ตอนที่ 1121 แก้แค้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1121 แก้แค้น

อวิ๋นพั่วสิงพยายามต้านทานแรงกดดาบของเฉิงหย่วนจื้อไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทว่า เขาไม่สามารถดึงดาบของเฉิงหย่วนจื้อซึ่งเสียบอยู่ที่ไหล่ของเขาออกมาได้แม้แต่น้อย

อวิ๋นพั่วสิงเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาแดงฉานของเฉิงหย่วนจื้อ แววตาของเฉิงหย่วนจื้อเต็มไปด้วยความโกรธราวกับต้องการให้เขาสิ้นใจอยู่ตรงนั้นทันที

อวิ๋นพั่วสิงแก่ชรามากแล้ว เขาเคยถูกไป๋ชิงเหยียนยิงธนูใส่หัวเข่าทั้งสองข้างในสงครามหุบเขาเวิ่งจนบาดแผลยังไม่หายดีจนถึงตอนนี้ อวิ๋นพั่วสิงจะมีแรงต้านทานเฉิงหย่วนจื้อที่มีพละกำลังเต็มที่และเต็มไปด้วยความโกรธแค้นได้อย่างไรกัน

เฉิงหย่วนจื้อรอคอยวันนี้มานานแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าต้องรอให้ครบกำหนดสามปีก่อนจึงจะมีโอกาสแก้แค้นอย่างจริงจัง เขานึกไม่ถึงเลยว่าอวิ๋นพั่วสิงจะรีบร้อนอยากตายเช่นนี้ ในเมื่ออวิ๋นพั่วสิงทนรอไม่ไหว หากเฉิงหย่วนจื้อไม่ทำให้เขาสมหวังก็คงผิดต่อแผนการที่เสี่ยวไป๋ไซว่คิดขึ้นมาอย่างรอบคอบ

“อวิ๋นพั่วสิง เสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเราให้เวลาเจ้าสามปี ทว่า เจ้ากลับรีบร้อนเอาชีวิตของตัวเองมามอบให้พวกข้าตอนที่ต้าโจวและต้าเยี่ยนร่วมมือกันขับไล่เทียนเฟิ่งออกไปจากแคว้นของพวกเรา ดังนั้นวันนี้ข้าเฉิงหย่วนจื้อจะเป็นคนตัดศีรษะที่ฝากไว้บนบ่าของเจ้าเป็นเวลาสองปีกว่าลงมาแทนท่านรองแม่ทัพใหญ่ คุณชายสิบเจ็ดและสหายทุกคนของกองทัพไป๋เอง!”

เฉิงหย่วนจื้อจับดาบด้วยมือทั้งสองข้าง เขาขบกรามแน่นพลางกดปลายดาบลงไปให้ลึกสุดแรง อวิ๋นพั่วสิงแทบทนไม่ไหวแล้ว เขาเงยหน้ามองเฉิงหย่วนจื้อที่กำลังเผชิญหน้ากับเขาอยู่แวบหนึ่งด้วยแววตาที่พร้อมตาย จากนั้นปล่อยมือที่พยายามต้านทานแรงของดาบออกจากดาบของเฉิงหย่วนจื้อทันที…

ขณะที่ดาบใหญ่ของเฉิงหย่วนจื้อตัดแขนข้างหนึ่งของอวิ๋นพั่วสิงขาดวิ่น อวิ๋นพั่วสิงใช้มือซ้ายหยิบกริชออกมาจากที่ลับตรงขาของตัวเอง เขายอมสละแขนข้างหนึ่งของตัวเองไปเพื่อแลกกับโอกาสหายใจเพียงชั่วขณะ อวิ๋นพั่วสิงแทงกริชคมไปยังหัวใจของเฉิงหย่วนจื้ออย่างรวดเร็ว

ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงอาวุธกระทบกันและเสียงโห่ร้องเข่นฆ่า เฉิงหย่วนจื้อเห็นคมกริชที่พุ่งตรงมาทางตนเอง ทว่า วันนี้เขาเดินทางมาที่นี่ด้วยใจที่พร้อมตาย ต่อให้วันนี้เขาต้องตายไปพร้อมกับอวิ๋นพั่วสิงเขาก็ไม่รู้สึกเสียดายชีวิตแม้แต่น้อยดังนั้นเขาจึงไม่คิดป้องกันตัวเองแม้แต่นิดเดียว…

ขณะที่กริชคมของอวิ๋นพั่วสิงอยู่ห่างจากหัวใจของเฉิงหย่วนจื้อไม่ถึงคืบ อวิ๋นพั่วสิงรู้สึกว่ามีวัตถุบางอย่างเฉียดผ่านใบหูของเขาไปเพียงนิดเดียว

“ฟิ้ว!”

ลูกธนูคมปักลงบนกริชแหลมที่ถูกหลอมขึ้นมาด้วยวิธีการหลอมอาวุธของคนเทียนเฟิ่ง ร่างของอวิ๋นพั่วสิงที่กำกริชไว้ในมือแน่นลอยกระเด็นออกไปไกล ดาบของเฉิงหย่วนจื้อที่ฟันตรงไปยังศีรษะของอวิ๋นพั่วสิงจึงพลาดเป้าไปเช่นเดียวกัน

แขนและศีรษะของอวิ๋นพั่วสิงโดนกระแทกจนชาไปทั้งแถบ เมื่ออวิ๋นพั่วสิงหันไปเห็นลูกธนูคมปักอยู่กลางกริชของเทียนเฟิ่งจึงรีบหันหลังกลับไปมองอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาสบกับสายตาเย็นชาของไป๋ชิงเหยียนที่สวมชุดเกราะนั่งอยู่บนหลังม้าสีขาวเข้าพอดี!

ไป๋ชิงเหยียนมาปรากฏตัวที่นี่ในเวลานี้เพราะนางกำลังตั้งครรภ์จึงปล่อยให้เฉิงหย่วนจื้อเป็นด่านหน้าแทนนางหรือเพราะว่านางจัดการกับกองทัพหั่วอวิ๋นที่บุตรชายและหลานชายของเขานำทัพไปเสร็จแล้วกันแน่!

ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางจัดการกับกองทัพหั่วอวิ๋นที่อวิ๋นหลิงจื้อและอวิ๋นเทียนเอ้านำทัพไปจนราบคาบได้แน่ นั่นคือกองทัพหั่วอวิ๋นที่ลอกเลียนแบบการฝึกฝนมาจากค่ายทหารหู่อิงของกองทัพไป๋เชียวนะ! นางจะจัดการกับกองทัพเหล่านั้นได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ได้เช่นไร

เช่นนั้นแสดงว่าข่าวเรื่องที่กองทัพต้าโจวบุกมาจับตัวจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงคงเป็นเพียงแผนของไป๋ชิงเหยียน เป็นเพียงเรื่องโกหกเท่านั้นอย่างนั้นหรือ! ไป๋ชิงเหยียนใช้วิธีเดียวกับที่เขาเคยหลอกใช้หลิวฮ่วนจางล่อไป๋เวยถิงมาติดกับล่อให้เขามาติดกับบ้างเพื่อแก้แค้นให้ปู่ พ่อ อา น้องชายและกองทัพไป๋ของนางอย่างนั้นหรือ!

สมองของอวิ๋นพั่วสิงประมวลผลความเป็นไปได้มากมายภายในระยะเวลาอันสั้นนี้จนเขาสับสนไปหมด

“ไป๋ชิงเหยียน!”

อวิ๋นพั่วสิงก้าวไปด้านหน้าพลางตวาดเรียกไป๋ชิงเหยียนเสียงดังลั่น ต่อมาเขาถูกเฉิงหย่วนจื้อเหยียบลงบนหน้าอกอย่างแรง ดาบใหญ่คมจ่อลงบนคอของเขานิ่ง

“บุตรชายและหลานชายของข้าอยู่ที่ใด!”

“เจ้าไม่ได้ส่งคนไปจับตัวจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงจริงๆ ใช่หรือไม่! เจ้าจงใจสร้างกับดักนี้ขึ้นมาเพื่อแก้แค้นให้ปู่ พ่อ อาและบรรดาน้องชายของเจ้าใช่หรือไม่! คนทรยศคือผู้ใด อย่างน้อยเจ้าก็ควรให้ข้าได้รู้ก่อนตาย!”

ร่างของอวิ๋นพั่วสิงโชกไปด้วยเลือด แววตาของเขาวาวโรจน์ ลางสังหรณ์ที่เขารู้สึกก่อนหน้านี้คือเรื่องจริง เขารู้ดีว่าวันนี้เขาต้องตายแน่ ทว่า เขาอยากเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดก่อนตาย!

อย่างน้อยตอนนั้นเขาก็ให้ไป๋เวยถิงรับรู้ความจริงทุกอย่างก่อนสิ้นใจ

สภาพของอวิ๋นพั่วสิงในครั้งนี้สะบักสะบอมและน่าสมเพชกว่าทุกครั้งที่ไป๋ชิงเหยียนเคยพบ

หญิงสาวไม่รู้ว่าตอนที่ท่านปู่พยายามช่วยให้น้องชายของนางฝ่าวงล้อมของศัตรูเพื่อนำบันทึกสถานการณ์รบหนีไป สภาพของท่านปู่ของนางจะน่าเวทนาและสิ้นหวังเช่นนี้เหมือนกันหรือไม่

ไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนหลังม้าถือธนูเซ่อรื้อไว้ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างกุมบังเหียนม้าแน่น หญิงสาวมองไปทางอวิ๋นพั่วสิงด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นหันไปกล่าวกับเสิ่นเหลียงอวี้ “พาเข้ามาได้…”

เสิ่นเหลียงอวี้พยักหน้า จากนั้นสั่งให้ทหารนำตัวอวิ๋นเทียนเอ้าและศพของอวิ๋นหลิงจื้อเข้ามา ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“ท่านปู่!” อวิ๋นเทียนเอ้าร้องเรียกปู่ของตัวเองเสียงดังลั่น

เลือดสดไหลทะลักออกมาจากแขนของอวิ๋นพั่วสิงไม่หยุดหย่อน เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ความตายไปทุกที ทว่า เมื่อเห็นหน้าหลานชาย เมื่อเห็นศพของบุตรชายตัวเอง อวิ๋นพั่วสิงรู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกครั้งเหมือนตอนที่เห็นบุตรชายคนโตถูกตัดศีรษะต่อหน้าต่อตา เห็นหลานชายคนโตของตัวเองถูกธนูยิงตายอยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนั้น

“ไป๋ชิงเหยียน! ข้าจะฆ่าเจ้า!” อวิ๋นพั่วสิงพยายามสะบัดตัวให้หลุด ใบหน้าซีดเผือดจากการสูญเสียเลือดมากเกินไปแดงก่ำขึ้นเพราะความโมโห “ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ตอนนี้อวิ๋นพั่วสิงเชื่อเต็มร้อยว่ามีคนทรยศแฝงตัวอยู่ในกองทัพหั่วอวิ๋นของเขา ไป๋ชิงเหยียนแสร้งจัดฉากว่ากองทัพต้าโจวบุกไปจับตัวจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง

อวิ๋นพั่วสิงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาทันที เขานึกถึงวิธีที่เขาเคยทำกับไป๋เวยถิง ไป๋ชิงเหยียนสังหารบุตรชายของเขา ทว่า เก็บอวิ๋นเทียนเอ้าหลานชายของเขาไว้เพราะต้องการคว้านท้องหลานชายของเขาต่อหน้าเขาเหมือนที่เขาเคยทำกับคุณชายสิบเจ็ดของตระกูลไป๋อย่างแน่นอน!

แค่คิดถึงภาพนั้นอวิ๋นพั่วสิงก็แทบทนไม่ไหวแล้ว เขาขนลุกชันไปทั้งร่าง อยากตายไปเสียตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะส่งหลานชายของตัวเองไปชดใช้ความผิดที่เขาเคยทำกับคุณชายสิบเจ็ดของตระกูลไป๋ที่ต้าโจว ทว่า ตอนนั้นเขาไม่เห็นภาพนั้นกับตาของเขาเอง…

เมื่อไม่เห็นก็จะไม่เจ็บปวดมากนัก ทว่า บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนต้องการคว้านท้องหลานชายของเขาต่อหน้าเขาเหมือนที่เขาเคยทำกับคุณชายสิบเจ็ดของตระกูลไป๋ เขาจะทนเห็นได้อย่างไรกัน ไม่สู้ปล่อยให้เขาตายไปตอนนี้เลยดีกว่า!

“ก็แค่เอาคืนในสิ่งที่เจ้าเคยทำไว้เท่านั้น ตอนนั้นเจ้าทำกับตระกูลไป๋ กับกองทัพไป๋ร้ายแรงกว่านี้มากนัก!” ดวงตาเย็นชาของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปยังดวงตาขุ่นมัวของอวิ๋นพั่วสิง “ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว หากเจ้ายอมพากองทัพหั่วอวิ๋นไปดักซุ่มโจมตีกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งที่แม่น้ำตันสุ่ยและภูเขาหานเหวินแต่โดยดี วันนี้คงยังไม่ใช่วันตายของเจ้า ทว่า เจ้ารีบร้อนอยากตายเอง ข้าคงได้แต่ทำให้เจ้าสมหวังเท่านั้น!”

“เฉิงหย่วนจื้อ เจ้าสังหารข้าเดี๋ยวนี้เลย!” อวิ๋นพั่วสิงพยายามลุกขึ้นยืน เขามองไปทางเฉิงหย่วนจื้อเขม็ง “เจ้ายังมัวรออันใดอยู่อีก! เจ้าต้องการแก้แค้นที่ข้าตัดศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานของพวกเจ้าไปแขวนไว้หน้าค่ายทหารและคว้านท้องคุณชายสิบเจ็บที่อายุเพียงสิบขวบผู้นั้นไม่ใช่หรือ! มาสิ! เจ้าสังหารข้าเดี๋ยวนี้เลย!”

“ท่านปู่!” อวิ๋นเทียนเอ้าเห็นท่าทีของอวิ๋นพั่วสิงจึงร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด “ท่านปู่ ท่านจะตายไม่ได้นะขอรับ!”