บทที่ 1096 จับคนเลว

บทที่ 1096 จับคนเลว

ผู้หญิงคนนั้นพยายามชักชวน โดยการใช้ความยากจนมาหวังให้คนอื่นสงสาร

แต่มีหรือที่คนรอบข้างจะไม่เข้าใจ?

สองคนนี้ต้องไม่ใช่คนดีแน่ ๆ!

แต่ไม่น่าเชื่อว่าสาวน้อยจะฉลาด

ถ้าเธอไม่เก่งจริง และไม่ทันระวังคงโดนหลอกไปแล้ว

ฝ่ายซูเสี่ยวเถียนลากชายคนนั้นกลับมา

เป็นภาพที่แปลกตามากที่ผู้ใหญ่โดนเด็กลากอยู่

ทุกคนมองด้วยสายตาแปลก ๆ

ครอบครัวนี้เลี้ยงเธอแบบไหนมาเนี่ย?

ภายนอกดูอ่อนโยน แต่กลับจัดการผู้ชายแข็งแรง ๆ แบบนี้ได้

เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่มาช่วย เพราะรู้จักลูกหลานดีนี่เอง!

เฉินซิ่วหย่วนปรบมืออย่างมีความสุข “ดีจังเลย พี่สาวจับคนไม่ดีได้”

ทุกคนหัวเราะร่วน และในขณะเดียวกันก็รังเกียจเจ้าพวกคนเลว

เด็กคนนี้หน้าตาสะสวยทีเดียว หากโดนจับไปไม่อยากนึกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ชีวิตคงดับสิ้นแน่

พอคิดได้แบบนั้น คนรอบข้างแทบจะเข้าไปรุมกระทืบ

ซูเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้น “มีใครมีเชือกไหมคะ ขอยืมเส้นหนึ่งค่ะ!”

เธอโยนชายคนนั้นลงบนพื้น ใช้เท้าเหยียบแขนเอาไว้แล้วตะโกนถามรอบข้าง

เธออึดอัดมากที่ต้องทำอะไรแบบนี้ รีบ ๆ โยนมันออกไปสักที

“ฉันมีเชือกเส้นอยู่ ไม่รู้จะสั้นไปหรือเปล่านะ”

เด็กสาวเอ่ยขอบคุณแล้วรีบมันมา

มันเป็นเชือกสั้น ๆ

เธอจับมือชายคนนั้นไพล่ไว้ด้านหลัง ตั้งใจจะมัดไว้

“เสี่ยวเถียน มัดแบบนั้นไม่ค่อยดีหรอกนะ เอาแค่นี้พอ!”

เฉินจื่ออันเห็นก็รีบบอก

ที่จริงเธอก็ไม่อยากมัดต่อหรอก

น่าขยะแขยงมาก เธอรู้สึกสกปรก

หลังจากอาเขยเข้ามารับช่วงต่อก็มัดชายคนนั้นเอง

เขาผูกนิ้วโป้งเข้าด้วยกัน มันเจ็บมากแต่ไม่สามารถสะบัดให้หลุดได้

อีกฝ่ายเอาแต่ก่นด่า บอกว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม เป็นคนดีและอีกหลายอย่าง

แต่ไม่ว่าจะพูดอะไรเฉินจื่ออันก็ไม่สนใจสักนิด

“ใครว่างช่วยไปที่สถานีตำรวจหน่อยนะ ไปแจ้งว่ามีพวกลักพาตัวอยู่ที่นี่ด้วย!” เฉินจื่ออันตะโกน

ตอนนั้นเองที่มีคนร้องลั่น “นั่นหัวหน้าเฉินนี่นา ท่านกลับมาแล้ว!”

น้ำเสียงของเขาตื่นเต้นมาก ด้วยจำเฉินจื่ออันได้

คนโดนทักยกยิ้มแล้วพยักหน้ารับ “รบกวนด้วยนะครับ!”

จากนั้นก็ยกแขนขึ้นดูนาฬิกา สายมากแล้ว

เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ส่วนเรื่องสองคนนี้คงไม่สามารถจัดการได้ภายในสิบนาทีด้วย กลัวก็แต่จะทำให้เสียเวลามากกว่าเก่า

“อาเขย รถไฟเราใกล้จะออกแล้วนะคะ ทำยังไงดี?” ซูเสี่ยวเถียนเป็นกังวล

เธอเป็นคนขี้เกียจ ช้าสักนิดสักหน่อยไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่กับเฉินจื่ออันมันไม่ใช่

เขาดำรงตำแหน่งผู้นำ การไปสายจะทำให้ส่งผลเสียต่ออีกฝ่าย

“ไม่เป็นไร ฝากคนอื่นจัดการต่อแล้วกัน”

เขาเองยังเป็นกังวลไม่ต่างกัน ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดตัวการสำคัญซ่อนอยู่ก็ได้

เฉินจื่ออันเกลียดพวกค้ามนุษย์และการกระทำที่คล้ายคลึงกันมาก

การกระทำอันต่ำช้านี้ทำลายครอบครัวผู้คนไม่รู้ตั้งเท่าไร ทำให้พ่อแม่สูญเสียลูกไป และทำให้เด็ก ๆ ต้องพลัดพรากไปจากพ่อแม่ด้วย

เผลอ ๆ คงไม่ได้กลับบ้านไปตลอดชีวิต

ซูหม่านซิ่วบีบข้อมือผู้หญิงคนนั้นแน่นด้วยความร้อนรนใจ

เธอคนนี้คิดจะหนีอยู่ตลอด แต่ตอนนี้มีผู้หญิงหลาย ๆ คนยืนล้มช่วยขวางเอาไว้

ซูเสี่ยวเถียนยังจับตาดูเช่นกัน

ตัวเธอเกลียดพวกค้ามนุษย์มาก ๆ ต่อให้ไม่ถามก็รู้

คนเหล่านี้สมควรได้รับโทษตามกฎหมาย

โชคดีที่มีตำรวจสองคนมาทันเวลา พวกเฉินจื่ออันและคนอื่น ๆ จึงไม่ได้ถูกทิ้งให้รอนาน

“หัวหน้า สวัสดีครับ!”

ทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส และเคยเจอเฉินจื่ออันมาก่อน

พอได้พบจึงรีบกล่าวทักทาย

แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายในตอนนี้ดำรงตำแหน่งอะไรอยู่ จึงทำได้แค่เรียกว่าหัวหน้าเท่านั้น

“ลำบากหน่อยนะ ผมจำพวกคุณได้ เป็นตำรวจมาหลายปีเลยนะ” เฉินจื่ออันเคยพบสองคนนี้มาก่อน

อีกฝ่ายจึงตกใจมาก

“สวัสดีครับหัวหน้า ไม่คิดเลยว่าคุณจะกลับมาเห็นเรื่องแบบนี้เป็นเพราะเราละทิ้งหน้าที่เองครับ!”

อดีตหัวหน้าต้องมาเห็นมุมมืดอันเลวร้ายของอำเภอแบบนี้

ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาละอายใจจริง ๆ

“ไม่เป็นไร สองคนนี้ทำท่าแปลก ๆ คิดจะลักพาตัวลูกชายผมน่ะ รบกวนตรวจสอบหน่อยนะ ขอบคุณมาก!”

เฉินจื่ออันเอ่ยอย่างสุภาพ

สองตำรวจรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย

“ผมต้องไปแล้ว อีกยี่สิบนาทีรถไฟจะออก จึงช้าต่อไปไม่ได้แล้วน่ะ” เขายกยิ้มบาง ๆ

“รับทราบครับหัวหน้า!” ทั้งสองตอบรับด้วยความเคารพ

ไม่คิดเลยว่าสองคนนี้คิดจะลักพาตัวลูกชายหัวหน้าเฉิน ถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ ต้องนำตัวไปสอบสวนทันที

คนอื่นอาจไม่ทราบแต่เรารู้ดี

มันเป็นเรื่องยากสำหรับหัวหน้าไม่น้อย เขาใช้เวลาตั้งกี่ปีถึงจะมีลูกได้หนึ่งคนน่ะ ถ้าโดนลักพาตัวไปจริง ๆ จะทำยังไง?