่าถูกลงอีกนิด พวกเราสามารถจ้างชาวบ้านของต้าเยี่ยน ต้าโจวและซีเหลียงทำการเพาะปลูกแทนได้ เช่นนี้ชาวบ้านต้าเยี่ยนและต้าโจวจะได้ไม่ต้องอพยพออกจากบ้านเกิดของตัวเอง”
“ส่วนเรื่องการตั้งค่ายทหาร หากพวกเราจ้างคนต้าเยี่ยนหรือต้าโจวทำการเพาะปลูกแทน เทียนเฟิ่งต้องทิ้งทหารส่วนหนึ่งไว้ควบคุมดูแลและขนเสบียงส่งกลับไปยังเทียนเฟิ่ง” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นชะงักคำกล่าวเล็กน้อย “หากอพยพชาวบ้านเทียนเฟิ่งมา เทียนเฟิ่งต้องทิ้งกองทัพช้างไว้ปกป้องดูแลชาวบ้านในแคว้น ปกป้องผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งขนย้ายเสบียงกลับไปเทียนเฟิ่ง”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกลัวว่ากล่าวเช่นนี้ต้าเยี่ยนและต้าโจวจะเกิดความหวาดระแวงจึงกล่าวต่อ “แน่นอนว่าถึงแม้พวกเราจะเช่าพื้นที่ของต้าเยี่ยนและต้าโจว ทว่า เมืองยังคงเป็นของพวกท่านอยู่ ต้าโจวและต้าเยี่ยนสามารถส่งทหารมาสอดแนมพวกเราตลอดเวลาที่เราเช่าเมืองของพวกท่าน ป้องกันพวกเราคิดเป็นอื่นได้”
ยังไม่ทันไรก็ได้คืบจะเอาศอกเสียแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ยังทำทีเป็นรู้ขอบเขตดีเสียอีก
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองสัญญาของเทียนเฟิ่งที่ยังไม่ได้เปิดอ่านตรงหน้า หากนางเดาไม่ผิดเงินที่เทียนเฟิ่งยอมจ่ายเช่าเมืองของต้าโจวและต้าเยี่ยนต้องมากมายจนคนเห็นเกิดหวั่นไหวแน่นอน
บัดนี้ดินแดนของเทียนเฟิ่งถูกทะเลทรายกลืนกินอย่างมากขึ้นทุกที เทียนเฟิ่งใช้ข้ออ้างนี้ขอเช่าเมืองของต้าโจวและต้าเยี่ยนจึงไม่ดูเป็นการจงใจเกินไป ที่สำคัญพวกเขาจ่ายค่าเช่าด้วยราคาที่ทำให้คนหวั่นไหวได้ง่ายๆ เสียด้วย
ดูเหมือนจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งจะยอมลงทุนลงแรงกับต้าโจวและต้าเยี่ยนไม่น้อยเลยทีเดียวดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
ยิ่งเป็นเช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนก็ยิ่งมองออกว่าเทียนเฟิ่งมีความทะเยอทะยานมากเพียงใด
ไป๋ชิงเหยียนเปิดสัญญาที่เทียนเฟิ่งมอบให้ออกอ่าน หญิงสาวเห็นซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นคลี่ยิ้มออกมา ชายหนุ่มยกถ้วยชาขึ้นจิบ เขาเชื่อว่าต่อให้เป็นจักรพรรดิที่สูงศักดิ์อย่างไป๋ชิงเหยียนและมู่หรงลี่ หากเห็นจำนวนเงินที่เขามอบให้ย่อมหวั่นไหวเช่นเดียวกัน
“จ่ายค่าเช่าครั้งเดียวสิบปี เทียนเฟิ่งไม่กลัวว่าระหว่างนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ” ขุนนางต้าเยี่ยนตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ใต้เท้าท่านนี้ถามได้ตรงประเด็นมาก ดังนั้นเทียนเฟิ่งจึงจะทิ้งกองทัพช้างไว้ที่เมืองที่เช่าจำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันเทียนเฟิ่งถูกขับไล่ออกจากเมืองก่อนหมดสัญญาเช่า จักรพรรดินีแห่งต้าโจวและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนคงเข้าใจการกระทำของเทียนเฟิ่ง” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวยิ้มๆ “เทียนเฟิ่งขอเช่าเมืองในต้าโจว ต้าเยี่ยนและซีเหลียงเป็นจำนวนไม่มาก หากเทียนเฟิ่งมีใจคิดเป็นอื่นจริงๆ ต้าเยี่ยนและต้าโจวทำสัญญาเป็นพันธมิตรเพื่อข่มขู่เทียนเฟิ่งไว้แล้วนี่นา”
“เป็นดั่งที่จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งกล่าว เทียนเฟิ่งเช่าเมืองอยู่ในดินแดนของต้าโจวและต้าเยี่ยน ท่านไม่กลัวว่าพวกเราจะขับไล่คนเทียนเฟิ่งออกไปหลังได้รับเงินค่าเช่าอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงแฝงความเย้ยหยันของมู่หรงเหยี่ยนดังรอดออกมาจากหน้ากาก
“ต้าเยี่ยนและต้าโจวคือแคว้นใหญ่ ขอเพียงวันนี้ลงนามทำสัญญากันเรียบร้อย เทียนเฟิ่งจะเชื่อใจพวกท่าน” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าว
“เทียนเฟิ่งไม่ต้องลำบากถึงเพียงนี้หรอก พวกท่านแค่ต้องการเสบียงอาหารไม่ใช่หรือ!” หลิ่วหรูซื่อเงยหน้ามองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น “แคว้นเทียนเฟิ่งขาดแคลนเสบียง เช่นนี้ก็ขอซื้อจากพวกเราก็สิ้นเรื่อง เปลี่ยนเงินค่าเช่าสิบปีเป็นค่ามัดจำเสบียงอาหารแทน ภายในสิบปีนี้พวกเราจะส่งเสบียงที่เก็บเกี่ยวได้จากเมืองเหล่านี้ไปให้เทียนเฟิ่งแปดส่วน หากเทียนเฟิ่งไม่สบายใจสามารถส่งขุนนางจำนวนหนึ่งมาตรวจตราที่แคว้นพวกเราเป็นประจำได้!”