ตอนที่ 2,425 : บ่อโลหิตสืบทอด
บ่อโลหิตสืบทอด!
เป็นชื่อสถานที่ๆเสี่ยวจินกล่าวบอกออกมาหลังจากเดินทางมาถึง
สถานที่แห่งนี้ช่างเปลี่ยวร้างวังเวง และตัดขาดจากโลกหล้านัก!
หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวจินเป็นคนนำทางมา ต่อให้พวกนางตระเวนหานับพันๆปีก็ไม่มีทางพบเจอสถานที่แห่งนี้แน่นอน
เนื่องจากหนทางมาสู่สถานที่แห่งนี้ มันช่างมีค่ายกลและข่ายอาคมอันร้ายกาจสลักจัดตั้งไว้มากมายปานตาข่ายฟ้า!
แถมต่อหน้าพลังทำลายของค่ายกลนั่น กระทั่งซูหลี่ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวซี้ซั้ว ทำได้แค่คอยตามหลังเสี่ยวจินอย่างเรียบๆร้อยๆ
เพราะมีเพียงเสี่ยวจินเท่านั้น ที่สามารถฝ่าค่ายกลและข่ายอาคมทั้งหลายได้
สาเหตุที่ไฉนพวกนางรู้สึกว่าค่ายกลและข่ายอาคมยิบย่อยมันน่ากลัวนั้น
เพราะว่าพวกนางแลเห็นมากับตา กระบี่ในมือซูหลี่ยามเผชิญหน้ากับพลังของค่ายกล มันถึงกับหักสะบั้นลงง่ายดายราวแท่งขนมปังกรอบ!
ต้องทราบด้วยว่าพวกนางเองก็จดจำได้แต่แรก…
ว่ากระบี่ในมือของซูหลี่มันคือ กระบี่ไร้ลักษณ์ 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียน!
เหตุผลที่ไฉนพวกนางถึงรู้จักกระบี่ไร้ลักษณ์ในมือซูหลี่นั้น
เพราะกระบี่ 9 สวรรค์ในมือผู้เฒ่าพยากรณ์ ก็คือ 1 ใน 2 ยอดศาสตราเซียนประเภทกระบี่ในแดนดิน!
ด้วยเหตุนี้พวกนางจึงเคยได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของกระบี่ไร้ลักษณ์จากปากผู้เฒ่าพยากรณ์ และผู้เฒ่าพยากรณ์ยังอธิบายลักษณะของกระบี่ไร้ลักษณ์ให้พวกนางรับทราบโดยละเอียด
ดังนั้นพวกนางจึงจดจำกระบี่ไร้ลักษณ์ในมือซูหลี่ได้ทันทีหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายใช้
และกระทั่งครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ประสบความสำเร็จใจการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ยังไม่อาจทำลายยอดศาสตราเซียนได้ นับประสาอะไรกับการทำให้กระบี่ไร้ลักษณ์หักเป็นสองท่อนราวแท่งขนมปังเพียงแค่สัมผัสถูกแบบนั้น!!
และพลังอาคมอันน่าสะพรึงกลัวนั่น ก็เป็นแค่พลังจากอาคมบริเวณปากทางเท่านั้น
ยิ่งมาพลังของอาคมยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!
ด้วยเหตุนี้ต่อให้จะเป็นซูหลี่ในสภาพมีสติก็ดี หรือซูหลี่ตอนที่ถูกมารครอบงำจิตใจก็ดี ต่างเดินตามหลังเสี่ยวจินต้อยๆอย่างเรียบๆร้อยๆไม่กล้าแตกแถว! และในที่สุดทั้งหมดก็เดินทางมาถึง บ่อโลหิตสืบทอด!
‘ด้วยพลังที่เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวจินเผยออกยามนี้…เกรงว่ากระทั่งครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ผ่านหายนะสู่สวรรค์มานาน ก็ไม่มีทางเทียบได้…พลังของทั้งคู่ข้ามผ่านขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด!’
เมื่อเห็นเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวจินที่กำลังจะปะทะกัน ใจของเสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะเต้นรัวขึ้นมา
‘บ่อโลหิตสืบทอดช่างน่ากลัวเหลือเกิน…ตัวตนที่อ้างตัวว่าเป็นบรรพบุรุษของหนูกลืนสวรรค์ที่แท้เป็นผู้ใดกันแน่!?’
‘ไฉนบ่อโลหิตสืบทอดที่เหลือทิ้งไว้แบบนี้…สามารถยกระดับสายเลือดของพวกเรา ทั้งมอบพลังอันมหาศาลให้พวกเราได้ถึงขนาดนี้?’
‘ตอนนี้พลังของพวกเราก้าวข้ามตัวตนขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะไปแล้วชัดๆ…แต่ไฉนพวกเราไม่เห็นจะพบเจอหายนะสู่สวรรค์อันใด ไม่เพียงแต่ไม่มีโอกาสข้ามผ่าน แถมพวกเราก็มิได้ล้มเหลวจนกลายเป็นเซียนอมตะเสเพลอีกด้วย…’
‘เช่นนั้นพวกเรา…อยู่ในระนาบโลกียะด้วยฐานะใด?’
เสี่ยวไป๋อื้ออึงทั้งสับสนนัก
ยิ่งคิดก็ยิ่งงง!
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่อะไรที่นางสามารถเข้าใจได้อีกต่อไป
อันที่จริงพวกนางทั้ง 3 ก็พึ่งมารู้ว่าสถานที่แห่งนี้เรียกว่า บ่อสืบทอดโลหิต ในภายหลัง
ตอนที่พึ่งมาถึงนั้น ทั้งหมดถูกทะเลสาบสีเลือดดึงดูดความสนใจไปทันที เพราะทุกคนสามารถตระหนักได้ชัดเจนว่าทะเลสาบสีเลือด…มีกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งเหนือกว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณฟ้าดินของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบนเสียอีก!
หากแต่มันไม่ใช่พลังวิญญาณฟ้าดิน!
และเมื่อทุกคนเข้าใกล้ทะเลสาบสีเลือดมากเท่าไหร่ กลิ่นอายพลังอันบริสุทธิ์ดังกล่าวก็จะแพร่เข้าร่างด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อเกินจริง และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พวกนางอย่างรวดเร็ว!
ทำให้พวกนางตระหนักได้ทันที
พวกนางพบพานวาสนาครั้งยิ่งใหญ่แล้ว!
และในขณะที่พลังของทุกคนเพิ่มพูนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ปรากฏเศษเสี้ยวความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นในหัว
และเศษเสี้ยวความทรงจำดังกล่าวก็บอกให้พวกนางได้รู้ว่า…
ทะเลสาบสีเลือดแห่งนี้ที่แท้เรียกว่า ‘บ่อโลหิตสืบทอด’ และมันถูกทิ้งไว้โดยผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นบรรพชนของหนูกลืนสวรรค์! จุดประสงค์ก็เพื่อเฟ้นหาผู้มีวาสนาในระนาบโลกียะ!
และจากข้อความที่บรรพชนนั้นกล่าวไว้
ไม่ว่าใครก็ตามตราบใดที่ยอมรับการชำระเพิ่มพูนจากบ่อโลหิตสืบทอด ก็เสมือนได้ผูกพันกับขุมพลังของบรรพชนหนูกลืนสวรรค์ วันหน้าไม่เพียงแต่ทุกคนจะสามารถเข้าร่วมกับขุมพลังนี้ได้ กระทั่งยังจะได้รับการส่งเสริมและปกป้องจากขุมพลัง ทำให้หลีกเลี่ยงอันตรายได้มากมาย…
‘จากที่บรรพชนผู้นั้นกล่าวไว้…หลังจากที่พวกเราได้รับการชำระส่งเสริมจากบ่อโลหิตสืบทอดแล้ว ขอเพียงพวกเราใช้ ‘วิถีลับ’ ที่เศษเสี้ยวความทรงจำของบรรพชนมอบไว้ให้ พวกเราก็สามารถชักนำพลังจากระนาบเทวโลกให้สาดส่องลงมา ดึงพวกเราขึ้นสู่ระนาบเทวโลกทันที!’
ในขณะที่เสี่ยวไป๋กำลังนึกถึงเรื่องนี้…
เปรี๊ยงงงงงงง!!!
เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นขึ้น อีกทั้งคลื่นกระแทกอันเกรี้ยวกราดยังซัดสาดออกมาทั่วสารทิศประหนึ่งมหาพายุกระหน่ำ ความว่างเปล่าทั้งหลายแตกระเบิดดั่งเศษกระจก ก่อเกิดรอยแยกมิติมากมายชวนสยอง
ต่อหน้าการประมือกันของเสี่ยวจินกับเสี่ยวเฮย…ความว่างเปล่าไม่ต่างใดจากกระดาษแสนเปราะบาง!
อย่างไรก็ตามนี่ยังเป็นแค่การอุ่นเครื่องของเสี่ยวจินกับเสี่ยวเฮยเท่านั้น!
การต่อสู้ที่แท้จริงยังไม่เริ่มขึ้น!
‘ว่าแต่พี่ซูหลี่อยู่ที่ใดกัน…ยังไม่ออกจากการปิดด่านอีกหรือ?’
ทันใดนั้นเสี่ยวไป๋ก็นึกถึงซูหลี่ขึ้นมา จึงหันรีหันขวางมองหาซูหลี่ หากแต่เนิ่นนานก็ไม่เห็นวี่แววของซูหลี่เลย
ซู่ม!
สุดท้ายเสี่ยวไป๋ก็เลือกที่จะพุ่งร่างลงจากฟ้าจมหายไปในบ่อโลหิตสืบทอดอีกครั้ง
บ่อโลหิตสืบทอดแห่งนี้ เสมือนทะเลสาบเล็กๆไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย
หากแต่หลังเข้ามาภายในแล้ว
บ่อโลหิตสืบทอดแห่งนี้ช่างมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลสุดที่นางจะจินตนาการได้ออก ‘ตอนแรกที่ข้าลงมาในบ่อโลหิตสืบทอด เพราะมัวแต่ดูดซับยกระดับปรับพลังจึงไม่ทันได้สังเกตบ่อโลหิตสืบทอดแห่งนี้ให้ชัด..’
‘คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าในบ่อโลหิตสืบทอดที่แลดูไม่ใหญ่โต กลับมีสิ่งวิเศษเช่นนี้อยู่ภายใน…’
เป็นธรรมดาที่ถึงบ่อโลหิตสืบทอดจะมีขนาดใหญ่โต แต่ด้วยความเร็วในปัจจุบันของเสี่ยวไป๋ คิดค้นหาให้ทั่วบ่อโลหิตสืบทอด ก็ใช้เวลาไม่นานนัก
เพียงเค่อเดียวเท่านั้น
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
…
ในขณะที่เสี่ยวไป๋กำลังมองหาซูหลี่ภายในบ่อโลหิตสืบทอด เหนือขึ้นไปด้านบนก็ปรากฏเสียงสนั่นปานฟ้าดินทลายดังก้องลงมาไม่หยุด กระทั่งสภาพภายในบ่อโลหินสืบทอดก็กลายเป็นปั่นป่วนปานทะเลคลั่ง!
เป็นธรรมดาที่ความปั่นป่วนในบ่อโลหิตสืบทอด ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการตามหาซูหลี่ของเสี่ยวไป๋
หลังจากผ่านไปอีกเค่อ เสี่ยวไป๋ก็มั่นใจได้เต็มที่…
ซูหลี่ไม่ได้อยู่ในบ่อโลหิตสืบทอดอีกต่อไป!
“ฮ่าๆๆ…อะไรกันเสี่ยวเฮย ไฉนเจ้าอ่อนด้อยนักเล่า ข้ายังลงมือไม่ทันถึงร้อยกระบวนท่าเลยเจ้าก็สิ้นท่าซะแล้ว!!”
เมื่อเสี่ยวไป๋กลับขึ้นมาจากบ่อโลหิตสืบทอด และไปปรากฏตัวบนน่านฟ้าเหนือบ่อโลหิตสืบทอดอีกครั้ง การปะทะกันระหว่างเสี่ยวจินกับเสี่ยวเฮยก็จบลงแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเสี่ยวจินที่กำลังหัวเราะร่าด้วยความถูกอกถูกใจมองกล่าวเย้ยเสี่ยวเฮยอย่างสนุกสนาน
“ฮึ่ม!”
เผชิญท่าทีหยิ่งผยองลำพองของเสี่ยวจิน แม้เสี่ยวเฮยจะขัดใจมากแค่ไหน ก็ทำได้แค่แค่นเสียงสบถไปอย่างไม่สบอารมณ์ด้วยแววตาไม่ยินยอมเท่านั้น
ในใจยังรู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง
ถึงแม้บ่อโลหิตสืบทอดแห่งนี้ จะทำให้มันบังเกิดความเปลี่ยนแปลงประหนึ่งพลิกฟ้าคว่ำดิน แต่สุดท้ายแล้วบ่อโลหิตสืบทอดแห่งนี้ ก็คือ ‘มรดก’ ของสัตว์เซียนประเภทหนู เช่นนั้นแล้วเสี่ยวจินที่เป็นสายพันธุ์หนูเช่นกันจึงได้รับผลประโยชน์มากกว่า
ด้วยพลังของบ่อโลหิตสืบทอด ทำให้เสี่ยวเฮยวิวัฒนาการไปเป็นมังกรมาร 8 กรงเล็บ ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนเสี่ยวจินให้กลายเป็น หนูกลืนสวรรค์เนตรสีชาด ได้อย่างราบรื่น…
ในระนาบเทวโลก ไม่ว่าจะจะเป็นมังกรมาร 8 กรงเล็บหรือหนูกลืนสวรรค์เนตรสีชาดก็ล้วนแล้วแต่เป็น สัตว์เซียนอมตะ!
ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่สัตว์เซียนอมตะธรรมดาๆ
“นี่พวกเจ้า พี่ซูหลี่หายไปแล้ว!!”
อย่างไรก็ตามเมื่อเสี่ยวไป๋โพล่งขึ้นมา เสี่ยวจินกับเสี่ยวเฮยก็ชะงักไป ก่อนจะชักหน้าเครียดทันที
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็หันมามองถามเสี่ยวไป๋อย่างร้อนใจ
“ข้าหาพี่ซูหลี่ไม่เจอ…ไม่ว่าจะด้านนอกหรือด้านในบ่อโลหิตสืบทอดก็มิเจอเลย!”
เมื่อถูกมองถาม เสี่ยวไป๋ก็เร่งตอบกลับไปอย่างร้อนใจ “พี่ซูหลี่…จะเป็นไรหรือไม่?”
“คงไม่หรอก”
ครู่ต่อมา เป็นเสี่ยวเฮยที่ฟื้นสติกลับมาก่อน กล่าวออกเสียงขรึม “บ่อโลหิตสืบทอดไม่ใช่แค่ยกระดับพลังฝึกปรือให้พวกเราอย่างรวดเร็วเท่านั้น…ด้านพี่ซูหลี่เองก็ต้องประสบความก้าวหน้าครั้งใหญ่เช่นกัน”
“ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยรากฐานของพี่ซูหลี่แต่เดิมก็แข็งแกร่งกว่าพวกเราเป็นทุน หลังได้รับการชำระส่งเสริม เกรงว่าตอนนี้น่าจะเหนือกว่าพวกเราด้วยซ้ำ!”
กล่าวถึงจุดนี้ สองตาของเสี่ยวเฮยก็กระพริบวูบหนึ่ง พูดต่อว่า “บางที…พี่ซูหลี่อาจจะใช้วิถีลับ ที่บรรพชนทิ้งไว้ให้แล้วรึเปล่า? เลยถูกพลังจากระนาบเทวโลกชักนำให้ขึ้นไปยังระนาบเทวโลกแล้ว?”
เสี่ยวเฮยเอ่ยข้อสันนิษฐานออกมา
“อาจเป็นได้”
เสี่ยวจินกับเสี่ยวไป๋ก็พยักหน้าเห็นด้วย ความกังวลบนใบหน้าเริ่มอ่อนจางลง
“แต่…พี่ซูหลี่ไปได้ ทว่าพวกเรามิอาจไป!”
สองตาเสี่ยวจินทอประกายเรืองวูบ เอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้เผ่าปีศาจกำลังรุกรานดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอยู่ เผลอๆตอนนี้พวกมันอาจจะยกทัพบุกขึ้นไปยังภูมิภาคเบื้องบนแล้วก็เป็นได้…พวกเรารีบไปภูมิภาคเบื้องบนกันเถอะ จะได้รีบไปตามหาพี่ใหญ่หลิงเทียนพี่สาวเฉวี่ยไน่! ตอนนี้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นมาก ต้องปกป้องพวกพี่ๆได้แน่!!”
สิ่งที่เสี่ยวจินพูดออกมาก็ตรงใจเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋เช่นกัน
ถึงแม้ตอนนี้พวกมันจะสามารถขึ้นไปยังระนาบเทวโลกได้ตามใจต้องการ
แต่พวกมันมคิดจะรีบขึ้นไปตอนนี้
พวกมันยังเหลือสิ่งที่ต้องทำในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอีกมากมาย
พวกมันต้องการปกป้องคุ้มครองเหล่าผู้คนสำคัญที่ไม่ต่างอะไรจากครอบครัว อีกทั้งยังคิดช่วยมนุษย์ขับไล่เผ่าพันธุ์ปีศาจ!
ถึงแม้ทั้งหมดจะทำเพื่อมนุษย์ที่ตัวเองห่วงใย ไม่ได้ทำเพื่อมนุษย์ไหนอื่น…แต่พวกมันก็ต้องกระทำ!
“รีบไปกันเถอะ!”
หลังจากนั้นทั้ง 3 ก็เร่งรุดเดินทางออกจากบ่อโลหิตสืบทอดทันที
ขากลับนั้นช่างพิกลนัก เพราะค่ายกลและข่ายอาคมไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างไร
เว้นเสียแต่จะเป็นการย้อนกลับไปยังบ่อโลหิตสืบทอด ไม่งั้นค่ายกลกับข่ายอาคมก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น
พอตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ ทั้ง 3 ก็ไม่คิดระวังอะไรอีก พากันเร่งความเร็วเดินทางทันที พุ่งผ่านค่ายกลและข่ายอาคมปิดกั้นบ่อโลหิตสืบทอดเอาไว้ด้วยความเร็วสูงสุด
หลังจากใช้เวลาไม่นานทั้ง 3 ก็ออกจากแดนเนรเทศกลับไปยังดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่างได้สำเร็จ
“เผ่าพันธุ์ปีศาจ…บุกขึ้นไปภูมิภาคเบื้องบนแล้วจริงๆ”
และทันทีที่ทั้ง 3 กลับมาถึงได้ไม่ทันไร ก็ถูกต้อนรับด้วย ‘ข่าวร้าย’ ทำให้หน้าทั้ง 3 เปลี่ยนสีไปทันที!